ตอนที่แล้วChapter 235 การโต้กลับของคนไม่สำคัญ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 237 เครื่องขายสินค้าศิษย์.

Chapter 236 คำแนะนำจากเหล่าเหว่ยในการพัฒนาสภาพแวดล้อม.


สองวันหลังจากนั้น จุนซ่างเซียวก็นำศิษย์กลับมาถึงสำนัก.

มนทลฮวยหยิงที่ร้อนระอุขึ้นทันที เพราะว่าหอเหยี่ยวดำถูกไฟไหม้ได้ถูกกระจายข่าวไปทั่ว.

เป็นไปได้ว่า...จะถูกทำลายสิ้นทั้งสำนักแล้ว?

ข่าวดังกล่าวที่แพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครในมนทลฮวยหยิงไม่รู้.

แทบจะในทันที ผู้คนต่างก็คาดเดาไปต่าง ๆ นานา ใครกันที่ลงมือจัดการพวกเขา.

มนทลฮวยหยิงนั้นมีสำนักมารมากมาย ทว่าหอเหยี่ยวดำมีชื่อเสียงน้อยที่สุด เพราะไม่สนใจหลักเกณฑ์ของยุทธภพอย่างสิ้นเชิง ทุก ๆ วันที่ทำแต่ธุรกิจมืดตลอดเวลา.

ตอนนี้สำนักถูกไฟไหม้ เจ้าหอและศิษย์หายไป แน่นอนว่าพวกเขาทคิดว่าคงถูกลงทัณฑ์จากสวรรค์ ถูกกลุ่มอิทธิพลใหญ่ทำลายอย่างไม่ต้องสงสัย.

สำนักฝ่ายธรรมมะต่างก็ยินดีเป็นอย่างมาก.

สำนักมารที่ต้องระมัดระวัง หวั่นเกรงว่าจะมีใครเล็งเป้ามายังพวกเขาด้วยหรือไม่?

หอเหยี่ยวดำที่เป็นตัวอย่างได้ดีที่สุด จู่ ๆก็ถูกทำลายไป!

เป็นเรื่องปรกติที่ทุกคนพูดคุยและหาว่าใครกันที่เป็นวีรบุรุษ ทำลายหอเหยี่ยวดำที่ก่อตั้งมาร้อยปีนี้กัน?

น่าเสียดายที่ไม่มีใครมีข้อมูลเลย.

ทำให้ทุกคนได้แต่คิดว่าหอเหยี่ยวดำคงล่วงเกินกลุ่มอิทธิพใหญ่เข้า.

แม้นว่าทุกคนจะคิดเช่นนั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะว่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่นั้นมีอยู่มากมาย ราวกับหนึ่งเส้นขนบนวัวเก้าตัว.

มีใครคนหนึ่งเอ่ยว่า รองเจ้าหอเหยี่ยวดำได้ล่วงเกินสำนักไท่กู่เจิ้งที่หุบเขาแห่งความตาย ทว่าไม่มีใครสนใจคำพูดของเขาแม้แต่น้อย.

เหล่าชาวยุทธ์มนทลฮวยหยิงไม่มีใครคิดแน่นอน สำนักระดับแปดมนทลชิงหยางอาจจะโชคดีเอาชนะรองเจ้าหอได้ แต่การจะทำลายสิ้นหอเหยี่ยวดำเป็นไปไม่ได้แน่นอน.

ความเห็นของผู้คนที่แตกต่างกันออกไปไม่มีใครเหมือนกันเลย.

สุดท้ายเรื่องของหอเหยี่ยวดำที่ถูกทำลายไปจึงกลายเป็นปริศนาที่ไม่มีใครสามารถบอกความจริงได้.

......

ข่าวดังกล่าวนี้มาถึงมนทลชิงหยางเช่นกัน.

เพราะว่าเรื่องเกิดขึ้นนอกมนทล ดังนั้นจึงมีการพูดคุยทั่วไป ไม่ได้จริงจังอะไร.

ตอนนี้เรื่องที่พวกเขาสนใจนั้น เกี่ยวข้องกับเม็ดยาตระกูลอ้ายและเรื่องราวอีกหลายเดือนหลังจากนี้ ที่สำนักไท่กู่เจิ้งจะประลองกับนิกายเซิ่งชวนต่างหาก.

หลังจากลับสำนัก.

ภายในแหวนเก็บของจุนซ่างเซียวที่มีสมบัติมากมาย จะกลายเป็นทรัพยากรฝึกฝนเพื่อยกระดับศิษย์ของเขา.

หอเหยี่ยวดำถูกทำลายสิ้น ได้รับทรัพยากรมากมายมายกลับมา ทำให้เขาพึงพอใจมาก แม้แต่ต้องการผู้พิทักษ์ความยุติธรรมให้กับสวรรค์ ว่าแต่ควรจะหาเรื่องสำนักมารใดล่ะ?

ไม่ได้ ไม่ได้.

เขาควรจะสงบเสงี่ยม เพื่อพัฒนาสำนักอย่างเงียบ ๆ ไม่ให้เป็นจุดสนใจ.

ตั้งแต่มายังต่างโลก สำนักแรกที่เขาทำลายไปคือสำนักหลิงชวน เอาชนะการประลองสำนักเห่าฉี ตอนนี้ยังทำลายหอเหยี่ยวดำอีก.

สงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่ทำเรื่องให้เป็นที่สนใจตรงใหน!

“เจ้าสำนัก.”

หลังกลับมาได้หนึ่งวัน เหล่าเหว่ยก็เข้ามาพบ เอ่ยออกมาว่า “วัตถุดิบชุดที่สองตอนนี้เติบโต พร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว.”

“จริงรึ?”

จุนซ่างเซียว ที่ก้าวตรงไปยังสวนสมุนไพรด้วยความตื่นเต้น.

ภายใต้การดูแลของเหล่าเหว่ย สวนสมุนสิบมู่ที่เวลานี้เติบโต ทำให้พลังวิญญาณมากมายลอยฟุ้งไปทั่วอากาศ.

“ฟู่!”

จุนซ่างเซียวสูดหายใจลึก สัมผัสถึงพลังวิญญาณที่หนาแน่นอุดมสมบูรณ์.

“เหล่าเหว่ย.”

เขาที่เผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก “สวนสมุนไพรที่เจ้าดูแล ทำให้พลังวิญญาณอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ข้ารู้สึกสดชื่นจริง ๆ.”

เหล่าเหว่ยเอ่ย “เจ้าสำนัก เทือกเขาไท่กู่เจิ้งนั้นธรรมดามาก ๆ ตาเฒ่าขอแนะนำให้ปลูกสมุนไพรรอบ ๆ เพี่อให้พลังวิญญาณ่จำนวนมากรวมตัวกัน จะทำให้สามารถยกระดับสภาพแวดล้อมให้อุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่านี้ได้.”

“แนะนำได้ดี.”จุนซ่างเซียวดวงตาเป็นประกาย.

แม้นว่าเทือกเขาไท่กู่เจิ้งจะมีขนาดใหญ่ ทว่ากับธรรมดาสุด ๆ.

แม้แต่พลังวิญญาณก็น้อยนิด เทียบกับเทือกเขาสำนักอื่น ๆ ไม่ได้เลย.

ไม่อาจเทียบได้แม้แต่เทือกเขาเหยี่ยวดำ หรือแม้แต่สำนักหลิงชวนสำนักระดับเก้าที่ถูกทำลายไปก่อนหน้า สภาพแวดล้อมพลังวิญญาณยังหนาแน่นกว่าเทือกเขาไท่กู่เจิ้งด้วยซ้ำ.

บุคคลที่โดดเด่นย่อมมาจากสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม.

เทือกเขาที่งดงามและพลังวิญญาณเข้มข้น จะสามารถบ่มเพาะยอดฝีมือขึ้นมาได้.

หากว่าสามารถเพิ่มพลังวิญญาณในเทือกเขาไท่กู่เจิ้งให้มีพลังวิญญาณหนาแน่นเพิ่มพูนขึ้นมาได้ จะเป็นประโยชน์กับศิษย์ของตัวเองเป็นอย่างมาก.

โดยปรกติแล้ว การจะยกระดับสภาพแววล้อมให้มีพลังวิญญาณเข้มข้นขึ้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย ทว่าเหล่าเหว่ย กลับมีความสามารถในการใช้สวนสมุนไพรยกระดับมันขึ้นมาได้.

เมื่อพลังวิญญาณบนเทือกเขาไท่กู่เจิ้งหนาแน่น สมุนไพรก็จะเติบโตมากขึ้น หลังจากที่เติบโตเต็มที่จะปลดปล่อยพลังสวรรค์และปฐพีออกมา ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นด้วย.

“.”

เหล่าเหว่ยที่กล่าวเพิ่ม “นี่เป็นโครงการใหญ่เลย อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลา 2-3 ปีในการเตรียมการ.”

“ตกลง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจัวจะสนับสนุนเจ้าเต็มกำลัง.”

ไม่ว่าจะต้องจ่ายไปเท่าไหร่ก็ตาม ขอเพียงยกระดับสภาพแวดล้อมให้กับเทือกเขาไท่กู่เจิ้ง เขาก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่.

“เช่นนั้น.”

เหล่าเหว่ยเอ่ย “ขอให้เจ้าสำนักซื้อเมล็ดสมุนไพรต่างที่มีระดับสูงจำนวนมากมาด้วย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ไม่มีปัญหา.”

หลังจากพูดคุยกันเสร็จ เหล่าเหว่ยก็เริ่มเก็บเกี่ยวสมุนไพรที่เติบโตแล้ว.

เขาไม่ได้ให้ศิษย์หอสมุนไพรช่วย แต่ลงมือจัดการด้วยตัวเอง นั่นก็เพื่อทพให้สมุนไพรสมบูรณ์ด้วยพลังวิญญาณมากที่สุด.

หลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว น่าจะสามารถกลั่นเป็นเม็ดยารวมวิญญาณได้มากกว่า 2000 เม็ด ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าก่อนเก่ามาก.

“เหล่าเหว่ย.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวด้วยความรู้สึก “สำนักไท่กู่เจ้งได้รับท่านมาเป็นผู้เชี่ยวชาญวัตถุดิบสมุนไพร นับว่าเป็นโชควาสนาจริง ๆ.”

เหล่าเหว่ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เพื่อตอบแทนน้ำใจเจ้าสำนักที่ให้โอกาส ตาเฒ่าหวังว่าจะช่วยสำนักจวบจนสิ้นลมหายใจ.”

“คำพูดนี้ดูเป็นลางไม่ดีอยู่เล็กน้อย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เหล่าเหว่ยยังแข็งแกร่ง อยู่ได้อีกหลายพันปีอย่างแน่นอน!”

“อ่าฮ่าฮ่าฮ่า.”

เหล่าเหว่ยที่หัวเราะเสียงดัง “มีเพียงแค่กษัตริย์ยุทธ์ที่มีอายุไขพันปี จะนับตาเฒ่ากระดูกผุได้อย่างไร.”

“ตัดผ่านไปยังระดับกษัตริย์ยุทธ์มีอายุพันปีรึ? เช่นนั้นก็ไม่ยาก.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“.....”

เหล่าเหว่ยที่มุมปากกระตุก.

กษัตริย์ยุทธ์ในทวีปชิงหยุน แม้นว่าจะไม่ใช่ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด ทว่าด้วยนามกษัตริย์ ก็ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจ คาดไม่ถึงว่าเจ้าสำนักจะบอกว่าไม่ยาก.

หลังจากเก็บเกี่ยวสมุนไพรเสร็จ จุนซ่างเซียวก็เริ่มกลั่นสมุนไพรที่สวนดังกล่าวเลย.

ส่วนเหล่าเหว่ยที่เวลานี้เริ่มทำการปลูกสมุนไพรระดับสูง.

ด้วยการเก็บเกี่ยวสมุนไพรมาสองชุดแล้ว พลังวิญญาณระดับเพิ่มขึ้น สมุนไพรชุดสามนี้คงจะเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้นกว่าเดิม.

สิ่งที่จุนซ่างเซียวปรารถนาที่สุด เพราะว่าเขาต้องการใช้เวลาหนึ่งปี ในการปลูกสมุนไพรระดับสูงเพื่อยกระดับสภาพแวดล้อม มันจะช่วยยกระดับการฝึกฝนให้กับศิษย์ของเขาอีกหลายเท่าอย่างแน่นอน.

......

ในห้องแห่งหนึ่ง.

จุนซ่างเซียวที่นั่งสมาธิอยู่ โคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น.

ในเวลานี้ในฟังก์ชันหอปรุงยาที่กำลังปรุงยามีเสียงเบา ๆที่ดังขึ้นในหูของเขาเป็นระยะ.

นี่คือวัตถุดิบชุดที่สองที่ปลูกโดยเหล่าเหว่ย เพราะว่าวัตถุดิบนั้นมีคุณภาพสูง จึงทำให้ผลของมันสูงไปด้วย.

หลังจากกลั่นยาเสร็จ จุนซ่างเซียวก็นำออกมาหนึ่งเม็ด พบว่ามันมีความสามารถทำให้ดูดซับพลังวิญญาณได้มากกว่าเดิม 15 เท่า.

การดูดซับพลังวิญญาณหนึ่งวัน เทียบเท่ากับเวลาดูดซับปรกติ 15 วัน!

จุนซ่างเซียวที่ลอบกล่าวในใจ “วัตถุดิบสมุนไพรที่เหล่าเหว่ยปลูก จะต้องเป็นเส้นทางหลักที่จะทำให้สำนักไท่กู่เจิ้งของข้าแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน!”

เช้าวันถัดมา.

เขาได้มอบรางวัลให้กับศิษย์ที่เข้าร่วมหอเหยี่ยวดำ ด้วยเม็ดยารวมวิญญาณคนล่ะ 10 เม็ด.

จากนั้นเขาก็เดินทางไปยังเมืองฮูหยาง พบกับประมุขอ้าย ก่อนที่จะแจ้งจุดประสงค์ของตัวเอง.

“อะไรนะ?”

อ้ายซางหนีที่ตื่นตกใจ “เม็ดพันธ์เหล่านี้ ต้องการหลายแสนเลยรึ?”

“รวบรวมได้หรือไม่?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

อ้ายซางหนีที่ใจเย็นลง กล่าวออกมาว่า “จำนวนนี้ แม้นว่าจะมาก ทว่าสามารถรวบรวมได้ ทว่า ราคานั้นก็สูงเล็กน้อย.”

ก่อนหน้านี้ที่ส่งมอบให้ไม่ได้มีจำนวนมากนัก ตระกูลอ้ายจึงสามารถแบกรับได้.

ทว่าจำนวนหลายแสนนี้ มีมูลค่าสูงเป็นอย่างมาก.

จุนซ่างเซียวที่ส่งแหวนมิติออกไปกล่าวออกมาว่า “ที่ด้านในนี้มีเงินยี่สิบล้าน ขอให้ประมุขอ้ายช่วยเตรียมให้ด้วย.”

อ้ายซางหนี่ที่มุมปากกระตุก.

ใช้เงินมหาศาลเพื่อซื้อเมล็ดพันธ์ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ.

“เจ้าสำนักจุน โปรดวางใจ.”

อ้ายซางหนี่เอ่ย “อ้ายโหมวจะจัดการให้เร็วที่สุด แน่นอนว่าย่อมเป็นเมล็ดพันธ์ระดับสูงคุ้มค่าราคายี่สิบล้านอย่างแน่นอน.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เก็บเงินไป ส่งคืนแหวนให้กับข้าด้วย.”

ยอมจ่าย 20 ล้าน แต่เสียดายแหวนอย่างคาดไม่ถึง เป็นคนตระหนี่จริง ๆ!

“ใช่แล้ว เจ้าสำนักจุน.”

หลังจากที่กล่าวเรื่องค้าขายเสร็จแล้ว อ้ายซางหนี่ที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “ที่มนทลปิงหยางนั้นมีการจัดประลองยุทธ์สำนักขึ้น ครึ่งเดือนหลังจากนี้ ไม่รู้ว่าสำนักของท่านสนใจเข้าร่วมหรือไม่?”

“ไม่สน....”จุนซ่างเซียวเอ่ยยังไม่จบด้วยซ้ำ.

“ติ๊ง! ภารกิจสนับสนุน.”

ขณะเปิดคอนโซนระดับขึ้นมา ก็ปรากฏ ให้ศิษย์เข้าร่วมงานประลองมนทลปิงหยาง เอาชนะเลิศกลับมา[ภารกิจระดับสูง].

จุนซ่างเซียวที่กลับคำพูด “ความจริงก็สนใจเหมือนกัน!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด