ตอนที่แล้วChapter 28 ข้าการศึกษาน้อย อย่าได้ขู่ข้านัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 30 เมื่อดึงดาบหนานโชวออกมาแล้ว ก็ยากจะเก็บกลับคืน.

Chapter 29 ไม้ตาย


“โอ้ว สวรรค์!”

“หัวหน้าหกเร็วมาก!”

“ข้ามองเห็นแค่เงา ไม่สามารถมองเห็นร่างหัวหน้าหกได้เลย!”

“นี่คือท่าเท้าระดับสามัญชั้นกลาง น่าเกรงขามมาก!”

เหล่าโจรภูเขาต่างก็เผยความเคารพและอิจฉาไปพร้อม ๆกัน!

“ไม่เลว ไม่เลว.”

โจวเทียนป้าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หรู เอ่ยด้วยท่าทางพอใจ “เหล่าหลิว เจ็ดก้าวเปลี่ยนเงาของเจ้า ยกระดับไปมาก จากหกเดือนที่แล้ว.”

หัวหน้าสองที่อยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าขาวเนียน เอ่ยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ด้วยความเร็วของน้องหกเวลานี้ ถึงเป็นข้าก็ยากจะตามทัน.”

“น้องสองยังตามไม่ทัน พี่น้องคนอื่นก็คงเป็นไปไม่ได้เช่นกัน”หัวหน้าสี่ที่เอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่นกัน.

ด้วยคำพูดที่หัวเราะสนุกสนานราวกับว่า กำลังชมการแสดงที่น่าสนใจ พวกเขาคิดว่าด้วยความเร็วของเหลาหลิวแล้ว ไม่มีทางที่จุนซ่างเซียวจะตามได้ทัน.

“ไอ้หนู!”

“เหล่าจื่อจะทำให้เจ้าได้เห็น อะไรที่เขาเรียกว่าความเร็ว!”

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

ท่าเท้าของหัวหน้าหกยังขยับ เพิ่มความเร็วขึ้นได้อีก เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่มองเห็นเพียงริ้วแสง พายุเล็กที่พัดฝุ่นกระจายฟุ้งไปรอบ ๆ.

หัวหน้าสองที่ส่ายหน้าไปมา เอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “น้องหกกำลังเล่นกับเจ้านั่นอยู่.”

“กระบี่ที่เร็ว คิดว่าจะเร็วกว่าน้องหกที่เป็นสายลมแล้วอย่างงั้นรึ?.”

เหล่ากลุ่มหัวหน้าโจรที่เผยท่าทางพอใจเป็นอย่างมาก.

“หัวหน้าหก ค่อย ๆ เฉือนเนื้อของมัน ให้มันตายเหมือนหมา ร้องโอดโอยค่อย ๆ ทรมานก่อนหยุดหายใจ!”

“เริ่มแรกต้องทำให้ อยู่ในสภาพ ครึ่งเป็นครึ่งตายก่อน เฉือนเนื้อไปทั่วร่าง ควักลูกตา ค่อย ๆ ทรมานให้มันเจ็บปวด ที่บังอาจทำร้ายพี่น้องของพวกเรา!”

เหล่าโจรภูเขาหลายร้อยคนที่ส่งเสียงเชียร์ดังสนั่น.

จุนซ่างเซียวที่ยืนนิ่งอยู่ สายลมที่บ้าคลั่งโบกพัดรอบ ๆ ทำให้เผ้าผมเขา กลายเป็นกระเซอะกระเซิง ใบหน้าของเขามีฝุ่นทรายจับ จนทนไม่ได้เอ่ยออกมาว่า “เสียงหวิ่ง ๆ น่ารำคาญจริง ๆ.”

“ฟิ้ว!”

เขาที่ก้าวไปด้านหน้า กระบี่หานเฟิงสามัญขั้นต้นที่สะบัดออกไป ทะลวงไปด้านหน้า.

ช่างน่าเสียดายที่วืด ไม่สามารถตามความเร็วหัวหน้าหกทันได้.

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ความเร็วของหัวหน้าหกนั้นเร็วมาก คิดว่าจะตามทันได้รึไง หากว่าตามทัน.......”

“พรึด ซี่!”

ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ เหล่าโจรภูเขารอบ ๆ ลานต่อสู้ ถึงกับอ้าปากค้าง ตัวสั่นไปในทันที.

สายตาที่เบิกกว้างลืมไม่ลง พวกเขาพบว่าหัวหน้าหกศีรษะหลุดออกจากบ่าโลหิตพุ่งกระฉูดไปเสียแล้ว.

ใบหน้าของโจรภูเขาถึงกับเปลี่ยนสี ศีรษะ และร่างไปคนละทิศคนละทาง ร่างกายของหัวหน้าหกที่ครูดไปกับพื้นก่อนที่จะค่อย ๆ หยุดลง ศีรษะที่หล่นกลิ้งไปบนพื้นก่อนค่อย ๆ หยุดลง  โลหิตกระฉูดกระเซ็นราวกับท่อแตก ดัง ปุด ๆ.

จุนซ่างเซียวที่สะบัดกระบี่เพื่อขจัดโลหิตแล้วเอ่ยออกมาว่า “โง่ไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะไร้สมองขนาดนี้? คิดได้ไง วิ่งมาชนกระบี่ของข้า?”

ตอนแรกคล้ายกับว่าโจมตีพลาด เขาก็ได้ตวัดกระบี่ไปในแนวนอนจากบนลงล่างอย่างรวดเร็ว.

หัวหน้าหกที่วิ่งวนเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกา ส่วนจุนซ่างเซียวตะวัดกระบี่ลากทวนเข็ม เพราะความเร็วต่อความเร็ว กระบี่ของจุนซ่างเซียวจึงได้ตัดดาบของอีกฝ่ายและสะบั้นศีรษะฝ่ายตรงข้ามให้ขาดออกจากร่างทันที.

ด้วยกระบี่หานเฟิงนั้นแหลมคมเป็นอย่างมาก สามารถตัดโลหะราวกับตัดหยวกกล้วย ชายหัวล้านที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงยิ่งทำให้คมกระบี่เพิ่มมากขึ้นจน ตัดฝ่ายตรงข้ามขาดเป็นสองท่อนง่ายกว่าปรกติ.

จะให้พูดล่ะก็.

วิชาเจ็ดก้าวเปลี่ยนเงานั้น เป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจนมองเห็นเป็นเงา จุนซ่างเซียวที่มีระดับเปิดชีพจรขั้นสิบ ไม่สามารถมองตามความเร็วได้ แม้นว่าจะไม่มีพลังเพียงพอ แต่ด้วยสมองที่ยอดเยี่ยมกว่า จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการฝ่ายตรงข้าม.

......

“น้องหก!”

“พี่หก!”

“หัวหน้าหก!”

เสียงโกรธเกรี้ยวคำรามด้วยความเศร้าและโกรธ ดังระงม.

“ฟู่ ฟู่!”

พริบตานั้น กลิ่นอายความโกรธที่คละคลุ้งไปทั่วลาน เหล่าโจรภูเขาทั้งหมดจับจ้องมองไปยังจุนซ่างเซียว ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร ต้องการจะกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่ายให้ได้!

“น่ารังเกียจ!”

หัวหน้าแปดที่ผิวหนังเหี่ยวย่นและหัวหน้าเจ็ดที่ดูเตี้ยกว่าคนอื่น คำรามออกมา ขณะชักดาบและกระบองออกมา พร้อมกับพุ่งออกไปโจมตี.

เหล่าโจรภูเขาที่เห็นพวกพ้องถูกสังหาร เต็มไปด้วยความโกรธดวงตาแดงกล่ำ ไม่สามารถที่จะควบคุมได้แล้ว.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกไปด้านหน้าหนึ่งเก้า หลบการโจมตีของทั้งสอง กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “มีปัญหาอะไร สู้เปิ่นจั้วไม่ได้ เลยคิดจะรุมอย่างงั้นรึ?”

“ตาย!”

หัวหน้าสี่และหัวหน้าห้า หมัดของพวกเขาที่ระเบิดพลังวิญญาณออกมา ลอบโจมตีจากด้านหลัง.

“ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่ขยับเท้าสับหลอกไปด้านขวา ใบหน้าเผยยิ้มหันไปด้านหลังเผยแววตาที่แผ่ความเย็นยะเยือบออกมา.

เขาตระหนักได้ว่า เหล่าโจรภูเขาที่ดุร้ายเหล่านี้ ไม่มีทางที่จะทำตามธรรมเนียมชาวยุทธ์อย่างแน่นอน ไม่ว่าผลการพูดคุยจะเป็นอย่างไร สุดท้ายก็มีเพียงความตายที่รออยู่.

“หัวหน้าใหญ่.”

จุนซ่างเซียวกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล “นี่คือการสร้างความสนุกให้กับแขกของค่ายวายุทมิฬอย่างงั้นรึ?”

โจวเทียนป้าได้ยินคำพูด แทบทรุดไปเหมือนกัน.

นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเข้ามาบนเทือกเขาทมิฬ แล้วสังหารผู้ใต้บังคับบัญชาต่อหน้าต่อตา เขาไปถึงสองคน.

ก่อนเข้ามาในค่ายวายุทมิฬ ก็สังหารคนคุ้มกันประตูไปสองคนแล้ว มารดาเถอะ นี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นแขกอีกรึ?

“ฮึ!”

สายตาของโจวเทียนป้าที่กลายเป็นมืดครึ้ม “ไอ้หนู สังหารคนของค่ายวายุทมิฬ ถึงวันนี้ แกจะมีเงินมากมาย เหล่าจื่อก็ไม่ปล่อยแกออกไปแน่.”

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

ระหว่างที่กล่าว หัวหน้าโจรทั้งสี่ก็รุมโจมตีเข้ามาพร้อม ๆ กัน.

จุนซ่างเซียวไม่ได้มั่นใจ ที่จะใช้เพียงกระบี่หานเฟิงระดับสามัญขั้นต้น ต่อสู้กับเปิดชีพจรขั้นสิบสอง สี่คนพร้อมกันแน่ ทันใดนั้นเขาก็ก้าวหลบอย่างรวดเร็ว.

นี่คือท่าเท้าหลิวอวิ๋น(เมฆคล้อย)เป็นวิชาที่ได้รับจากการชี้แนะผู้ฝึกยุทธ์ระดับศิษย์ยุทธ์คนหนึ่งในเมืองชิงหยาง แม้นว่าระดับจะด้อยกว่าเจ็ดก้าวเปลี่ยนเงา ทว่า จะดีจะร้ายก็ยังเป็นวิชาสามัญขั้นต้น การจะหลบคนทั้งสี่ที่โจมตีมาพร้อมกันยังคงพอกระทำได้อย่างไม่ยากนัก.

“ตึก ตึก ตึก!”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวหลบออกมาจากกลางวง เคลื่อนที่ออกมายังพื้นที่ด้านข้าง และหยุดอยู่จุดปลอดภัย กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเจ้าบังคับให้เปิ่นจั้วต้องใช้ไม้ตายออกมา!”

“ซูม ฟู่ ฟู่!”

ทั่วร่างของเขาที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังวิญญาณที่หมุนวน.

“ไม้ตาย?”

“ค่ายวายุทมิฬมีคนมากมาย ก็แค่ตัวคนเดียว มีไม้ตายแล้วไง สุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี!”

เหล่าโจรภูเขามากมายต่างก็เอ่ยเหยียดหยันดูแคลน.

สี่หัวหน้าโจรหยุดชั่วครู่ ราวกับสนใจอยากเห็นไม้ตายของจุนซ่างเซียว.

โจวเทียนป้าที่เงยหน้าขึ้นมอง กล่าวด้วยท่าทางสนใจเช่นกัน “ไอ้หนู ข้าหวังว่าไม้ตายของเจ้าจะทำให้ ข้าไม่ผิดหวัง.”

เหล่าโจรภูเขาที่ไล่ล่าสังหารเหยื่อ หากฝ่ายตรงข้ามมีไม้ตายซ่อนเอาไว้ แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นอาวุธสุดยอด หรือของวิเศษ ที่ทำให้พวกเขา ต้องการแย่งชิงมาให้ได้.

“ซูม ฟู่!”

จุนซ่างเซียวที่ปลดปล่อยพลังวิญญาณมามากมาย ขณะที่เขาสูดหายใจลึก.

พริบตาเดียว กระบี่หานเฟิงสามัญชั้นต้นก็หายไป ปรากฏเป็นอาวุธที่เหมือนมีดขนาดเล็กขึ้นมาแทน.

ต่อหน้าศิษย์ยุทธ์และเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง 6 คน ตลอดจนโจรภูเขาจำนวนกว่าสองร้อยคน ท้ายที่สุดเขาก็นำดาบหนานโชวออกมา!

“ดาบ?”

โจวเทียนป้าที่ส่ายหน้าราวกับผิดหวังเป็นอย่างมาก.

เขาก็ใช้ดาบเช่นกัน เป็นดาบที่ใช้สังหารศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งก่อนหน้านี้ มันเป็นดาบที่มีระดับสามัญขั้นสูง เมื่อปีที่แล้วขณะเขาท่องยุทธภพ ได้พบกับชายหนวดขาวคนหนึ่งมอบให้ มันมีนามว่า ดาบชิงหลงไท่ (สะบั้นมังกรเขียว).

เดี๋ยวก่อนนะ!

ดาบของเจ้าเล่มนี้...สั้นขนาดนี้เลยรึ?

ที่มุมปากของจุนซ่างเซียวกระตุก เพราะว่าเขาอัญเชิญดาบหนานโชวออกมาด้านนอกเป็นครั้งแรก เขาเพิ่งรู้ว่าความจริงแล้วดาบเล่มมีความยาวเพียงครึ่งฟุตเท่านั้น!

ครึ่งฟุต.

มันมีความยาวที่แทบจะเท่ากับแปลงสีฟัน.

ยังดีที่มันมีความกว้างหนึ่งนิ้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงรู้สึกว่า เขาเป็นคนโง่ที่นำแปลงสีฟันออกมาเพื่อข่มขู่ศัตรู!

ผิดปรกติ ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เลย.

มันควรจะมีความยาวมากกว่าสามฉื่อ(0.33ม.) เพราะอยู่ในแหวนมิติ เขาจึงเห็นชัดเจนว่ามันยาวมาก แต่เมื่อนำมันออกมามันเล็กขนาดนี้เลย? ก็พอรู้ว่ารูปโฆษณากับของจริงมันแตกต่างกัน แต่นี่มันต่างกันเกินไปแล้ว!

“เฮ้ย ดูดาบนั่นดิ?”

“ถึงจะเป็นมีดสั้นทั่วไป ก็ยังยาวกว่าดาบของมันเลย!”

“เหล่าจื่อก็แอบหวัง นี่คือสุดยอดไม้ตายแล้วอย่างงั้นรึ?!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

เสียงหัวเราะที่ดังสนั่นหวั่นไหว ดังก้องไปทั่วเทือกเขาทมิฬ.

บางคนถึงกับกุมท้องล้มกลิ้งหัวเราะ.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด