ตอนที่แล้วChapter 248 ช่วยเหลือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 250 สังหารเจ้าสำนักฉีซาน

Chapter 249 เอาเท้านั่นออกไปซะ แล้วเปิ่นจั้วจะให้ตายอย่างสบาย


ตูมม!

เซียวจุ้ยจื่อที่ถูกโจมตีกระแทกกำแพงหิน โลหิตสาดกระจาย.

เพียงแค่เวลาสั้น ๆ เขาก็รับหมัดของบรรพชนยุทธ์ไปกว่า 20 หมัดแล้ว แต่ละหมัดนั้นมีพลังไม่ต่ำกว่า 100,000 จิน!

อย่างไรก็ตาม.

เขาก็ยังคงพยายามที่จะลุกขึ้นมา ไม่ยอมที่จะนอนลงไป.

เขาคือศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง ถึงจะถูกโจมตีอย่างโหดร้าย ถึงจะบาดเจ็บสาหัส ก็ไม่มีทางที่จะเผยความอ่อนแอให้เห็น!

“เจ้าสำนักเหลียว มีระดับบรรพชนยุทธ์ เจ้าเด็กนี้กับยังคงยืนอยู่ได้ กายเนื้อของมันแข็งแกร่งมาก!”

“ไม่สงสัยเลยว่าได้ชัยชนะเลิศการแข่งขัน!”

“น่าเสียดาย ถึงจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง แต่ต่อหน้าคนที่มีพลังที่เหนือกว่าก็ไร้ประโยชน์!”

คนของหลากหลายสำนักที่ค้นหาล้อมกรอบเข้ามา ตอนนี้เห็นเซียวจุ้ยจื่อที่ทนทรหด ก็เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.

“ไม่เลว ไม่เลว.”

เจ้าสำนักเหลียวเอ่ย “รับหมัดของข้าไปตั้งหลายหมัด แต่ยังยืนได้ นับเป็นเมล็ดพันธ์ที่ยอดเยี่ยม.”

ใบหน้าของเซียวจุ้ยจื่อที่กลายเป็นเคร่งขรึม ความเจ็บปวดที่กระจายไปทั่วร่าง กัดฟันอดทนไม่ให้พ่นโลหิตออกมา.

หากไม่เพราะว่าได้ฝึกฝนในหอเก็บประสบการณ์ บางทีเขาคงจะล้มไปแล้ว.

“ไอ้หนู.”

เจ้าสำนักเหลียวเอ่ยออกมาเล็กน้อย “ออกจากสำนักไท่กู่เจิ้ง เข้าร่วมสำนักฉีซานซะ แล้วข้าจะปล่อยให้เจ้ารอด.”

สำนักฉีซาน.

เป็นสำนักระดับหกของมนทลเหอหยาง.

ความแข็งแกร่งโดยรวมของศิษย์แล้ว แข่งแกร่งกว่าสำนักเห่าฉีซะอีก.

ชายวัยกลางคนมีนามว่า เหลียวซางฟาง เป็นเจ้าสำนักฉีซาน ความแข็งแกร่งบรรพชนยุทธ์ขั้นที่ 2  แข็งแกร่งกว่าฉินเห่าหราน.

ให้ออกจากสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?

แม้นว่าจะเจ็บปวดแต่ก็ยังยิ้มออกมาได้.

เขาที่อดทนต่อความเจ็บปวด กล่าวด้วยเสียงอ่อนแรง “ชีวิตนี้....ข้าคือคนของสำนักไท่กู่เจิ้ง ตายเป็นผี ก็เป็นผีสำนักไท่กู่เจิ้ง....”

“เจ้าหนู สำนักฉีซานของข้ามีความสามารถที่จะเป็นนิกายระดับห้า โอกาสเช่นนี้ไม่ได้หาง่าย ๆ.”

“เจ้าสำนักระดับแปด เข้าร่วมงานประลอง เจ้าสำนักไม่แม้แต่ตามมาด้วย ทำไมต้องสละชีวิตไปเพื่อคนเช่นนั้น.”

“คนที่มีพรสวรรค์ต้องมีความฉลาดด้วย เจ้าควรจะเข้าใจความจริง.”

เปลี่ยนเป็นจากทำลายมาเป็นพูดจาโน้มน้าวใจ.

อย่างไรก็ตามคำพูดเหล่านั้นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของเซียวจุ้ยจื่อ ทำให้เขาแสยะยิ้มออกมา.

ปฏิเสธไม่ได้ว่า.

สถานการณ์ในเวลานี้อันตรายเป็นอย่างมาก.

ทว่าให้ออกจากสำนักไท่กู่เจิ้ง เข้าร่วมสำนักอื่น ถึงตายก็เป็นไปไม่ได้!

“ฟิ้ว!”

เหลี่ยวซางฟวางที่ยกแขนขึ้น พลังวิญญาณที่มากล้น ดึงสไนเปอร์ไรเฟิลออกมาจากแขนของเซียวจุ้ยจื่อ.

สายตาของทุกคนที่เผยความอิจฉา.

การควบคุมพลังวิญญาณเคลื่อนย้ายสิ่งของ มีเพียงแค่ระดับบรรพชนยุทธ์เท่านั้นที่ทำได้!

เหลียวซางฟางที่ถือสไนเปอร์ไรเฟิล เอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล “หากไม่เข้าร่วมสำนักฉีซาน มีเพียงแค่ตาย.”

เสียงที่เต็มไปด้วยความอหังการ แผดพลังข่มขู่อย่างที่สุด.

สายตาของเซียวจุ้ยจื่อไร้ซึ่งความหวาดกลัวใด ๆ กล่าวออกมาอย่างมั่นคง “ไม่เข้าร่วม.”

ทุกคนที่จับจ้องเผยความเหยียดหยันออกมา.

มีโอกาสที่จะรอดชีวิตกับไม่คว้ามันเอาไว้ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่.

มีชาวยุทธ์บางคนที่เผยความเศร้าใจแทน ต้องไม่ลืมว่าเมล็ดพันธ์ชั้นดีกำลังถูกสังหาร น่าเสียดายจริง ๆ.

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้.”

เหลียวซางฟางแค่นเสียงเย็นชา “สังหารศิษย์สำนักฉีซานไปมากมาย มีเพียงแต่ต้องตาย.”

กล่าวจบ เขาก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว ง้างหมัดแผ่พลังวิญญาณหมุนวน สะสมพลัง ความแข็งแกร่งการโจมตีครั้งนี้ต้องไม่น้อยกว่า 200,000 จินแน่นอน!

“ฟู่ ฟู่!”

สนามวายุที่หมุนวน เซียวจุ้ยจื่อที่ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ใบหน้าซีดขาวแต่สงบ.

ใบหน้าที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใด ๆ.

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น เงาร่างหนึ่งที่โผล่มาจากที่ซ่อนตัว!

แม้นว่าจะเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ทว่าก็ไม่สามารถที่จะหลบพ้นเหลียวซางฟาง ที่ต่อยออกไป เสียงดังกึกก้อง.

“ตูมมม!”

หมัดที่มีพลัง 200,000 จิน ราวกับคมกระบี่ ทะลวงอกของเงาร่างดังกล่าว โลหิตที่สาดกระจายไปในทันที.

“ศิษย์น้อง.....”ดวงตาของเซียวจุ้ยจื่อที่แดงซ่านคำรามลั่น.

ร่างเงาที่โผล่ออกมาจากที่ซ่อน ก็คือสมาชิกหอฝนพรำที่รับหน้าที่ปกป้องเซียวจุ้ยจื่อในที่ลับนั่นเอง.

“ศิษย์พี่...หนี....หนีไป....”ศิษย์คนดังกล่าวที่เป็นเคยเป็นมือสังหาร กล่าวจบ ก็ตกตายไปในทันที.

“อ๊าก!”

เซียวจุ้ยจื่อที่ตะโกนออกมาเสียงดัง ใช้พลังเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าหาเหลียวซางฟาง.

นี่คือการโจมตีครั้งสุดท้ายที่เขาทำได้!

น่าเศร้า ต่อหน้าระดับบรรพชนยุทธ์ หนำซ้ำตัวเองยังบาดเจ็บหนัก หมัดที่ต่อยออกมานั้นจึงไม่ได้ทรงพลังใด ๆ ซ้ำยังถูกฝ่ายตรงข้ามตบด้วยฝ่ามือเดียวกระเด็น.

“ตูมมมม!”

ร่างของเซียวจุ้ยจื่อกระเด็นกระแทกกำแพงหิน ล่วงหล่นลงมา ไม่มีแม้แต่แรงลุกขึ้นได้อีกครั้ง.

การถูกต่อยครั้งแล้วครั้งเหล่า ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสนั่นเอง.

เหลียวซางฟางที่เหวี่ยงศพดังกล่าวลอยออกไป โลหิตที่ฟุ้งไปทั่วท้องฟ้า พร้อมกับกวาดตามองไปรอบ ๆเอ่ยออกมาเบา ๆ ”ดูเหมือนว่าจะมีคนซ่อนอยู่ที่นี่ ตั้งแต่แรกแล้ว.

คำพูดดังกล่าว ทำให้คนอื่น ๆ กวาดตามองรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวัง.

ยังมีสมาชิกหอฝนพรำอีกหลายคนที่ซ่อนอยู่ในที่ลับ เห็นเพื่อนร่วมทีมถูกสังหาร ได้แต่กำหมัดแน่น แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

สำหรับหลักการมือสังหาร เมื่อพบว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งกว่ามาก พวกเขาจะต้องถอนกำลังในทันที.

อย่างไรก็ตาม.

พวกเขาไม่ได้ถอยหนี ไม่สามารถหนีได้!

เพราะว่าสถานะของเขาในเวลานี้ไม่ใช่มือสังหาร แต่เป็นสมาชิกหอฝนพรำของสำนักไท่กู่เจิ้งต่างหาก!

“ฟิ้ว!”

สมาชิกอีกคนที่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป.

เขาไม่ได้โจมตี เพียงแต่เผยตัวออกมา หนีไปยังทิศทางหนึ่ง.

ด้วยตั้งใจจะล่อคนกลุ่มหนึ่งไล่ตามเขามา ให้กองกำลังล้อมกรอบลดลงบ้าง เผื่อว่าศิษย์พี่เซียวจะมีโอกาสหนีได้.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์หลายคนที่จับจ้อง ก่อนจะส่งคนกว่าสิบคนไล่ตามไปในทันที.

หากพวกเขาซ่อนตัว ก็ยากที่จะหาพบ ทว่าในเมื่อเผยตัวออกมาเอง พวกเขาก็ต้องไล่จับให้ได้เช่นกัน.

“พรึด โครม!”

สมาชิกคนดังกล่าวที่ถูกจับได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะนำมาไว้ที่ด้านหน้าเหลียวซางฟาง และถูกเท้าของเหลียวซางฟางเหยียบไปที่หลัง ขณะจ้องมองไปยังเซียวจุ้ยจื่อ เขาเอ่ยออกมาว่า “นี่คงจะเป็นศิษย์น้องของเจ้าอีกคนสินะ?”

เซียวจุ้ยจื่อที่เวลานี้ใบหน้าบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความอาฆาต จ้องมองศิษย์น้องของตัวเองถูกเหยียบเอาไว้.

“เดาถูกสินะ.”

เหลียวซางฟางที่เห็นใบหน้าท่าทางของอีกฝ่ายก็ได้คำตอบแล้ว ยกมือขึ้นเบา ๆ เอ่ยออกมาว่า “สังหารคนของข้าไปมากมาย อย่าฝันที่จะรอดชีวิตกลับไป.”

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ในเวลานั้น ร่างอีกฝ่ายร่างที่โผล่ออกมาจากที่ซ่อน พวกเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป พวกเขาที่เผยตัวออกมา พร้อมกับปล่อยอาวุธลับออกมา.

เหลียวซางฟางที่ยกมือขึ้น ปัดอาวุธลับลอยออกไปได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะชี้นิ้วออกไป.

“จับพวกมันมาให้หมด.”

“รับทราบ!”

ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆที่พุ่งออกไปในทันที.

“โครม!”

เพียงไม่นาน สมาชิกที่ถูกจับก่อนที่จะถูกเตะไปหยุดอยู่ที่ด้านหน้าเซียวจุ้ยจื่อ เหลียวซางฟางที่ก้าวไปไปเหยียบบนร่างของพวกเขา.

เขาที่แสดงท่าทางสูงส่ง จดจ้องมองคนเหล่านี้ราวกับมดปลวก “ไม่เพียงไม่ยอมหนีไป ยังอยากตายไปพร้อมกันอีก ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ต้องเหงา บนเส้นทางยมโลกแล้ว.”

กล่าวจบ เขาที่ยกมือขึ้น.

“ฟู่ ฟู่!”

พลังวิญญาณมากมายที่ไหล่บ่ามารวมตัวกัน พลังความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นช้า ๆ.

พลังที่รวบรวมมา 100,000 จิน ด้วยสภาพของอีกฝ่ายในเวลานี้ เพียงแค่โจมตีอีกฝ่ายคงแหลกเป็นเนื้อทุบแล้ว.

“ลากันซะ.”

เหลียวซางฟางที่กำลังจะสังหารสมาชิกหอฝนพรำ.

“ไม่....”เซียวจุ้ยจื่อที่คำรามดัง.

เขาที่ต้องการออกไปปกป้องศิษย์น้อง ทว่าเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก ไม่แม้แต่ขยับร่างกายได้สักนิด.

“โฮกกกกกกกกกกกก!”

ในเวลานั้น เสียงของสัตว์ร้ายที่โกรธเกรี้ยว คำรามดังกึกก้องขึ้นมาในทันทีจนทำให้หูดับไปตาม ๆ กัน ผู้ฝึกยุทธ์หลากหลายคนที่ร้องโอดโอย เจ็บปวดแก้วหูเป็นอย่างมาก.

“หืม?”

เหลียวซางฟางที่ขมวดคิ้ว ชะงักไปชั่วครู่.

แม้นว่าจะไม่ได้มองกลับไปด้านหลัง ทว่าเขากับสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงคละคลุ้งไปทั่วอากาศ.

จุนซ่างเซียวที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนใหนยืนอยู่บนผนังภูเขา มือข้างหนึ่งถือดาบยาวมังกรเขียว ใบหน้าที่มืดครึ้ม จิตสังหารที่ราวกับจะทะลวงไปถึงสวรรค์ “เอาเท้านั่นออกไปซะ แล้วเปิ่นจั้วจะให้ตายอย่างสบาย.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด