ตอนที่แล้วChapter 77 อย่ามีความเมตตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 79 ข้าคือตัวตนที่เจ้าไม่อาจยั่วยุได้.

Chapter 78 ราชันย์รัตติกาล.


จุนซ่างเซียวที่ตัดผ่านไปยังระดับศิษย์ยุทธ์ชั้นที่ห้า เขายิงปืนติดต่อกันสามลูก ไม่ส่งผลอะไรกับเขาแม้แต่น้อย เขายังคงถือปืนได้อย่างมั่นคง.

กล่าวได้ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแรงดีดของปืนพกอินทรีย์ทะเลทรายแล้ว.

ทุกคนต่างก็เห็นว่าเจ้าสำนักที่ยิงปืนออกไป สามารถสังหารนักฆ่าที่หนีไปไกลกว่า 20 เมตรได้ หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ถึงกับเผยแววตาตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.

“ไปนำคนเจ็บมาให้ข้า.”จุนซ่างเซียวที่นั่งลงบนรากไม้ขนาดใหญ่ เอ่ยกล่าวออกมา “เปิ่นจั้วจะดูว่าเป็นใครกัน ที่กล้าส่งนักฆ่ามาหาเรื่องสำนักไท่กู่เจิ้งกลางวันแสก ๆ.”

“ครับ!”

ศิษย์ของเขาที่รับคำสั่ง พร้อมกับนำเหล่าคนชุดดำมากองบนพื้น หากแต่พวกเขาเวลานี้ไม่มีลมหายใจแล้ว.

หลี่ชิงหยางที่ขมวดคิ้ว “เจ้าสำนัก พวกเขาตายแล้ว!”

“อะไรกัน?”จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกไปตรวจสอบ พร้อมกับดึงผ้าปิดหน้าออกมา สังเกตเห็นริมฝีปากที่ดำมืด จากนั้นก็เข้าใจทันทีว่าพวกเขาควรจะกินยาพิษเข้าไป.

“จุ้ยจื่อ คนเหล่านี้เจ้ารู้จักหรือไม่?”

เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวเข้ามาตรวจสอบคนที่ตายไปอย่างระเอียด ก่อนจะส่ายหน้าไปมา “เจ้าสำนัก ข้าไม่รู้จักเลย.”

ไม่รู้จักรึ?

จุนซ่างเซียวถึงกับตะลึงงัน.

ตั้งแต่ต้น เขาที่พอจะคาดเดาว่า จะต้องเป็นคนของตระกูลเซียว หากแต่เซียวจุ้ยจื่อกับไม่รู้จักเลยอย่างงั้นรึ?

หลี่ชิงหยางที่ทำการค้นตัวเหล่าคนชุดดำก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า “เจ้าสำนักบนร่างของพวกเขามีป้ายสลักคำว่า”เป่ย“เอาไว้ด้วย หรือว่าเป็นคนตระกูลเป่ย?”

เซียวจุ้ยจื่อที่สีคางไปมา กล่าวออกมาว่า “ข้าได้ยินมาเหมือนกัน ตระกูลเป่ยนั้นมีนักฆ่าในสังกัดของตัวเองด้วย.”

ซูเซียวโม่ที่เอ่ยออกมาในทันที “ไม่จำเป็นต้องคิดแล้ว จะต้องเป็นคนตระกูลเป่ยที่เห็นพวกเราเอาชนะเป่ยเจี้ยนได้ จึงสั่งนักฆ่ามาแก้แค้นพวกเรา!”

“ปัก!”จุนซ่างเซียวที่ดีดไปที่หัวของซูเซียวโม่และกล่าวออกมาว่า “เจ้ากำลังจะบอกว่า นักฆ่าของตระกูลเป่ยพกป้ายตระกูลตัวเองอย่างเปิดเผยมาสังหารพวกเราอย่างงั้นรึ?”

ซูเซียวโม่ที่กุมศีรษะตัวเอง ใบหน้าบิดเบี้ยว.

หลี่ชิงหยางเอ่ย “เจ้าสำนัก ท่านกำลังจะบอกว่า พวกเขาจงใจพกป้ายตระกูลเพื่อจงใจใส่ร้ายตระกูลเป่ยอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “ถึงกับไม่ลังเลที่จะกินยาพิษเข้าไป นักฆ่าเหล่านี้จะต้องถูกฝึกมาอย่างดี บางที......”

“มือสังหาร!”หลี่ชิงหยางกล่าว.

จุนซ่างเซียวที่ตบไปที่ไหล่ของเขากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลว ไม่เลว ไม่ได้ทำให้เปิ่นจั้วผิดหวัง.”

หลี่ชิงหยางกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ก่อนหน้านี้ มีมือสังหารมาลอบสังหารเจ้าสำนัก หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับสำนักหลิงชวน?”

“ก็ไม่แน่.”จุนซ่างเซียวที่ไม่แน่ใจเช่นกัน.

ในเวลานี้พอจะคาดเดาได้ว่ามีสองกลุ่มอิทธิพลที่พอเป็นไปได้ ที่อาจจะส่งมือสังหารมา คือหนึ่งกลุ่มที่แอบอ้างใส่ร้ายตระกูลเป่ย และอีกกลุ่มคือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสำนักหลิงชวนจริง ๆ.

“ค้นให้ละเอียด ดูซิว่าพวกมันมีแหวนเก็บของหรือไม่?.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

หลิ่ชิงหยางและเหล่าศิษย์น้องที่ค้นศพนักฆ่าอย่างระเอียด หากแต่ ไม่ต้องเอ่ยถึงแหวนเก็บของเลย แม้แต่เงินเหรียญเดียวก็ยังไม่มี กล่าวได้ว่าเป็นพวกยากจนข้นแค้นนั่นเอง.

จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมาและกล่าวออกมาว่า “เอาศพมากองรวมกัน.”

“ครับ.”

ทุกคนที่นำศพทั้งหมดมากองรวมกัน.

ซูเซียวโม่ที่เก็บพวกกิ่งไม้มากองรวมกันกับศพด้วย.

การเผาศพด้วยกิ่งไม้? นี่ถือเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้กัน.

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะยกมือขึ้น สร้างเปลวเพลิงประณีต(หลิงหลง)ออกมา เปลวเพลิงที่ลุกไหม้เผาศพให้กลายเป็นเถ้าอย่างรวดเร็ว.

เห็นเจ้าสำนักเรียกเปลวเพลิงออกมาได้ หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆ ถึงกับอ้าปากหวอ.

ลู่เชียนเชียนที่ประหลาดใจจนต้องกล่าวสอบถามออกมา “นี่ท่านเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพลิงวิญญาณด้วยรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ยักไหล่และกล่าวออกมาว่า “เปิ่นจั้วเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพลิงวิญญาณ มันแปลกตรงใหน?”

“กึก.”

ทุกอย่างที่มอดหายไปหมด จุนซ่างเซียวก็เอ่ยออกมาว่า “ไป กลับสำนัก.”

คนทั้งห้าก็เร่งรีบตามไปทันที.

ระหว่างทาง หลี่ชิงหยางที่ลอบกล่าวออกมาเบา ๆ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ เพลิงที่เจ้าสำนักใช้ มันควรจะเป็นเมล็ดเพลิงที่หายากเอามาก ๆ ใช่ใหม!”

ลู่เชียนเชียนกล่าว “เมล็ดเพลิงระดับสุดยอด เพลิงประณีต(หลิงหลง).”

“อ๋า?”

หลี่ชิงหยางแทบล้มไปกับพื้น แต่ก็ตั้งหลักได้ทัน พร้อมกับจ้องมองไปยังเจ้าสำนักด้วยความตื่นตะลึง.

ในทวีปชิงหยุนนั้น เกี่ยวกับคุณสมบัติพลังวิญญาณสามารถที่จะแยกย่อยไปได้อีก ยกตัวอย่าง วิญญาณเปลวเพลิงหรือวิญญาณวารี แต่ละคุณสมบัติยังแยกคุณภาพของมันอีกด้วย เหมือนกับรากวิญญาณ.

เพลิงประณีตระดับสุดยอด.

แน่นอนว่ามันคือเพลิงวิญญาณ ที่หายากมาก ๆ!

หลี่ชิงหยางที่ระงับความตื่นตกใจเอาไว้ และกล่าวเสียงเบา “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ เจ้าสำนักไม่ธรรมดาจริง ๆ อ๊าก!”

ลู่เชียนเชียนกล่าวออกมาเบา ๆ “หากเขาธรรมดา เจ้าคิดว่าลำพังพรสวรรค์และพลังบ่มเพาะของศิษย์น้อง จะสามารถสังหารพวกนั้นได้ถึงสี่คนรึ?”

หลี่ชิงหยางกล่าว “มีเหตุผล.”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวเดินอย่างสง่า ขณะทั้งสองก้าวเข้ามาใกล้ เขาก็เอ่ยออกมาว่า “ชิงหยาง เปิ่นจั้วเคยบอกแล้วว่าจะทำให้เจ้า ก้าวไปถึงระดับราชันย์ยุทธ์ เจ้ายังคิดว่าข้าพูดเกินจริงอยู่รึ?.”

“จำเอาไว้.”จุนซ่างเซียวที่กวาดตามองศิษย์ทั้งห้าและกล่าวออกมาว่า “ตราบเท่าที่เดินเคียงข้างไปพร้อมกับเปิ่นจั้ว ข้าได้กินขนมปัง พวกเจ้าก็ได้กินน้ำถั่วเหลือง.”

แม้นว่าจะไม่รู้ว่า“ขนมปัง”คืออะไร ทว่าศิษย์ของเขาก็เอ่ยกล่าวรับเสียงดัง “พวกเราจะติดตามประมุขตลอดกาล!”

......

“เปรี้ยง!”

บนท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆหมอกจนพื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยความมืด สายฟ้าที่ร้องครวญคราง แลบแปบ ๆ และทันใดนั้นสายฟ้าขนาดใหญ่ก็ฟาดลงมาบนหุบเขาแห่งหนึ่ง จนพื้นดินแยกออกเป็นสองส่วนในทันที.

“ฟิ้ว!”

ในเวลาเดียวกันบนพื้นดินที่แยกออกจากกันนั้น มีริ้วแสงสีดำพุ่งออกไป เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็พุ่งเข้าหาผู้เยาว์คนหนึ่งที่กำลังตัดไม้อยู่ในป่า.

“อ๊าก!”

ชายหนุ่มคนดังกล่าวที่กำลังร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดโหยหวน.

ดวงตาของเขาที่ใสกระจ่าง เวลานี้มันเริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ.

จากนั้นไม่นาน ก็กลายเป็นดุร้ายอย่างสมบูรณ์แบบ เสียงที่แหบแห้งของเขาดังขึ้น “ดวงวิญญาณที่ถูกกักขังมาหลายพันปี ท้ายที่สุดเปิ่นตี้ก็ได้จุติกลับมาอีกครั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า.”

“หลิงเหยา นังผู้หญิงดอกทอง หลอกมาเป็นคนรู้ใจข้า แท้จริงแล้ววางแผนที่จะช่วงชิง วิชาพระสูตรไท่ฉ่วนของข้าไป รอให้ราชันย์ผู้นี้กลับมาแข็งแกร่งเมื่อไหร่ ข้าจะต้องไปทวงหนี้เจ้าคืนแน่!”

 

“อะไรนะ? ผู้หญิงคนนั้น คาดไม่ถึงเลยว่าจะแหวกห้วงอากาศออกจากที่นี่ไปแล้ว? อะไรกันทั่วโลกให้การเคารพนับถือ กลายเป็นจักรพรรดินีองค์แรกอย่างงั้นรึ?”

“กึก แก๊ก.”

ความทรงจำของเขาที่กำลังหลอมเข้ากับร่างที่เข้ามาสิง แววตาของผู้เยาว์คนดังกล่าวกำลังเผยความโกรธเกรี้ยวออกมา “คาดไม่ถึงเลยว่า นังผู้หญิงนั่นจะประสบความสำเร็จขนาดนี้!”

“ไม่มีปัญหา ยังไม่มีปัญหา.”

“ราชันย์ผู้นี้มีเคล็ดวิชาพระสูตรไท่ฉ่วนอยู่ในมือ เพียงแค่สิบปี ก็สามารถทะลวงไปยังระดับราชันย์ยุทธ์ได้แล้ว จากนั้นข้าจะฉีกห้วงมิติ ข้ามไปคิดบัญชีกับนาง ก็ยังไม่สายเกินไป.”

“ฟู่!”

ชายหนุ่มที่เริ่มตรวจสอบร่างกายตัวเอง แววตาที่ใสกระจ่าง หากแต่ลึกลงไปนั้นกับมั่นคงลึกล้ำเต็มไปด้วยประสบการณ์ชีวิตมากมาย.

เขาคนนี้ ก็คือเย่ซิงเฉิง.

หลายพันปีก่อนหน้านี้เขาคือหนึ่งในสิบยอดราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ คนทั่วโลกต่างก็เรียกเขาว่า ราชันย์รัตติกาล.

ด้วยแผนการของสตรีคนสนิทวางแผนทำร้าย ทำให้เขาร่วงหล่นจากฟ้า เหลือเพียงวิญญาณที่หลบหนีไปซ่อนตัวใต้ผืนพิภพ หลังจากผ่านมาหลายพันปี เขาก็คืนกลับมา และยึดครองร่างของเด็กชายผู้หนึ่งที่โชคร้ายกำลังตัดไม้อยู่กลางป่า.

“รากวิญญาณระดับต่ำ พลังบ่มเพราะเปิดชีพจรขั้นที่หนึ่ง อ่อนแอสุด ๆ.”

เย่ชิงเฉิงที่กล่าวถึงร่างใหม่ที่เขาช่วงชิงมา.

“ไม่เป็นไร ราชันย์ผู้นี้มีวิชาบ่มเพาะ พระสูตรไท่ฉวน วิชาที่ต่อต้านสวรรค์ สามารถเปลี่ยนแปลงรากวิญญาณได้.”ที่มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นมาด้วยความโอหัง.

“จักรพรรดินีองค์แรกในประวัติศาสตร์รึ?”

“เมื่อไหร่ที่ราชันย์ผู้นี้ พลังฟื้นคืนกลับมา ข้าจะดึงเจ้าลงจากแท่นบูชาให้ได้!”

เย่ซิงหยางที่กำหมัดแน่น เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมกับตะโกนเสียงดัง “นับจากวันนี้ ข้าเย่ชิงเฉิงจะทำให้ทุกคนอยู่ใต้แทบเท้า สวรรค์ปฏิเสธไม่ยอมรับรึ? เช่นนั้นข้าก็จะต่อต้านสวร......”

“ปัง!”ยังกล่าวคำว่าสวรรค์ ไม่จบด้วยซ้ำ ก็มีบางสิ่งที่ลอยมาจากพื้นที่ไกลออกไป กระแทกเข้าไปที่หน้าของเขาอย่างแรง.

เย่ซิงเฉินที่จิตวิญญาณกำลังเร่าร้อน จู่ ๆ ก็มีบางสิ่งลอยเข้ามากระแทก ก็ล้มคว่ำไปในทันที.

เมื่อหลายพันปีก่อนเขาคือหนึ่งในสิบสุดยอดราชันย์ยุทธ์ ขณะได้จุติคืนกลับมา กำลังแหกปากร้องว่าจะต่อต้านสวรรค์ พริบตานั้นก็ล่วงล้มหมดสติไป สิ่งที่ลอยมากระแทกเขานั้นก็คือ ลูกฟุตบอลลูกหนึ่งนั่นเอง!

จากที่ไกลออกไปเสียงที่เผยความตกใจก็ดังขึ้น “เจ้าสำนัก สิ่งของที่ท่านเตะออกไปเมื่อครู กระแทกเข้ากับคนสลบเหมือดไปเลย!”

“คนรึ? บนภูเขาที่ว่างเปล่าเช่นนี้ มีคนอยู่ด้วยอย่างงั้นรึ?”

“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”

เพียงไม่นาน จุนซ่างเซียวและศิษย์ก็มายืนล้อมรอบ.

เขาเห็นชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น ที่มุมปากถึงกับกระตุก “เปิ่นจั้วก็เตะออกไปส่ง ๆ เท่านั้น แต่กับกระแทกเข้ากับใบหน้าเขาเลยรึ? มันจะประจวบเหมาะไปไหม!”

“เจ้าสำนัก ทำอย่างไรดี?”หลี่ชิงหยางสอบถาม.

จุนซ่างเซียวที่เงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าที่มืดครึ้ม กล่าวออกมาว่า “รอบ ๆ นี้ไม่มีหมู่บ้านอะไร ฝนเองก็ใกล้จะตกแล้ว นำเขากลับสำนักด้วยก็แล้วกัน.”

“ครับ.”

เซียวจุ้ยจื่อที่ยกเด็กหนุ่มคนดังกล่าวขึ้นไหล่แบกกลับไปด้วย.

จุนซ่างเซียวที่เก็บลูกบอลเข้าแหวนมิติ พร้อมกับนำศิษย์ทั้งห้ากลับสำนักไท่กู่เจิ้งด้วยความเร็ว.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด