ตอนที่แล้วChapter 297 บรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย ทรงพลังจริง ๆ.!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 299 สร้างปาฏิหาริย์.

Chapter 298 เจ้ากล้าที่จะต่อสู้กับข้าไหม!


ด้วยฝ่ามือยอดผนึกรวมวิญญาณสามฝ่ามือ ได้ทำลายวิชาผนึกเจี่ยหยินให้สลายไปได้ อธิบายได้ว่าความแข็งแกร่งของเจ้านิกายเซิ่งชวนนั้นแข็งแกร่งมาก.

ความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้นแตกต่างกันมาก.

เป็นพลังที่ยากจะเทียบกันได้.

ขั้นที่สองและขั้นปลาย แตกต่างกันมากย่อมเป็นเรื่องธรรมดา.

ไม่เพียงแค่พลังที่แตกต่างกัน ปริมาณพลังวิญญาณเองก็เช่นกัน.

หากแต่เหล่าผู้ชมชาวยุทธ์ก็เผยท่าทางงงวยเล็กน้อย.

สามฝ่ามือ แต่ละฝ่ามือมีพลังกว่า 500,000 จิน ทำได้เพียงทำลายม่านพลังและผลักเขาออกไปสามสี่ก้าว แม้แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

เจ้านิกายหวงยังไม่ได้โจมตีอย่างเต็มกำลังรึ? ทุกคนต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจออกมาเช่นกัน “เจ้าสำนักจุน ทักษะพลังป้องกันของเจ้าดูเหมือนจะมีระดับไม่ต่ำเลย.”

ก็ไม่ได้สูงอะไรมากมาย.

แค่เพียงระดับสูงขั้นต้น.

เพราะว่าเป็นทักษะที่ซื้อจากร้านค้าระบบ ดังนั้นมาตรฐานความแข็งแกร่งจึงเหนือกว่าทักษะยุทธ์ในระดับเดียวกันของทวีปชิงหยุนมาก.

หากไม่เพราะทักษะพลังป้องกันดังกล่าว สามฝ่ามือที่โจมตีออกมานั้น เจ้าสำนักจุนจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน.

“ยากจะชนะได้.”เย่ซิงเฉินที่คิดในใจ.

ช่องว่างของระดับขั้น เขาไม่คิดว่าเจ้าสำนัก จะมีโอกาสชนะได้เลย.

“ฟู่!”

จุนซ่างเซียวที่พ่นลมหายใจ แววตาที่กลายเป็นจริงจังขึ้นมาทันที.

กับการรับมือกับเจ้านิกายเซิ่งชวน หากไม่จริงจัง จะต้องพ่ายแพ้อย่างอนาถแน่.

“ซูมมมมมม!”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกไปด้วยท่าเท้าเหยียบเมฆา เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว พลังวิญญาณที่อาบไล้ไปทั่วดาบยาวมังกรเขียว ใบหน้าของเขาที่เผยแสงสีเขียวขึ้นมาเช่นกัน.

ไม่ว่าอย่างไร พลังวิญญาณของเจ้าสำนักหวงนั้นมากมาย เกินกว่าจะเทียบกันได้.

หากยังคงออมมือไว้ล่ะก็!

แพ้แน่!

“ฟิ้ว!”

ดาบยาวมังกรเขียวที่ฟันออกไป ริ้วแสงสีเขียวกรีดอากาศ พุ่งขวางออกไป.

เจ้านิกายหวงรู้ดี ว่าอาวุธของฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ธรรมดาไม่มีทางป้องกันได้หากไม่สร้างม่านพลังป้องกัน ทำให้เขาใช้ท่าเท้าที่รวดเร็วหลบหลีกทันที.

“ตูมมมมมม!”

ปราณดาบที่ฟันพื้นเสียงดังเป็นรอยยาว!

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่ไล่ตาม ฟันออกไปอีกหลายครั้ง.

ตูมมม!

ตูมมม!

ในเวลานั้น ริ้วแสงสีเขียวที่กรีดพื้นเป็นรอยฟันอีกหลายแห่ง ควันฝุ่นที่ลอยคละคลุ้งเต็มไปหมด.

สายตาของทุกคนที่ถูกปกปิด หลาย ๆ คนที่อุทานออกมา เจ้าสำนักจุน แม้นว่าจะเสียเปรียบ ทว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นทรงพลังมาก.

ควรคู่ที่จะให้ความเคารพ.

การเดินทางมาท้าประลองนิกายเซิ่งชวนในครั้งนี้ ทั้งสำนักไท่กู่เจิ้งและจุนซ่างเซียว ต้องได้รับชื่อเสียงเป็นอย่างมากแน่ ถึงจะพ่ายแพ้เจ้านิกายเซิ่งชวนครั้งนี้ ก็ไม่ถือว่าเสียเกียรติใด ๆ.

ตูมมม!

ภายใต้ฝุ่นที่ฟุ้งหนานั้นเสียงระเบิดดังกึกก้อง ส่งออกมาเป็นระยะ ๆ.

“ตึก ตึก ตึก!”

จุนซ่างเซียวที่ถูกโจมตีเท้าครูดกับพื้นลากตัวเองออกมา จนถึงขอบลานยุทธ์ เขาที่ใช้ดาบยาวครูดค้ำพื้นเป็นรอยยาวเพื่อประครองร่างให้ยืนได้อย่างมั่นคง.

“อั๊ก!”

ครั้งนี้อดไม่ได้ที่เขาต้องกระอั๊กโลหิตออกมา.

จากภาพที่เห็น ไม่ต้องคาดเดาเลย เจ้าสำนักจุนต้องถูกฝ่ามือของเจ้านิกายหวงแน่นอน.

ท้ายที่สุด....ก็กระอักโลหิตออกมา!

“เจ้าสำนัก!”

เหล่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นกังวลทันที.

เย่ซิงเฉินที่ส่ายหน้าไปมา “คู่ต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป มีเพียงแค่ต้องยอมแพ้เท่านั้น.”

ยอมแพ้รึ?

จุนซ่างเซียวไม่มีแผนจะทำเช่นนั้นแน่นอน.

เขาที่ยกดาบยาวขึ้น เช็ดโลหิตที่มุมปาก ก่อนที่จะตะวัดดาบยาวพุ่งเข้าไปในกลุ่มหมอกควันที่ยังไม่สลายหายไป.

“น้ำท่วมเจ็ดทัพ!”

“ฆ่างันเหลียง สังหารบุนทิว!”

ตูมมม!

พรึด ครืน ครึดดดดดด!

จุนซ่างเซียวถูกกระแทกผลักออกมาอีกครั้ง ก่อนจะทรงตัวเอาไว้ได้อย่างยากลำบาก พ่นโลหิตออกมาอีกครั้งด้วย ใบหน้าที่ซีดเซียวเล็กน้อย.

“......”

มุมปากของทุกคนที่กระตุก.

เจ้านิกายหวงนั้นทรงพลังมาก เขาที่พ่นโลหิตออกมาสองครั้งแล้ว ยังคงยืนได้อีก ดูเหมือนว่าจะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!

“ฟู่ ฟู่!”

สายลมที่โบกพัด ฝุ่นควันที่ถูกพัดโบกลอยออกจากลานยุทธ์.

เจ้านิกายหวงที่ปรากฏขึ้น เอ่ยออกมาว่า “รับฝ่ามือของเปิ่นจัวเต็ม ๆ ไปสองครั้งแล้วยังไม่เป็นไร กายเนื้อของเจ้าสำนักจุนแข็งแกร่งจริง ๆ.”

“เช่นเดียวกัน.”

จุนซ่างเซียวที่เวลานี้มีคาบโลหิตที่ง่ามนิ้วมือ หากแต่ยังคงถือดาบมังกรเขียวฟาดฟันต่อไป แม้นว่าจะโจมตีออกไปด้วยความรุนแรงรวดเร็ว ทว่าฝ่ายตรงข้ามกับสามารถหลบได้อย่างง่ายดาย.

ด้วยการมีระบบช่วยเหลือ เขาที่ข้ามโลกมาอยู่ที่นี่หนึ่งปีกว่าก็ก้าวไปถึงระดับบรรพชนยุทธ์ ความก้าวหน้าของเขาถือว่าน่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก.

ในเวลานี้เขาได้พบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่ามากขึ้น และจะมากขึ้นเรื่อย ๆในอนาคต!

นอกจากบรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย ก็ยังมีกษัตริย์ยุทธ์ จักรพรรดิยุทธ์ ปราชญ์ยุทธ์ และแม้แต่ราชันย์ยุทธ์.

มีคนที่แข็งแกร่งรออยู่อีกมากมาย ...ข้าจะมาแพ้แค่ระดับบรรพชนยุทธ์ได้อย่างไร!

“ซูมมมมม!”

จุนซ่างเซียวที่จับดาบยาวมังกรเขียวสองมือแน่น ร่างกายที่อาบไล้ไปด้วยพลังวิญญาณ ผมสีดำขลับที่ปลิวลอยสลวย.

“หืม?”

เจ้านิกายหวงที่เผยความประหลาดใจ.

จุนซ่างเซียวที่แค่นเสียงเย็นชา “เจ้าสำนักหวง เจ้าเป็นคนแรกที่ผลักดันให้ข้าต้องใช้ไม้ตายในมือ.”

ไพ่ตายอย่างงั้นรึ?

ผู้นำฉินและคนของพันธมิตรรอยสำนักแค่นเสียงเหยียดหยัน.

พลังที่แตกต่างกันชัดเจน คิดว่ามีไม้ตายแล้วจะโต้กลับได้อย่างงั้นรึ?

เจ้านิกายหวงที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย.

เขาที่สัมผัสได้ถึงอันตราย แม้นว่าจะสัมผัสได้ไม่รุนแรงนัก ทว่าก็รู้สึกสั่นสะท้านได้เหมือนกัน.

เพราะว่าเขามีไพ่ตายในมือ ทำให้เขากล้าที่จะยอมรับการประลองอย่างงั้นรึ?

ดูเหมือนว่าจะไม่ได้โอ้อวดคุยโวเฉย ๆ สินะ.

ทางที่ดี ควรจะจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด ไม่ให้เขาได้ใช้ไพ่ตาย แล้วเอาชนะเลยดีกว่า.

เจ้านิกายหวงไม่ใช่คนโง่ การที่ฝ่ายตรงข้ามเอ่ยว่ามีไม้ตายนั้น ไม่สามารถประมาทได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการตัดสินใจจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาหน้าตาของนิกายตัวเองเอาไว้.

เมื่อตัดสินใจแล้ว เขาที่ใช้ท่าเท้าที่ร้ายกาจพุ่งเข้าไป ฝ่ามือทั้งสองข้างที่แผ่พลังวิญญาณที่หนักหน่วงออกมา ฝ่ามือยอดผนึกรวมวิญญาณ แผ่พลังที่หนักหน่วงรุนแรงราวกับพายุออกมา.

ฝ่ามืออากาศทั้งสองที่พุ่งลอยออกไป พลังแต่ละฝ่ามือนั้นมากกว่า 500,000 จิน!

“เจ้านิกายหวงเอาจริงแล้ว.”

“จบแล้ว.”

“กำลังปิดฉากการต่อสู้แล้ว!”

เหล่ายอดฝีมือทั้งหมดที่พูดคุยกันเสียงดัง.

ถึงจะเป็นเย่ซิงเฉิน เขาก็ยอมรับว่าการโจมตีของเจ้านิกายหวงที่โจมตีมานี้ คงตั้งใจจบการต่อสู้แล้ว เจ้าสำนักไม่สามารถต้านได้อย่างแน่นอน หากไม่หลบ ต้องได้รับบาดเจ็บแน่.

ลู่เชียนเชียนที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย ส่งเสียงออกไปเล็กน้อย “รีบถอยเร็ว.”

การโจมตีในครั้งนี้ อีกฝ่ายต้องหลบออกนอกลานยุทธ์ ไม่เช่นนั้น จะต้องได้รับบาดเจ็บแน่.

หลบอย่างงั้นรึ?

จุนซ่างเซียวที่ยืนนิ่ง แววตาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ “ตะโกนบอกเปิ่นจั้ว เป้าหมายข้อแรกของสำนักไท่กู่เจิ้งคืออะไร!”

คำพูดเหล่านั้น เวลานี้ยังจะพูดอะไรเช่นนี้อีกรึ?

แล้วเป้าหมายข้อแรกอันใหนล่ะ?

มีอยู่มากมาย.

ทว่าให้เหมาะสมกับสถานะการ์ตอนนี้ล่ะก็....

ทุกคนที่ตะโกนเสียงดังผ่านวิชาเสียงผ่านวิญญาณ “คนของสำนักไท่กู่เจิ้ง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะไม่แพ้ ไม่ล้ม ยืนเผชิญหน้า!”

ไม่เลว!

นี่ล่ะเป้าหมายสำนักไท่กู่เจิ้ง!

“กึก!”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ร่างกายที่ระเบิดพลังวิญญาณสีเขียวออกมา ที่ด้านหลังมีร่างของบุรุษในชุดเกราะเหล็กสีเขียวยืนจังกล้าอยู่.

คิ้วที่เฉียงเรียวตรง ดวงตาสีเพลิงชาติ หนวดเคราที่ยาวเฟื้อยถึงเอว.

ฮั่นโซ่วถิงโหว กวนหยวนซ่าง!

“ซูมมมมมม!”

จุนซ่างเซียวที่เงื้อดาบยาวขึ้นไป ภาพเงาของปรมาจารย์กวนเองก็เงื้อดาบตามด้วยเช่นกัน.

“ฟิ้ว!”

ดาบยาวมังกรเขียวที่แผ่พุ่งระเบิดพลัง ทำให้อากาศรอบ ๆ บิดเบี้ยวไปด้วย!

แววตาของผู้ชมชาวยุทธ์เวลานี้แทบถลนออกจากเบ้า.

ตูมมม!

ตูมมม!

ฝ่ามือยอดผนึกรวมวิญญาณสองฝ่ามือถูกตัดขาดออกเป็นสองท่อน!

เจ้านิกายหวงที่ตื่นตะลึงไม่มีเวลาที่จะหลบด้วยซ้ำ ริ้วแสงสีเขียวพุ่งออกไปด้วยความเร็ว กลิ่นอายคลื่นพลังที่ใหญ่ยักษ์ยากจะต้าน.

แข็งแกร่งมาก.

ทรงพลังเกินไปแล้ว!

เขาไม่กล้าตั้งรับแน่นอน เวลานี้ทำได้อย่างเดียวแค่หลบ.

อย่างไรก็ตาม ขณะเขากำลังก้าวหลบ ก็เห็นจุนซ่างเซียวเงื้อดาบขึ้นเองตะโกนออกไปเสียงดัง “กล้ารับพลังของข้าหรือไม่?”

ฟิ้ว-------

ดาบยาวมังกรเขียวที่ฟันออกไปอีกครั้ง อำนาจดาบที่กรีดอากาศ ริ้วแสงสีเขียวที่ระเบิดพวยพุ่งออกไป.

แสงการโจมตีที่สว่างเจิดจ้าปกคลุมไปทั่วลานยุทธ์ทั้งหมด.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด