ตอนที่แล้วตอนที่ 24 : โอกาสที่จะได้ไปโลกวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 : บริษัทหงเหมิง

ตอนที่ 25 : เม่นสายฟ้า


ไม่นานหลังจากจับฉลากเสร็จ เฉินโม่ก็เห็นข้อมูลของคู่ต่อสู้ของเขาในการแข่งขันรอบ 8 คนสุดท้าย

[ชื่อเจ้าของสัตว์วิญญาณ: เฉิงจุน]

[สัตว์วิญญาณ: ลิงไฟ]

[ระดับการเติบโต: ระดับพิเศษขั้น 2]

[สถานที่แข่งขัน: สนามที่ 1]

[เวลาเริ่มการแข่งขัน: เริ่มเวลา 10:00 น.]

“แน่นอนว่ายิ่งเข้ารอบไปลึกมากเท่าไร คู่ต่อสู้ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แต่โชคดีที่ยังไม่ใช่สามคนนั้น เสี่ยวจู เธอมั่นใจไหม?”

"หงิง!" (ไม่มีปัญหา!)

“ถ้าฉันจําไม่ผิด ลิงไฟคือรูปแบบที่วิวัฒนาการมาจาก Little Fire Monkey แต่ทำไมเขาถึงยอมให้สัตว์วิญญาณของตัวเองวิวัฒนาการเร็วขนาดนั้นกันนะ”

ขณะที่นั่งบนเก้าอี้ เฉินโม่และเสี่ยวจูก็อ่านข้อมูลของผู้เข้าแข่งขันที่ฉีพินส่งมาให้เขาก่อนหน้านี้

วิวัฒนาการเป็นกระบวนการที่สัตว์วิญญาณจะพัฒนาไปสู่รูปแบบที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะมาจากการถูกกระตุ้นด้วยไอเทมชนิดพิเศษหรือการเรียนรู้สกิลพิเศษที่ตรงตามเงื่อนไข หลังจากที่วิวัฒนาการไปแล้ว รูปแบบและศักยภาพของสัตว์วิญญาณตัวนั้นๆจะได้รับการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพ

สัตว์วิญญาณทั่วๆไปจะมีโอกาสวิวัฒนาการได้เมื่ออยู่ในระดับพิเศษ แต่ปรมาจารย์วิญญาณส่วนใหญ่จะรอจนกว่าพลังวิญญาณในแกนคริสตัลของพวกมันเติบโตจนถึงขีดสุดเสียก่อน พวกเขาจึงจะปล่อยให้พวกมันวิวัฒนาการ

เพราะยิ่งกระบวนการวิวัฒนาการสมบูรณ์พร้อมมากเท่าไหร่ ศักยภาพของสัตว์วิญญาณก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น และในอนาคต พวกมันก็จะสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่าเดิม

มีปรมาจารย์วิญญาณเพียงไม่กี่คนที่เต็มใจจะดึงศักยภาพของสัตว์วิญญาณออกมาก่อนเวลาเพื่อแลกกับพลังในการต่อสู้ เว้นแต่ว่าพวกเขาจะใช้สัตว์วิญญาณตัวนั้นๆแค่ชั่วคราว…

สําหรับ ลิงไฟที่วิวัฒนาการเร็วขนาดนี้ ศักยภาพของมันจะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

“พรสวรรค์ของปรมาจารย์วิญญาณคนนี้คือไฟบรรลัยกัลป์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มทักษะของธาตุไฟได้”

"เชี่ยวชาญสกิลประเภท Spark, หมัดเพลิง และย่างก้าวอัคคี"

“รูปแบบการต่อสู้ของเขานั้นดุดันมาก ซ้ำยังชอบการต่อสู้ที่เฉียดบริเวณใบหน้า และยังมีพื้นฐานในศิลปะการต่อสู้บางประเภทอีกด้วย”

ข้อมูลที่ได้รับจากพี่ฉีนั้นค่อนข้างละเอียด แม้แต่เฉินโม่ก็แอบยกย่องมันอย่างเงียบ ๆ ในใจไม่ได้

ก่อนขึ้นเวที เสี่ยวจูกินลูกอมนมน้ําผึ้งเข้าไปหลายสิบเม็ดเหมือนก่อนหน้านี้เพื่อให้ตัวของมันเองอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด

ฉากนี้ถูกเห็นโดยนักข่าวสาวที่นั่งปะปนอยู่ในหมู่ผู้ชม เดิมทีเธอก็ให้ความสนใจในตัวเฉินโม่เป็นพิเศษอยู่แล้ว เธอจึงไม่รอช้า รีบหยิบกล้องขึ้นมาเพื่อบันทึกภาพนั้นในทันที

ไม่ใช่ว่าเธอสงสัยว่าเจ้าจิ้งจอกเพลิงจะกําลังโด๊ปยาหรอกนะ

เพื่อให้มั่นใจในความเป็นธรรมของการแข่งขัน สัตว์วิญญาณทั้งสองจะต้องถูกตรวจสอบโดย "Spiritual Eye" ซึ่งเป็นสกิลแห่งความยุติธรรมสําหรับใช้ตรวจสอบสัตว์วิญญาณก่อนเริ่มเกมอยู่แล้ว หากตรวจพบการใช้สารเสพติด ผู้เข้าแข่งขันจะต้องถูกแบนจากการแข่งขันเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี

และใครจะกล้าใช้ยาทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องถูกตรวจสอบอีกล่ะ! ?

“ดูจากห่อแล้ว ดูเหมือนจะเป็นลูกอมนมน้ําผึ้งรึเปล่า? จะมีเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรรึเปล่านะ...” นักข่าวสาวครุ่นคิด

เมื่อทั้งสองฝ่ายลงสนาม หลังจากการจับมือทักทายอย่าง "เป็นมิตร" เสร็จแล้ว การแข่งขันก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!

เนื่องจากมีการเปิดเผยว่าความเชี่ยวชาญพิเศษของเสี่ยวจูคือการป้องกันออกไปแล้ว เฉินโม่จึงไม่จำเป็นต้องปกปิดมันอีกต่อไป

ทันทีที่การแข่งขันเริ่มขึ้น เสี่ยวจูก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ มันมองไปที่ลิงไฟที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง

ความหมายก็ชัดเจน—เข้ามาสิ!!!!

เนื่องจากความถนัดของเจ้าลิงไฟ คือการโจมตีทางกายภาพ ไม่ช้าก็เร็ว ยังไงพวกมันก็ต้องปะทะกันตัวต่อตัวอยู่ดี

คงจะเป็นการดีกว่า ถ้าจะย่นเวลาและประหยัดพลังงานเพื่อการแข่งขันในรอบต่อๆไป

อย่างที่คาดไว้ ลิงไฟพุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวมันก็มาอยู่ตรงหน้าของเจ้าจิ้งจอกเพลิงแล้ว

"หมัดไฟ!" เฉิงจุนตะโกนออกคำสั่งเสียงดัง

กําปั้นที่ทรงหลังนี้เป็นสกิลระดับกลาง!

หลังจากที่รู้ว่า คู่ต่อสู้ของเขาคือจิ้งจอกเพลิงที่มีพลังป้องกันเหนือกว่าลิงไฟ เขาก็ใช้สกิลที่แรงที่สุดเปิดฉากการโจมตีทันที

เปรี๊ยะะ!

จู่ๆ หมัดของลิงไฟก็ลุกโชน เปลวไฟที่หมัดของมันขยายตัวเป็นลูกไฟขนาดใหญ่โหมกระหน่ำ

ท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน เมื่อหมัดไฟของเจ้าลิงไฟกําลังจะมาถึง แต่เจ้าจิ้งจอกเพลิงกลับไม่มีทีท่าว่าจะหลบเลย ทันใดนั้น เส้นแสงสีม่วงก็เปล่งประกายระหว่างกรงเล็บของมัน เสียงเปรี๊ยะของสายฟ้าดังกระหึ่ม หรือว่ามันจะโต้กลับ?

“นายคิดว่าจะป้องกันการโจมตีด้วยการโจมตีกลับงั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นนายก็คิดผิดแล้วล่ะ”  เมื่อเห็นว่า จิ้งจอกเพลิงไม่มีความคิดที่จะหลบเลย เฉิงจุนก็คิดกับตัวเอง

ทันทีที่ลิงไฟปล่อยหมัดไฟออกมา เปลวไฟบนกําปั้นของมันก็ค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ มันร้อนแรงราวกับดวงอาทิตย์ดวงย่อมๆเลย อุณหภูมิที่มันปล่อยออกมานั้นสูงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ

“นายคิดว่าฉันจะไม่สามารถทําลายการป้องกันของนายได้จริงๆหรอ? ลิงไฟ ทําลายมันให้พวกเขาดูเป็นขวัญตาหน่อยสิ!”

เฉิงจุนยิ้มและพูดออกมาด้วยความมั่นใจ พรสวรรค์ของเขาในการควบคุมจิตวิญญาณคือไฟบรรลัยกัลป์ เขาสามารถเพิ่มความรุนแรงให้ธาตุไฟของสัตว์วิญญาณในพันธะสัญญาได้!

เขาไม่เคยเปิดเผยมันในเกมก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้!

มาดูกันสิว่า นายจะรับมือกับหมัดไฟนี้ได้ไหม!!

เมื่อมองไปที่ลิงไฟที่กำลังพุ่งเข้ามา เสี่ยวจูก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่ในไม่ช้า เสียงของเฉินโม่ก็ดังขึ้นมาในจิตใจของมัน

"ใช้เกราะหนามอสนี จากนั้นก็ต่อด้วยกรงเล็บสายฟ้าในทันที" เสียงที่คุ้นเคยทําให้จิตใจของเสี่ยวจูสงบลง

ในตอนที่หมัดไฟพุ่งเข้ามา ด้วยอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทำให้เกิดลมกรรโชกแรง เจ้าจิ้งจอกเพลิงก็รีบใช้สกิลเกราะหนามอสนีในทันที ทันใดนั้นหนามสีม่วงเข้มที่ควบแน่นด้วยพลังของสายฟ้าก็ปกคลุมตัวของเจ้าจิ้งจอกเพลิงเอาไว้

เนื่องจากเป็นเวอร์ชันที่ยังไม่สมบูรณ์ เกราะหนามอสนีที่เจ้าจิ้งจอกเพลิงใช้จึงยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับของเต่าหลินอสนี

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!

สกิลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโต้การโจมตีระยะประชิดโดยเฉพาะ หน้าที่ของมันก็คล้ายกับเกราะที่สะท้อนการโจมตีกลับไปตรงๆ

เมื่อเห็นฉากตรงหน้า รูม่านตาของลิงไฟก็ขยายออก ความเร็วของมันลดลงโดยไม่รู้ตัว

มันจะไม่ตายแน่ๆใช่ไหม?

ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะหยุดแล้ว มันมีแต่ต้องชกออกไปให้สุดแรงเท่านั้น!

ตูม!

ด้วยการปะทะกันของสายฟ้าและเปลวเพลิง!

เสียงระเบิดก็ดังลั่นไปทั้งสนาม หลังจากการปะทะกัน ใบหน้าของลิงไฟก็บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

เจ็บมาก! มันเจ็บจะตายอยู่แล้ว!

ในขณะที่ปะทะกัน เจ้าจิ้งจอกเพลิงยังได้ฝากกรงเล็บสายฟ้าของมันกลับไปให้เจ้าลิงไฟด้วยเช่นกัน เมื่อเจอทั้งเกราะหนามอสนีและกรงเล็บสายฟ้า ตัวของเจ้าลิงไฟก็ถูกซัดกระเด็นออกไปไกลจนปรากฎเป็นรอยดําลากยาวไปตามพื้น

ร่างของลิงไฟที่ไหม้เกรียมและดําเป็นตอตะโกกระตุกเป็นระยะๆ

พูดง่ายๆ มันในตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่โดนไฟฟ้าดูด

เจ้าจิ้งจอกเพลิงก็รู้สึกไม่ดีนักเช่นกัน แม้ว่าการป้องกันของมันจะอยู่ในระดับที่น่าอัศจรรย์ด้วยการสนับสนุนของหลายๆเอฟเฟกต์ แต่หมัดของลิงไฟที่ถูกตัวของมัน ก็ทำให้ขนบริเวณนั้นไหม้เกรียมเป็นวงกลม

เมื่อมองไปที่จิ้งจอกเพลิงที่ไม่ต่างอะไรกับเม่นสายฟ้าตรงหน้า เฉิงจุนก็อดไม่ได้ที่จะตกอยู่ในความคิดลึก ๆ

ทําไมถึงได้มีปรมาจารย์วิญญาณและสัตว์วิญญาณที่แปลกประหลาดเช่นนี้ด้วย!

"กระสุนฟ้าผ่า!"

"ฉันยอมแพ้แล้วๆ!"

ลิงไฟในปัจจุบันได้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้ว เมื่อเห็นว่าเจ้าจิ้งจอกเพลิงกําลังตั้งท่าจะโจมตีอีกครั้ง เฉิงจุนก็รีบยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี

ในตอนท้ายของการแข่งขัน ดอกแดนดิไลออนที่ส่องประกายระยิบระยับสองตัวจะปรากฏขึ้น และใช้สกิลบําบัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของสัตว์วิญญาณทั้งสองตัว

ไม่กี่นาทีต่อมา ขนที่ไหม้เกรียมของจิ้งจอกเพลิงก็กลับมานุ่มฟูดังเดิม

สิ่งนี้ทําให้เสี่ยวจูที่คิดว่าเธอคงจะ "เสียโฉม" ไปแล้ว ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

โชคดีที่ขนของเธอไม่เป็นอะไร

~อาจมีคนสงสัยว่าทำไมใช้คำว่าปรมาจารย์วิญญาณ บางทีก็ใช้นักจิตวิญญาณ คือเราแยกให้เห็นความแตกต่าง ตรงที่นักจิตวิญญาณคือคนที่เพิ่งจะมาเดินบนเส้นทางของปรมาจารย์วิญญาณได้ไม่นาน ยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นปรมาจารย์วิญญาณเต็มตัว อาจจะด้วยคุณสมบัติต่างๆที่ยังไม่ถึงหรือไม่มีผลงานในเวทีไหนๆมาการันตีค่ะ และในหมู่ปรมาจารย์วิญญาณเองก็ยังมีแบ่งเป็นรุ่นเยาว์ รุ่นอาวุโสอีกด้วยค่ะ

สกิลกับเอฟเฟกต์ ต่างกันตรงไหน? สกิลจะได้มาตอนปลุกพลังธาตุค่ะ คือเป็นตัวสัตว์วิญญาณที่ได้มา ไม่สามารถถอดออกได้แต่พัฒนาได้ เอฟเฟกต์คือพรสวรรค์ของเฉินโม่ค่ะ จะได้มาจากการทำภารกิจในแต่ละวัน ที่พอได้มาแล้ว จะติดตั้งให้ตัวเองหรือให้สัตว์วิญญาณก็ทำได้ทั้งนั้น จะถอดเข้าหรือถอดออกก็ได้อีก~

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด