ตอนที่แล้วบทที่ 41 : ย้ายมาอยู่อาคาร​หลังน้อยสีขาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 43 : พลังพิเศษอย่างที่สอง, เทเลพอร์ต!

บทที่ 42 : เขาถูกทำร้ายด้วย…. จนซูบไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?


บทที่ 42 : เขาถูกทำร้ายด้วย…. จนซูบไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?

“พี่อีกาทมิฬ, อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ มากินข้าวกันเถอะ”

บนชั้นสองของอาคารสีขาวหลังน้อย

ณ​ ห้อง 2011

ตอนที่ซูไป๋นอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นเพื่อดูทีวี…เสียงอันแผ่วเบาของเย่ซินหยิงก็ดังออกมาจากห้องครัว

เขาอาศัยอยู่ที่อาคารสีขาวหลังน้อยมาหลายวันแล้ว

เเละเมื่อเวลาผ่านไป เสี่ยวหว่านชิงก็เริ่มเชื่อใจเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและหยุดที่จะมาดูเขาในทุกๆวัน

ในขณะเดียวกัน, เย่ซินหยิงก็ค่อยๆ เข้าสู่บทบาทของเธอ

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เย่ซินหยิงไม่ได้ทำอะไรเลย

นอกจากจะติดตามซูไป๋ในทุกๆวันแล้ว เธอยังใช้เวลาศึกษาหลายต่อหลายอย่าง เธอไม่เพียงแต่พัฒนาทักษะการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมอบความเป็นธรรมชาติและความอบอุ่นตามฉบับอาคารสีขาวหลังน้อย

และนั่นทำให้การเป็นพนักงานหญิงประจำห้อง 2011... ของเธอชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย

แต่ทว่า

แม้ว่าเย่ซินหยิงจะรู้ว่าซูไป๋มีข้อตกลงกับลูกพี่ลูกน้องของเธอว่าเขาจะไม่แตะต้องเธอ

แต่เมื่อเธอรู้ว่าพนักงานหญิงปกติ​หมายถึงอะไร เย่ซินหยิงก็ย่อมเกิดระลอกคลื่นในหัวใจของเธออย่างไม่สามารถ​หลีกเลี่ยงได้

โดยเฉพาะ

ระหว่างการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน...มันก็มีสองสิ่งที่เกิดขึ้น

……

สิ่งแรกคือความเจ็บป่วยของเย่ซินหยิง

เป็นเวลาห้าวันแล้ว ที่เธอได้ดื่มหนึ่งในสิบของยาฟื้นฟูฉับพลันในทุกๆวัน

ทำให้​ ณ​ ขณะนี้, แกนคริสตัลแห่งชีวิตจำนวนมากได้ถูกรวมเข้ากับร่างกายของเธอ

ซึ่งมันไม่เพียงแต่ชดเชยความบกพร่องแต่กำเนิดของเย่ซินหยิงเท่านั้น…..แต่แม้กระทั่งการสูญเสียพลังชีวิตจากโรคอะบอร์ทิซึม ก็ถูกชะลอลงด้วย!

เเละหากวันสิ้นโลกไม่ได้เกิดขึ้นจริง…..แม้ว่าซูไป๋จะไม่ให้ยาฟื้นฟูฉับพลันเเก่เธออีกต่อไป เย่ซินหยิงก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยจนถึงอายุหกสิบหรือเจ็ดสิบปี!

ไม่ว่าจะตามมาตรฐานของซูไป๋ หรือตามมาตรฐานของเสี่ยวหว่านชิง อาการป่วยของเย่ซินหยิงก็ถือว่าหายขาดเเล้ว…..เพราะช่วงอายุหกสิบหรือเจ็ดสิบปีไม่ถือว่าเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

เเละมันไม่เพียงแค่นั้น

แกนคริสตัลแห่งชีวิตจากยาฟื้นฟูฉับพลันนั้นทรงพลัง​มาก

หลังจากชดเชยข้อบกพร่องโดยกำเนิดของเย่ซินหยิงแล้ว แกนคริสตัลแห่งชีวิตส่วนใหญ่ยังคงถูกดูดซับเข้ามาในร่างกายของเธอ ซึ่งนั่นช่วยเสริมสร้างตวามแข็งแกร่งให้ร่างกายของเย่ซินหยิงเป็นอย่างมาก

ตอนนี้

การทำงานของเซลล์และพลังชีวิตของเย่ซินหยิงนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมากและอาจกล่าวได้ว่าดีที่สุดในโลกรองจากซูไป๋!

จนมันเกือบจะถึงระดับของการวิวัฒนาไปสู่ระดับหนึ่งแล้ว!

การทำงานของเซลล์และพลังชีวิตของเย่ซินหยิงซึ่งหยุดเติบโตเนื่องจากความอ่อนแอของร่างกายเมื่อไม่กี่ปีก่อน…..ได้เริ่มต้นการเติบโตเป็นครั้งที่สอง!

ความสูงของเย่ซินหยิงนั้นไม่ได้เตี้ยเธอสูงเกือบ 1.7 เมตร

เป็นเพราะความทรมานของโรคอะบอร์ทิซึมทำให้พลังชีวิตและสารอาหารในร่างกายของเธอสูญเสียไปอย่างต่อเนื่อง…..มันจึงทำให้เธอผอมเพรียวและอ่อน​เเอ

เเต่ตอนนี้

ร่างกายของ​เธอได้รับการฟื้นฟูแล้ว

ในเวลาเพียงห้าวัน ใบหน้าของเย่ซินหยิงก็เริ่ม​เปล่งปลั่งราวกับว่าเธอเปลี่ยนเป็นคนละคน!

ใบหน้าของเธอไม่ซีดเซียว​อีกต่อไป การเคลื่อนไหวของเธอไม่อ่อนแออีกต่อไป ลมหายใจของเธอไม่ว่างเปล่า และใบหน้าที่งดงามมากอยู่แล้วก็ยิ่งงดงามมากยิ่งขึ้นจนน่าตื่นตะลึง!

เเละสิ่งสำคัญที่สุดหลังจากที่ร่างกายของเธอฟื้นตัว…..คือความคิดและอารมณ์ที่เยือกเย็นแต่ละเอียดอ่อนของเย่ซินหยิงก็ยังคงอยู่

การรวมกันของทั้งสองอย่างนี้​ ก็เพียงพอเเล้วที่จะบดขยี้เสี่ยวหว่านชิงและหญิงสาวคนใดก็ตามในอาคารสีขาวหลังน้อยเเห่งนี้!

เเละนี่เป็นเพียงช่วงเริ่มต้น​ของการพัฒนาขั้นที่สอง

คาดการณ์ได้เลยว่าในอนาคต, เย่ซินหยิงจะกลายเป็นหนึ่งในหญิงสาวผู้งดงามมากที่สุดในโลกได้อย่างเเน่นอน!

สิ่งที่สองที่เกิดขึ้น​ก็คือตัวตนของซูไป๋

หลังจากอยู่ด้วยกันทั้งกลางวันและกลางคืน……มันจึงทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน จนทำให้เย่ซินหยิงบังเอิญเห็นใบหน้าที่แท้จริงของ ซูไป๋ผ่านกระจกในห้องนั่งเล่นในขณะที่เขากำลังอาบน้ำ

ความร้ายแรงของเรื่องนี้อาจมีมากหรือน้อยก็ได้

แต่มันก็ใหญ่พอที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของซูไป๋ และยังส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุในแผนการเพิ่มคะแนนของเขาเพียงเล็กพอ แต่กระนั้นมันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อเขา เว้นแต่จะมีสมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

หลังจากการสังเกตรวมทั้ง​การทดสอบอย่างต่อเนื่อง และแม้แต่การใช้พลังจิตกับเธอ…..ในที่สุดซู​ไป๋ก็รู้สึกโล่งใจหลังจากยืนยันว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่เย่ซินหยิงจะทรยศเขา

และแน่นอนว่า, เหตุการณ์นี้ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อ เย่ซินหยิง

เดิมที, ในใจของเย่ซินหยิง….ซูไป๋เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาดุร้ายและมีอารมณ์เย็นชา

แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้

ภาพลักษณ์ของซูไป๋ในหัวใจของเย่ซินหยิง...จู่ๆก็แปรเปลี่ยนป็นภาพลักษณ์ของเจ้าชายผู้มีเสน่ห์ ผู้ช่วยตนเองจากความเจ็บป่วยอันไม่รู้จบ!

ด้วยเหตุนี้เย่ซินหยิงจึงสนใจสิ่งเล็กๆน้อยๆของซูไป๋ในทุกแง่มุม…..ระดับความสนใจของเธอที่มีต่อซูไป๋ในตอนนี้ไม่น้อยไปกว่าจินหมั่นฝูในปัจจุบันเลย

นี่เป็นเรื่องดีใช่รึเปล่า?

นี่ควรจะเป็นเรื่องดีใช่ไหมนะ?

ยกเว้นเรื่องที่เย่ซินหยิงมองดูเขาเกือบจะ​ตลอดเวลา….อย่างน้อยนี่ก็พอเป็นหลักประกันว่าเธอจะช่วยเก็บงำความลับที่เขามี!

แต่อย่างไรก็ตาม​…..มันมีสิ่งที่ซู่ไป๋ยังไม่รู้

นั่นคือ, หลังจากรู้ความหมายของพนักงานสาวของห้องหมายเลข 2011 แล้ว……หัวใจของเย่ซินหยิงก็เต็มไปด้วยระลอกคลื่น เเละตอนนี้เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของซูไป๋ เธอเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น

ระลอกคลื่นในหัวใจของเย่ซินหยิงเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ณ​ ตอนนี้….แม้ว่าเธอจะถูกซูไป๋ขอให้กลายเป็นพนักงานหญิงประจำห้อง 2011 อย่างเเท้จริง…..เธอก็จะไม่ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักตัวเอง

แต่หลังจากประสบกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานมามากมาย ….เธอจึงมองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนและตัดสินใจได้อย่างชัดเจนมากกว่าคนทั่วไป

เย่ซินหยิงอยู่ในอาคารสีขาวหลังน้อยมาเป็นเวลานาน

แม้ว่าเธอจะไม่เคยไปย่านสถานบันเทิงมาก่อน แต่เธอก็ค่อนข้างคุ้นเคยกับธรรมชาติของอาคารสีขาวหลังน้อย และความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาว

เย่ซินหยิงรู้ว่าเธอสวย

เเละหลังจากกินยาฟื้นฟูไปครึ่งหนึ่งแล้ว มันก็ดูเหมือนว่าเธอจะสวยขึ้นไปอีก

เพราะอย่างนั้น…..หัวใจของเธอจึงผูกพันกับซูไป๋อย่างสมบูรณ์

หากพูดในแง่อารมณ์ความรู้สึกแล้ว, ซูไป๋คือผู้ช่วยชีวิตของเธอ ไม่เพียงแต่ช่วยเธอจากความเจ็บป่วยไม่รู้จบเท่านั้น แต่ยังช่วยพ่อแม่ ลูกพี่ลูกน้อง และทั้งครอบครัวของเธออีกด้วย

เธอไม่รู้จริงๆว่าจะตอบแทนความเมตตาแบบนี้ได้อย่างไร นอกจากการถวายชีวิตของเธอ

ในแง่ของด้านการเงิน, ตอนนี้เธอได้ใช้ยาล้ำค่าไปครึ่งหนึ่งหรือก็คือราคา 460 ล้าน

พี่อีกาทมิฬ​ให้เธอใช้ยาที่เธอไม่มีวันมีปัญญาซื้อได้….เเล้วเเบบนี้เธอจะยังไม่พอใจอะไรได้อีกล่ะ?

ไว้รอจนกว่าการเจริญเติบโตครั้งที่ สองของเธอเสร็จสมบูรณ์

ถึงตอนนั้น, ร่างกาย​ของเธอก็จะไม่ผอมแห้งอีกต่อไป

เเล้วพี่อีกาทมิฬ, เขา…..จะชอบฉันรึเปล่านะ?

……

ในเวลานี้

ซูไป๋ยังไม่รู้ว่าเย่ซินหยิงกำลังคิดอะไรอยู่

และแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเย่ซินหยิงคิดอะไร, เขาก็ไม่คิดจะจู่โจมเย่ซินหยิง ในช่วงเวลานี้ แม้ว่าเธอจะริเริ่มที่จะโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเขาก็ตาม!

เพราะในตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ชั้นหนึ่งของอาคารสีขาวหลังน้อยนี่…..ซูไป๋ได้ค้นพบข้อเท็จจริงอันเลวร้าย

นั่นคือ……

หากบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเขากับหญิงสาว…..มันจะเป็น [การปราบปราม] โดยสมบูรณ์!

หญิงสาวในอาคารสีขาวหลังน้อยไม่ใช่บอดี้การ์ดและอันธพาลเหมือนในโรงอาบน้ำที่สามารถกระตุ้นการแจ้งเตือนของระบบได้ตลอดเวลา และได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดซ้ำ ๆ โดยการทุบตีพวกเขาอย่างรุนแรงในทุกๆวัน

แต่เมื่อหญิงสาวที่นี่ถูกปราบปราม, มันจะถูกปราบปราม​ไปจริงๆ และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดในวันต่อๆไป

เพราะอย่างนั้นเอง

ไม่เพียงแต่เย่ซินหยิง ลอร์ดซอมบี้ระดับ 5 ที่ซูไป๋ไม่กล้าแตะต้องเท่านั้น……เเต่เขายังไม่กล้าแตะต้องสาวซอมบี้ชั้นสูงระดับ 3 เหล่านั้นด้วย!

เขากลัวว่าถ้าเขาเล่นมากเกินไป มันจะเป็นการทำลายอาคารสีขาวหลังน้อย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นในการทำคะแนนได้โดยตรง!

นั่นไม่คุ้มกับกำไรเลยจริงๆ!

…….

เวลาอาหารเย็น

ในขณะที่กำลังจัดโต๊ะอาหาร เย่ซินหยิงก็ถามขึ้นมา

"พี่อีกาทมิฬ​ คืนนี้พี่จะนอนที่บ้านหรือที่ชั้นหนึ่ง?"

ขณะที่เย่ซินหยิงถามคำถามนี้ ซูไป๋นั้นกำลังแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำ

เเละเมื่อได้ยินคำถาม​ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก

สมรรถภาพทางกายของเขานั้นเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก….ดังนั้น​มันจึงทำให้เขาสามารถทำบางสิ่งที่ชายชาตรีทั่วๆไปทำไม่ได้

แต่พอค้างอยู่หลายวัน...ในที่สุดก็ทำให้เขารู้สึกซีดเซียว…เล็กน้อย

“ช่วงนี้ฉันหมกมุ่นเกินไปหรือเปล่า?”

ซูไป๋อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดที่แพร่หลายบนอินเทอร์เน็ต - เขาถูกทำร้ายด้วยเหล้าและเซ็กส์ จนซูบไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?

มือที่แปรงฟันอยู่ชะงักเบาๆ จากนั้นซูไป๋ก็จิบน้ำบ้วนโฟมออกมาและพูดอย่างเศร้าๆว่า

"ฉันคงไปที่นั่นต่อไม่ได้แล้ว คืนนี้... นอนที่บ้านเถอะ"

……………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด