ตอนที่แล้วChapter 4 ภารกิจสนับสนุน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 6 ยอมรับกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้

Chapter 5 ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส


แม้นว่าสำนักไท่กู่เจิ้งจะเป็นเพียงกองกำลังระดับเก้า แม้นว่าจะมีกันเพียงสองคน ทว่าจุนซ่างเซียวก็คือผู้ปกครองสำนัก ศิษย์จะมาสั่งสอนเจ้าสำนักได้อย่างไร ศักดิ์ศรีของเจ้านักจะเอาไปไว้ที่ใหน?

ไม่ได้การ ไม่ได้การแล้ว.

ต้องแสดงความน่าเกรงขามให้กับสตรีคนนี้เข้าใจ เขาคือเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง จะให้นางเหนือกว่าได้อย่างไร!

“แค๊ก แค๊ก.”

จุนซ่างเซียวที่กระแอมคล้ายน้ำลายติดคอ ยกมือขึ้นโบกไปมา ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า “เชียนเชียน เมื่อครู่ เจ้ากล่าวไม่ผิดหรอก ว่าไม่ควรเมตตาต่อศัตรู.”

“แต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องสร้างความน่าเกรงขามออกมาด้วย.”

“สิ่งที่เหล่าชาวยุทธ์ฝึกฝนไม่ใช่แค่วิถีบ่มเพาะเท่านั้น ยังต้องบ่มเพาะจิตใจด้วย.”

“ตัวข้าที่เป็นเจ้าสำนักอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า จะไปรังแกคนที่อ่อนแอได้อย่างไรกัน หากทำเช่นนั้นมันจะต่างอะไรไปจากโจรร้ายหรืออันธพาลทั่วไป.”

“หนำซ้ำ.”

“พวกมันเป็นเพียงแค่ศิษย์ขยะ ไม่อยู่ในสายตาของเปิ่นจั้วแม้แต่น้อย หากข้าลงมือสังหารพวกมัน ไม่ทำให้เกียรติเจ้าสำนักเสียหายรึ?.”

“ติ้ง!”

“ยินดีกับเจ้าสำนักที่ทำภารกิจสำนักสำเร็จ ได้รับหนึ่งแต้มสนับสนุน!”

“ติ้ง!”

“แต้มสนับสนุนสำนัก: 5 / 100.”

สำเร็จแล้วรึ?

ใบหน้าของจุนซ่างเซียวถึงกับกลายเป็นโง่งมขึ้นมาเหมือนกัน.

แค่นี้ก็สามารถสร้างความนับถือจากลู่เชียนเชียนได้แล้วอย่างงั้นรึ?

ที่จริงภารกิจสนับสนุนค่อนข้างคลุมเครือเหมือนกัน ไม่มีคำอธิบายว่าเขาจะต้องแสดงความน่าเกรงขาม ของเจ้าสำนักออกมาอย่างไร.

ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขากล่าวออกไปก่อนหน้านี้ จะทำให้ลู่เชียนเชียนเข้าใจความหมายของเขาได้เช่นกัน.

ทว่าจากสายตาที่นางจ้องมองมา ราวกับว่าเขาเป็นคนโง่งม นี่นางเข้าใจแน่อย่างงั้นรึ?

“ข้าเข้าใจแล้ว.”

ลู่เชียนเชียนที่เอ่ยกล่าวออกมา “สังหารขยะ ทำให้ศักดิ์ศรีเจ้าสำนักมัวหมอง จากนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ศิษย์เอง.”

“เคร้ง!”

กระบี่ยาวที่ถูกชักออกมาจากฝัก แผ่ความเย็นกระจายออกไปรอบ ๆ.

จุนซ่างเซียวแทบล้มทั้งยืน “เชียนเชียน เจ้าไม่เข้าใจความหมายของเปิ่นจั้ว......”

“เอ๊ะ เดี๋ยว ๆ ไม่ต้องตามไป!”

“ลู่เชียนเชียน เจ้าเป็นสตรี สตรีไม่ควรมีท่าทางเช่นนี้ เจ้าทำเป็นแต่การฆ่ารึอย่างไร!”

ลู่เชียนเชียนที่หยุดชะงัก ก่อนที่จะหันหน้ากลับ ดวงตาคู่งามที่เผยความเย็นชาออกมา “ใครบอกว่าสตรีสังหารไม่ได้กัน?”

ใบหน้ารูปร่างที่งดงาม.

หากแต่ในมุมมองของจุนซ่างเซียวในเวลานี้ ไม่อาจมองเห็นได้เลยแม้แต่น้อย.

สายตาที่เย็นชาและเปื้อนไปด้วยจิตสังหาร จนทำให้หัวใจของเขาเย็นยะเยือบ ก่อนที่จะกล่าวในใจ “สตรีผู้นี้จะต้องมีเบื้องหลังบางอย่างมาก่อน อย่างแน่นอน!”

ถึงลู่เชียนเชียนจะเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง หากแต่ภูมิหลังของนางนั้น จุนซ่างเซียวไม่รู้อะไรเลย.

เขาเองก็ไม่มีโอกาสที่จะสอบถามเช่นกัน ทว่าหลังจากที่รู้จักกันในเวลาสั้น ๆ ก็พบว่า นางนั้นเป็นคนที่เย็นชาอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เขาเลิกความคิดดั่งกล่าวไป.

สตรีน้ำแข็งไม่ง่ายที่จะจัดการ และดูเหมือนว่าจะสนิทด้วยลำบากอีกด้วย.

“เชียนเชียน.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ก่อนอื่นเก็บกระบี่ของเจ้าก่อน.”

“เคร้ง!”

ลู่เชียนเชียนที่เก็บกระบี่และเอ่ยออกมาเล็กน้อย “ท่านเป็นเจ้าสำนัก ข้าต้องรับฟังคำสั่ง ทว่าจำเอาไว้ว่า อย่าได้ดูแคลนสตรี.”

ดูแคลนอย่างงั้นรึ?

จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก.

ไม่ได้บอกว่าเจ้าสังหารไม่ได้ แต่หมายถึงว่า เป็นห่วงความปลอดภัยต่างหาก โอ้ย.

......

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความน่าเกรงขามในฐานะเจ้าสำนักเลย จากที่เห็นในสายตาของนางแล้วมองไม่เห็นถึงความเคารพในฐานะศิษย์เลย.

แล้วจะทำอย่างไร ถึงจะทำให้นางเคารพได้กัน?

จุนซ่างเซียวครุ่นคิดแต่ก็คลำทางหาไม่เจอ ขณะที่เขาเปิดคอนโซนสำนัก จ้องมองแต้มสนับสนุน 5 แต้ม ก่อนที่จะกล่าวในใจ “มีสิ่งใดที่สามารถแลกเปลี่ยนได้บ้าง?”

เขาที่เลื่อนรายการของร้านค้าเริ่มต้น พร้อมกับจ้องมองไปยังสินค้าต่าง ๆที่ปรากฏขึ้น.

ยันต์บอลเพลิง-10แต้มสนับสนุน!

ยันต์โคนน้ำแข็ง-10แต้มสนับสนุน!

กระบี่ฮั่นเฟิง(คมน้ำแข็ง)ระดับต้น-10แต้มสนับสนุน!

หมัดเก้าทำลาย-10แต้มสนับสนุน!

“......”

จุนซ่างเซียวที่มีแต้มสนับสนุนเพียงห้าแต้ม ขณะกวาดตามองสินค้าที่มีอยู่ ดูเหมือนว่าจะมีราคาสิบแต้มสนับสนุนแทบทั้งหมด ทำให้เขาหดหู่เป็นอย่างมาก.

ไม่มีของราคาถูก ๆ เลยรึ?

ไม่มีอะไรสามารถซื้อได้เลยรึไง?

เอ๊ะ มีนิ!

จุนซ่างเซียวที่จ้องมองไปยังรายการสิ่งของดังกล่าว ดูเหมือนว่ามันจะใช้แต้มสนับสนุนแลกเปลี่ยนเพียงหนึ่งแต้ม เม็ดยาฟื้นฟูระดับต้น!

ตัวเขาไม่ได้บาดเจ็บอะไรในเวลานี้ แลกเปลี่ยนไปก็ไร้ประโยชน์.

“เพ่ย!”

“ถึงแม้นว่าจะซื้อมา ก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้.”

......

สินค้าในร้านค้ามือใหม่ ยกเว้นเม็ดยาฟื้นฟูระดับต้นแล้ว ทุกชิ้นล้วนแต่ต้องใช้ 10 แต้มสนับสนุน ทำให้จุนซ่างเซียวทำได้แค่ต้องตัดใจ.

เฮ้อ!.

คงทำได้เพียงแค่ไปยังเมืองชิงหยาง รับศิษย์ เพื่อเพิ่มแต้มสนับสนุนเท่านั้น.

“แก็ก.”

ขณะที่เขานำทางลู่เชียนเชียนไป มือของนางก็กุมไปที่ด้ามกระบี่ ดวงตาหรี่เล็ก พร้อมกับกล่าวออกมาเล็กน้อย “มีคน.”

“มีคน?”

จุนซ่างเซียวที่กวาดตามองรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว พบว่าที่ถนนหลักนั้น ระหว่างสองข้างทาง มีต้นไม้และหินเท่านั้น ไม่เห็นแม้แต่เงาใครสักคน.

เขาไม่เชื่อ คิดว่าลู่เชียนเชียนกำลังล้อเขาเล่น พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “คนอยู่ใหนกัน?”

ลู่เชียนเชียนไม่กล่าวอะไร นางที่จดจ้องมองไปยังพงหญ้าที่ข้างทางไม่วางตา.

จุนซ่างเซียวที่จ้องมองตามนาง ในพงหญ้านั้นสั่นไปมาเล็กน้อย ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ด้านใน ดูคลุมเครือไม่สามารถบอกได้ “มองไม่เห็นเลยว่าเป็นคน อาจเป็นสัตว์ร้ายหรือไม่?”

ในทวีปซิงหยุนไม่เพียงแค่มีมนุษย์เท่านั้น ยังมีสัตว์ร้ายมากมาย พวกมันไม่จำเป็นต้องฝึกยุทธ์ แต่กับมีความแข็งแกร่งที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.

ยกตัวอย่าง ระหว่างเดินทาง จุนซ่างเซียวเลี่ยงที่จะเดินทางผ่านป่าบนภูเขา เพราะไม่ต้องการพบเจอกับสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งนั่นเอง.

ไม่เพียงแต่ร่างกายของพวกมันที่ทรงพลัง ยังมีพลังเหนือมนุษย์เป็นอย่างมาก.

ด้วยพลังในระดับเดียวกัน มันสามารถบดขยี้มนุษย์ได้ราวกับผู้ใหญ่รังแกเด็ก!

บนโลกที่แตกต่างนี้ สัตว์ร้ายทรงพลังน่ากลัว จุนซ่างเซียวได้ตั้งใจว่า เพื่อชีวิตที่สวยงามคงจะดีกว่า หากหลีกเลี่ยงเดินทางบนป่าเขาลำเนาไพร.

“ไม่ใช่สัตว์ร้าย.”

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “เป็นคน.”

“คน?”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางเบาใจขึ้นมาในทันที.

ขอเพียงไม่ใช่สัตว์ร้ายจากภูเขาสูง ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล.

เจ้าสำนักจุนที่แหวกหญ้าก้าวเข้าไป ก่อนที่จะมองเห็นผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้น ร่างกายของเขาโชกไปด้วยโลหิต.

ไม่ใช่แค่คนเท่านั้น.

แต่เป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บหนัก!

ลู่เชียนเชียนก้าวตามและเอ่ยออกมาว่า “บาดแผลสาหัสมาก.”

ระหว่างที่ก้าวเข้าไป นางที่กวาดตามองและเอ่ยออกมาว่า “บาดแผลช้ำเขียวแล้ว อีกไม่นานคงจะตาย.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าว “ช่วยไม่ได้แล้วรึ?”

ลู่เชียนเชียนที่จับจ้องมองจุนซ่างเซียวราวกับเห็นตัวโง่งม “ไม่ใช่ว่าท่านต้องการจะช่วยเขาหรอกนะ?”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ช่วยชีวิตคน สร้างบุญกุศลได้มากกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น.”

ลู่เชียนเชียนกล่าวต่อ “ใครจะรู้ว่าเขาถูกศัตรูไล่ล่าอยู่หรือไม่? การช่วยเขา มีแต่นำปัญหามาให้สำนักและตัวเอง.”

จุนซ่างเซียวที่เข้าใจเรื่องดังกล่าวได้ดี.

เขาเริ่มสำรวจชายคนดังกล่าวพร้อมกับเอ่ยออกมาว่า “เจ้าวางใจได้ บาดแผลที่หลังของเขา เจ้าคิดว่าเป็นฝีมือมนุษย์อย่างงั้นรึ?”

ลู่เชียนเชียนที่ส่ายหน้าไปมา “เป็นรอยกงเล็บ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เช่นนั้นเขาก็บาดเจ็บจากสัตว์ร้าย ไม่ใช่ศัตรู.”

ลู่เชียนเชียนที่พยักหน้ารับ ก่อนจะกล่าวต่อ “คนผู้นี้บาดเจ็บหนักมาก สามารถตายได้ทุกขณะ ท่านเป็นหมออย่างงั้นรึ? ถึงจะช่วยเขา?”

“เปิ่นจั้ว แม้นว่าจะไม่ได้เป็นหมอ...”

จุนซ่างเซียวที่สะบัดมือเบา ๆ ก่อนจะกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “แต่ก็มีเม็ดยาใช้รักษาอยู่.”

ลู่เชียนเชียนที่จับจ้องไปยังฝ่ามือของเขา เม็ดยาเท่าเม็ดถั่ว จึงกล่าวออกมาว่า “เม็ดยาที่เป็นเงา ไม่ใช่ว่าใช้ได้แค่รักษาบาดแผลทั่วไปหรอกรึ? จะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร?”

“เอาล่ะ ลองดูเดี๋ยวก็รู้.”

จุนซ่างเซียวพยุงชายบาดเจ็บ พร้อมกับใส่เม็ดยาเข้าไปในปาก เม็ดยาเมื่อเข้าไปในปากแล้ว พลังวิญญาณมากมายก็พวยพุ่งหมุนวนไปทั่วร่างของชายคนดังกล่าว.

ลู่เชียนเชียนยืนนิ่ง จับจ้องมองเขม็ง.

คนผู้นี้ไม่ใช่แค่บาดแผลภายนอกเท่านั้น อาการบาดเจ็บภายในนั้นสาหัสยิ่งกว่า เพียงแค่เม็ดยาฟื้นฟูทั่วไป เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษา.

“แค๊ก แค๊ก!”

ร่างกายของเขาที่ขยับ ชายที่หมดสติไปแล้ว เริ่มไอ หนัก หนังตาขยับไปมา.

ฟื้นคืนสติแล้วรึ?

ดวงตาคู่งามของลู่เชียนเชียน เผยท่าทางประหลาดใจ.

จุนซ่างเซียวเผยยิ้มพราย “ผลของเม็ดยาฟื้นฟูของข้า ดูเหมือนว่าจะไม่เลวเลย.”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด