1391 - หักหาญจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ 2
1391 - หักหาญจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ 2
อาวุธสายฟ้าที่โจมตีเย่ฟ่านในตอนนี้มีความคุ้นเคยกับเขาอย่างมาก มันเป็นกระจกโบราณที่เย่ฟ่านเคยเห็นจี้ฮ่าวเยว่ใช้!
“นี่คืออาวุธของจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่า!”
เย่ฟ่านเคยต่อสู้กับมันมาแล้วโดยมีโลงศพสีทองเล็กๆ แบกไว้บนหลัง ลวดลายโบราณนั้นเหมือนกับสิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้ทุกประการ
จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าผู้ยิ่งใหญ่ได้มาเยือนดาวโบราณดวงนี้แล้ว บางทีเขาอาจจะทิ้งร่องรอยไว้บนเส้นทางนี้และถูกประทับไว้บนเต๋าของโลก
ตอนนี้เย่ฟ่านได้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับเต๋าซึ่งถูกเปิดเผยผ่านทัณฑ์สวรรค์!
“ข้ากำลังต่อสู้กับจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าหรือไม่!”
เย่ฟ่านพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ไม่ใช่ว่าเย่ฟ่านไม่เคยพบกับสายฟ้ารูปร่างมนุษย์มาก่อน เขาเคยเห็นเช่นนี้ที่คล้ายกันในดินแดนเป่ยโต้ว แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป
ก่อนหน้านี้แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับสายฟ้าของเทพแห่งโลกมนุษย์ อย่างไรก็ตามพวกเขาทุกคนไม่ได้มีอาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ในมือ แต่จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่ากลับครอบครองอาวุธอันยิ่งใหญ่นี้!
“โชคดีที่มันไม่ใช่พลังของจักรพรรดิจริงๆ แต่เป็นเพียงร่อยรอยของเต๋าที่ถูกจารึกไว้ในโลก!”
เย่ฟ่านทำได้เพียงยิ้มอย่างแห้งแล้ง ต่อให้รู้อย่างนั้นเขาก็ยังตระหนักได้ดีว่าตัวเองยากจะเอาตัวรอดได้
สายฟ้านี้แม้จะเป็นเพียงเต๋าของผู้ที่อยู่ในอาณาจักรราชาผู้ยิ่งใหญ่ แต่มันก็ยังมีอำนาจเพียงพอที่จะทำลายดวงดาวโบราณได้อย่างง่ายดาย
“ปัง”
การต่อสู้อย่างดุเดือดเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เย่ฟ่านทุ่มเทพลังอย่างสุดชีวิต
นี่คือหนึ่งในจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งมากที่สุดเท่าที่เขารู้จัก ดังนั้นเขาไม่ได้มุ่งเน้นในการทำลายฝ่ายตรงข้ามแต่เลือกที่จะปกป้องตัวเองให้ดีที่สุดแทน
“บูม”
พลังหลั่งไหลไปทั่วท้องฟ้า และเตาขนาดใหญ่ก็ตกลงมาจากด้านบน แม้ว่าจะเป็นเพียงสายฟ้า แต่รูปร่างของมันก็เป็นสีแดงมีความสง่างามอย่างที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้
บนฝาของเตานั้นมีร่างสง่างามยืนอยู่ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาเมื่อจ้องมองเย่ฟ่าน
“เตาเทพสุริยัน นั่นคือจักรพรรดิเหิงอวี้!”
เย่ฟ่านตกใจเป็นอย่างมากที่จักรพรรดิโบราณคนนี้ปรากฏตัวขึ้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าแม้กระทั่งจักรพรรดิอมตะนิรันดร์กาลแห่งตระกูลเจียงก็ยังเคยเดินทางมายังโลกใบนี้!
เย่ฟ่านถูกกระจกแห่งความว่างเปล่าและเตาเทพสุริยันโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนแขนขาเต็มไปด้วยรอยแตก
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อีกคนจากดินแดนเป่ยโต้วออกมาที่ไม่มีใครเทียบได้ในโลก
ในที่สุดเย่ฟ่านก็เข้าใจผลที่ตามมาของการเลือกที่จะปราบปรามเสาให้ยอมสยบ เขาไม่มีความหวังในการอยู่รอด เพราะวิธีเดียวที่เขาจะออกจากสถานการณ์เช่นนี้ได้มีเพียงการเอาชนะจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น
นี่คือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งรัศมีพลังที่แผ่ออกมาจากร่างกายนั้นอยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด ฐานการบ่มเพาะของพวกเขาไม่ได้อยู่สูงกว่าเย่ฟ่านแต่อย่างใด
ถึงอย่างนั้นแม้กระทั่งการต่อสู้กับผู้ที่มีโอกาสเป็นจักรพรรดิก็ยังเป็นเรื่องยากลำบากแล้ว นับประสาอะไรกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ มิหนำซ้ำยังมีจักรพรรดิถึงสองคน
แต่อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านไม่ยอมแพ้ ดวงตาของเขาเฉียบคม ม่านตาสว่างขึ้นเหมือนกับคบเพลิงสองดวง!
“โอกาสที่หายาก ข้าปรารถนาที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิในอาณาจักรเดียวกันมาตลอด วันนี้ข้าจะต่อสู้กับพวกเจ้าเอง!” เย่ฟ่านกล่าวอย่างดุเดือด
ไม่ใช่ว่าเขาหยิ่งผยองหรือไม่เคารพจักรพรรดิโบราณ แต่สถานการณ์ตอนนี้มันบังคับให้เขาต้องสู้ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต่อสู้จนตายกับจักรพรรดิโบราณที่อยู่ตรงหน้า
การต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นอีกครั้ง เย่ฟ่านเกือบต้องตายเพราะจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าและจักรพรรดิเหิงอวี้ ร่างกายของเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
เย่ฟ่านใช้ทักษะของเฟิ่งหวงฟื้นคืนชีพมานับครั้งไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามแม้ว่าจักรพรรดิทั้งสองคนจะถูกสร้างขึ้นมาจากสายฟ้า แต่ทักษะเต๋าของพวกเขากลับมีรูปแบบเฉพาะตัวที่สามารถสร้างภัยคุกคามให้กับเย่ฟ่านอย่างไม่สิ้นสุด
“บูม”
ในเวลาต่อมาเจดีย์ทองคำปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ทำลายกาลเวลาและพื้นที่อันเป็นนิรันดร์พร้อมกับโจมตีเข้าหาร่างกายของเย่ฟ่าน ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาถูกทำลายกลายเป็นเถ้าถ่านทันที
จักรพรรดินีตะวันตกแห่งเหยาฉือปรากฏตัวขึ้นแล้ว!
เย่ฟ่านเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่และรอดพ้นจากความตายได้อย่างหวุดหวิด อย่างไรก็ตามดูเหมือนสวรรค์จะไม่มีความเมตตาต่อเขาแม้แต่น้อย
ในขณะนี้จักรพรรดิคนที่สามปรากฏตัวขึ้นแล้ว นี่คือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเป่ยโต้วถึงสามคน
ต่อให้ไม่นับรวมจักรพรรดินีหนี่วาและเสินหนง แต่เพียงแค่จักรพรรดิเหิงอวี้ จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่า และจักรพรรดินีตะวันตกสามคนก็เพียงพอที่จะสังหารเขาได้นับสิบครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากเย่ฟ่านยอมรับความพ่ายแพ้เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
“บูม!”
ทะเลสายฟ้าที่มีรัศมีหลายล้านลี้กวาดเข้าหาเย่ฟ่านจากทางด้านหลัง ชายหัวล้านที่สวมมงกุฎสีทองปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ในเวลานี้รูปร่างของเขามีความแจ่มชัดมากกว่าเมื่อครู่ยังเทียบกันไม่ได้
จักรพรรดิฝูซี ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกแล้ว!
เย่ฟ่านจมอยู่ในความสิ้นหวังโดยสมบูรณ์ เขาใช้ทักษะซิงจื่อหลบหลีกการโจมตีซ้ำแล้วซ้ำ อย่างไรก็ตามสายฟ้าคือสิ่งที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วมากที่สุดในจักรวาล ต่อให้เย่ฟ่านหนีไปไกลแค่ไหนก็ไม่มีวันหนีพ้น
มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก หากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวเย่ฟ่านมั่นใจว่าจะรับมือใครคนใดคนหนึ่งได้ อย่างไรก็ตามทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สั่นสะเทือนฟ้าดินตั้งแต่ยุคโบราณ แล้วเขาจะมีโอกาสรอดชีวิตได้อย่างไร!
เย่ฟ่านไม่เคยเจอคนเหล่านี้มาก่อน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พวกเขาล้วนเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถเอาชนะอัจฉริยะในรุ่นเดียวกันและก้าวไปยืนบนจุดสูงสุดของยุคสมัยได้
พวกเขาคือผู้อยู่ยงคงกระพันอย่างแท้จริง บางทีในบรรดาคนใดคนหนึ่งที่อยู่ที่นี่อาจมีผู้ที่สามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแห่งความเป็นอมตะได้แล้วด้วยซ้ำ!
เยฟ่านต้องการศัตรูที่แข็งแกร่งพอๆ กับเขา มาโดยตลอด เขาต้องการใช้พลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ขัดเกลาตัวเองเพื่อที่จะมีโอกาสกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของจักรพรรดิทุกคนนั้นอุกอาจเกินไป ในเวลานี้มีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ถึงหกคน ทั้งยังมีเทพสายฟ้าอีกสิบคนยืนอยู่เบื้องหลังจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของโลกมนุษย์ทั้งสาม
พวกเขาเพียงคนเดียวก็มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเย่ฟ่านแล้ว แต่เมื่อมีคนเหล่านี้ปรากฏขึ้นพร้อมกัน ดูเหมือนสวรรค์จะไม่เปิดโอกาสให้เย่ฟ่านรอดชีวิตได้เลย
“บูม”
เย่ฟ่านหลีกเลี่ยงไม่ได้ กระจกโบราณแห่งความว่างเปล่าปลดปล่อยพลังกระแทกแผ่นหลังของเขาอย่างรุนแรง
เตาเหิงอวี้ดูเหมือนจะบรรทุกเปลวไฟไว้อย่างไม่สิ้นสุด เปลวไฟสีแดงจากโลหิตหงส์เผาผลาญไปทั่วความว่างเปล่า
ในขณะเดียวกันแสงสีทองที่ถูกยิงออกมาจากเจดีย์น้ำตาเซียนก็ทำให้ร่างกายของเย่ฟ่านซึ่งฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ถูกทำลายลงอีกครั้ง
ในขณะนี้แม้ว่าเย่ฟ่านจะฟื้นคืนชีพกลับคืนมาอีกครั้ง แต่สภาพของเขายังคงพังยับเยินเพราะพลังแห่งความเป็นอมตะใกล้จะหมดลงแล้ว
ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยต้องทุกข์และตกอยู่ในสถาการณ์ที่สิ้นหวังเช่นนี้มาก่อน
เย่ฟ่านยังอยู่ในขอบเขตของความเป็นมนุษย์เท่านั้น เขายังมีระยะห่างที่ไกลอย่างยิ่งกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทุกคน สภาพของเขาที่ถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงยากที่จะประคองตัวเองได้อีก!
“บูม”
เลือดสีทองกระจายไปทั่วทั่งอากาศ เย่ฟ่านใช้ทักษะลับ เลือดเนื้อและกระดูกของเขาฟื้นคืนชีพกลับคืนมาอีกครั้ง พร้อมกับปลดปล่อยเปลวไฟสีทองให้โหมกระหน่ำขึ้นสู่ท้องฟ้า
เย่ฟ่านไม่หลงเหลือความหวาดกลัวไปนานแล้ว นี่คือหายนะที่ไม่เคยเกิดขึ้นาก่อนในสมัยโบราณ หากเขาเอาชนะไม่ได้เขาก็ต้องตายอยู่ดี
“บูม”
เย่ฟ่านแยกร่างออกเป็นสามคน ร่างแยกเซียนทั้งสามนั้นมีลักษณะเหมือนกันกับเย่ฟ่านทุกประการ แม่ว่าตอนนี้จะไปยังเป็นการต่อสู้สามต่อหกแต่มันก็ทำให้สถานการณ์ของเขาดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย!
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ร่างกายของเย่ฟ่านฟื้นคืนชีพซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเพียงคนเดียวจะต้องต่อสู้กับศัตรูถึงสองคน มันจึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะเอาชนะศัตรูได้
“การต่อสู้กับจักรพรรดิหกคนข้าจะต้องตายอย่างแน่นอน ข้าควรทำอย่างไร?” เย่ฟ่านถามตัวเอง
หากมีใครพบเห็นสถานการณ์นี้พวกเขาจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน เพียงแค่ต่อสู้กับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนเดียวและไม่ถูกทุบตีจนตายทันทีก็นับเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากพอแล้ว
นี่คือความสำเร็จที่หากเป็นคนทั่วไปพวกเขาจะต้องเกิดความภาคภูมิใจไปตลอดกาล
“บูม”
บนท้องฟ้ามีดวงอาทิตย์สามดวงส่องแสงขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นดวงอาทิตย์ที่ปรากฏขึ้นจากปลายสุดของจักรวาล เมื่อรวมเข้ากับจักรวรรดิผู้ยิ่งใหญ่หกคนตรงนี้ ผู้ที่ปรากฏตัวออกมาเพื่อสังหารเย่ฟ่านจึงมีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ถึงเก้าคน!
เย่ฟ่านสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บเขาไม่รู้จักจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่สามคนที่ปรากฏตัวขึ้นมา แต่เย่ฟ่านรู้ว่าเจ้าของระฆังสีทองนั้นจะต้องเป็นอู่ซืออย่างแน่นอน!
………