ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2:  เป็นอมตะ ชีวิตนิรันดร์แต่ไร้ประกัน

บทที่ 1 : ไร้สัญชาติและไร้ตัวตน!


บทที่ 1 : ไร้สัญชาติและไร้ตัวตน!

แคว้นเยว่ มณฑลลู่หลิง ภูเขาต้าหยู

ในถ้ำลึกยาว มีลมกระโชกแรงพัดเข้ามาจากด้านนอก มันทำให้เกิดเสียงคร่ำครวญราวกับเสียงหอนที่น่ากลัว นอกจากนี้ มันยังทำให้ไฟในถ้ำสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุมได้

ความรู้สึกหนาวเย็นเล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขา และเมื่อลู่หยวนถูกลมเย็นพัดเข้ามา เขาก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นจากการหลับใหล

ในขณะนั้นเอง ความทรงจำนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามา มันทำให้เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หัวของเขาแทบจะแตก และร่างกายของเขาก็นอนสั่นสะท้านอยู่บนพื้น

หลังจากนั้นไม่นาน ความเจ็บปวดในศีรษะของเขาก็บรรเทาลง และเมื่อสติของเขากลับมา ลู่หยวนก็รู้สึกหายใจลำบาก เขารวบรวมพลังและจ้องมองเข้าไปในส่วนลึกอันสลัวของถ้ำและพึมพำกับตัวเองว่า “ฉันเดินทางข้ามเวลามางั้นหรอ…?”

ขณะที่เขาพูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะสัมผัสพื้นถ้ำที่เรียบและเย็น ความรู้สึกชื้นเล็กน้อยถูกส่งไปยังเขาอย่างชัดเจน พร้อมกับลมหนาวที่พัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มันทำให้เขาตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

ประสบการณ์ทั้งหมดนี้บอกเขาอย่างหนึ่ง: เขาเดินทางผ่านกาลเวลาจริงๆ

ลู่หยวนนั่งนิ่งอยู่บนพื้นเป็นเวลานาน เกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไปก่อนที่เขาจะยอมรับความจริงนี้ได้ในที่สุด เขาพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้นนั่ง และมองไปรอบๆ และนึกถึงตัวตนในปัจจุบันของเขา

ลู่ต้าหลาง นายพรานที่อาศัยอยู่บนภูเขาต้าหยูและหาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์

พ่อของเขาเสียชีวิตลงเนื่องจากอุบัติเหตุการล่าสัตว์เมื่อลู่หยวนอายุได้ 12 ปี และแม่ของเขาก็เสียชีวิตลงในอีก 2 ปีต่อมาเนื่องจากการทำงานหนักและอาการเจ็บป่วย

ตอนนี้เขาอายุได้ 16 ปีแล้ว ลู่หยวนอาศัยอยู่ตามลำพังมา 2 ปีแล้ว โดยอาศัยอยู่บนภูเขา และถ้ำที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือบ้านของเขา

เมื่อนึกถึงความทรงจำเหล่านี้ ความขมขื่นก็เติมเต็มหัวใจของลู่หยวน “นี่คือ… ฝันร้ายชัดๆ”

ในฐานะคนสมัยใหม่ในยุคศตวรรษที่ 21 ที่เคยอ่านนิยายออนไลน์มานับครั้งไม่ถ้วน แนวคิดเรื่องการเดินทางข้ามเวลาก็นับเป็นเรื่องปกติไปแล้วในชีวิตของเขา

การเดินทางข้ามเวลาเป็นจุดเริ่มต้นหนึ่งซึ่งไม่ได้สำคัญอะไร แต่อย่างน้อยก็ขอให้ฉันได้เกิดใหม่ในฐานะเซียนผู้ยิ่งใหญ่ จักรพรรดิ หรืออย่างน้อยๆ ก็ลูกหลานตระกูลขุนนางไม่ได้หรอ?

หรืออย่างน้อยที่สุดจริงๆ เขาก็อยากจะเป็นบัณฑิตที่ยากจน เจ้าของที่ดินหรือไม่ก็พ่อค้า

แต่ตอนนี้ เขากลับได้มาอยู่ในร่างของนายพรานที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กและไม่มีที่ใดให้เรียกว่าบ้านได้ เขาอาศัยอยู่ในถ้ำบนภูเขาราวกับเป็นคนป่า นี่เป็นเรื่องตลกที่โหดร้ายอะไรเช่นนี้?

การเป็นนายพรานไม่ใช่งานที่ง่าย

เขาใช้เวลาหลายวันในการเดินทางผ่านป่าเขาที่อันตราย ตามหาเหยื่อและแย่งชิงเหยื่อร่วมกับผู้ล่าอย่างเสือและหมาป่า แถมยังมีงูพิษและสัตว์ป่าซุ่มซ่อนอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง

พูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นงานที่อาจทำให้เขาเสียชีวิตลงได้อย่างง่ายดายหากเขาไม่ทันระวัง

ลู่หยวนไม่เชื่อว่าเขาซึ่งเป็นคนสมัยใหม่ที่ไม่สามารถแยกแยะแม้แต่เมล็ดพันธุ์พืชออกจากกันได้และเกียจคร้านในการใช้แรงกายจะสามารถอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่น่าอดสูเช่นนี้ได้

แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีร่างกายของนายพรานที่แข็งแรง แต่เขาก็รู้สึกว่าโอกาสในการเอาชีวิตรอดนั้นยังมีน้อยมาก

“ฉันต้องปรับตัว การปรับตัวเป็นสิ่งจำเป็น”

ความเชื่อมั่นอันแรงกล้าพุ่งเข้ามาในจิตใจของลู่หยวน แต่ในไม่ช้าเขาก็ต้องกลับมาสู่ความเป็นจริงเนื่องจากเสียงคำรามอันหิวโหยที่ดังมาจากในท้องของเขา

ดูเหมือนเขาจะไม่ได้กินข้าวมานานแล้ว

สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดที่สำคัญยิ่งกว่าเข้าครอบงำความคิดของลู่หยวนอย่างรวดเร็ว เขาลุกขึ้นจากพื้นแล้วเริ่มออกหาอาหาร

สายตาของเขามองไปทางซ้ายและขวา

ในห้องที่มีแสงสลัวกว้างสามเมตร มีเสาไม้ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง โดยมีร่องรอยของอายุและกาลเวลาปรากฎอยู่บนนั้น

เหนือเสามีกิ่งก้านหลายกิ่งยื่นออกมา มีบางสิ่งเจ็ดหรือแปดชิ้นห้อยอยู่บนกิ่งและพลิ้วไหวไปตามลม

โดยไม่ลังเลใจ ลู่หยวนเดินเข้ามาใกล้และหยิบเนื้อที่เตรียมไว้โดยตัวเขาเองคนก่อนลงมา เขาหากิ่งไม้ใกล้ๆ จากนั้นเขาก็เสียบเนื้อแล้วเริ่มย่างมันบนกองไฟ

เมื่อเพิ่มฟืนเข้าไปในเปลวเพลิงที่ไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง กองไฟที่กำลังจะมอดดับลงก็กลับมาให้ความอบอุ่นอีกครั้ง

เมื่อรู้สึกถึงความหนาวเย็นในร่างกายของเขาที่ค่อยๆ หายไป ลู่หยวนก็ยังคงพลิกเนื้อไปมาบนกองไฟในขณะที่ใคร่ครวญถึงอนาคตของเขา

เขาไม่สามารถเป็นนายพรานต่อไปได้ มันอันตรายเกินไป เขามิอาจรู้ได้เลยว่าเขาจะถูกสัตว์ป่าสังหารลงเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาไม่เป็นนายพราน แล้วเขาจะทำอะไรได้ในปัจจุบัน?

ลู่หยวนครุ่นคิดถึงสังคมที่เขาอาศัยอยู่ ณ ตอนนี้

ตัวตนก่อนหน้านี้ของเขาเป็นเพียงนายพรานที่ใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่บนภูเขาต้าหยู สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาสามารถทำได้ก็คือการแลกเปลี่ยนเหยื่อที่ล่ามาได้กับเงินในเมืองใกล้เชิงเขาและซื้อสิ่งของจำเป็นเพื่อนำกลับมาบ้าน

ด้วยเหตุนี้เอง ตัวตนก่อนหน้านี้ของเขาจึงรู้น้อยมากเกี่ยวกับโลกภายนอก

ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือเขาอาศัยอยู่ในแคว้นเยว่ ภายในภูเขาต้าหยูของมณฑลลู่หลิง นอกเหนือจากนั้นเขาก็ไม่รู้อะไรแล้ว

และในฐานะนายพราน เขาก็มักจะถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในชาวภูเขา

แต่ตัวตนของชาวภูเขาก็ไม่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาล พวกเขาไม่ใช่พลเมืองอย่างเป็นทางการ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตัวตนในปัจจุบันของลู่หยวนนั้นก็ไม่ได้ลงทะเบียนกับทางรัฐเอาไว้ แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ภายในเขตแดนของแคว้นเยว่ แต่เขาก็จะไม่ได้รับการปกป้องจากกฎหมายหรือแม้แต่ได้รับการปกครองจากกษัตริย์

เขาเป็นผู้อยู่อาศัยแบบผิดกฎหมาย(?)

เมื่อตระหนักได้ถึงสิ่งนี้ วิสัยทัศน์ของลู่หยวนก็มืดลงอีกครั้ง

ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าชะตากรรมของเขาในอนาคตนั้นจะลงเอยอย่างไร

เขาไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย ดังนั้นหากมีใครสักคนคิดอยากจะฆ่าเขา มันก็จะไม่มีใครมาสนใจเรื่องนี้แน่

นอกจากนี้ เขาก็ยังไม่สามารถซื้อที่ดินหรือบ้านได้ และยังไม่สามารถสะสมทรัพย์สินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เขาสอบรับราชการไม่ได้ ทำธุรกิจก็ไม่ได้และเขาก็เดินทางไกลไปไหนมาไหนไม่ได้อีกเช่นกันเนื่องจากการเดินทางไกลนั้นจำเป็นจะต้องใช้บัตรผ่านทางพิเศษ

พูดง่ายๆ ก็คือ ตอนนี้ลู่หยวนได้กลายเป็นบุคคลนอกกฎหมายไปแล้ว

ไร้สัญชาติและไร้ตัวตน!

ด้วยการตระหนักถึงสิ่งนี้ เขาจึงรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นลมอีกครั้ง

โชคดีที่หลังจากผ่านการโจมตีจากความจริงอันร้ายแรงมาแล้วหลายครั้ง ความสามารถในการรับมือกับปัญหาของเขาก็ได้พัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก มันทำให้เขายังสามารถลบความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตายทิ้งไปได้

ถึงอย่างนั้น การตระหนักถึงตัวตนในปัจจุบันของเขาก็ยังทำให้แผนการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะนักวิชาการนั้นจบลงไปด้วย

เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว การเป็นบุคคลไร้สัญชาติไร้ตัวตนนั้นได้ทำลายความหวังทั้งหมดของเขาลงไปจนไม่เหลือชิ้นดี

“ถ้าอย่างนั้น ทางออกเดียวของฉันในตอนนี้คือ…”

ลู่หยวนหายใจเข้าลึกๆ และเริ่มร้องตะโกนในใจอย่างสิ้นหวัง “ระบบ!”

ใช่แล้ว ในการเริ่มต้นใหม่อันน่าหวาดเสียวนี้ นอกเหนือจากระบบที่ขาดไม่ได้สำหรับเขาแล้ว เขาก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะมีอะไรอักที่สามารถช่วยพลิกสถานการณ์ให้เขาได้

ถึงอย่างนั้น หลังจากเรียกไปหลายครั้ง มันก็ยังไม่มีการตอบสนอง

“ท่านเทพ!”

ยังไม่มีการตอบสนอง

“ท่านปู่! พระพุทธเจ้า! พระเจ้า! เจ้าลัทธิเต๋า! เทพเจ้าทุกองค์บนสวรรค์…!”

ลู่หยวนไล่ตะโกนชื่อเทพเจ้าและเซียนทั้งหมดที่เขารู้จัก แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ ความสิ้นหวังเติมเต็มหัวใจของเขา “ถ้าจะส่งฉันมาเกิดใหม่แบบนี้ อย่างน้อยมันก็ควรมีตัวช่วยกันหน่อยไม่ใช่หรอ?”

ในขณะนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง เขาก็ไม่มีความคิดที่จะต้องการระบบหรือนิ้วเทพอีกต่อไป!

“เป็นไปได้ไหมว่าฉันจะถูกลงโทษเนื่องจากความผิดที่ฉันก่อไว้เมื่อชาติที่แล้ว?” ด้วยความเสียใจกับการกระทำก่อนหน้านี้ของเขาในฐานะนักเลงคีย์บอร์ด เขาจึงสงสัยว่ามันจึงทำให้เขาต้องมารับกรรมตรงจุดนี้แทนหรือไม่?

และราวกับสัมผัสได้ถึงความคิดของเขา

ทันใดนั้นแสงสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นในใจของลู่หยวน ทันทีที่แสงนี้ผุดขึ้นมาในจิตใจของเขา ความสิ้นหวังบนใบหน้าของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความตกใจ....

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด