ตอนที่แล้วตอนที่ 14 ภารกิจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น

ตอนที่ 15 ศิษย์พี่ ท่านช่างเป็นคนดี!


ตอนที่ 15 ศิษย์พี่ ท่านช่างเป็นคนดี!

“ข้าอยากรู้ว่าศิษย์พี่ทั้งสองจะเต็มใจประลองกับข้าหรือไม่?” ลู่อี้สงบลงและถามด้วยรอยยิ้ม

หลู่หลิงและหวังอู๋เหลียนต่างมองหน้ากัน ทั้งคู่นั้นมองเห็นความกระตือรือร้นในดวงตาของกันและกันได้

หลู่หลิงยิ้มแล้วพูดว่า "แน่นอน! ตอนที่ข้าอยู่ที่ยอดเขาไป๋หยาง ข้านั้นประทับใจกับวิชาดาบเมฆาขาวของเจ้ามาก น้องชายลู่อี้ และข้าก็อยากจะประลองกับเจ้ามานานแล้ว"

หวังอู๋เหลียนเองก็หัวเราะ “ข้าก็เหมือนกัน! วันนี้ความปรารถนาของข้าก็สมหวังแล้ว”

“ถ้าอย่างงั้น ทำไมศิษย์พี่ทั้งสองไม่มาประลองกันทีละคนล่ะ?”

"ข้าขอก่อนนะ!" หวังอู๋เหลียนรีบกล่าวทันที

หลู่หลิงเหลือบมองหวังอู๋เหลียน จากนั้นก็ยักไหล่และไม่คัดค้าน

ลู่อี้พูดออกภารกิจในใจและได้รางวัลเช่นเดียวกับการเอาชนะหลู่หลิงที่เป็นเม็ดยาควบแน่นปราณขั้นสมบูรณ์

ทั้งสองเดินขึ้นไปบนลานประลองด้วยกันและศิษย์ฝ่ายนอกหลายพันคนก็มารวมตัวกันรอบลานประลองเพื่อดูทั้งสองคน

“ศิษย์พี่ลู่อี้ได้มาถึงระดับรวมปราณขั้นที่ 7 แล้ว”

“ศิษย์พี่หญิงหลิวหนิงซวงมอบยาควบแน่นปราณขั้นยอดเยี่ยมให้กับเขาก่อนหน้านี้! เมื่อรวมกับพรสวรรค์ของศิษย์พี่ลู่อี้แล้ว ความก้าวหน้านี้ไม่ใช่เรื่องปกติงั้นเหรอ?”

“ข้าไม่ได้อิจฉาพรสวรรค์ของศิษย์พี่ลู่อี้ ข้าแค่อิจฉาศิษย์พี่ลู่อี้ที่ได้ความโปรดปรานจากศิษย์พี่หญิงหลิวหนิงซวง มันคงจะดีมากถ้าข้าทำให้ศิษย์พี่หญิงหลิวหนิงซวงมามองข้าได้”

“...ฝันต่อไปเถอะ”

“ยังไงก็ตาม ศิษย์พี่ลู่อี้กับพี่หวังอู๋เหลียน พวกเจ้าคิดว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”

“จำเป็นต้องถามด้วยหรือ ต้องเป็นศิษย์พี่ลู่อี้อยู่แล้ว! วิชาดาบเมฆาขาวขอบเขตหวนคืนนั้นเจ๋งที่สุด”

“ถึงอย่างนั้น ข้าคิดว่าพี่หวังเองก็ไม่ได้อ่อนแอ เขามาถึงระดับรวมปราณขั้นที่ 9 แล้ว ว่ากันว่าเขาอยู่ห่างจากขั้นที่ 10 เพียงก้าวเดียวเท่านั้นและความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเลย”

“เราก็แค่ดูมัน!”

ไม่ได้มีเพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่พูดคุยกัน แต่หวังซินฉีและหลู่หลิงเองก็พูดคุยกันด้วย

หวังซินฉีถามอย่างสงสัย "พี่หลู่ ท่านคิดว่าใครจะชนะ?"

หลู่หลิงส่ายหัว "ข้าไม่รู้ พูดตามหลักแล้ว ข้าเอนเอียงไปทางน้องหวังมากกว่า แต่วิชาขอบเขตหวนคืนก็พิเศษมากและน้องชายลู่ก็มีโอกาสที่จะชนะเช่นกัน"

หวังซินฉีมองไปที่ลู่อี้พร้อมกับอิจฉาในใจ "ถ้าอย่างนั้น ศิษย์น้องลู่ก็มีความแข็งแกร่งถึง 100 อันดับแรกในนิกายฝ่ายนอกงั้นหรือ? เขาอยู่ระดับรวมปราณขั้นที่ 7 เท่านั้นเอง... "

หลู่หลิงเหลือบมองหวังซินฉี "อัจฉริยะที่สามารถเข้าใจวิชาขอบเขตหวนคืน แถมยังมีระดับรวมปราณขั้นที่ 7 อีก ในตอนนี้ฐานการเพาะปลูกในปัจจุบันของลู่อี้ค่อนข้างต่ำ แต่ตราบใดที่เขาไปถึงระดับรวมปราณขั้นที่ 8 แม้แต่ฐานะศิษย์ฝ่ายในเอง เขาก็อาจจะสามารถสู้เพื่อมันได้"

“ฮิส…” หวังซินฉีหายใจไม่ออก

บนลานประลอง ลู่อี้และหวังอู๋เหลียนยืนเผชิญหน้ากัน หวังอู๋เหลียน หยิบดาบของเขาออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ศิษย์น้องลู่อี้ วิชาที่ข้าฝึกฝนคือวิชาดาบหลิวเฟิงซึ่งได้มาถึงขอบเขตความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แล้ว ศิษย์น้องลู่อย่าออมมือเชียวล่ะ ข้ายังคงหวังว่า เจ้าจะสามารถชี้แนะข้าให้วิชาดาบของข้าก้าวข้ามขอบเขตไปได้”

ลู่อี้หยิบดาบออกมาอย่างสบายๆ และยิ้มเล็กน้อย “อย่ากังวลไป พี่หวัง ข้าจะไม่ออมมืออย่างแน่นอน! ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น”

อืม...คงไม่ต้องใช้วิชาดาบระดับ 7 เพื่อที่จะได้ไม่ทำร้ายเขามากเกินไป

โอ้ เขาเพิ่งอัพเกรดวิชาเคลื่อนไหวเมฆาขาวเป็นระดับ 7 เมื่อวานนี้ด้วยหนิ หากจำเป็นก็ใช้ระดับ 6 ล่ะกัน

ลู่อี้คิดกับตัวเอง

หวังอู๋เหลียนรู้สึกพอใจมากเมื่อได้ยินคำพูดของลู่อี้ จากนั้นก็ไหลเวียนปราณไปทั่วร่างกายของเขาและพุ่งไปหาลู่อี้จนเสื้อคลุมสีฟ้าของเขาส่งเสียงดัง ร่างกายของเขากลายเป็นเงาสีน้ำเงินและความเร็วของเขาก็เร็วมาก

แน่นอนว่าวิชาเคลื่อนไหวของหวังอู๋เหลียนเองก็ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเช่นกัน

ในความเป็นจริง ที่ศิษย์ระดับสูงของนิกายฝ่ายนอก โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีข้อบกพร่องที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นฐานการฝึกฝนหรือวิชา ที่ค่อนข้างดี ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเข้าสู่ 100 อันดับแรกในนิกายฝ่ายนอกได้อย่างไร?

ความสามารถในการเข้าสู่ 100 อันดับแรกในบรรดาศิษย์ฝ่ายนอกที่มีมากกว่า 100,000 คนก็ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะสำหรับคนธรรมดาแล้ว

แน่นอนว่า แม้ว่าความเร็วของหวังอู๋เหลียนจะค่อนข้างดี แต่มันก็ยังไม่เร็วพอสำหรับลู่อี้

ใบหน้าของลู่อี้สงบและดาบก็สั่นไหว ต่อมาปราณดาบก็กลายเป็นเมฆ ในขณะที่เขาเข้าไปปะทะ

กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง!!

ในขณะที่ร่างของทั้งสองกำลังปะทะกัน ก็มีเสียงปะทะกันอย่างต่อเนื่อง และการปะทะกันของปราณกลายเป็นพลังงานโปร่งแสงแพร่กระจายไปยังบริเวณโดยรอบ ลมแรงพัดเสื้อคลุมของศิษย์ที่อยู่รอบๆ

ศิษย์หลายคนยังคงไม่สะทกสะท้าน พร้อมกับจ้องมองไปที่ลานอย่างใกล้ชิดและหวังว่าพวกเขาจะได้มองทะลุเข้าไปในนั้นได้

เมื่อได้เห็นวิชาขอบเขตหวนคืน พวกเขาก็หวังว่าจะได้เข้าใจอะไรบางอย่าง

บนลานประลอง ร่างของลู่อี้และหวังอู๋เหลียนกระพริบไปมา เนื่องจากความเร็วของทั้งสองนั้นเร็วมากสำหรับคนธรรมดาทั่วไป พวกเขาอาจดูเหมือนผี แม้แต่ศิษย์ฝ่ายนอกที่อยู่ด้านล่างเอง เมื่อดูการแข่งขันระหว่างทั้งสองก็ยังรู้สึกลำบากเล็กน้อย

เกือบทุกลมหายใจ มีเสียงปะทะกันหลายครั้ง ปราณดาบอันรุนแรงลอยออกไปกับสายลมและการต่อสู้ก็ดุเดือดมาก

ท่าทางของหวังอู๋เหลียนดูสง่างามและเขาก็ใช้พลังทั้งหมดแล้ว แต่ทางด้านลู่อี้นั้นกลับไม่แสดงสีหน้าเลย พลางคิดในใจ สมกับเป็นศิษย์ชั้นยอดของนิกายฝ่ายนอก หวังอู๋เหลียนนั้นแข็งแกร่งกว่าหวังซินฉีมาก ไม่เพียงแต่ในแง่ของฐานการฝึกฝนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเชี่ยวชาญด้านวิชาที่แข็งแกร่ง และประสบการณ์ในการต่อสู้กับศัตรูก็มีความซับซ้อนมากขึ้น

ลู่อี้ไม่มีประสบการณ์เท่าหวังอู๋เหลียน ในแง่ของการเผชิญหน้ากับศัตรู แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นแข็งแกร่งกว่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่ แต่เขาก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งอันแท้จริง ทุกอย่างก็ไร้ความหมาย

ตราบใดที่ลู่อี้ต้องการ เขาก็สามารถยุติการต่อสู้ได้ภายในไม่กี่กระบวนท่า แม้ว่าจะไม่ได้ใช้วิชาดาบเมฆาขาวระดับ 7 ก็ตาม อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ของลู่อี้ก็คือการฟาร์มรางวัลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแน่นอนว่าเขาจะไม่จบการต่อสู้เร็วมากนัก

พี่หวังเป็นผู้ช่วยที่ดีในการช่วยให้เขาฟาร์มรางวัล ดังนั้นเขาจึงต้องแสดงวิชาดาบเมฆาขาวขอบเขตหวนคืนเพื่อทำให้ผู้คนได้เรียนรู้ และจะได้ไม่ไปกระทบต่อความภาคภูมิใจและหยุดมาสู้กับเขาด้วย

ลู่อี้รู้สึกว่าเขาค่อนข้างใจดีเลยทีเดียว

บนสนามประลองทั้งสองประดาบกันหลายร้อยรอบ

ลู่อี้เหวี่ยงดาบในมือของเขาและการไหลของอากาศก็เปลี่ยนไป ปัดดาบของหวังอู๋เหลียนออกไป

จากนั้นก็ใช้ประโยชน์จากช่องว่างของหวังอู๋เหลียน ร่างของลู่อี้กลายเป็นลำแสงพุ่งเข้ามาหาหวังอู๋เหลียนในทันที และวางดาบไปที่คอของหวังอู๋เหลียน

หวังอู๋เหลียนตัวแข็งทื่อพลางเหลือบมองดาบบนคอ จากนั้นหายใจออก ส่ายหัวและยิ้มอย่างแข็งๆ "ข้าแพ้แล้ว ศิษย์น้องลู่อี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ"

ลู่อี้ยิ้มเล็กน้อย "ศิษย์พี่เองก็ไม่อ่อนแอ และข้าก็โชคดีที่ชนะ"

“ชนะคือชนะ แต่ข้าได้เรียนรู้มากมายจากการต่อสู้กับน้องชาย ดังนั้นข้าขอลงไปทำความเข้าใจก่อนได้หรือไม่” หวังอู่เหลียนกล่าวอย่างเร่งรีบ หากไม่สามารถทำความเข้าใจข้อมูลบางอย่างได้ทันเวลา สิ่งเหล่านั้นอาจหายวับไปเหมือนดาวตก

ลู่อี้เหลือบมองภารกิจที่เสร็จแล้ว พยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า "ศิษย์พี่ ไปทำความเข้าใจก่อนเถอะ หลังจากที่ท่านเข้าใจแล้ว เราก็สามารถเรียนรู้จากกันและกันต่อได้"

"จริงหรือ?!" หวังอู๋เหลียนเบิกตากว้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ลู่อี้พูดอย่างจริงจังว่า "แน่นอน เนื่องจากพี่ชายมีความเข้าใจบางอย่าง สิ่งเดียวที่ข้าสามารถช่วยได้คือประลองกับศิษย์พี่อีกสองสามครั้ง"

หวังอู๋เหลียนรู้สึกประทับใจมากจนแทบจะอยากจะร้องไห้ "น้องชายลู่อี้ เจ้าเป็นคนดีมาก! หากเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยในอนาคตก็มาหาข้าได้เลย! "

ลู่อี้ยิ้มเบา ๆ “พี่ชายจริงจังเกินไป ท่านรีบไปทำความเข้าใจเถอะ”

เขายังคงต้องทำภารกิจเอาชนะหลู่หลิงให้สำเร็จอยู่

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด