ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 2 เจ้านะรึเจ้าสำนัก?

Chapter 1 สำนักไท่กู่เจิ้ง(เพชรกระดูกเหล็ก)


“เจ้าหนุ่มข้าเห็นกระดูกที่ยอดเยี่ยมของเจ้าที่หมื่นปีจะพบเห็นสักครั้ง หากแต่ไร้ซึ่งการฝึกฝนที่ถูกต้อง หากต้องการความก้าวหน้า เดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องละก็ เจ้าควรเข้าร่วม เป็นศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้ง เจ้าจะมีอนาคตที่เลิศล้ำก้าวไปสู่เส้นทางที่ไร้ขีดจำกัด.”

เสียงที่ดังกังวานก้องไปทั่วหุบเขา ขณะร่างหนึ่งร่อนลงมาจากที่สูงพร้อมกับเสียงหัวเราะอันชั่วร้าย เหมือนกับยอดยุทธ์ปรากฏกายออกมา มุมปากของเขาที่ยกขึ้นพร้อมกับเผยใบหน้าที่ดูเปล่งประกายสร้างเสน่ห์ดึงดูดต่อคนอื่น.

ทว่ามันกับไร้ซึ่งเสน่ห์อย่างสิ้นเชิง.

หากมีเหล่าสตรีจับจ้องมายังเขา แน่นอนคงต้องสะดุ้งหวีดร้องออกมาอย่างไม่ตั้งใจ หรือแม้แต่อาจกระโดดถอยหนีเป็นแน่.

“อึก......”

ผู้ฝึกยุทธสวมชุดเขียวคนหนึ่งเอ่ยกล่าวออกมาอย่างสุภาพ “มันจะดีมาก ๆเลยหากท่านเอาเท้าออกไปก่อน?”

บนลานที่กว้าง หากจ้องมองลงไปด้านล่างจะเห็น ตั้งแต่แรกแล้ว จุนซ่างเสี่ยวเหยียบอยู่บนใบหน้าของคนอื่นอยู่นั่นเอง ขณะเขายกเท้าออกมา รอยเท้าก็ยังปรากฏขึ้นบนครึ่งหนึ่งของใบหน้าของชายคนดังกล่าวอีกด้วย.

ร่างของเขาที่เสียหลักซวนเซ.

ก่อนที่เขาจะล้มลงก้นจ้ำเบ้าบนพื้น จากนั้นหน้าอกของเขาก็ถูกเหยียบลงด้วยเท้าอีกข้างอย่างแรงซ้ำอีกครั้ง.

จุนซ่างเซียวที่ค่อย ๆ ยกเท้าออกมาพร้อมเอ่ยกล่าวขอโทษ“ข้าเห็นเจ้ามองศิษย์หญิงของข้าอย่างหื่นกระหายพร้อมกับกล่าวอ้อล้อนางทำให้ข้าทนไม่ได้ชั่วขณะ ขออภัยด้วยจริง ๆ.”

“......”

ผู้ฝึกยุทธชุดเขียวถึงกับพูดไม่ออกไปเหมือนกัน.

ข้ายังไม่เอ่ยอะไรเลยนะ เจ้ากับหาว่าข้าอ้อล้อนางอย่างงั้นรึ? ยังไม่ทันปริปาก ก็ถูกเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งเหยียบใบหน้าเอาสะแล้ว เป็นเรื่องที่โชคร้ายชะมัด.

“สหาย.”

จุนซ่างเสี่ยวเอ่ย“เจ้าคิดว่าไง.”

ผู้ฝึกยุทธ์ชุดเขียวกล่าวเสียงอ่อน“ข้าบอกว่าข้าไม่สนใจตกลงใหม?”

“ตกลง.”

จุนซ่างเสี่ยวกล่าวอย่างเคร่งขรึม“สำนักไท่กู่เจิ้งมีเมตตาและเที่ยงธรรม ไม่บังคับคนอื่นด้วยกำลัง!”

“ขอโทษที.”

ผู้ฝึกยุทธิ์ชุดเขียวที่ทนเจ็บและเอ่ยกล่าวออกมาว่า”ข้าได้เข้าร่วมสำนักหลิงฉวน(น้ำพุวิญญาณ)แล้ว คงไม่สามารถเป็นศิษย์ที่ทรงเกียรติของท่านได้.

กว่าจะได้เข้าสำนักหลิงฉวน เขาต้องใช้ความยากลำบากมากมายขนาดใหน แล้วจะเปลี่ยนไปเข้าสำนักอื่นได้อย่างไรกัน.

หนำซ้ำสำนักไท่กู้เจิ้ง อย่างงั้นรึ?

ใคร ๆต่างก็ได้ยินว่าในทวีปซิงหยุนแห่งนี้เป็นเพียงสำนักขยะ การเข้าร่วมสำนักแห่งนี้มีแต่จะทำให้เสียเวลาเปล่า ๆ.

“เฮ้อ.”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมากล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ“เจ้าได้พลาดโอกาสที่เลิศล้ำ ในการเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้งแล้ว.”

“เชียนเชียน”

เขาที่หันหน้าไปมองด้านข้าง“เมื่อสักครู่เจ้าคนนี้กำลังรังแกเจ้าอย่างงั้นรึ?”

ไม่ไกลออกไปบนศิลาก้อนใหญ่ยักษ์ มีสตรีในชุดขาวกำลังนั่งอย่างสงบ ดวงตาที่ใสกระจ่างราวดั่งดวงดาราบนท้องฟ้า ผิวกายที่ขาวเนียนเหมือนหิมะ แม้นว่านางจะมีอายุเพียง 16-17 ปีแต่ก็นับว่าเป็นสาวงามที่ยากจะพบเห็นได้ทั่วไป.

หากจะมีสิ่งที่ ยังขาดไปคงมีเพียงอายุของนาง ไม่เช่นนั้นแล้วความงามของนางคงจะบานสะพรั่งสมบูรณ์แบบ.

“เจ้าสำนัก.”

ลู่เชียนเชียนที่ถกแขนเสื้อเผยให้เห็นแขนขาวกล่าวออกมาเบา ๆ “เมื่อกี้ เขาต้องการสัมผัสแขนของข้า.”

“ผลั๊ว!”

จุนซ่างเซียวที่ยกเท้าขึ้นเหยียบไปยังใบหน้าของผู้ฝึกยุทธ์ชุดเขียว พร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้วรึไง.”

ใบหน้าที่เปี่ยมเมตตาอบอุ่นก่อนหน้านี้ได้กลายเป็นยักษ์มาร เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที.

ผู้ฝึกยุทธชุดเขียวเร่งรีบกล่าวออกมาทันควัน “นี่เจ้า....ข้า...ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย!”

แม้นว่าก่อนหน้านี้เขาอาจจะแอบคิดอยู่เล็กน้อย ทว่ายังไม่ได้ทำอะไรก็ถูกเหยียบแล้ว นั่นก็หมายความว่าเขายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยไม่ใช่รึไง!

จุนซ่างเซียวกล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา“เชียนเชียน ไม่มีทางโกหก ข้าเชื่อนาง วันนี้ข้าต้องสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำแน่นอน!”

“ผลั๊ว! ผลั๊ว! ผลั๊ว!”

สายลมที่เย็นยะเยือบเป่าไปทางซ้ายทีขวาที ใบหน้าของชายชุดเขียวที่ช้ำเข้มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าเวลานี้เขาถูกฟาดไปมาไม่ยั้ง.

“น่ารังเกียจที่สุด!”

ชายชุดเขียวที่เงยหน้าขึ้นช้า ๆ ใบหน้าที่เขียวช้ำดวงตาที่เบลอเลือนราง ตะเกียกตะกายกลิ้งไปมาบนดิน ล้มลุกคุกคลานวิ่งหนีไปพร้อมกับบ่นพึมพำ “บิดาต้องแก้แค้นแน่!”

......

จุนซ่างเซียว.

เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง.

สำนักไท่กู่เจิ้งที่ครั้งหนึ่งเคยโดดเด่นมีชื่อเสียงระดับหนึ่ง.

ผู้ก่อตั้งสำนักยุทธ์ในอดีตนั้นมีสกุล หวังเพราะว่าเขาเป็นคนกระดูกเหล็กเมื่อครั้งกระโดดลงหุบเหวแต่ไม่ตายหลังจากรอดชีวิต เขาจึงได้ก่อตั้งสำนักไท่กู่เจิ้ง(เพชรกระดูกเหล็ก)ขึ้น.

เป้าหมายของสำนักไท่กู่เจิ้งนั้นเกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งของร่างกาย เป็นคนที่มีความอดทนกระดูกเหล็กแข็งแกร่งฆ่าไม่ตาย!

ผู้ก่อตั้งรุ่นแรกนั้นได้ใช้ความพยายามในการพัฒนากว่าสิบปีเพื่อให้สำนักรุ่งเรื่องทำให้กลายเป็นที่รู้จักขึ้นมา จนยกระดับเป็นสำนักลำดับเก้าได้สำเร็จ และทำให้หมู่บ้านชิงหยางกลายเป็นที่รู้จักไปด้วย!

อย่างไรก็ตาม.

ช่วงเวลาที่เจิดจรัสนั้นกลับคงอยู่ได้ไม่นาน.

เจ้าสำนักรุ่นแรก ได้ไปเที่ยวหอนางโลมในเมืองใหญ่ เกิดความขัดแย้งขึ้นในสถานบันเทิง เขาได้ถูกเจ้าหน้าที่ทางการจับขังคุก และพยายามแหกคุกหนีออกมา จนท้ายที่สุดก็ถูกประหาร.

นับจากนั้นมา สำนักที่ไร้ผู้นำก็เริ่มตกต่ำถดถอยลงในทันที.

บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เรียกว่ายั่งยืนจีรัง สำนักไท่กู่เจิ้งที่ก้าวไปถึงจุดสูงสุดได้แค่นี้ เป็นได้เพียงสำนักลำดับเก้าเท่านั้น และเวลานี้เริ่มถดถอยลงแล้ว.

ชื่อเสียงของสำนักไท่กู่เจิ้งได้กลายเป็นเรื่องเล่าขานเป็นชื่อเสียของเจ้าสำนักหวัง ที่พยายามจะแหกคุก ทุกคนได้ยินต่างก็ถอนหายใจเผยท่าทางเสียดาย.

แม้นว่าสำนักไท่กู่เจิ้งจะถดถอยตกต่ำแต่ก็ยังคงอยู่!

ศิษย์สามคนสุดท้ายที่เหลืออยู่พวกเขาได้จัดงานเลี้ยงกินดื่มลาจากสำนักเป็นครั้งสุดท้ายทว่ากับมีคนหนึ่ง ที่เลือกจะอยู่ คิดที่จะร่วมหัวจมท้ายกับสำนักไม่จากไปใหน.

ใครคนนั้นนะรึ?

เจ้าสำนักรุ่นที่สองจุนซ่างเซียวนั่นเอง!

หากจะกล่าวตามจริงล่ะก็.

จุนซ่างเซียวผู้นี้.

ย้อนกลับไปคืนหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว เขากำลังจะก้าวออกจากสำนักไป ทว่าขณะก้าวผ่านประตูสำนัก ป้ายสำนัก“ไท่กู่เจิ้ง”ก็ล่วงหล่นลงมากระแทกลงไปยังหน้าผากของเขาตกตายไปในทันที.

ด้วยความบังเอิญ.

จุนซ่างเซียวจากโลกมนุษย์ถูกส่งมา จากอีกโลกหนึ่งเข้ามายึดครองร่างที่ตายนี้ไป.

“นี่...ข้าข้ามโลกมาอย่างงั้นรึ?”

เขาที่พบว่าตัวเองยังไม่ตาย จุนซ่างเซียวที่โง่งมไปชั่วขณะ จากนั้นก็ยอมรับความทรงจำของร่างเดิม เข้าใจ ว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ข้ามโลกที่โชคดี.

ดีมาก ดีมาก ๆ!

สุดยอดวิชาที่เลิศล้ำ ทักษะเทวะจากตำราหา ระบบผู้ข้ามโลกจะต้องปรากฏขึ้นมา!

ในเมื่อข้าจุนซ่างเซียวมาถึงที่นี่แล้ว ข้าก็จะเป็นเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่กลายเป็นผู้ทรงอำนาจในต่างโลก เขาได้ยินมาว่าเหล่าผู้ข้ามโลกนั้นล้วนแต่มีพรสวรรค์ กลายเป็นสุดยอดเทพเจ้า กระทั่งเป็นจักรพรรดิเซียนผู้ไร้เทียมทาน.

ความพยายามอยู่ที่ใหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น หลังจากนี้ข้าจะเหยียบย่ำบดบี้เหล่ามดปลวกที่ขวางหน้า มาระบบเปิดการใช้งาน.

“ติ้ง!”

“ติดตั้งระบบสุดยอดสำนัก.....”

“ติ้ง!”

“ระบบสุดยอดสำนักติดตั้งเสร็จแล้ว โหลดข้อมูลและคอนโซลควบคุม......”

“วิ้ง!”

เสียงที่เหมือนกับเครื่องจักรดังขึ้นในหูจุนซ่างเซียวที่กวาดตามองแถวข้อมูลมากมายที่ปรากฏขึ้นในครรลองสายตา.

ชื่อสำนักสำนักไท่กู่เจิ้ง.

เจ้าสำนัก : จุนซ่างเซียว.

ระดับสำนัก : ขั้นที่เก้า.

สิ่งก่อสร้างสำนัก : ระดับ 1.

สมาชิกสำนัก : 1/100

คะแนนสนับสนุนสำนัก : 0 / 100.

ภารกิจหลักสำนัก : ภายในหนึ่งร้อยปีจะต้องนำพาสำนักไท่กู่เจิ้งให้มีชื่อเสียงไปทั่วทวีปซิงหยุน รับศิษย์ 100,000 คน หากทำไม่สำเร็จดวงวิญญาณของโฮสน์จะต้องสูญสลายหายไป กลายเป็นฝุ่นควัน! (ปล.อายุขัยของผู้ฝึกยุทธ์ในทวีปซิงหยุน โดยปรกติจะมีอายุเฉลี่ย 200-300 ปี)

หลังจากที่เห็นภารกิจที่ปรากฏขึ้น ขนทั่วร่างของจุนซ่างเซียวถึงกับลุกตั้งชูชัน แข้งขาอ่อนระทวยไปเหมือนกัน.

เขาตรวจสอบความทรงจำของเจ้าของร่างโดยรับรู้ถึงเรื่องราวสำนักไท่กู่เจิ้ง นี่คือสำนักที่มีระดับต่ำสุด เขาถึงกับต้องเดินเข้าไปในครัวหยิบมีดในครัวแล้วจ่อมาที่ลำคอ ขณะลังเลใจไปมาพักหนึ่ง ก่อนที่จะวางมีดทำครัวลง แล้วเลิกคิดที่จะปลิดชีพตัวเองไป.

สำหนักลำดับเก้า

สร้างสำนักของตัวเอง!

กลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งในทวีปชิงหยุน รับศิษย์ หนึ่งแสนคนอย่างงั้นรึ?

นี่สวรรค์กำลังล้อเล่นกับเขาอยู่อย่างงั้นรึ? ระบบกำลังกลั่นแกล้งงั้นรึ?

“ติ้ง!”

เสียงที่เหมือนเครื่องจักรดังขึ้น ในหูของเขา“ยินดีกับโฮสน์ที่เปิดระบบ มอบแหวนมิติหนึ่งวง!”

“แหวนมิติ?”

จุนซ่างเซียวพบว่าที่ข้อมือของเขานั้นปรากฏเหมือนกับกำไลหยก บนกำไลหยกนั้นมีอักขระสลักเอาไว้ว่าแหวนมิติ ปากของเขาถึงกับกระตุก“แหวนใหญ่ขนาดนี้เลยรึ? ถึงกับพอดีกับข้อมือข้าเลย!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด