ตอนที่แล้วChapter 80 ค่ายกลคุ้มกันสำนัก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 82 ข้าจะทำลายเจ้าทั้งตระกูล.

Chapter 81 มารดาเถอะ ยังจะหนีอยู่อีกไหม


จุนซ่างเซียวรีเฟรชไปห้ารอบ ใช้แต้มไป 90 แต้ม สี่สิบแต้มซื้อสินค้าที่ไร้ประโยชน์ แต่สุดท้ายก็ได้สิ่งที่เขาหวัง.

ในเมื่อรีเฟรชได้ค่ายกลคุ้มสำนัก ก็ถือว่าคุ้มค่า.

จุนซ่างเซียวที่เปิดเมนูตรวจสอบรายระเอียดในทันที-

สินค้า : ค่ายกลคุ้มสำนักระดับสามัญขั้นต้น.

ผล : หลังจากเปิดใช้งาน จะปกป้องคุ้มครองสำนัก ป้องกันคนนอกที่ไม่ใช่ศิษย์ผ่านเข้าออกได้.

ประสิทธิภาพ : เปิดใช้เป็นรายครั้ง.

ราคา : 50 แต้มสนับสนุน.

ข้อแนะนำใช้ : เมื่อติดตั้งค่ายกลสำเร็จ ขณะเปิดใช้งาน จะต้องใช้แต้มสนับสนุนวันล่ะ 1 แต้ม.

“ซื้อเลย!”

จุนซ่างเซียวไม่คิดแม้แต่น้อย เขาตัดสินใจซื้อในทันที.

“ติ๊ง!”

“โฮสน์ใช้ 50 แต้มสนับสนุน ได้รับยันต์คุ้มสำนักระดับสามัญขั้นต้น 1 ถูกส่งเข้าไปยังแหวนมิติแล้ว.”

“ติ๊ง!”

“คะแนนสนับสนุนสำนัก : 124 / 500.”

ค่ายกลคุ้มกันสำนักนั้นติดตั้งเหมือนกับค่ายกลรวมวิญญาณ มีธวัชขนาดเล็กและหนังสือคู่มือ.

“ต้องติดตั้งรุ่งเช้า.”จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดในใจ.

มือสังหารที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ ทำให้ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งต้องอาศัยอยู่ในห้องโถงใหญ่ และมีศิษย์อีกหลายคนรับหน้าที่เฝ้ายาม.

ในเวลานี้ ซูเซียวโม่ที่รับหน้าที่ทำแผลให้เย่ชิงเฉิง เขาที่พันก้นของเย่ซิงเฉิงเป็นกลีบดอกไม้.

คืนดังกล่าวก็ผ่านไปโดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก.

หลังจากดวงตะวันขึ้น จุนซ่างเซียวพร้อมกับศิษย์กลุ่มหนึ่งที่ออกตะเวน พร้อมกับติดตั้งค่ายกล.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

ธวัชขนาดเล็กที่ถูกปักเอาไว้รอบ ๆ กำแพง หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ก็สามารถปักปกคลุมทั่วสำนักได้.

“วึ้ง!”

ริ้วแสงสว่างใสวที่ถูกลากเชื่อมต่อกัน สร้างม่านพลังปกคลุม ไปทั่วทั้งสำนักไท่กู่เจิ้ง เป็นม่านที่โปร่งแสงยากจะรับรู้ หรือผิดสังเกต.

จุนซ่างเซียว ยืนอยู่ด้านหน้าประตูยื่นมือออกไปด้านหน้า สัมผัสถึงม่านพลังโปร่งแสง แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยากจะพบการคงอยู่ของมัน.

ระบบกล่าว “เมื่อคนนอกเข้ามาจะเกิดการระเบิดขึ้นมาทันที ค่ายกลคุ้มสำนักจะปรากฏขึ้น แต่เวลาปรกติจะซ่อนอยู่ในอากาศ.”

“แข็งแกร่งขนาดใหน?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ระบบกล่าว “สามารถป้องการผู้ฝึกยุทธ์ระดับบรรพชนยุทธ์ของทวีปชิงหยุนลงมาได้อย่างแน่นอน.”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางวางใจ.

ระบบกล่าว “ค่ายกลคุ้มสำนักนี้มีระดับสามัญขั้นต้นเท่านั้น หลังจากนี้หากโฮสน์พบระดับที่สูงกว่า สามารถนำมาแทนที่ได้เลย.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวกล่าว “แล้วสำนักตอนนี้ยังขาดสิ่งใดบ้าง?”

เนื่องจาก จู่ ๆระบบก็แจ้งเกี่ยวกับการมีอยู่ของค่ายกลคุ้มกันสำนัก ซึ่งมีหลายอย่างที่เขายังไม่รู้ ดังนั้นจึงต้องการคำแนะนำ.

ระบบกล่าว “สำนักยังขาดการจัดแบ่งศิษย์สายตรง ศิษย์สายใน ศิษย์นอก และยังขาดรองประมุข อาวุโส และตำแหน่งเจ้าหอต่าง ๆ นอกจากนี้ยังขาดหอหลอมอุปกรณ์ หอทักษะยุทธ์ และหอบ่มเพาะ....”

“เดี๋ยว ๆ พอก่อน.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.“ไปทีละอย่างดิ.”

ศิษย์สายตรง ศิษย์ภายใน 100 คนที่เขารับมาด้วยตัวเอง เวลานี้ยังไม่มีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน.

ส่วนรองเจ้าสำนักและอาวุโส ศิษย์ของเขาเวลานี้ยังไม่มีใครที่มีคุณสมบัติพอ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรอไปก่อน.

......

หลังจากมีค่ายกลคุ้มกันสำนักแล้ว จุนซ่างเซียวก็วางใจลง.

ศิษย์ของเขาก็กลับไปใช้ชีวิตปรกติ ไม่บ่มเพาะก็เล่นฟุตบอลที่ลานยุทธ์ ส่วนเย่ชิงเฉิง หลังจากจุติกลับมาใหม่ เขาที่เริ่มบ่มเพาะอย่างจริงจัง.

เขาพยายามฝึกฝนวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น ต้องไม่ลืมว่าในอดีตชาตินั้น ร่างกายของเขาไม่แข็งแกร่งนัก กับชีวิตใหม่ของเขาครั้งนี้ จึงจำเป็นต้องสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งขึ้นมา.

อย่างไรก็ตาม.

ร่างที่เขายึดครองเพื่อจุตินี้กับมีรากวิญญาณระดับต่ำ ไม่ต่างจากศิษย์คนอื่น ๆ ทั่วไป ทำให้การบ่มเพาะของเขานั้นจำเป็นต้องใช้เวลา.

แม้นว่าในอดีตชาติเขาจะเคยครอบครองดินแดนขนาดใหญ่ การจุติขึ้นมาในร่างของคนธรรมดาเช่นนี้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นคนที่ต่อต้านสวรรค์ในทันทีได้.

จุนซ่างเซียวที่มีแต้มสนับสนุนมากมาย เขาเปิดค่ายกลรวมวิญญาณให้ศิษย์ใช้ทุกวัน จากนั้นเขาที่เรียกเย่ชิงเฉิงมาหา พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“มานี่ เข้า เปิ่นจั้วจะพาเจ้าไปยังสถานที่สนุก ๆ”

สถานที่สนุก ๆ?

เย่ชิงเฉิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องปั้นกล้ามเนื้อ.

“เข้าไป.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

น่ารังเกียจ!

เจ้าคนนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะกำลังหาเรื่องเปิ่นตี้รึ?!

“ฟิ้ว!”จุนซ่างเซียวที่ผลักเขาเข้าไป พร้อมกับเปิดใช้งานเครื่องปั้นกล้ามเนื้อ ตั้งเวลา ห้าชั่วยาม.

“ปัง! ปัง! ปัง!”

“อ๊าก----”

......

ผ่านไปตอนดึก ร่างของเย่ชิงเฉิงที่อ่อนราวกับเป็นผัก แววตาแทบจะไร้ประกาย.

การจุติใหม่ของเปิ่นตี้มันผิดพลาดตรงใหน มันไม่ควรเป็นเช่นนี้......

ลู่เชียนเชียนและหลี่ชิงหยาง ตลอดจนคนอื่น ๆ ที่ยืนประจำอยู่ตำหนักหลัก มือที่กุมด้ามกระบี่ เห็นชัดเจนว่ากำลังเฝ้าระวังมือสังหาร.

“ปัง ปัง!”

บนลานยุทธ์ส่วนหนึ่ง ซูเซียวโม่ที่ยังคงฝึกฝนการเล่นฟุตบอล.

เกี่ยวกับความเร็วและความคล่องตัว การเล่นฟุตบอลถือว่าช่วยพัฒนาท่าเท้าเป็นอย่างดี.

จุนซ่างเซียวเวลานี้กำลังหาความรู้ นั่งอยู่ในห้องหนังสือ อ่านตำราที่มีชื่อว่า“พงศาวดาร สื่อจี้” เป็นแผ่นบันทึกริ้วไผ่ นี่คือตำราที่เขียนขึ้นโดย ซือหม่าเชียน.

เมื่อครั้งที่เขารีเฟรชหาค่ายกลคุ้มสำนักนั้น เขาถูกบังคับให้ซื้อมา ถือว่าเป็นงานเขียนประวัติศาสตร์ของจีนในยุคโบราณอันดุเดือดที่เขากำลังวางแผนที่จะนำมาปรับใช้ในต่างโลกแห่งนี้.

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น หูของเขาที่ยินเสียงสายลมที่ดังหวีดหวิวผิดปรกติ.

สัด!

มือสังหารยังอยู่ในสำนัก!

คิดได้เช่นนี้จุนซ่างเซียวไม่ได้กังวลมากนัก เร่งรีบถอยอย่างรวดเร็ว ทว่าคมกระบี่ที่แหลมคมนั้นพุ่งมาเร็วมาก.

เร็วมาก หลบไปทันแล้ว!

เขาไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ทำได้แค่ยกพงศาวดาร "สื่อจี้"ขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองเอาไว้.

“เคร้ง!”

กระบี่ที่แหลมคมปะทะกับริ้วไม้ไผ่ เกิดเป็นประกายสว่างจ้า เหมือนกับโลหะปะทะกัน!

ร่างของชายชุดดำที่สั่นสะท้านหนังหัวชาหนึบ แววตาที่ตื่นตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้วตอนนี้ ทำได้แค่พุ่งกระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง.

จุนซ่างเซียวที่กลายเป็นโง่งมไปเลย.

ริ้วไม้ไผ่ในมือของเขา แท้จริงเป็นแผ่นเหล็กหรอกรึ?!

ไม่มีเวลาให้ตรวจสอบ จุนซ่างเซียวกระโดดออกไปทางหน้าต่าง ไล่ล่าตามออกไป ทว่าชายชุดดำที่วิ่งหนีออกไปหลายร้อยเมตรแล้ว อยู่ห่างออกจากระยะของปืนพกอินทรีทะเลทราย.

ในเวลานั้น ลู่เชียนเชียนและหลี่ชิงหยางที่ได้ยินเสียงการไล่ล่า จึงเร่งรีบตามเงาดังกล่าวออกไป.

“ไม่ต้องไล่ตามไป.”จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นกล่าวห้ามเอาไว้.

ไม่ต้องไล่ตามรึ?

ลู่เชียนเชียนและหลี่ชิงหยางที่เผยท่าทางประหลาดใจ ก่อนที่จะได้ยินเสียงระเบิดดังลั่น ปัง ร่างของชายชุดดำที่ล่วงหล่นกระตุกกึก ๆ เมื่อชนเข้ากับม่านแสง ก็ร่วงหล่นลงบนพื้น.

“ค่ายกล!”

ทั้งสองที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

จุนซ่างเซียวที่สะบัดมือ ก้าวตามไปยังทิศทางที่ชายชุดดำร่วงหล่น ชักกระตุกอยู่บนพื้น.

ในมือของเขาที่ถืออินทรีย์ทะเลทราย ขณะปลดล๊อก พร้อมกับยกลำกล้องปืนชี้ไปยังชายชุดดำที่นอนกองอยู่ ตะโกนออกมาเสียงดัง “มารดาเถอะ ยังจะหนีอยู่อีกไหม!”

ชายชุดดำที่วิงเวียน ชักกระตุก เขาที่พุ่งเข้าชนกับม่านค่ายกลอย่างแรง.

“หมายความว่าอย่างไร!”ซูเซียวโม่และเถียนซีและศิษย์คนอื่น ๆ เร่งรีบตามมา เห็นชายชุดดำพุ่งเข้ากระแทกม่านพลังแสงอย่างแรง ก่อนที่จะระเบิดกระเด้งออกมาทันที.

“ม่านพลังแสง?”

“ค่ายกล?”

“สำนักพวกเรามีสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!”

ศิษย์ทุกคนที่แทบไม่อยากเชื่อ.

ชายชุดดำที่ซ่อนตัวอยู่ในลานสวนด้านในอย่างสมบูรณ์ รอคอยซุ่มโจมตี จู่ ๆก็มีค่ายกลปรากฏขึ้นในทันที! ทำให้เขาเสียท่า.

“ปัง!”ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่แผ่พลังวิญญาณไปที่หมัดขวา พร้อมกับยกชายชุดดำขึ้นต่อยออกไปที่หน้าของเขาอย่างรุนแรง ร่างของชายชุดดำที่ลอยกระเด็นกระแทกกำแพงเสียงดังกึกก้อง.

มือสังหารที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สี่ และยังมีวิชาลับที่สามารถผลุบ ๆ โผล่ ๆในความมืดได้ แม้แต่มีท่าเท้าที่ร้ายกาจ ทันทีที่เสียเปรียบเขาจะหนีทันที แน่นอนว่าไม่มีทางที่เขาจะรับมือกับระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นห้าซึ่ง ๆ หน้าได้.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวเดินเข้าหา เขาไม่ได้ใช้ปืนที่เวลานี้เหน็บอยู่ที่เอว เขาที่นำริ้วตำราไม้ไผ่ออกมาพร้อมกับฟาดออกไป.

ริ้วตำราไม้ไผ่ เป็นพงศาวดารในอดีต จับถือได้อย่างกระชับ แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า ตอนนี้เขาใช้มันฟาดฝ่ายตรงข้ามเลือดอาบไปทั่วร่าง เวลานี้ชายชุดดำที่หมดสภาพกองอยู่กับพื้นไม่รู้ เป็นหรือตาย.

เย่ชิงเฉิงที่ยืนอยู่มุมหนึ่ง ไกลออกมา มุมปากกระตุก “คน ๆ นี้อมหิตมาก!”

“ติ๊ง!”

“ยินดีกับโฮสน์ที่ทำภารกิจลับสำเร็จ【ไม่มีที่ให้ซ่อนตัว】ได้รับรางวัล 30 แต้ม!”

“ติ๊ง!”

“คะแนนสนับสนุนสำนัก : 154 / 500!”

ถือว่าใช้ได้ เขาที่ใช้คะแนนสนับสนุนไปตั้งมากมาย ได้รับรางวัลมา 30 แต้ม.

“ผนึกชีพจร แล้วนำไปขัง!”

“ครับ!”

มือสังหารระดับทอง ที่ถูกส่งมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่จะถูกจับกุมกลายเป็นนักโทษ.

มือสังหารคนดังกล่าวถูกลากไปคุมตัวเอาไว้ในคุกสำนัก เห็นเหล่ามือสังหาร ถูกจับเอาไว้ ภายในใจของเขาถึงกับตะลึงงัน “มือสังหารระดับนี้ ถูกสำนักไท่กู่เจิ้งจับไว้ทั้งหมด!”

จุนซ่างเซียวที่ยืนอยู่ด้านนอก จับจ้องมองไปยังมือสังหารที่ถูกคุมตัวไป กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จะต้องเป็นสำนักหลิงชวนแน่!”

เช้าวันถัดมา.

เขาที่มอบหมายงานให้หลี่ชิงหยางดูแลทุกอย่างภายในสำนัก ก่อนที่จะลงเขาไป เวลานี้เขามีปืนพกอินทรีย์ทะเลทรายและยังมีดาบหนานโชวพร้อมรบ ถึงเวลาที่จะทวงความยุติธรรมจากสำนักหลิงชวนแล้ว.

“ศิษย์พี่หญิงใหญ่ เจ้าสำนักดูเหมือนว่าจะโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก!”หลี่ชิงหยางที่จ้องมองเจ้าสำนักที่ลงเขาไป และกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

ลู่เชียนเชียนเองที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตู กล่าวออกมาเบา ๆ “ส่งมือสังหารมาลอบโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า หากจะให้พูด ก็คงต้องเอาคืน นั่นล่ะ.”

“เช่นนั้นเจ้าสำนักจะเป็นไรหรือไม่?”

“เจ้าควรจะเป็นห่วง สำนักหลิงชวนจะยังคงอยู่อีกหรือไม่?.”

พงศาวดาร "สื่อจี้" แบ่งออกเป็น 130 บท เริ่มต้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าหวงจนถึงรัชสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ โดยเรียบเรียบถึงประวัติศาสตร์เป็นเวลา 3000 ปี เป็นพงศาวดารชุดแรกที่บันทึกตามกาลเวลา เนื้อเรื่องเกี่ยวโยงถึงการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การทหาร ฯลฯ ภาษาที่ใช้ในตัวบทกะทัดรัด เรียบง่ายและมีชีวิตชีวา พงศาวดาร "สื่อจี้"เป็นผลงานทางประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่าและวรรณคดีที่ดีเลิศ.

ที่มา https://www.jiewfudao.com/ประวัติศาสตร์จีน/ซือหม่าเชียนกับพงศาวดาร-สื่อจี้-บันทึกประวัติศาสตร์.html

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด