ตอนที่แล้วCD บทที่ 462 ราวกับเรื่องผี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 464 ฆาตกรอาจเป็นคนอื่น

CD บทที่ 463 ร้านอาหารเดอะบีน


‘เชี่ย ๆๆๆ!!!’

จ้าวหยู่รู้สึกหวาดกลัว เขาคิดกับตัวเองว่า

‘ร่างนั้นมันคืออะไรกันแน่ ทำไมมันถึงลอยไปมาล่ะ? หรือว่า... มันจะเป็น… ผี!!!’

‘หลิวเจียวงั้นเหรอ!?’

จ้าวหยู่รีบประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วพึมพำ

“ฉันมาที่นี่เพื่อแก้ไขความคับข้องใจของคุณ อย่ามาหลอกมาหลอนฉันเลยนะ”

เมื่อเขาพูดอย่างนั้น ทันใดนั้นเขาก็เห็นเงาที่ชั้นล่างซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้อง จากนั้นก็กลิ้งลงมา เมื่อเขามองใกล้ ๆ มากขึ้น เขาก็ตระหนักว่าร่างนั้นเป็นของมนุษย์ที่มีชีวิต คน ๆ นั้นได้สะดุดล้มลง

‘เชี่ยไรเนี่ย!? ทำให้ฉันตกใจแทบแย่!’

‘เดี๋ยวนะ…’

จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็เปลี่ยนความสนใจของเขา และนึกถึงอะไรบางอย่างได้!

‘โอ้พระเจ้า!’

‘วันนี้ฉันได้รับคำว่า ‘Gen’ คน ๆ นั้นจะเป็นเฟิงกั๋วรึเปล่านะ!?’

เมื่อจ้าวหยู่คิดเช่นนี้ เขารู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากสถานที่แห่งค่อนข้างอยู่ห่างไกลผู้คน ดังนั้นจึงไม่มีใครผ่านไปผ่านมา ถ้าลูกสาวของหลันซู่ผิงถูกซ่อนอยู่ที่นี่ มันก็จะเป็นจุดซ่อนตัวที่ดีที่สุด

และหลิวเจียวเสียชีวิตที่นี่ สถานที่แห่งนี้จึงมีความหมายกับเฟิงกั๋ว...

ในขณะนั้นเอง คนที่ล้มลงก็ลุกขึ้นยืนแล้ว และเห็นได้ชัดว่าต้องการหลบหนี จ้าวหยู่ไม่สามารถคิดต่อไปได้ แต่รีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันที

ทางขึ้นบันไดของอาคารที่จ้าวหยู่อยู่นั้นเป็นเส้นทางเดียวที่เชื่อมต่อกับภายนอก เมื่อเขารีบลงไปชั้นสอง เขาก็เจอเข้ากับคนที่กำลังวิ่งหนีผ่านบันได

จ้าวหยู่จะปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้อย่างไร?

ก่อนที่เขาจะไปถึงชั้นหนึ่ง เขาก็กระโดดข้ามรั้วของชั้นสอง และทับใส่ร่างของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง

"โอ๊ย!!!" บุคคลนั้นคร่ำครวญขณะที่เขาถูกทับโดยจ้าวหยู่

“จะหนีไปไหน!?” จ้าวหยู่เข้าควบคุมตัวเขาทันที และพลิกแขนไปข้างหลังเพื่อใส่กุญแจมือใส่เขา

"ผะผี! แม่จ๋า!” คนที่อยู่ข้างใต้พยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลังในขณะที่เขาตะโกน

“อย่าขยับ!” จ้าวหยู่ออกแรงกดในขณะที่เขารีบหยุดเขาไม่ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาได้ยินเขากรีดร้อง จ้าวหยู่ก็คิดกับตัวเองอย่างรวดเร็ว

‘เอ๊ะ?’

‘มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิ’

‘ทำไมคน ๆ นี้ถึงคิดว่าเขาเจอผีล่ะ? แถมเขายังตะโกนเรียกแม่ของเขาอีกด้วย...’

จากนั้น จ้าวหยู่ก็พลิกหน้าของเขาและส่องไปที่มันด้วยไฟฉายมือถือของเขา เขาเห็นว่าบุคคลนั้นเป็นชายหนุ่มอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น ใบหน้าของเขาซีดจากความหวาดกลัว

‘หา?’

ในที่สุด จ้าวหยู่ก็ตระหนักถึงความผิดพลาดของเขา คน ๆ นี้… ไม่ใช่คนที่เขาตามหา…

"คุณ… คุณ… คุณไม่ใช่ผีเหรอ?“ชายหนุ่มเห็นจ้าวหยู่ถือโทรศัพท์มือถือของเขา และในที่สุดก็ได้สติ เขาถามเสียงดังว่า”คุณ… คุณเป็นใคร!? คุณกำลังทำอะไรน่ะ!?"

"ฉันน่ะเหรอ!? ก็เป็นตำรวจไงเหล่า!" จ้าวหยู่ล็อคกุญแจมือของเขาแล้วถามว่า "เมื่อกี้เธอกำลังทำอะไร? ตอบฉันมา!"

"ตำรวจ!?" ชายหนุ่มพูดซ้ำอีกครั้ง เมื่อสติเริ่มกลับมา เขาก็ผ่อนคลายลงและตอบกลับว่า “ฉัน… ฉันมาที่นี่เพื่อจับจิ้งหรีด การจับจิ้งหรีดมันไม่ผิดกฎหมายใช่ไหม?”

“อะไรนะ!?”

จ้าวหยู่ดึงชายหนุ่มขึ้นมาจากพื้น และมองเขาขึ้นลง จากนั้นเขาก็เห็นอุปกรณ์ที่เขาใช้จับจิ้งหรีด

‘นี่ฉันพลาดงั้นเหรอ?’

“เดี๋ยวนะ!” จ้าวหยู่ตะโกนอย่างรวดเร็ว “ถ้าเธอแค่มาจับจิ้งหรีด ทำไมเธอถึงวิ่งหนีฉันด้วย? รู้มั้ยมันทำให้ฉันเสียเวลา”

“ก็คุณทำให้ฉันตกใจ!” ชายหนุ่มหอบหายใจขณะพูด “ฉันรู้ว่าอาคารหลังนี้มีผีสิง ไม่สิ ฉันหมายถึงมีคนตาย แต่วันนี้จิ้งหรีดเยอะมาก และฉันก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาจับพวกมัน

ตอนที่ฉันกำลังจับจิ้งหรีด ฉันเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าในห้องที่มีคนตาย จู่ ๆ มันก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมา และมีเงามนุษย์ ฉัน… ฉันจะไม่กลัวได้ยังไง?”

‘โธ่เอ๊ย!’

จ้าวหยู่สบถในใจและปลดล็อคกุญแจมือ เขากล่าวว่า

“ฉันเป็นตำรวจที่มาที่นี่เพื่อสอบสวนคดี ไม่ใช่ผีหรืออะไรทั้งนั้น เมื่อกี้เธอก็ทำให้ฉันตกใจเหมือนกัน!”

“ขอโทษด้วย ความผิดฉันเอง…” ชายหนุ่มก้มลงขณะที่พูด“ไม่ต้องกังวล ครั้งต่อไปแม้ว่าคุณจะให้ฉันยืมความกล้าสักร้อยเท่า ฉันก็ไม่กล้ามาที่นี่อีก! ฉัน…” จู่ ๆ ชายหนุ่มก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้และถามว่า “คุณตำรวจ ทำไมคุณถึงมาสอบสวนตอนกลางคืนล่ะ? มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

“เฮ้อ!” จ้าวหยู่มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ ไปที่ไหนสักแห่งที่มีคนมากกว่านี้และค่อยคุยกัน เธอไม่คิดเหรอว่าที่นี่เต็มไปด้วยพลังหยินบ้างงั้นเหรอ?”

ห้านาทีต่อมา

จ้าวหยู่พาชายหนุ่มไปที่ย่านการค้า มีคนกินข้าวเย็น เดินเล่น บางคนถึงกับเต้นรำ ทั้งสองคนเจอม้านั่งที่ว่างอยู่ตรงข้างทางและนั่งลง จากนั้น จ้าวหยู่ก็ปลดล็อคโทรศัพท์ของเขา และแสดงรูปถ่ายของเฟิงกั๋วให้ชายหนุ่มดู

“เธอเคยเห็นผู้ชายคนนี้บ้างมั้ย?” เขาถามชายหนุ่ม

ชายหนุ่มมองและส่ายหัวแล้วพูดว่า

“ไม่ ไม่เคยเลย โอ้ คุณตำรวจ คุณมาที่นี่เพื่อจับกุมใครบางคนเหรอ? คุณคิดว่าจะมีคนมาซ่อนตัวอยู่ในสถานที่แบบนั้นเหรอ?”

“อืม… ใช่” จ้าวหยู่กล่าวพลางพยักหน้า

“ฉันกล้าพูดเลยว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นแน่นอน!” ชายหนุ่มกล่าวว่า “ไม่กี่วันก่อน ต้าหลิวและซานไป่ก็ไปจับจิ้งหรีดด้วยกัน ถ้ามีคนซ่อนอยู่ที่นั่น เราน่าจะรู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว!”

"โอ้!" จ้าวหยู่พยักหน้า ดูเหมือนว่าเฟิงกั๋วไม่ได้ซ่อนอยู่ที่นั่น

“แต่ว่า...” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายและพูดว่า “ห้องที่คุณเข้าไปก่อนหน้านี้ ตอนนั้นมีคนตายด้วย ฉันยังกลัวไม่หายเลย”

“ปีนี้เธออายุเท่าไหร่?” จู่ ๆ จ้าวหยูก็ถามขึ้น

“19 ทำไมเหรอ?” ชายหนุ่มพูดขณะที่เขาหยิบบุหรี่หนึ่งซองออกมาจากกระเป๋าหลังของเขา และกำลังจะจุดไฟ

ทันใดนั้น จ้าวหยู่ก็คว้าบุหรี่ออกมาจากมือของชายหนุ่ม

“เธอรู้อะไรเกี่ยวคดีฆาตกรรมบ้างมั้ย?”

“บุหรี่… เออ…” ชายหนุ่มไม่กล้าขอบุหรี่คืน แต่ตอบตามตรงว่า “ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก ฉันจำได้แค่ว่าหลังจากมีคนเสียชีวิต คนแถวนั้นต่างแตกตื่น สถานที่เล็ก ๆ แบบนี้มีคดีฆาตกรรม ไม่ว่าใครก็ต้องหวาดกลัว พวกเด็ก ๆ ก็ถูกสั่งให้อยู่ในบ้านตลอดทั้งวัน และไม่สามารถออกไปไหนได้เลย

ฉันได้ยินมาว่าคนที่เสียชีวิตเป็นคนที่อื่น เป็นผู้หญิง ใช่แล้ว! ซานไป่ก็ไปดูศพด้วย! หลังจากนั้นเขาก็ฉี่รดที่นอนไปทั้งเดือน แหะ ๆ”

ต่อมาชายหนุ่มเริ่มเล่าเรื่องมากมาย ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เลย จ้าวหยู่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดของเขา ดังนั้นเขาจึงถามว่า

“ฉันขอถามเธอหน่อยสิ ฉันเห็นว่าย่านการค้าแห่งนี้มีผู้คนมาทานอาหารมากมายจากทั้งนอกและในเขตโรงงานน้ำมันที่สอง คุณพอจะรู้จักร้านแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าร้านอาหารเดอะบีนบ้างรึเปล่า?”

ร้านอาหารเดอะบีนคือร้านอาหารที่หลันซู่ผิงดื่มในตอนนั้น ซึ่งเป็นตอนที่หลิวเจียวถูกสังหาร จ้าวหยู่ต้องการจะลองกะระยะทาง และดูว่าหลันซู่ผิงจะสามารถไปก่อคดีฆาตกรรมได้หรือไม่?

“ร้านอาหารเดอะบีน?” ชายหนุ่มคิดและตอบว่า “ใช่ ฉันรู้จักมัน มันอยู่ตรงทางเข้าโรงงานน้ำมันที่สอง ตัวร้านไม่ใหญ่นัก พวกเขาเสิร์ฟพวกกับแกล้มกับเบียร์ พวกชอบดื่มมักจะไปแวะเวียนร้านนั้น”

‘ว้าว น่าสนใจมาก’

จ้าวหยู่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าร้านอาหารจะยังอยู่หลังจากผ่านไปสิบปี

“อืม…” ชายหนุ่มยืนขึ้นและตบฝุ่นบนก้นของเขาออกไป เขาพูดว่า “ไปกันเถอะ ฉันไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ฉันจะพาคุณไปที่นั่นเอง…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด