ตอนที่แล้วChapter 243 วิธีรับทรัพยากร.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 245 คนรับใช้.

Chapter 244 เจ้าสำนักจุนซ่างให้ความสำคัญกับผู้คน


ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

หลี่ชิงหยางที่ออกเดินทาง.

ภารกิจของเขาคือ เอาชนะเลิศที่งานประลองยุทธ์สำนักมนทลฮวยหยิง.

หลี่ชิงหยางที่เป็นคนหนักแน่นมั่นคง และเป็นคนสุขุมเป็นอย่างมาก.

จุนซ่างเซียวให้เขาไปเสี่ยงในการประลองยุทธ์ที่รุนแรงถึงตาย เพราะเขาสามารถเก็บอารมณ์ได้ดี.

หลังจากเข้าร่วมสำนัก หลี่ชิงหยางที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการจัดการกับศัตรู เขาที่มั่นคงเด็ดขาด

อย่างไรก็ตามเขาก็รู้จักยืดหยุ่นด้วยเช่นกัน.

ยกตัวอย่าง คนของหอเหยี่ยวดำเป็นสำนักมารที่ชั่วร้าย สังหารผู้คนมากมาย พวกเขาไม่ปล่อยให้ใครมีชีวิตกลับไปเลยแม้แต่คนเดียว.

คนที่มีเมตตาก็ต้องเมตตา คนที่ชั่วร้ายก็ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด.

มีคุณธรรมรู้จัดแยกแยะผิดถูก.

จุนซ่างเซียวไม่หวังให้ศิษย์ของตัวเองเป็นคนเลือดเย็น ไม่หวังที่จะให้ศิษย์ของตัวเองชั่วร้ายสังหารคนไม่เลือกหน้า.

ไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อพระ เพียงแต่มีเมตตาบ้างก็เท่านั้นเอง.

หลังจากหลี่ชิงหยางเดินทางจากไป.

ห้ามือสังหารเหรียญทองก็ตามไปลับ ๆ เพื่อปกป้องคุ้มครองเขา.

เช้าวันถัดมา เซียวจุ้ยจื่อ ซูเซียวโม่และศิษย์คนอื่น ๆถูกส่งไปยังมนทลอื่น ๆ เพื่อเข้าร่วมประลอง ซึ่งทุกคนมีสมาชิกของหอฝนพรำติดตามไปคุ้มครองเช่นกัน.

จุนซ่างเซียวที่แนะนำสั่งสอนศิษย์ จากนั้นก็มอบรางวัลให้กับเย่ซิงเฉิน เป็นเม็ดยารวมวิญญาณที่มีประสิทธิภาพสิบห้าเท่า 10 เม็ด และสิบศิลาวิญญาณ.

ได้รางวัล 100 ศิลวิญญาณแต่ให้ศิษย์ 10 ก้อน ดูหน้าเลือดเล็กน้อย.

อย่างไรก็ตาม เม็ดยารวมวิญญาณประสิทธิภาพ 15 เท่า ก็ทำให้เย่ซิงเฉินพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

“งานประลองใกล้เข้ามาแล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา “หากชนะเลิศ ก็จะได้รับศิลาวิญญาณเป็นรางวัล.”

ดูเหมือนว่าจะสามารถยกระดับพลังบ่มเพาะได้อีกไม่น้อย.

......

หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ต่างก็เดินทางไปยังสถานที่แตกต่างกัน จุนซ่างเซียวที่คอยชี้แนะศิษย์ในสำนัก หรือไม่ก็เข้าหอคอยเก็บประสบการณ์ซ้ำไปซ้ำมา.

ด้วยเม็ดยารวมวิญญาณประสิทธิภาพ 15 เท่าและศิลาวิญญาณ ที่เขามีในเวลานี้.

ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

ด้วยประสบการทั้งหมดและวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็น จุนซ่างเซียวก็ตัดผ่านระดับไปยังอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หก.

ให้กล่าวล่ะก็ เขาและลี่ลั่วฉิวที่มีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หกเท่ากัน สำนักแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้นแล้ว.

“ตูมมมม!”

หมัดของเขาที่ต่อยไปยังเครื่องวัด ปรากฏตัวเลข 97,000 จิน.

เมื่อครั้งเขามีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่ห้ามีพลัง 90,000 จิน ตอนนี้ตัดผ่านมาอีกหนึ่งขั้น พลังเพิ่มขึ้น 7,000 จิน.

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวที่ทอดถอนใจ “เมื่อไหร่ถึงจะไม่ต้องใช้ยันต์แห่งพลังแล้วใช้ดาบยาวมังกรเขียวได้กัน?”

ระบบเอ่ย “ด้วยระดับพลังที่เพิ่มขึ้นของโฮสน์ น่าจะตัดผ่านไปยังบรรพชนยุทธ์เท่านั้น.”

“ระดับอาจารย์ยุทธ์ไม่ได้อย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวกล่าว.

ระบบเอ่ย “ดาบยาวมังกรเขียว ความแข็งแกร่งขั้นต่ำที่ต้องการคือ 150,000 จิน หากโฮสน์ตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลาย ความแข็งแกร่งคงอยู่ที่ 130,000 จิน แน่นอนว่ายังไม่พอ.”

“130,000 จิน?”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา.

ระบบที่หมดคำจะพูด “สุดยอดพรสวรรค์ของทวีปซิงหยุน ระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายมีความแข็งแกร่งที่สุดอยู่ที่ 100,000 จิน โฮสน์สูงกว่าคนอื่น 20,000-30,000 ยังไม่พอใจอีกรึ?”

“มารดาเถอะ!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ากำลังกล่าวทำลายขวัญกำลังใจข้าอยู่!”

ระบบ“......”

......

สามวันหลังจากนั้น.

หลี่ชิงหยางกลับมา.

กลับมาโดยไร้รอยขีดข่วน.

“ศิษย์พี่รอง!”

ศิษย์คนอื่น ๆ ที่ฝึกฝนอยู่ใกล้ ๆ วิ่งเข้ามารุมล้อม “เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ใช่ได้.”

หลี่ชิงหยางเผยยิ้มออกมา “ชนะเลิศ.”

“ศิษย์พี่รองทรงพลังมาก!”

ศิษย์คนอื่น ๆ ที่ตะโกนเสียงดัง.

ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งที่รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก.

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง พร้อมกับส่งศิลาวิญญาณ 50 ก้อนและอาวุธระดับกลางชั้นกลาง เอ่ยออกมาว่า “นี่คือรางวัลของผู้ได้รับชัยชนะเลิศ.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวที่รับศิลาวิญญาณ 40 ก้อน และกล่าวออกมาว่า “ยากหรือไม่?”

“ไม่ยากเลย.”

หลี่ชิงหยางที่เผยท่าทางค่อนข้างผิดหวัง “ผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าร่วมนั้นกำหนดอายุไม่เกิน 20 ปี คนที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นเจ็ดเท่านั้น.”

“อ่อนแอจริง ๆ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “แล้วสังหารใครไปหรือไม่?”

“งานประลองยุทธ์ที่ไม่สนความเป็นความตาย และยังมีผู้ฝึกยุทธ์ฝ่ายอธรรมไม่น้อย หนำซ้ำยังมีวิชาที่ดุร้ายอมหิต ท้ายที่สุดข้าก็สังหารไปหนึ่งคน.”หลี่ชิงหยางเอ่ย.

จุนซ่างเซียวพยักหน้าพึงพอใจ “ไม่เลว ไม่เลว.”

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย “ศิษย์กังวลอยู่เหมือนกัน เวลานี้ได้ล่วงเกินสำนักมารไปหลายแห่ง เกรงว่าจะมาสร้างปัญหาให้กับสำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเรา.”

จุนซ่างเซียวสีจมูกไปมา “หากพวกเขากล้ามา รับรองได้ว่าไม่ได้กลับไปแน่.”

“เจ้าสำนัก!”

ในเวลานั้น จางเหว่ยที่วิ่งเข้ามาด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ “มีคนบอกว่าเป็นอาวุโสของสำนักกุยโซว มาตะโกนโหวกเหวกอยู่ด้านนอก!”

หลี่ชิงหยางที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง “เจ้าสำนัก สำนักกุยโซวคือสำนักมารระดับเจ็ดของมนทลฮุยหยิง ผู้เข้าแข่งขันเป็นคนของพวกเขา ศิษย์ได้สังหารเขาไป.”

“ฮึ ฮึ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “มาสร้างปัญหาเร็วขนาดนี้เลยรึ?.”

กล่าวจบ ก็ลุกขึ้นเดินออกไป.

......

ด้านนอกสำนัก.

อาวุโสสำนักกุยโซวที่ยืนขัดหลังยืดอกอย่างอหังการ แววตาที่ดำมืด เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคนจากสำนักมาร.

ท่าทางเวลานี้ดูเหมือนจะโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก.

ศิษย์ของเขาที่ส่งเข้าร่วมการประลองยุทธ์สำนักและถูกหลี่ชิงหยางสังหารไป.

ความโกรธเกรี้ยวนี้ ทนไม่ได้แม้แต่วันเดียวเขาต้องการจัดการกับอีกฝ่ายนอกเมือง.

การสังหารศิษย์สำนักมารไป แน่นอนว่าหลี่ชิงหยางรู้ดีว่าจะมีปัญหา ดังนั้นจึงปลอมตัว จึงกลับออกมาได้.

ไม่เช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมาได้อย่างปลอดภัย.

“กึก ซี่.”

ประตูสำนักสีแดงที่เปิดออกมา.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาจากด้านใน กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเป็นใคร?”

“ชิ.”

ชายคนดังกล่าวที่จ้องมองด้วยแววตาดำมืดเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สำนักกุยโซวมนทลฮุยหยิง อาวุโสสี่ ซ่งสวี.”

มาหาเรื่องถึงที่เลยงั้นรึ?

“ไอ้หนู.”

ซ่งสวีที่กล่าวด้วยน้ำเสียงโอหัง “ดูจากชุดที่ใส่แล้ว เจ้านะรึ?เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง?”

“ไม่ผิด.”

เจ้าสำนักจุนที่เผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า “อาวุโสซ่ง เดินทางมาแต่ใกล้ต้องการมาเยี่ยมเยือนสำนักไท่กู่เจิ้งของข้างั้นรึ?”

“มาเยี่ยมรึ?!”

ซ่งสวี่ที่แค่นเสียงเย็นชา “ส่ง หลี่ชิงหยางออกมา เหล่าฟู่ต้องการชีวิตมัน.”

คู่ควรเป็นคนสำนักมาร กล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมา.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “อาวุโสซ่ง เป็นตัวตนระดับสูงของสำนัก เดินทางมายังสำนักไท่กู่เจิ้งของข้า ต้องการชีวิตศิษย์ของข้า ดูเหมือนว่าจะไม่เหมาะสมเล็กน้อย.”

ซ่งสวีแค่นเสียงเย็นชา “กล้าสังหารศิษย์สำนักกุยโซว ไม่ว่ามันจะเป็นใคร เหล่าฟู่จะต้องสังหารมันด้วยมือตัวเอง.”

“เช่นนั้น.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วและอาวุโสซ่งมาประลองกันหน่อยเป็นไง.”

ด้วยการตัดผ่านระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หก ตอนนี้รู้สึกคันไม้คันมือเป็นอย่างมาก.

“อิ อิ อิ อิ.”

ซ่งสวีที่หัวเราะอย่างน่าเกียจ “เจ้าสำนักจุนและเหล่าฟู่ต่อสู้กัน มีเพียงเอาชีวิตกันและกัน ไม่ควรเรียกว่าการประลอง.”

“ดี.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วและอาวุโสซ่งมาเอาชีวิตกันและกัน.”

“สังหารศิษย์ของข้า ชดใช้ด้วยชีวิตเจ้าสำนักก็ไม่เลว.”ซ่งสวีที่หัวเราะเยาะ “จะสู้ที่นี่หรือที่ลานยุทธ์ของเจ้า?”

“ที่นี่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วเกรงว่าเลือดจะเปื้อนลานหิน.”

“อิอิอิอิ.”

ซ่งสวีที่หัวเราะน่าเกียจ “เจ้าสำนักจุน เป็นคนที่ตรงไปตรงมา ระเอียดรอบคอบจริง ๆ.”

“ฟิ้ว!”

พริบตานั้น จุนซ่างเซียวที่ใช้ก้าวปิศาจก้าวออกมาอยู่ด้านหน้าของอีกฝ่าย “อาวุโสซ่งคงกำลังเข้าใจผิดไปแล้ว เปิ่นจั้วเกรงว่าเลือดของเจ้าจะเปื้อนแผ่นศิลา ลานยุทธ์ของข้า!”

ความเร็วนี้ เร็วเกินไปแล้ว แม้แต่เขายังมองตามไม่ทัน!

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่กำหมัดต่อยออกมา.

หมัดระเบิดที่มีพลังมากกว่า 100,000 จิน!

ไม่ได้การแล้ว......

ตูมมมมม!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด