ตอนที่แล้วChapter 161 เป็นค่ำคืนที่มืดและลมแรง เหมาะสำหรับการฆาตกรรมและลอบวางเพลิง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 163 กวาดให้เรียบ

Chapter 162 This Jianghu having you accompanies is splendid


这个江湖,有你陪伴才精彩

 ตอนนี้ ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องครับ เป็นแก๊ก ที่บอกว่านิยาย นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาลได้วางจำหน่ายแล้ว.

ห้องหนังสือ ห้องน้ำ.

“เจ้าสำนัก ไม่ได้การแล้ว!”

หลี่ชิงหยางที่วิ่งเหนื่อยหอบเข้ามาด้านใน “กล่าวออกไปว่า”นิยายนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล กำลังจะขึ้นหิ้งพรุ่งนี้เวลา 12.30แล้ว!”

จุนซ่างเซียวที่กำลังพอกหน้าด้วยโคลนดำปี๋ นั่งรอบนเก้าอี้ยังไม่ได้ล้างออก ลืมตาขึ้นเล็กน้อย เอ่ยออกไปว่า “มีเรื่องใหญ่อันใดกัน?.”

หลี่ชิงหยางที่แทบล้มทั้งยืน “นิยายกำลังวางขายแล้ว ต้องมีนักอ่านมากมายเดินทางไป!”

จุนซ่างเซียวที่ลุกผึ่งขึ้นมาจากเก้าอี้ด้วยใบหน้าดำปี้ “ต้องรีบไปสนับสนุนแล้ว.”

“เรื่องนี้...”หลี่ชิงหยางกล่าวเสียงอ่อน “เจ้าสำนัก ท่านควรจะไปล้างหน้าก่อนหรือไม่?”

“โครม!”

จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบวิ่งไปยังอ่างล้างหน้า ก่อนที่จะลื่นชนฝา “อ๊าก ขวางข้าทำใม เชื่อไหมข้าจะสังหารเจ้าแน่นอน!”

“เจ้าสำนักใจเย็น ใจเย็นก่อน!”

หลี่ชิงหยางที่เร่งรีบพาเจ้าสำนักไปยังอ่างล้างหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินปัดป่ายมองไม่เห็นทาง.

“ฟู่!”

จุนซ่างเซียวที่เหน็บดาบหนานโชวที่เอว พร้อมกับสวมชุดเจ้าสำนักเต็มยศ หวีผมเรียบ กล่าวออกมาว่า “วางแผงขึ้นหิ้งพรุ่งนี้ ไปเรียกศิษย์ทุกคนมา จะต้องช่วยสนับสนุนสำนักไท่กู่เจิ้ง ให้ได้อ่านกันทุกคน.”

“ครับ.”

......

โรงอาหาร.

มีการประดับตกแต่งด้วยริบบิ้นและลูกโป่งเต็มไปหมด ราวกับว่ากำลังจัดงานฉลองใหญ่.

คนแรกที่เข้ามาที่นี่ต้องเป็นศิษย์ผู้หญิง.

ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาในโรงอาหาร โดยมีปืนอินทรีย์ทะเลทรายเหน็บเอวเอาไว้ ก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับแสงไฟสาดส่องพร้อมกับกล้องที่กำลังบันทึกภาพ นางเผยยิ้มหวาน “?”

ลู่เชียนเชียนที่ก้าวเข้ามา นางไม่ได้มองไปยังกล้องที่กำลังเล็งอยู่เลย ใบหน้าของนางที่เย็นเยือบเป็นน้ำแข็งหมื่นปี.

หลิงหยวนเสวี๋ยที่ก้มหน้าก้มตาขณะเดินเข้ามา ขณะที่เห็นกล้องกำลังถ่ายอยู่ ก็มีคนเข้ามาด้านหลังนาง “เจ้า...เจ้าอยู่ข้างหลังข้าได้อย่างไร?”

หลิวหว่านซี่ที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ นางที่เล่นหูเล่นตา หัวเราะ ฮี่ ฮี่ “ศิษย์พี่ ศิษย์พี่หญิง ข้าไม่ได้เตรียมอาหารเอาไว้ วันนี้เป็นอาหารที่สั่งมา....”

กล้องที่ซูมไปยังเหล่าศิษย์สตรี ก่อนที่จะหันไปยังอีกทิศทาง.

ในเวลานั้นเสียงดนตรีก็ดังขึ้น..........

เจ้าสำนักจุนที่ราวกับอารมณ์อ่อนไหว กล่าวออกไปด้วยน้ำตา “นิกายสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล เปิดตัวพรุ่งนี้ 12.30  หากข้าไม่ไปสนับสนุน คนเขียนจะต้องไม่เขียนให้ตัวข้าดูหล่อเหลาแน่ยอย.”

“รับคำเชิญแล้ว ไม่ไปได้ด้วยรึ?”

ทันใดนั้น กล้องบันทึกก็ส่ายไปมา “เดี๋ยว เดี๋ยว อ๊าก!”

“เจ้าสำนักบ้าไปแล้ว รีบจับตัวไปเร็ว!”

“ไม่ ข้าไม่ได้บ้า! ข้าแค่ร้องไห้!”

“เฮ้ เจ้าสำนักไม่ได้กินยา”

“ข้าไม่ได้บ้า ข้าไม่ได้ขาดยา!”

จุนซ่างเซียวที่ถูกหลี่ชิงหยางและเซียวจุ้ยจื่อลากออกนอกเฟรมกล้อง “พวกเขาบ้าแล้ว มีคนกำลังแกล้งข้า พาเปิ่นจั้วออกไปเร็ว!”

“ขออภัยทุกท่าน.”

ซูเซียวโม่ที่ปรากฏขึ้นบนจอ ยกมือประสานระหว่างอก “เจ้าสำนักไม่ได้กินยา เลยขวัญผวานิดหน่อย.”

“ฟิ้ว!”

เท้าที่สีทองข้างหนึ่งที่ยกขึ้นปิดหน้าเลนส์กล้อง ก่อนที่จะได้ยินเสียงลี่เฟย “ไปเร็วเข้า ข้าจะขวางไว้เอง....”

เถียนซีที่วิ่งเข้ามา “เจ้าสำนัก รีบกินยาเร็วเข้า.”

ที่นอกเฟรมกล้อง ได้ยินเสียงของจุนซ่างเซียวตะโกนเสียงดัง “ข้าไม่ได้บ้า ข้าไม่กินยา!”

ทันใดนั้นเย่ซิงเฉินที่เดินเข้ามา ร่างกายที่หยุดหน้ากล้อง ก่อนที่จะยกมือชี้ออกไป กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกสามัญชน ยังอยู่อีก.”

หลังจากที่เจ้าสำนักถูกจับ เซียวจุ้ยจื่อก็เดินมาอยู่หน้าเลนส์กล้อง กล่าวด้วยความจริงจัง “นิยายลงทุนไปมาก นักเขียนไม่ได้คำนวณ เจ้าสำนักไม่ได้คำนวณ เจ้าคิดว่าจะมีคนมากี่คน.”

“ใช่แล้ว.”

หลี่ชิงหยางที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นิยายเพิ่งเริ่มเรื่อง หวังว่าทุกคนจะไปกัน!”

โจวหงที่ปรากฏขึ้นที่หน้าเลนส์กล้อง ถือกระบี่ด้วยมือข้างหนึ่ง.

“อย่าให้เขาชักกระบี่!”

จุนซ่างเซียวที่อุทานด้วยความตกใจ “นี่คือการออกอากาศต่างโลก ไม่เช่นนั้นเขาจะตัดกล้อง!”

หลงจื่อหยางและลี่ยูหัวที่เร่งรีบไปแย่งกระบี่จากมือกระบี่.

หลี่ชิงหยาง ซือหม่าจงต้าและศิษย์ใหม่ และแม้แต่เหล่าเหว่ย ถางจู่หอยาคนใหม่ ก็ก้าวเข้ามาในโรงอาหาร.

จุนซ่างเซียวที่กินยาแล้วอาการดีขึ้นเอ่ยออกมาว่า “ในเมื่อนิยายนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดตลอดกาล ได้เปิดตัวมาสองเดือนแล้ว คงต้องขอบคุณที่ซื้อตั๋วและสนับสนุน.”

“เวลานี้กำลังเสิร์ฟอาหารแล้วรึ?!”

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

บนโต๊ะมีอาหารมากมาย เหล่าศิษย์กำลังกินดื่มอย่างมีความสุข.

“เพื่อนักอ่านที่สนับสนุน พวกเรามาดื่มด้วยกัน!”

“กึก อึก อึก กึก.”

หลังจากที่กินอาหารลงไป จุนซ่างเซียวก็นำศิษย์ไปยังลานยุทธ์ พร้อมกับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก.

“ถ่ายรูปกลุ่มเพื่อเป็นที่ระลึก!”

ศิษย์หลากหลายคนที่เข้าแถวเป็นระเบียบ.

จุนซ่างเซียวที่นั่งตรงกลางบนเก้าอี้หนานมู่หมื่นปี พร้อมกับจ้องมองไปยังเลนส์กล้อง “เหล่าชาวยุทธ์ พร้อมหรือยัง?”

“หนึ่ง สอง สาม.”

“แชะ!”

เหล่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ร่วมถ่ายรูปร่วมกัน ด้วยท่าทางที่ต่างกันไป.

หลังจากถ่ายเสร็จก็ก้าวไปยังด้านหน้าตำหนักใหญ่ที่มีป้ายสำนักสีทองมีอักษร“สำนักไท่กู่เจ้ง”เพื่อถ่ายอีกรูป.

จากนั้น ก็กลับมายังลานยุทธ์.

มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีดำยืนอยู่

เขาที่ปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่าศีรษะของเขาที่กำลังลอยอยู่ข้าง ๆ ด้วย มือเขากำลังชี้มายังกล้อง เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือบ!“พี่น้อง งานจบแล้วรึ?”

จุนซ่างเซียวที่แทบล้มทั้งยืน กล่าวออกมาด้วยความตกใจ “หวัง...เจ้าสำนักหวัง!”

……

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด