ตอนที่แล้วตอนที่ 11 : ปลุกพลังขั้นที่ 5!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 : ความรักก็หายไปใช่ไหม?

ตอนที่ 12 : ปลุกพลังขั้นที่ 5! (2)


"มันปลุกพลังแล้วจริงๆ!"

“จิ้งจอกเพลิงตัวนั้นปลุกพลังธาตุสายฟ้าได้จริงๆด้วย!”

"พี่ชาย คุณมาจากโรงเรียนไหนกัน?"

ปรมาจารย์วิญญาณที่กําลังฝึกฝนในสนามหลักต่างก็มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว บางคนเข้ามาหาเขาโดยตรง บางคนถ่ายรูป และบางคนก็กำลังบันทึกวิดีโอ

จริงๆ แล้วมันเป็นฉากที่ค่อนข้างหายากสําหรับสัตว์วิญญาณที่จะปลุกพลัง แต่มันหายากยิ่งกว่าที่สัตว์วิญญาณจะได้รับการกลายพันธุ์ มีแค่เฉพาะสัตว์วิญญาณที่มีพรสวรรค์โดดเด่นเท่านั้นที่จะมีโอกาสปลุกพลังธาตุใหม่ได้

นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่พลังทางจิตวิญญาณถูกปลุกขึ้นมา นิวเคลียสของคริสตัลในร่างกายของพวกมันจะดูดซับพลังทางจิตวิญญาณที่อยู่โดยรอบอย่างรวดเร็ว และสัตว์วิญญาณตัวนั้นๆก็มักจะเลื่อนระดับไปหลายขั้นทันทีที่ปลุกพลังขึ้นมาได้

เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา ความเร็วที่เจ้าจิ้งจอกเพลิงดูดซับพลังทางจิตวิญญาณในที่สุดก็กลับมาเป็นปกติ ในขณะนี้ระดับการเติบโตของมันได้มาถึงระดับการปลุกพลังขั้นที่ห้าแล้ว!!!

"หงิง!"

เสี่ยวจูรู้สึกประหลาดใจที่ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นอีกขั้นหนึ่งเลย!

"ดีมาก"

เฉินโม่เองก็รู้สึกได้ถึงความสุขและความตื่นเต้นของเจ้าตัวเล็ก ในขณะที่เขากำลังจะใช้เสี่ยวจูโอ้อวด ก็ได้มีชายหัวโล้นที่ดูน่ากลัวคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาพวกเขา

ชายหัวล้านคนนี้น่าจะมีอายุอยู่ที่ประมาณ 50 ปี เขาสวมเสื้อกั๊กสีขาวเพียงตัวเดียวเพื่ออวดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของเขา

"เถ้าแก่!"

"ปรมาจารย์ฉี!"

"อาจารย์!"

เมื่อชายหัวล้านเดินเข้ามาใกล้ พนักงานในชุดเครื่องแบบของยิมอสนีบาตก็เข้ามาทำความเคารพเขาอย่างพร้อมเพรียง ชายหัวล้านตัวสูงที่อยู่ตรงหน้านี้เห็นได้ชัดว่าเขาคือเจ้าของยิมอสนีบาตแห่งนี้ เขามีชื่อว่าว่า ฉีเหล่ย

หลังจากค้นพบ "ต้นกล้าที่ดี" อย่างเจ้าจิ้งจอกเพลิง Thunder Cloud เหนือหัวก็ได้แจ้งข่าวสารนี้ให้แก่ ฉีเหล่ย ปรมาจารย์วิญญาณของมันในทันที

ดังนั้น ฉีเหล่ยที่เดิมนั่งดื่มชาอยู่ข้างนอกจึงรีบเข้ามาในทันที

“หนุ่มน้อย ชื่อของฉันคือฉีเหล่ย ฉันเป็นผู้นําของยิมอสนีบาตแห่งนี้ นายสนใจที่จะเข้าร่วมยิมของเราหรือไม่?”

ชายหัวล้านบอกความตั้งใจของเขาออกมาตามตรง

อาจเป็นเพราะเขาเคยอยู่ในกองทัพมาก่อน ฉีเหล่ยจึงเป็นคนที่เด็ดขาดและกระฉับกระเฉงมาก

"แล้วผมต้องเสียค่าใช้จ่ายไหมครับ?" เฉินโม่ถามออกไปโดยไม่รู้ตัว

ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ตอนนี้เขายากจนมากกันล่ะ!

"ภายใต้สถานการณ์ปกติ ถ้านายไม่ใช่ศิษย์สายตรงของเรา เราจะยังคงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบางอย่างอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อนายเป็นกรณีพิเศษ ฉันจะยกเว้นค่าธรรมเนียมให้นายทั้งหมด หลังจากที่นายเข้าร่วมยิมของเราแล้ว จิ้งจอกเพลิงของนายสามารถเรียนรู้การเคลื่อนไหวด้วยธาตุสายฟ้าได้มากมายและยังสามารถใช้สนามฝึกซ้อมของเราได้ฟรีๆอีกด้วย” ฉีเหล่ยพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

แม้ว่าตอนนี้เฉินโม่จะเป็นเพียงปรมาจารย์วิญญาณระดับฝึกหัด แต่จิ้งจอกเพลิงของเขากลับสามารถปลุกพรสวรรค์ธาตุสายฟ้าขึ้นมาได้ และหลังจากผ่านสายฟ้าฟาดระดับปลุกพลังขั้นที่ 3 มาได้ ใครจะไปคิดว่ามันจะยังสามารถทนต่อสายฟ้าฟาดระดับพิเศษได้อีกกัน นี่แสดงให้เห็นว่าพรสวรรค์ธาตุสายฟ้าของเด็กน้อยนั่นน่าทึ่งมากแค่ไหน!

เรียกได้ว่าศักยภาพของมันนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

"อาจารย์ฉี หลังจากเข้าร่วมยิมแล้ว ผมต้องทำอะไรบ้างครับ?"

ไม่มีพายตกลงมาจากท้องฟ้า ดังนั้น เฉินโม่จึงคิดว่า เขาควรจะถามเงื่อนไขให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ ไม่ ไม่ นายก็คิดเสียว่าฉันเป็นคนแก่คนหนึ่งที่ชอบปลูกฝังพรสวรรค์ให้เด็กรุ่นใหม่ๆก็แล้วกัน”

ฉีเหล่ยสนใจในตัวเฉินโม่ หรือจะให้พูดตามตรง เขาสนใจในศักยภาพของเจ้าจิ้งจอกเพลิง

สัตว์วิญญาณที่สามารถปลุกพรสวรรค์ที่สองได้ อย่างน้อยที่สุดก็คงจะเป็นการดํารงอยู่ของสัตว์วิญญาณระดับตำนานล่ะมั้ง ถ้ามันไม่ตายไปซะก่อนอะนะ

ดังนั้นแผนการของเขา คือการทำให้เฉินโม่กลายเป็นสมาชิกของยิมอสนีบาตให้ได้เสียก่อน จากนั้นถ้าความสามารถของเฉินโม่ดีพอ เขาก็จะรับเด็กคนนั้นเข้ามาเป็นศิษย์สายตรง

แม้ว่าเฉินโม่จะประสบอุบัติเหตุกลางทางหรือพฤติกรรมของเขาไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐาน การสอนต่างๆและค่าธรรมเนียมสถานที่ก็ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่มากมายอะไรนัก ดังนั้นเขาแทบจะไม่ได้สูญเสียอะไรเลย

ส่วนอนาคต เขาจะยอมรับเฉินโม่เป็นศิษย์สายตรงหรือไม่นั้น เขาไม่ได้กังวลในเรื่องนี้เลย

เด็กคนนี้ดูเหมือนจะเป็นนักเรียนที่เรียบง่ายและเชื่อฟังในแวบแรกที่เห็น มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะล่อหลอกให้เด็กคนนี้ทุ่มเทให้เขาที่เป็นครูเมื่อถึงเวลา

"โอเค อาจารย์ฉี ผมจะเข้าร่วมยิมครับ" เฉินโม่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตอบตกลง

ที่จริงเขาไม่มีวิธีการสั่งสอนเจ้าจิ้งจอกเพลิงมากนัก แล้วเจ้าของร่างนี้เองก็ไม่ได้ทิ้งความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพของสัตว์วิญญาณเอาไว้เลย

เขาเองก็เคยค้นหาข้อมูลทางออนไลน์มาบ้าง แล้วก็ต้องพบว่า แม้มันจะมีวิธีการพัฒนาและฝึกอบรมหลายวิธี แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่วิธีที่สมบูรณ์นัก

ยิ่งกับเจ้าจิ้งจอกเพลิงของเขา ที่แตกต่างจากจิ้งจอกเพลิงทั่วไปอีกต่างหาก ด้วยความช่วยเหลือของภารกิจในแต่ละวัน พวกเขาจะต้องมีลู่ทางมากขึ้นกว่านี้ในอนาคตอย่างแน่นอน

ตัวอย่างเช่น ค่อยๆสะสมภารกิจด้านการป้องกันต่อไปเรื่อยๆ จากนั้นก็เรียนรู้การเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มการป้องกัน และกลายเป็นซุปเปอร์จิ้งจอก

หรือจะรวบรวมเอฟเฟกต์โจมตีและความเร็ว เพื่อเพิ่มความเร็วในการโจมตี ฯลฯ

แน่นอนว่าสถานการณ์ที่เหมาะสมที่สุด คือการฝึกเสี่ยวจูให้เป็นนักรบหกเหลี่ยม!

แม้ว่าเสี่ยวจูจะสามารถติดตั้งได้เพียงสามเอฟเฟกต์เท่านั้นในตอนนี้ แต่นอกเหนือจากการเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถทั้งหมดแล้ว เฉินโม่ ยังสามารถเปลี่ยนเอฟเฟกต์ไปตามสถานการณ์จริงในระหว่างการต่อสู้ได้ตามใจอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น ขณะโจมตีก็ให้ติดตั้งเอฟเฟกต์ [Swift] และเมื่อคุณต้องการป้องกัน ก็ให้เปลี่ยนเป็นเอฟเฟกต์ [ผิวหยาบและหนังหนา] หากเขามีเอฟเฟกต์เพิ่มเติมในอนาคต เขาก็จะยิ่งมีทางเลือกมากขึ้นไปอีก

~ไม่มีพายตกลงมาจากฟ้า หมายถึงไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ

นักรบหกเหลี่ยมคือ Ability chart ค่ะ ที่เป็นรูปหกเหลี่ยมแล้วแสดงระดับความสามารถด้านต่างๆค่ะ

ต้นฉบับเรื่องนี้ยังไม่จบนะคะ เรื่องนี้จะอัพวันละ 2 ครั้ง ตอนเที่ยงกับ 2 ทุ่มค่ะ~

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด