ตอนที่แล้วChapter 99 สั่นสะเทือนไปทุกหนแห่ง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 101 สไนเปอร์ธรรมชาติ

Chapter 100 คนล่ะ?


หลี่ชิงหยางที่รับตั๋วเงิน 100,000 มา ร่างกายถึงกับกลายเป็นโง่งมขึ้นมาในทันที.

เขาที่มาจากตระกูลใหญ่ ไม่ได้ลำบากเรื่องเงินนัก ทว่ากับจำนวนที่รับมานี้ มันมากมายเป็นอย่างมาก แม้แต่สร้างสำนักไท่กู่เจิ้งอีกแห่งขึ้นมาใหม่ได้เลย และยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่หรูหรามาก......!

หลี่ชิงหยางที่กลับห้องในทันที เขาทำการออกแบบ ร่างภาพลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว.

ลานด้านในต้องซ่อมแซม ลานด้านนอกต้องขยายออกไปอีก.

นี่คือโครงการใหญ่ ที่เขาจะต้องเตรียมการให้ดี!

เขาใช้เวลาทั้งคืนในการสร้างแบบสำนักขึ้นมา.

ลานด้านนอกของสำนักไท่กู่เจิ้งตำแหน่งต่าง ๆไม่ได้ปรับเปลี่ยน เพียงแต่ที่ทิศเหนือนั้น ต้องเพิ่มสิ่งก่อสร้างอื่นพร้อมขยายลานยุทธ์ให้ใหญ่ขึ้น พร้อมกันนี้ยังเป็นสิ่งก่อสร้างสุดล้ำที่ซับซ้อน.

ลานสำนักด้านในเองก็ต้องพัฒนาให้ใหญ่ขึ้น ไม่เพียงแต่เพิ่มสิ่งก่อสร้าง ยังเพิ่มห้องและที่พักมากมาย ให้เพียงพอต้อนรับศิษย์หนึ่งพันคนได้.

แน่นอน หลี่ชิงหยางยังต้องปรึกษากับหลิวหว่านซี ในการสร้างสวนผักและที่เลี้ยงสัตว์เป็นพิเศษ.

ด้วยเขามีทรัพยากรมากมายสนับสนุน ทำให้ครั้งนี้การปรับเปลี่ยนเป็นไปได้อย่างไม่ยากนัก เมื่อปรับปรุงสำเร็จ สำนักไท่กู่เจิ้งก็แทบจะกลายเป็นสำนักใหม่เลยก็ว่าได้!

“ไม่เลว.”

หลังจากดูแผนผังของหลี่ชิงหยาง จุนซ่างเซียวที่พยักหน้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

หลี่ชิงหยางที่ชี้ไปยังส่วนหนึ่งบนแบบ กล่าวออกมาว่า “ศิษย์ต้องการสร้างที่พักขึ้นที่นี้ หลังจากสร้างเสร็จ จะสามารถเคลื่อนย้ายทุกคนเข้าไป จากนั้นก็จะสร้างส่วนอื่น ๆ ขึ้นใหม่ และไม่จำเป็นต้องไปพักที่ลานด้านนอก.”

จุนซ่างเซียวกล่าว “ให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจก็แล้วกัน.”

เกี่ยวกับการสร้างสิ่งก่อสร้างสำนัก กลายเป็นหลี่ชิงหยางที่ต้องรับหน้าที่สำคัญไป และเขายังเป็นคนที่มีความระเอียดสูงด้วย.

กับผลงานมากมายที่เขาได้จัดการทั้งหมดนี้.

เมื่อมีการแต่งตั้งอาวุโส ตำแหน่งอาวุโสกิจการภายในคงหนีเขาไม่พ้น.

“เจ้าสำนัก แล้วจะเริ่มปรับปรุงตอนใหนดี?”

“สามวันหลังจากนี้.”

“ครับ!”

หลี่ชิงหยางที่จากไป จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “เมื่อสำนักซ่อมแซมและขยายเสร็จสมบูรณ์ ก็สามารถลงเขาเพื่อรับศิษย์ให้ครบห้าร้อยคน เพื่อกระตุ้นภารกิจสำนักได้.”

เพื่อยกระดับสิ่งก่อสร้างไปยังเลเลล 2 เขาต้องรับศิษย์เพิ่ม อย่างไรก็ตามในเวลานี้เขาต้องยกระดับศิษย์กลุ่มนี้เติบโตให้มากที่สุดก่อน.

......

อ้ายซางหนี่ที่ได้รับเม็ดยาฟื้นฟูระดับสามัญสิบขวดกลับตระกูลอ้าย.

อย่างไรก็ตาม เขาไม่เร่งรีบที่จะจัดการ ทว่าได้ขยายประโคมข่าวออกไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ให้เข้ามา.

ก่อนหน้านี้ยาเก้าขวดขายไปได้ถึง 850,000 ครั้งนี้เขาได้ใช้เงินไปหนึ่งล้านเหรียญเพื่อลงทุน เขาย่อมสามารถมองเห็นโอกาสทำกำไร เขาจะยอมขาดทุนง่าย ๆ ได้อย่างไร.

ด้วยมุมมองของพ่อค้าที่ทำธุรกิจมานาน.

อ้ายซางหนี่มั่นใจว่า การประมูลครั้งที่สอง เม็ดยาสิบเม็ดนี้ จะต้องมีราคาเกินหนึ่งล้านแน่ ๆ.

หากไม่สามารถขายยาที่ต่อต้านสวรรค์ในราคาที่สูงได้ ก็ไม่คู่ควรจะเป็นตระกูลพ่อค้าแล้ว.

อย่างไรก็ตาม อ้ายซางหนี่ได้ครุ่นคิดเหมือนกัน หากเม็ดยาฟื้นฟูได้ไปกระตุ้นกลุ่มนิกายขนาดใหญ่ เขาจะอธิบายเกี่ยวกับที่มาของเม็ดยาได้อย่างไร?

......

สามวันหลังจากนั้น.

เหล่าช่างฝีมือก็เดินทางมาถึงสำนักไท่กู่เจิ้ง งานแรกก็คือขยายพัฒนาลานสวนด้านใน.

เพราะว่าสิ่งก่อสร้าง ได้สร้างบนที่ว่างก่อน ดังนั้นจึงไม่มีผลต่อชีวิตประจำวันของศิษย์ ทุกคนยังคงฝึกฝนบ่มเพาะได้เหมือนเดิม.

“เจ้าสำนัก.”

วันหนึ่ง หลี่ชิงหยางที่เข้ามารายงาน “เมื่อคืน ศิษย์เก้าคนสามารถเชื่อมชีพจรสิบเส้นได้ นอกจากศิษย์น้องเซียว ศิษย์น้องเย่และศิษย์น้องหลิว ศิษย์คนอื่น ๆ ล้วนแต่ก้าวไปถึงระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบแล้ว.”

“ไม่เลว ไม่เลว.”จุนซ่างเซียวกล่าวอย่างพึงพอใจ.

คำนวณตามเวลา ศิษย์กลุ่มนี้เพิ่งรับเข้ามาเพียงสองเดือน ก็ก้าวไปถึงเปิดชีพจรระดับสิบกันหมดแล้ว ทั้งที่ก่อนมา ยังอยู่ระดับสองและสามเท่านั้น เป็นการยกระดับที่เร็วไม่น้อย.

“ให้พวกเขาฝึกฝนให้หนักต่อไป ใครก็ตามที่ตัดผ่านระดับไปยังศิษย์ยุทธ์ได้ มอบตำรา คมวิญญาณ ให้ฝึกฝน.”จุนซ่างเซียวกล่าว.

“ครับ.”

หลี่ชิงหยางที่ถอยออกไป.

จุนซ่างเซียวตรงไปยังห้องปั้นกล้ามเนื้อ.

เซียวจุ้ยจื่อที่กำลังใช้ห้องปั้นกล้ามเนื้ออยู่.

“กึก ซี่!”

ในเวลาเดียวกัน เครื่องปั้นกล้ามเนื้ออีกอัน เย่ซิงเฉิงที่ร่างกายเขียวช้ำที่ไหลออกมา ปากที่สูดหายใจหอบ ๆ.

ห้องปั้นกล้ามเนื้อ ดูเหมือนว่าเขาใช้มัน ไม่ได้น้อยไปกว่าเซียวจุ้ยจื่อเลย.

ด้วยจิตใจที่ไม่ธรรมดา ดูเหมือนว่าจะทำให้เขาเติบโตพัฒนาจากเดิมเป็นอย่างมาก.

จากระดับเปิดชีพจรขั้นที่หนึ่ง เขาได้ยกระดับมาถึงขั้นที่สามแล้ว และยังสามารถโจมตีด้วยพลัง 800 จินอีกด้วย.

กล่าวตามตรง ด้วยพรสวรรค์ของเย่ซิงเฉิง แต่กับสามารถเพิ่มพลังขึ้นได้มากกว่าปรกติถึง 400 จิน เป็นเพราะวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น วิชาพระสูตรไท่ฉวน ห้องปั้นกล้ามเนื้อและเม็ดยาบูรณะร่างกายนั่นเอง.

จุนซ่างเซียวที่สามารถมองเห็นได้ หลายวันมานี้อีกฝ่ายพัฒนาขึ้นมาก ดังนั้นจึงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้เจ้าคิดว่าการเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง เสียหายอยู่อีกหรือไม่?”

“....”เย่ซิงเฉิงที่เงียบไป.

ก่อนหน้านี้ ภายในใจของเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาที่เป็นราชันย์กลับชาติมาเกิด กลับถูกบังคับเขาสำนักไท่กู่เจิ้ง ตอนนี้เขากับคิดว่า มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดแล้ว.

“ฟิ้ว!”

สองชั่วยาม เซียวจุ้ยจื่อที่ออกมาจากห้องปั้นกล้ามเนื้อ ก่อนที่จะทดสอบด้วยการเหวี่ยงหมัดไปยังเครื่องทดสอบ ปรากฏตัวเลขขึ้นไม่หยุด.

3000 จิน (0.5 kg).

3200 จิน (0.5 kg)......

“ตูมมมม!”

และหมัดสุดท้าย สามารถไปถึงระดับ 5000 จิน.

ยังไม่เปิดชีพจร เพียงแค่กายเนื้อล้วน ๆ พลังของเขากัยไม่ได้ด้อยไปกว่าระดับศิษย์ยุทธ์ระดับสามเลย เป็นความแข็งแกร่งที่เหลือเชื่อจริง ๆ.

ทว่า เซียวจุ้ยจื่อเวลานี้กับไม่ดีใจแม้แต่น้อย หนำซ้ำเขายังแสดงสีหน้าเศร้า ๆ ออกมาด้วย.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้ามา กล่าวออกไปว่า “กำลังคิดอะไรอยู่งั้นรึ?”

“เจ้าสำนัก ข้า....”เซียวจุ้ยจื่อหยุดชั่วครู่ ก่อนที่จะกล่าวอย่างขม ๆ “หลายวันมานี้ กายเนื้อของข้าก้าวไปถึงขีดจำกัดแล้ว การจะยกระดับไปให้ได้มากกว่านี้ดูจะยากกว่าเดิม.”

จุนซ่างเซียวกล่าว “ผู้ฝึกยุทธ์ที่ทรงพลัง นอกเหนือจากกายเนื้อแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่นเสริมด้วย ยกตัวอย่างอาวุธ.”

“ตามเปิ่นจั้วมา.”

เขาที่นำเซียวจุ้ยจื่อมาด้านหลังเขา ก่อนที่จะนำสไนเปอร์ไรเฟิล QBU-88 ออกมาวางบนพื้น  กล่าวออกไปว่า“ลองทดสอบปืนนี่.”

“ให้ข้าทดสอบอย่างงั้นรึ?”เซียวจุ้ยจื่อที่ตื่นตกใจ.

จุนซ่างเซียวกล่าว “หากกายเนื้อของเจ้าสามารถควบคุมได้ สไนเปอร์ไรเฟิลนี้จะเป็นของเจ้า.”

ระบบกล่าวเตือน “แม้นว่าศิษย์จะสามารถใช้สไนเปอร์ไรเฟิลได้ ทว่าฟังชั่นของเวทย์เปลี่ยนรูป กล้องส่องทางไกลแปดเท่า มีเพียงโฮสน์ที่ใช้ได้.”

“มันจะบัดซบเกินไปแล้ว?”จุนซ่างเซียวขมวดคิ้ว.

ในความคิดของเขา เซียวจุ้ยจื่อไม่สามารถเปิดชีพจรได้ ไม่สามารถรวมพลังวิญญาณได้ ควรให้ฝึกฝนการใช้สไนเปอร์ หากร่างของเขาสามารถทนแรงดีดได้ก็คงไม่มีปัญหา.

ตอนนี้ปัญหากับเพิ่มขึ้นมา ด้วยฟังก์ชันล๊อกเป้าอัตโนมัติของกล้องส่องทางไกลแปดเท่า และยังมีความสามารถในการดูและฟังอีก หากศิษย์ของเขาไม่สามารถใช้ได้ แล้วจะยิงเข้าเป้าได้อย่างไร.

“ฟู่!”

เซียวจุ้ยจื่อที่สูดลมหายใจ ก่อนที่จะเข้าประจำที่นอนลงด้านหลังสไนเปอร์ไรเฟิล พยายามจัดท่าทางเตรียมพร้อม.

จุนซ่างเซียวที่อธิบายการใช้ วิธีต่าง ๆ แม้แต่การใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อส่องดูเป้าหมาย และสอนวิธีการยิง ตลอดจนการปลดล๊อกต่าง ๆ และยังอธิบายเกี่ยวกับแรงลมอีกด้วย “เข้าใจรึยัง?”

“มองไปตรงนั้น.”

“ที่ด้านหน้าหลายร้อยเมตร มีศิลาขนาดเล็กอยู่ ทำลายมันซะ.”

ระหว่างที่กล่าว จุนซ่างเซียวที่ถอยออกมา ด้วยเกรงแรงสะท้อนจะกระแทกมายังร่างของเขาไปด้วย.

“ฟิ้ว!”เซียวจุ้ยจื่อที่นอนราบ มือข้างหนึ่งที่โอบ บั้นท้ายปืนค้ำมายังไหล่ ดวงตาข้างหนึ่งส่องเลนส์ ก่อนที่จะปลดล๊อกไกปืน จากนั้นก็เริ่มลั่นไก.

“ปัง!”

ปากกระบอกปืนที่ระเบิดปล่อยแสงพุ่งออกไป ด้วยความเร็วและพลังรุนแรง กระแทกไปยังศิลาก้อนเล็กที่อยู่ห่างออกไป 500 เมตร แตกสลายกลายเป็นเสี่ยง ๆ.

“แม่นขนาดนี้เลยรึ?”

จุนซ่างเซียวถึงกับดวงตาเบิกกว้าง.

ทว่าขณะเขาหันกลับมา จ้องมองไปยังเซียวจุ้ยจื่อ กับเห็นแต่บนพื้นดินเป็นหลุมขนาดใหญ่ ส่วนคนหายไปแล้ว.

“คน? คนไปใหนแล้ว?”

“เจ้า...เจ้าสำนัก....”ที่ด้านหลังต้นไม้ใหญ่ห่างออกไปมากกว่าสิบเมตร เซียวจุ้ยจื่อที่จมลงไปในเนื้อไม้เห็นเป็นรูปคน กล่าวเสียงอ่อน “ศิษย์ ...ศิษย์อยู่นี่.....”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด