ตอนที่แล้วบทที่ 39 : รายได้รายวันมากกว่า 3,500 คะแนน! กลยุทธ์เก็บเกี่ยวสองขั้นที่สมบูรณ์แบบ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 41 : ย้ายมาอยู่อาคาร​หลังน้อยสีขาว

บทที่ 40 : การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ!


บทที่ 40 : การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ!

ณ​ ตอนนี้

กระเพาะของซูไป๋เต็มไปด้วยไวน์และอาหาร

พอตกดึก

ซูไป๋ก็ออกจากชั้นใต้ดินของโรงอาบน้ำ และมาที่ถนนสายบันเทิงนอกโรงอาบน้ำ

เขาเริ่มเดินเล่นและผ่อนคลายอย่างไร้จุดหมายปลายทาง

ณ​ เวลากลางคืน….ถนนเป่ยหยวนจะเป็นถนนที่คนพลุกพล่านที่สุด

ดังนั้น, นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อหาความบันเทิง

แน่นอนว่าผู้คนต่างไหลเวียนมาที่แห่งนี้อย่างไม่หยุดหย่อน​

ยามเดินไปที่แม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆ ยืนพิงรั้วสะพานที่ประดับด้วยแสงไฟหลากสีสัน…..และเมื่อมองไปที่ถนนเป่ยหยวนที่ปกคลุมไปด้วยแสงไฟนีออน, ซูไป๋ก็รู้สึกเหม่อลอยเล็กน้อย

ด้วยการยอมศิโรราบอย่างสมบูรณ์ของจินหมั่นฝู ทรัพย์สินในชื่อของเขาจึงกลายมาเป็นทรัพย์สินในชื่อของซูไป๋ด้วยเช่นกัน

กล่าวอีกอย่างคือ

ในถนนสายบันเทิงที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ทำกำไรได้มากที่สุดได้มาอยู่ในกระเป๋าของเขาเป็นที่เรียบร้อยร้อย….แน่นอนว่าแม้แต่ร้านค้าอื่นๆก็มีส่วนที่เป็นของเขาเช่นเดียวกัน

หากเป็นยุคที่สงบสุขในยามนี้ ซูไป๋คงกล่าวได้ว่าเขาได้มาถึงจุดสูงสุดของชีวิต และสามารถก้าวต่อไปได้อย่างสำราญ

แต่น่าเสียดาย

ความเจริญรุ่งเรืองที่อยู่ตรงหน้า…..จะคงอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งปี

เมื่อหมอกดำปกคลุมทั่วท้องฟ้าและวันสิ้นโลกก็มาถึง

ไม่ว่าถนนจะเจริญรุ่งเรืองเพียงใด พวกมันก็จะกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง และไม่ว่าเมืองจะรุ่งโรจน์แค่ไหน พวกมันก็จะกลายเป็นเพียงนรกบนดิน

นับตั้งแต่ระบบถูกเปิดใช้งาน….ซูไป๋ก็เริ่มมีปัญหาทางด้านจิตใจ

เขาทำงานหนักเพื่อเพิ่มคะแนน…..ทำงานหนักเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น

ไม่เพียงแต่เพื่อการเอาชีวิตรอดในวันโลกาวินาศเท่านั้น แต่ยังเพื่อมีชีวิตที่ดีอีกด้วย​

หากนี่คือเป้าหมายสูงสุดของเขา เขาคงจะสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ​

เกือบหนึ่งปีก่อนที่จะถึงวันสิ้นโลก เขาได้มาถึงระดับหนึ่ง, และปลดล็อคผลิตภัณฑ์มากมายในห้างสรรพสินค้าเรียบร้อย​แล้ว​

และเมื่อวันสิ้นโลกมาถึงในหนึ่งปีข้างหน้า... เขาจะต้องไปอยู่ในระดับที่สามหรือแม้แต่ระดับที่สี่ให้ได้!

อีก​อย่าง….ไอเทมมากมายที่ปลดล็อคในห้างสรรพสินค้าก็ต้องมากเพียงพอ

เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีในยุคโลกาวินาศ….ดียิ่งกว่าในยุคเจริญรุ่งเรือง!

แต่ทว่า……ท้ายที่สุดเขายังคงมีสิ่งที่ต้องแสวงหา

เขาไม่เพียงต้องการมีชีวิตที่ดีในวันสิ้น​โลก​เพื่อตัวเขาเองเท่านั้น……แต่ยังต้องการให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีในวันสิ้น​โลก​มากขึ้นเช่นเดียวกัน!

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่รวมเป็นกลุ่มก้อน

หากคุณเพียงแค่มีชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง แม้ว่าตัวตนในอนาคตของคุณจะเติบโตไปสู่ระดับที่สูงมากจนกลายเป็นตัวตน​คล้ายกลับพระเจ้าในโลกแห่งความจริง……เเต่เขาก็เกรงว่าเขาคงจะไม่มีความสุขอยู่ดี

สิ่งที่รอคุณอยู่คงเป็นช่วงเวลาแห่งความเงียบเหงาที่แสนยาวนาน

ตรงกันข้าม, หากมีผู้รอดชีวิตมากขึ้น…..เมื่อนั้นเขาจึงจะสามารถอยู่อย่างมีความสุขและและรับรู้ถึงความหมาย​ของชีวิตที่แท้จริง

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ การพึ่งพาความแข็งแกร่งของเขาเองเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ

เขาต้องพึ่งอำนาจจากรัฐ..

ความคิดนี้ของซู่ไป๋นั้นชัดเจนมาก

ทำงานอย่างหนักในช่วงแรกเพื่อเพิ่มคะแนน, เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของตนเอง​

เมื่อมาถึงจุดที่ความแข็งแกร่งของเขาเพียงพอ….อย่างน้อยก็เพียงพอที่จะกำจัดข้อจำกัดของกองทัพ(ไม่โดนจับ)​

เขาก็จะแจ้งให้ประเทศทราบในทางใดทางหนึ่ง…..เพื่อที่ประเทศจะได้เตรียมพร้อมสำหรับวันสิ้นโลกโดยเร็วที่สุด

เพราะเมื่อวันสิ้นโลกมาถึง……70% ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตจะถูกเปลี่ยนร่างเป็นซอมบี้ในช่วงเวลาอันสั้น

ในส่วนนี้ทั้งมนุษย์และสิ่งมีชีวิต…มันเป็นโชคชะตาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยง​ได้

แต่มันยังมีที่ว่างสำหรับอีก 30% ที่เหลือรอด

เพื่อช่วยคนเหล่านี้ สิ่งที่จำเป็นคืออำนาจของรัฐบาล!

เหตุผลที่เขาต้องรอจนกว่าเขาจะแข็งแกร่งพอ ถึงจะทำเช่นนี้...ก็เพราะมันยังเร็วเกินไปและเขายังต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งปีในการเตรียมตัว

ที่สำคัญ….ใครจะรับประกันได้ว่าประเทศจะเชื่อเขา?

เขาเชื่อว่าประเทศอาจจะดีแต่ผู้คนไม่ได้ดีไปด้วย

ใครสามารถรับประกันได้ว่าเมื่อเขาก้าวออกมา….เขาจะไม่พบอุปสรรคที่เกิดจากคนบางคนใช้อำนาจของรัฐในทางมิชอบ?

ดังนั้น…..ความแข็งเเกร่งของตัวเองคือรากฐาน

ตราบใดที่เขาแข็งแกร่งพอ แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับใครบางคนที่ไม่ลืมตาตื่น….เขาก็จะสามารถทำลายพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

วิธีการของเขาก็คือรับคะแนนการเอาชีวิตรอดและการเติบโตโดยไม่ถูกขัดจังหวะ

และเมื่อเขามีพลังมากพอ...แม้แต่ประเทศก็ยังต้องพิจารณาคำพูดของเขาอย่างรอบคอบและเตรียมพร้อมล่วงหน้าเพื่อช่วยผู้รอดชีวิตจากวันสิ้นโลก!

นี่คือความคิดของซูไป๋

ก่อนหน้านี้…..ซูไป๋ทำคะแนนด้วยตัวคนเดียวมาโดยตลอด

แม้ว่าเขาจะได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดมากมายในทุกวัน, จนความแข็งแกร่งของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับที่คนธรรมดาไม่สามารถจินตนาการได้

แต่เขาก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดันที่อยู่บนบ่าอยู่ดี!

……

เเต่ตอนนี้…..มันแตกต่างออกไปเเล้ว

ไกด์ไลน์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับรังซอมบี้ทั้งสองแห่ง

อาคารสีขาวหลังน้อยและถนนสายบันเทิง

ทั้งสองเเห่งไม่เพียงแต่ทำกำไรมหาศาลจากคะแนนการเอาชีวิตรอด……แต่ยังทำให้เขามองเห็นวิธีการอื่นๆในการเพิ่มคะแนนและแข็งแกร่งขึ้น

อาคารสีขาวหลังน้อยและถนนสายบันเทิง​ จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

เมื่อเวลาผ่านไป เเละเขามีรังซอมบี้ไว้ฟาร์ม​มากขึ้นเรื่อยๆ

เขาก็จะได้รับคะแนนการเอาชีวิตรอดมากขึ้นเรื่อยๆ….และมีความหวังในอนาคตมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน

ซูไป๋ยังเชื่อเช่นนั้น

ตราบใดที่เขายังคงแข็งแกร่งขึ้นเช่นนี้

แม้ว่าวันสิ้น​โลก​จะมาถึงและอารยธรรมจะสูญสิ้น…...เขาก็จะยังคงรักษาเปลวไฟของอารยธรรม​จวบจนถึงวันสิ้นโลกผ่านพ้น​

จากนั้น, เขาก็ฟื้นฟูอารยธรรมขึ้นมาใหม่ท่ามกลางซากปรักหักพังนี้เอง!

….…

เมื่อมองไปที่มุมมองถนนเเละมีลมหนาวพัดมา

ซูไป๋รู้สึกว่าจิตใจของเขาดีขึ้นมากในทันใด

อย่างน้อยมันก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนซึ่งเขามักจะรักษาความรู้สึกเร่งรีบ ราวกับว่ามีอันตรายบางอย่างไล่ตามข้างหลังเขาอยู่​ตลอดเวลา!

ตอนนี้

เขาจะยังคงเก็บคะเเนนและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเองต่อไป

แต่อย่างน้อยก็เริ่มสงบสติอารมณ์ได้บ้าง​ (มีคนช่วยเเล้ว)​

หลังจากเปลี่ยนความคิดเสร็จแล้ว ซูไป๋ก็เดินไปที่โรงอาบน้ำอย่างสบายใจ

เเต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้โรงอาบน้ำ

ซูไป๋ก็สังเกต​เห็นร่างสามร่างที่คุ้นเคยอีกครั้ง

ณ ตอนนี้…..อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นอีกครั้ง

คะเเนนการเอาชีวิตรอดที่มาหาถึงหน้าบ้านเเบบนี้…..เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร

ด้วยรอยยิ้ม ซูไป๋เอามือล้วงกระเป๋าและเดินช้าๆ ไปยังสามคนที่เดินเตร่อยู่นอกเย่หยวนบาร์มาเป็นเวลานาน

……………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด