ตอนที่แล้วChapter 23 เปิดชีพจรต่อไปจากขั้นห้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 25 โลหิตชโลมพื้นลึกสามฉื่อ.

Chapter 24 สำนักไทกู่เจิ้งหลังการซ่อมแซม


97 แต้มสนับสนุนที่ถูกใช้ทั้งหมดในคืนเดียว.

เพื่อความอยู่รอดในโลกนี้ ต้องการแข็งแกร่ง ก็ต้องจ่าย.

“จากนี้ ไว้ภารกิจสำนักปรากฏขึ้น เก็บเต็มแล้วค่อยยกระดับสิ่งก่อสร้างสำนักก็แล้วกัน.”

จุนซ่างเซียวกล่าวกับตัวเองเบา ๆ.

เวลานี้ภารกิจสนับสนุนยังไม่มี และภารกิจลับเองก็ไม่สามารถรู้ได้อีกด้วยว่าจะมาตอนไหน.

อย่างไรก็ตามความต้องการของเขาก็คือยกระดับสิ่งก่อสร้าง เพื่อที่จะสามารถรับศิษย์เพิ่มได้ และเขาก็จะได้รับคะแนนสนับสนุนอีกครั้ง.

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางก้าวเข้ามาและเอ่ยออกมาว่า “ไม่มีเงินแล้ว.”

“ไม่มีเงินแล้วอย่างงั้นรึ?”

ที่มุมปากของจุนซ่างเซียวที่กระตุก.

ต้องใช้เงินทุก ๆ วัน ตอนนี้แทบหมดตัวแล้ว.

หลี่ชิงหยางกล่าว “เจ้าสำนัก สำนักแห่งนี้เก่าเกินไป แทบจะต้องสร้างใหม่ทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวส่งตัวเงินออกไปให้หลี่ชิงหยาง กล่าวออกมาว่า “สามวันหลังจากนี้ เหล่าศิษย์น้องของเจ้าจะมา เสร็จทันหรือไม่?”

หลี่ชิงหยางเอ่ย “ไม่น่ามีปัญหา.”

“เช่นนั้น.”

จุนซ่างเซียวที่โบกมือ และกล่าวออกไปว่า “ไปจัดการให้เสร็จ.”

หลี่ชิงหยางที่กล่าวลา ส่วนจุนซ่างเซียวยังคงนั่งสมาธิในสวน พร้อมกับเริ่มใช้วิชาจิงซินโคจรบ่มเพาะพลัง.

ไร้ซึ่งคะแนนสนับสนุน เวลานี้เขาทำได้แค่บ่มเพาะพลังด้วยวิธีปรกติ.

อย่างไรก็ตาม ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว พลังวิญญาณที่ดูดซับเข้ามาในจุดตานเถียนนั้นมีความเร็วที่ช้ามาก ๆ จุนซ่างเซียนเข้าใจได้ในทันที ยิ่งมีพลังบ่มเพาะสูง การจะตัดผ่านไปยังขั้นต่อไปก็ยิ่งยากขึ้นมากเท่านั้น!

“เฮ้อ.”

เขาถอนหายใจ “หากมีแต้มสนับสนุน น่าจะทำอะไรได้บ้าง.”

......

วันถัดมา.

จุนซ่างเซียวไม่ได้ฝึกฝนต่อ เขาออกมาจากลาน สวนด้านใน มายังลานสวนด้านนอก.

หลายวันมานี้ เพราะเขาไม่ค่อยมีกระจิตกระใจบ่มเพาะเท่าไหร่ สำนักเองก็กำลังสร้างขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแค่ต้องใช้เงินมากมายในทุก ๆ วัน ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใกล้จะเสร็จสมบูรณ์รึยัง?

สำนักไท่กู่เจิ้งนั้นมีพื้นที่ราว ๆ ร้อยมู่ แบ่งออกเป็นสวนด้านในและสวนด้านนอก ภายในสวนด้านในนั้นเป็นสถานที่เจ้าสำนักและศิษย์ต้องใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนสวนลานด้านนอกนั้นใช้ฝึกฝน ยกระดับพลังบ่มเพาะ.

ขณะจุนซ่างเซียวก้าวผ่านทางเดินที่ปูด้วยแผ่นหินเป็นทางสลับซับซ้อน ออกมาด้านนอก ใบหน้าของเขาที่เปลี่ยนเป็นแข็งค้างไปในทันที.

กับสิ่งที่เห็นในเวลานี้ ควรจะเป็นห้องโถงในการฝึกฝน มันเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ พื้นด้านล่างถูกปูด้วยกระเบี้ยงสีขาวเป็นหินอ่อนคล้ายกับหยกสลักส่องประกายแสงวับวาว!

ด้านหน้ายังมีรูปปั้นแกะสลักของสัตว์ร้ายดูคล้ายกับวิหคยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าด้วย เป็นรูปสลักที่เหมือนจริงเป็นอย่างมาก.

โถงฝึกที่ดูใหญ่โต โอ่อ่ากว้างขวางจนจำไม่ได้.

ที่ตรงกลางเป็นลานเปิดมีการปูพื้นด้วยกระเบื้องชั้นดี เป็นลานฝึกที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุคุณภาพสูงทั้งหมด.

นี่มันอะไรกัน ลานด้านนอกหรูหรา ราวกับปราสาทราชวัง.

อีกทั้งสิ่งก่อสร้าง ยังถูกออกแบบให้ดูเป็นงานศิลปะชั้นสูงอีกด้วย!

“นี่มันสำนักเปิ่นจั้วอย่างงั้นรึ?

จุนซ่างเซียวยืนนิ่งอยู่กับที่ ราวกับอยู่ในความฝัน.

แม้แต่แอบคิดอยู่ในใจ ว่าเขาหลงเข้ามาในปราสาทราชวงศ์อยู่หรือไม่?

ไม่ใช่ฝัน!

เพราะว่าหลี่ชิงหยางก้าวเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนัก พอใจกับลานสวนด้านนอกหรือไม่?”

อ๊า! นี่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่งั้นรึ?

“พอใจ!”

จุนซ่างเซียวกล่าว “พอใจมาก!”

กล่าวเสร็จ เขาก็ก้าวเข้าไปในห้องโถง.

ขณะเหยียบย่างเข้าไปก็พบว่า พื้นนั้นถูกปูด้วยหินอ่อน และยังมีโต๊ะเก้าอี้ที่ทำมาจากไม้เกาะสลัก กล่าวได้ว่าหรูหราอย่างที่สุด!

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางที่ชี้ไปยังที่นั่งแกะสลักมีรูปแบบไม่ธรรมดา “บัลลังก์ของท่านแกะสลักมาจากไม้พันปี.”

“จริงรึ?”

จุนซ่างเซียวก้าวขึ้นไปนั่ง ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความสบาย ดีเยี่ยม ดีกว่าเก้าอี้หัก ๆ ที่มีเสียง เอียดอ๊าดทุกครั้งที่เขานั่งก่อนหน้าเป็นอย่างมาก.

แขนทั้งสองข้างวางบนพนักพิง กล่าวออกมาด้วยความพอใจ.“ไม่เลว ไม่เลว!”

นี่สิถึงจะเหมาะกับคำว่า เจ้าสำนัก.

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางที่ส่งสมุดบัญชีให้กับจุนซ่างเซียวพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “นี่คือรายระเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายทั้งหมด โปรดตรวจสอบ.”

คู่ควรแล้วที่มาจากตระกูลใหญ่ การใช้จ่ายมีรายระเอียดที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด.

“ชิงหยาง.”

จุนซ่างเซียวที่ตรวจสอบสมุดบัญชีพร้อมกับกล่าวชม “เจ้าทำงานได้ดีมา ทำให้เปิ่นจั้วพอใจ....”

เสียงของเขาที่หยุดลงทันที.

เพราะว่าเมื่อมองยอดรวมด้านล่างสุด ปรากฏเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาล!

จุนซ่างเซียวแทบกระเด้งขึ้นยืน กล่าวออกมาว่า “จ่ายไปมากเพียงนี้เลย!”

ขณะนั้น เขาที่จ้องมองภายในแหวนมิติตัวเอง พบว่ามีตั๋วเงินเหลือเพียง 300 เหรียญเท่านั้น!

เจ้าสำนักจุนมัวยุ่งอยู่กับการบ่มเพาะ หลายวันมานี้ หลี่ชิงหยางที่เป็นคนใช้เงิน ไม่ได้สนใจจำนวนเงินว่าใช้ไปเท่าไหร่ และไม่ได้สนใจด้วยว่าเหลือเท่าไหร่.

แต้มสนับสนุนก็ใช้ไปหมดแล้ว เงินเองก็เหลือไม่มากแล้ว.

ภายในใจของจุนซ่างเซียวที่ได้แต่โอดครวญ “หวังว่าจะผ่านช่างนี้ไปได้ด้วยดี อ๊ากๆ!”

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง “ศิษย์ต้องการที่จะซ่อมแซมสวนด้านในด้วย จำเป็นต้องใช้เงินอีก 4,000 เหรียญ.”

“พุ พรึด!”

จุนซ่างเซียวที่ร่างกายอ่อนแรง ทรุดลงนั่งหมดแรงบนเก้าอี้บัลลังก์.

......

เงินคือทุกอย่าง.

มีเงิน ถึงจะมีทุกอย่างได้!

หลี่ชิงหยางที่กำลังเปลี่ยนสำนักไท่กู่เจิ้งให้กลายเป็นสำนักที่ดีขึ้น กลายเป็นสำนักที่ดูเป็นสำนัก มากกว่าเก่าก่อน.

ทว่าพอคิดว่าจะต้องใช้เงินอีก 4000 เหรียญ จุนซ่างเซียวก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมาทันที.

ที่จริงเขาไม่ได้เสียดายเรื่องเงินมากนัก ทว่าศิษย์ใหม่ที่กำลังลงทะเบียนพรุ่งนี้ หลายคนจะต้องกินต้องใช้ และยังมีชุดเครื่องแบบสำนักอีก? เวลานี้เหลือเงินไม่กี่ร้อยเหรียญต้องทำอย่างไร!

“เฮ้อ.”

ในวันนี้เขามานั่งอยู่ที่ขั้นบันใดที่ถูกปูด้วยหินหยกส่องประกายวับวาว จุนซ่างเซียว เวลานี้ไม่เพียงแค่กังวลเรื่องคะแนนสนับสนุน ทว่าเขายังเป็นกังวลเกี่ยวกับเงินค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในแต่ละวันด้วย.

“เชียนเชียน.”

เขาที่หันหน้าออกไปเอ่ยถาม “มีวิธีใดในการหาเงินได้เร็ว ๆ?”

“ใช้กำลัง.”ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล “ได้เงินมา เร็วที่สุด.”

มุมปากของจุนซ่างเซียวถึงกับกระตุก “สำนักไท่กู่เจิ้งของข้าไม่ต้องมีชื่อเสียงเป็นสำนักมารไปหรอกรึ? แล้วทำไมต้องกระทำอะไรที่คนทั่วยุทธภพดูแคลนด้วย!”

ลู่เชียนเชียนเอ่ยต่อ “ขายกระบี่.”

“เรื่องนี้......”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา และกล่าวออกมาว่า “ไว้เป็นแผนสุดท้าย.”

“เจ้าสำนัก!”

ในเวลาเดียวกันนั้น หลี่ชิงหยางก้าวมาจากด้านนอก พร้อมกับพูดออกมาว่า “ศิษย์น้องมากันแล้ว!”

“งั้นไปต้อนรับพวกเขากัน.”

จุนซ่างเซียวลุกขึ้น ปัดฝุ่นจากก้น ก่อนที่จะจัดแต่งเสื้อผ้า เผยความน่าเกรงขามของเจ้าสำนักออกมา.

จากนั้นไม่นาน.

ศิษย์ราว ๆ 20 คนก็มาถึงสำนัก.

พวกเขายืนอยู่บนลานฝึกยุทธ์ สายตาที่กวาดตามองสิ่งก่อสร้างรอบ ๆ ด้วยแววตาประหลาดใจ.

คาดไม่ถึง สำนักจะมีบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่สุดยอดถึงเพียงนี้.

พวกเขาคงไม่รู้ว่าสถานที่ดังกล่าวเพิ่งสร้างขึ้นใหม่ด้วยค่าใช้จ่ายหลายพันเหรียญ ไม่เพียงแค่ทำให้พื้นที่ดูหรูหรา ยังทำให้สภาพแววล้อมรอบ ๆ ยอดเยี่ยมขึ้นมาด้วย.

“ทำไมมีคนเพียงเท่านี้ล่ะ?”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา “แล้วศิษย์คนอื่น ๆล่ะ?”

“รายงานเจ้าสำนัก.”

ศิษย์คนหนึ่งเอ่ยกล่าวออกมาด้วยความเคารพ “ศิษย์พี่ศิษย์น้องหลายคน ที่พักอยู่ในหมู่บ้านที่ไกลออกไปบนภูเขา คงต้องใช้เวลาสักหน่อยในการเดินทาง.”

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

จุนซ่างเซียวเข้าใจและเอ่ยกล่าวออกมาว่า “ชิงหยาง พาพวกเขาไปยังที่พักก่อน.”

“ครับ.”

หลี่ชิงหยางที่รับคำสั่ง นำศิษย์น้องเข้าไปด้านใน ทว่าขณะเดียวกันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนเบา ๆ อ่อนแรงมาจากด้านนอกสำนักด้วยเช่นกัน “เจ้า...เจ้าสำนัก......”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้ว ขณะเร่งรีบก้าวออกไปดู.

หลี่ชิงหยางและลู่เชียนเชียนที่ก้าวตามไปในทันที.

คนทั้งสามที่ไปถึงด้านหน้าประตู ซึ่งได้พบกับผู้เยาว์ที่มีโลหิตอาบไปทั่วร่างนอนอ่อนแรงที่หน้าประตู.

“ศิษย์น้องซุน!”

หลี่ชิงหยางเร่งรีบเข้าไปตรวจร่างกาย พร้อมกับยื่นมือตรวจสอบชีพจร สำรวจอาการบาดเจ็บของเขาในทันที.

ศิษย์คนดังกล่าวกัดฟัน อดทนต่อความเจ็บปวด เอ่ยกล่าวออกมาว่า “เจ้า...เจ้าสำนัก ศิษย์กลุ่มหนึ่ง 30 กว่าคน ถูกโจรโจมตีระหว่างทาง ศิษย์น้องถูกจับตัวไปแล้ว......”

ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ ตาของเขาก็หลับลง โลหิตที่ยังคงไหลซึมกระจายไปบนพื้น.

หลี่ชิงหยางเอ่ย “เจ้าสำนัก ศิษย์น้องหมดสติไปแล้ว แต่อาการไม่ได้มากเท่าไหร่นัก.”

จุนซ่างเซียวที่มองดูจดหมายที่อีกฝ่ายนำมา ขณะเปิดจดหมายอ่าน ด้านในนั้นเขียนด้วยอักษรจำนวนหนึ่ง มีเนื้อหาว่า ; ภายในสามวันจะต้องนำเงินค่าไถไปยังภูเขาทมิฬเพื่อไถ่ตัวคน ไม่เช่นนั้นตัวประกันจะถูกสังหารทั้งหมด.

“มารดาเถอะ!”

จุนซ่างเซียวคำรามออกมาด้วยความโกรธ กำจดหมายแน่น กล่าวออกมาว่า “กล้าทำร้ายศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด