ตอนที่แล้วตอนที่ 249 เหยื่อและผู้ล่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 251 มหาวิทยาลัยแร็คน่าร์

ตอนที่ 250 โลกสมบูรณ์แห่งที่ 2(ฟรี)


ตอนที่ 250 โลกสมบูรณ์แห่งที่ 2

การหายตัวไปของลุคหลายวันทำให้หลายฝ่ายที่จับตามองเริ่มจะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติขึ้นมาบ้าง หนึ่งนั้นรวมถึงแซมสันหนึ่งในผู้นำของคณะปฏิวัติ กล่าวว่าตนคือปู่ของลุคกับเจนและชักชวนเขาไปฐานของคณะปฏิวัติ

แซมสันเคยทิ้งคำไว้ว่าจะกลับมาหาเขาอีกครั้ง หลังจากจัดการเรื่องราวต่าง ๆ และวุ่นวายอยู่สักพักแซมสันก็ไม่ลืมเรื่องของลุค ได้ส่งคนมาติดต่อลุคหลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธพบหน้าอยู่เสมอ ทำให้เริ่มสังเกตถึงความผิดปกติขึ้นมาเรื่อย ๆ

เพราะต่อให้จะไม่อยากจะไปยังไง ก็ควรจะมาปฏิเสธด้วยตัวเอง แต่ลุคกลับไม่เคยออกมาพบด้วยตัวเอง แถมจากการจับตามองก็พบว่าลุคแทบไม่เคยออกไปนอกฐานของกิลด์เทพศาสตราวุธเลย

แม้จะอยู่ในช่วงกฎอายการศึก แต่การเก็บตัวของลุคก็ประหลาดมาก ขนาดที่แม้แต่สหพันธรัฐต้องการเข้าพบก็ยังไม่สามารถพบได้

“รายงานครับ เราตรวจสอบแล้วพบว่าการปรากฏตัวครั้งล่าสุดของเขาคือเมืองเซนบีซ่า ดูเหมือนเข้าจะเข้าไปติดต่อกับผู้อำนวยการวูกแห่งสำนักงานเหนือมนุษย์ประจำเมืองเซนบีซ่า ส่วนรายละเอียดการพูดคุยนั้นเป็นการเข้าไปติดต่อเพื่อขอใบอนุญาตเข้าไปยังชิ้นส่วนโลกต่างมิติระดับ B แต่ว่าเป็นที่ไหนนั้นไม่สามารถรู้ได้ เพราะข้อมูลอื่น ๆ สูญหายไป” หนึ่งในคนของแซมสันอธิบาย

“สูญหายไปหมายความว่ายังไง” แซมสันถามด้วยความสงสัย

“เกิดมอนสเตอร์ปะทุออกมาจากชิ้นส่วนโลกต่างมิติระดับ B มันคือแกะปีศาจและยังมีบางส่วนที่เป็นแมงมุมม่านหมอกกับพรายไม้ แต่นับเป็นส่วนน้อย ฝูงแกะปีศาจคือมอนสเตอร์หลักที่มีจำนวนหลายล้านตัว”

พอได้ฟังรายงานแซมสันก็ขมวดคิ้วในทันที จนแทบจะลืมถามเรื่องราวของลุคแล้ว เพราะการปะทุขึ้นมาของภัยพิบัติมอนสเตอร์ที่ออกมาจากชิ้นส่วนโลกต่างมิติระดับ B ครั้งนี้แปลกเกินไป

ต่อให้เป็นชิ้นส่วนระดับ B ก็ไม่อาจจะรองรับมอนสเตอร์ได้ขนาดนี้ แถมดูเหมือนจะมีพวกตัวที่ทรงพลังมากอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นแค่มอนสเตอร์ทั่วไปคงไม่สามารถทำลายเมืองหลวงของรัฐเซนบีซ่าได้

แซมสันเหมือนเชื่อมโยงเรื่องราวบางอย่างได้ก็ยิ่งทำให้แววตาของเขาแข็งกร้าวขึ้นมาทันควัน

‘เผ่าอสูร พวกมันลงมือเร็วกว่าที่คิด’

แซมสันเงยหน้าที่เหี่ยวย่นของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยสั่งการลงไปในทันที

“เลื่อนแผนการขึ้นมาเราต้องลงมือก่อนที่พวกเผ่าอสูรจะทำสำเร็จ”

“แล้วสิ่งนั้นละครับ”

“พาไปด้วย มันจะมีประโยชน์แน่นอน อีกอย่างแจ้งไปยังนางให้ทำตามข้อตกลงได้แล้ว”

“ครับท่าน”

แซมสันสั่งการเสร็จก็ยื่นมือหยิบถ้วยชาที่ร้อนกำลังดีมีควันลอยขึ้นมาเล็กน้อยขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากก่อนจะดื่มลิ้มรสสัมผัสอย่างช้า ๆ ขณะที่ในใจก็พลางคิดว่า ‘คงจะทัน’

...

ที่ตึกกิลด์หลังใหญ่ของกิลด์เทพศาสตราวุธ

นิโคลกำลังมองคนของแซมสันจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เพราะยิ่งเธอปฏิเสธไม่ให้พวกนั้นเข้าพบลุคมากเท่าไหร่ คนเหล่านั้นก็ยิ่งพากันมามากขึ้นเท่านั้น นี่ยังไม่นับรวมพวกสำนักงานเมืองและกองทัพของสหพันธรัฐที่ต้องการให้ลุคไปพบพวกเขา แม้เธอจะใช้ข้ออ้างที่ว่าลุคบาดเจ็บร้ายแรงหลังจากกลับมาจากเมืองเซนบีซ่าที่ล่มสลายแห่งนั้น

แต่ก็ดูเหมือนทุกคนจะไม่ค่อยเชื่อและคิดว่าลุคอาจจะกำลังหลบหน้าสำนักงานเมืองและกองทัพเพื่อปฏิเสธในการเข้าร่วมกับพวกเขา และก็ยังมีบางคนที่คิดว่าลุคไม่ได้อยู่ที่กิลด์ แต่กำลังออกไปทำบางอย่าง นี่ทำให้สหพันธรัฐเริ่มระแวงกิลด์เทพศาสตราวุธและต้องการพบลุคให้ได้

“นายจะกลับมาตอนไหน ถ้าช้ากว่านี้พวกสหพันธรัฐได้บุกเข้ามาในกิลด์แน่” นิโคลเอ่ยด้วยความกังวล แต่แล้วตอนนั้นเองก็มีรายงานเข้ามาว่ามีของบางอย่างมาส่งที่กิลด์โดยด้วยรหัสลับ

นิโคลรีบลงไปตรงตรวจสอบก่อนจะเห็นว่ามันคือกล่องที่ใส่หน้ากากไม้ ผ้าคลุมและหมวก

คนอื่น ๆ ไม่เข้าใจ แต่พอนิโคลสัมผัสมันก็รับรู้ได้ทันทีว่านี่คือสิ่งที่ลุคส่งมา และทำไมเขาถึงรู้ก็ง่ายมาก ไอเทมทุกชิ้นของลุคสามารถมอบสิทธิ์ให้ใครใช้งานก็ได้ ทันทีที่นิโคลจับมันเธอก็สามารถใช้งานและรับรู้ถึงความสามารถของไอเทมในทันที

“ปลอมตัว หลบซ่อนและปรับเปลี่ยน” นิโคลเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ลุคส่งมาและต้องการให้เธอทำ แถมหน้ากากนั้นยังบันทึกตัวตนของลุคไว้ด้วย

“ท่านนิโคลคนของสำนักงานเมืองต้องการพบท่านผู้นำกิลด์อีกแล้ว ให้ผมปฏิเสธไปเหมือนที่เคยทำหรือไม่”

“ไม่ต้องให้พวกเขาไปรอที่ห้อง ฉันจะตามท่านผู้นำกิลด์มาพบพวกเขาเอง”

เจ้าหน้าที่กิลด์ประหลาดใจ แต่ก็ทำตามที่นิโคลบอก

นิโคลหยิบไอเทมทั้งสามมาก่อนจะเดินออกไปพบกับคนจากสำนักงานเหนือมนุษย์ แต่ก่อนนั้นแน่นอนว่าต้องไปหาบอสตันซะก่อน

...

วันนัดหมายของผู้จัดหาแรงงานเถื่อนมาถึงลุคและคามิลก็สวมใส่หน้ากากและไปยังจุดนัดหมาย จุดนัดหมายอยู่ค่อนข้างไกล แต่ก็ไม่ไกลมากสำหรับเหนือมนุษย์อย่างพวกเขา

พอไปถึงจุดนัดหมายตามเองกสารก็เป็นข้าง ๆ สนามเด็กเล่นแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีรถบัสจอดรออยู่ ด้านข้างเขียนว่ารถโดยสารรับส่งพนักงานของบริษัท xxxxxx

นี่เป็นหนึ่งในวิธีการที่จะพาแรงงานเถื่อนปะปนเข้าไปกับแรงงานถูกกฎหมาย

เมื่อมาถึงแต่ละคนก็เช็คชื่อและรับบัตรพนักงานมา บัตรมีความสำคัญมาก เพราะมันมีข้อมูลต่าง ๆ ของเจ้าของตัวตนจริง ๆ อยู่ ขอแค่ใช้งานมันก็สามารถผ่านเข้าไปได้แล้ว ส่วนเรื่องหน้าตาในบัตรก็ถูกเปลี่ยนเป็นหน้าพวกเขาแต่ละคนเรียบร้อยเสร็จสับ

ลุครับบัตรมาก็เดินขึ้นรถบัสไปหาที่นั่ง ข้าง ๆ เขาคือคามิลที่รับบัตรมาเหมือนกัน

ชื่อที่ลุคปลอมตัวมานั้นมีชื่อว่า กันต์ ส่วนของคามิลคือ หลุยส์

ชื่อของคามิลเป็นผู้ชายเพราะว่าตัวตนที่เธอใช้ปลอมมาจากหนึ่งนามของคนที่พวกเขาจัดการไปเมื่อวานและทั้งสามก็เป็นผู้ชาย

ตำแหน่งของพวกเขาค่อนข้างแตกต่างจากแรงงานเถื่อนคนอื่น ๆ ถ้าเป็นคนธรรมดาพวกเขาจะถูกระบุตำแหน่งเป็นพนักงานเหมืองทั่วไป ฝ่ายขุดเจาะ หรือจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คนงานขุดเมือง

ส่วนของเหนือมนุษย์จะเป็นพนักงานเหมืองระดับกลาง ฝ่ายสำรวจ

ทั้งสองต่างกันคือฝ่ายขุดเจาะจะทำตามที่สั่ง มีเป้าหมายงานและคนควบคุม ส่วนฝ่ายสำรวจก็ตามตัวพวกเขามีอิสระมากกว่าในการไปทั่วทั้งเมือง เพราะสำรวจและจัดการมอนสเตอร์บางตัวที่หลงเข้ามา

หน้าที่พวกนี้ย่อมเป็นของเหนือมนุษย์อยู่แล้ว

ลุคสังเกตดูก็พบว่าไม่ได้มีมากันทุกคน อย่างแรกเด็กสองคนนั้นที่เขาช่วยไว้ไม่ได้มา ซึ่งก็เดาว่าคงทำตามคำแนะนำของเขา ส่วนที่หายไปก็มีตัวตนของลุคที่เคยมาลงทะเบียนไว้

และอีกคนคือสหายที่เขาทั้งสองยืมตัวตนมา

ไม่มีใครสนใจคนที่ไม่มา เพราะยังไงซะพวกจัดหาแรงงานเถื่อนก็ได้รับค่าจ้างมาแล้ว จะมาหรือไม่ไม่ต่างกัน เพราะว่าพอถึงเวลาจริง ๆ พวกเขาก็จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตามจำนวนคน ส่วนคนที่ไม่มีก็สามารถเก็บเงินเหล่านั้นเข้ากระเป๋าตัวเองไว้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

รถบัสพาพวกเขาเข้าไปยังฐานหน้าประตูที่นี่มีแรงงานจำนวนมากการตรวจสอบก็เหมือนกับการเดินเข้าสนามบินมีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารและยืนยันตัวตน

ทุกคนเข้าแถวและยื่นบัตรพนักงาน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเสร็จก็ผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย

ลุคค่อนข้างเกร็งเล็กน้อย ตอนผ่านด่านตรวจ ถ้าเกิดว่ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมาเขาก็คิดว่าจะหนีและสลายตัวเองเป็นหมอกแอบขึ้นรถไฟให้ได้ แม้จะเสี่ยง แต่ก็ยังดีกว่าไม่สามารถเข้าไปช่วยเจนออกมาได้

ทว่าดูเหมือนลุคจะกังวลจนเกินไป เพียงเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัตรของเขาก็ยืนยันตัวตนสำเร็จและให้เขาผ่านไปได้ในทันที

“สำเร็จ เท่านี้ก็เหลือแค่ผ่านประตูเข้าไป”

ลุคมองผ่านกระจกที่นั่งบนรถไฟที่กำลังจะวิ่งผ่านประตูมิติเข้าไปยังโลกสมบูรณ์ที่ 2 ตอนนี้แผนการของลุคได้ดำเนินมาถึงหนึ่งในสามของแผนแล้ว

เหลือแค่ไปหาเจนและอีลิกให้เจอ จากนั้นก็พาทั้งสองออกไปกลับไปที่เมืองปลายฝน ทุกอย่างก็จะเสร็จสิ้น

รถไฟที่วิ่งผ่านประตูมิติระหว่างโลกและโลกสมบูรณ์แห่งที่ 2 นั้นค่อนข้างง่ายและเสถียรกว่าของประตูมิติโลกสมบูรณ์แห่งที่ 3 มาก เพราะประตูแห่งนี้เปิดและอยู่มานานมาก

มันเหมือนกับว่ายิ่งเชื่อมต่อกันนานมากแค่ไหนก็ยิ่งเหมือนว่าผ่านของทั้งสองโลกจะรวมเข้าหากันจนแทบไม่ต่างจากการเดินข้ามเส้นที่ขีดไว้บนพื้นดินเดียวกัน

ยิ่งเป็นประตูมิติโลกสมบูรณ์แห่งที่ 1 แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถเดินข้ามไปได้โดยไม่ต้องใช้รถไฟช่วยในการปกป้องด้วยซ้ำ ส่วนที่นี่ยังต้องมีการป้องกันไว้อยู่ไม่ให้คนธรรมดาปะทะกับม่านพลังภายนอกของประตูมิติตรง ๆ

อันที่จริงตอนนี้ต่อให้เดินผ่านม่านพลังงานตรง ๆ คนธรรมดาทั่วไปอย่างมากก็แค่มึนหัวไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น มันถือว่าปลอดภัยไม่ถึงกับตาย

รถไฟพลังงานต่างมิติข้ามผ่านประตูไปในพริบตาก่อนจะไปจอดยังสถานีของอีกฝั่ง ที่นี่ราวกับเป็นเมืองที่แตกต่างจากโลกอีกฝั่งอย่างชัดเจน เพราะแทบจะทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้หินและโลหะเสริมเข้าด้วยกัน

โลหะเป็นเพียงแค่โครงเท่านั้น ส่วนหินคือวัสดุที่แท้จริง เนื่องจากในโลกสมบูรณ์หินที่ดูดซับพลังงานต่างมิติจะแข็งแกร่งไม่ต่างจากโลหะ แถมยังมีจำนวนมาก ดังนั้นแทนที่จะเสียเวลาขนย้ายวัสดุก่อสร้างมาพวกเขาก็ใช้วัสดุที่แข็งแกร่งในโลกนี้สร้างเมืองและป้อมปราการขึ้นมาแทน

แน่นอนว่าไม้เองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ใช้งานเช่นกัน มันจึงทำให้เมืองในโลกนี้ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ต่างจากโลกมนุษย์

แต่ละจุดของเมืองยังมีหอคอยสูง หอคอยแบบนี้ลุคเคยเห็นมาก่อนในเมืองปลายฝนและเมืองอื่น ๆ ของสหพันธรัฐ พวกมันคือที่เก็บปืนใหญ่พลังงานและใช้โจมตีมอนสเตอร์ แต่ขนาดนั้นทรงพลังกว่าด้านนอกมาก

นี่คือปืนใหญ่พลังงานระดับ B ที่สามารถสร้างความเสียหายต่อมอนสเตอร์ระดับ B และยังมีขนาดต่าง ๆ กันกระจายอยู่เป็นรูปแบบล้อมรอบด้วย นั้นก็เพื่อการใช้งานให้เหมาะสม เพราะถ้าเจอมอนสเตอร์ระดับ C หรือต่ำกว่าลงมาแต่ใช้งานปืนใหญ่พลังงานระดับ B ก็คงจะไม่ต่างจากการฆ่าไก่ด้วยมีดฆ่าโคถึก

ลุคและคามิลมองดูเมืองที่กว้างใหญ่แห่งนี้ด้วยความสนใจ พวกเขาสองคนพึ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก เมืองนั้นกว้างมากจนไม่สามารถมองเห็นกำแพงของเมืองได้ เมืองถูกพัฒนามานานมากแล้ว ไม่แปลกที่จะมีขนาดใหญ่แบบนี้

ประชากรที่นี่มีจำนวนมากและก็มีทั้งคนธรรมดาและเหนือมนุษย์ แต่เหมือนคนธรรมดาส่วนใหญ่จะต้องเดินทางไปกลับทุกสัปดาห์ เพื่อไม่ให้พลังงานที่นี่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของพวกเขา

หลังจากลงจากสถานีรถไฟแล้วก็ต้องไปขึ้นรถไฟสายอื่นต่อรถไฟแต่ละสายไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคน แต่ว่ามันถูกใช้เพื่อขนย้ายทรัพยากรภายในเมืองเป็นหลัก ส่วนคนนั้นเป็นเรื่องรอง แต่ก็สามารถใช้งานด้วยกันได้

พวกเขาถูกพามายังขอบนอกสุดของเมืองที่ห่างออกไป 100 กิโลเมตรจากประตูมิติหลัก ส่วนที่ลุคและคามิลรู้ว่ามันคือขอบนอกแล้วก็เพราะพวกเขาเห็นกำแพงขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ส่วนประตูที่เปิดโลงนั้นเต็มไปด้วยผืนป่าและต้นไม้ที่ดูน่าหวาดกลัว

“ลง พวกเราจะขึ้นรถลากมอนสเตอร์ไปกันต่อ”

“รถลากมอนสเตอร์เหรอ” ลุคได้ยินก็รู้สึกสนใจทันที

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด