ตอนที่แล้วChapter 7 : บอสปรากฎกาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 9 : แผ่นเหล็กไร้นาม

Chapter 8 : สังหารบอสตัวแรก


“ก็แค่ดิ้นรนก่อนตาย!”

น้ำเสียงเยาะหยันนั้นลอยมาตามสายลม

ในเวลาเดียวกันมนุษย์หมาป่าลู่หยวนก็ใช้กงเล็บของเขาฉีกกระชากเนื้อหนังของราชันย์หมาป่า

[-41!]

[-39!]

[-58!]

...

โบนัสค่าสถานะในโลกแห่งอโพคาลิปนั้นไม่ได้เรียบง่ายเช่นหนึ่งบวกหนึ่ง ทุกค่าสถานะหนึ่งหน่วยที่เพิ่มขึ้นนั้นเทียบได้กับสองหรือสามหน่วยของค่าสถานะก่อนหน้า ยิ่งค่าสถานะเพิ่มขึ้นมากเท่าใด โบนัสค่าสถานะก็จะยิ่งน่าสะพรึงมากเท่านั้น

ผลลัพธ์ของมันนั้นทำให้ทุกครั้งที่เลเวลอัพในโลกแห่งอโพคาลิปจะได้ค่าสถานะฟรีเพียงแค่น้อยนิด

หลังจากผ่านไป30วินาทีลู่หยวนก็หลุดออกจากร่างมนุษย์หมาป่า

ในเวลานี้พลังชีวิตของราชันย์หมาป่าเหลือเพียง234แต้มเท่านั้น

เมื่อเห็นจำนวนพลังชีวิตเท่านี้ ลู่หยวนกระดกโพชั่นฟื้นฟูมานาลงไปและเริ่มร่ายเวทย์เรียกบอลเพลิงออกมาอีกลูกหนึ่ง

[-88!]

หลังจากนั้นลู่หยวนก็หยิบมีดสั้นที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาอีกครั้งและเข้าโจมตีราชันย์หมาป่าอีกหน

ราชันย์หมาป่าไม่อาจหาตำแหน่งของเขาได้และเขาก็ต้องการสังหารมันให้ไวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เช่นกัน

ไม่อย่างนั้นแล้วถ้าผู้เล่นจำนวนมากมาถึง ต่อให้ตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งทรงพลังเพียงใดแต่ก็ไม่มีทางได้เปรียบแน่นอนเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เล่นจำนวนมาก

ยังไงซะสิ่งที่ต้องจ่ายไปกับการทำชั่วในเกมนั้นน้อยนิดมาก การแย่งบอสหรือการสังหารผู้เล่นจึงเป็นเรื่องธรรมดา

การที่จะเห็นผู้เล่นลงมือสังหารผู้เล่นอื่นในพื้นที่เก็บเลเวลเพียงเพราะอารมร์ไม่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องที่หาดูยากแต่อย่างใด

ทันทีที่ผลของสกิล ‘เงาติดตาม’ หมดลงพร้อมกับประกายแสงจากมีดสั้นที่ฟันลงไป ร่างของราชันย์หมาป่าก็ล้มลงบนพื้น

บอลแสงกระจัดกระจายออกมา

ศพของราชันย์หมาป่ามลายหายสิ้นและถูกแทนที่ด้วยไอเทมดรอปจำนวนมาก

[ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นลู่หยวนที่สามารถสังหาร ’ราชันย์หมาป่า’ เลเวล5ลงได้ เนื่องจากท่านเป็นผู้เล่นคนแรกของทั้งเซิร์พเวอร์ที่สังหารบอสลงได้ ท่านจะได้รับแต้มตำนาน+1แต้ม , ค่าชื่อเสียง+20แต้ม - ชื่อของผู้เล่นลู่หยวนเริ่มเป็นที่รู้จัก]

[ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นลู่หยวนที่สามารถสังหาร ’ราชันย์หมาป่า’ เลเวล5ลงได้ เนื่องจากท่านเป็นผู้เล่นคนแรกของทั้งเซิร์พเวอร์ที่สังหารบอสลงได้ ท่านจะได้รับแต้มตำนาน+1แต้ม , ค่าชื่อเสียง+20แต้ม - ชื่อของผู้เล่นลู่หยวนเริ่มเป็นที่รู้จัก]

[ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นลู่หยวนที่สามารถสังหาร ’ราชันย์หมาป่า’ เลเวล5ลงได้ เนื่องจากท่านเป็นผู้เล่นคนแรกของทั้งเซิร์พเวอร์ที่สังหารบอสลงได้ ท่านจะได้รับแต้มตำนาน+1แต้ม , ค่าชื่อเสียง+20แต้ม - ชื่อของผู้เล่นลู่หยวนเริ่มเป็นที่รู้จัก]

ต่อจากเสียงแจ้งเตือนจากระบบนั้น ผู้เล่นทุกคนที่กำลังพากันรุดหน้าไปยังพื้นที่เก็บเลเวลเลเวล2พลันชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นอีกครั้ง

บอสตายไปแล้วแต่พวกเขายังอยากจะได้ของดรอปจากบอสอยู่

มองจากที่ไกลๆนั้นพวกเขาเห็นผู้เล่นคนหนึ่งยืนอยู่ข้างกองไอเทมและเตรียมจะก้มตัวลงหยิบพวกมันขึ้นมา

“หยุดก่อน!”

หนึ่งในผู้เล่นที่เป็นผู้นำตะโกนออกมา

ลู่หยวนที่กำลังเก็บไอเทมยัดเขี้ยวหมาป่าใส่ช่องเก็บของ จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองและพบว่ามีผู้เล่นนับร้อยกำลังมุ่งหน้ามาทางเขา ลู่หยวนไม่สนใจคนเหล่านั้นและรีบก้มลงเก็บไอเทมทั้งหมด จากนั้นเขาก็หมุนตัวหมายจะจากไปในทันที

หลังจากได้รับไอเทมภารกิจมาแล้วก็ไม่มีเหตุผลให้เขารั้งอยู่ในพื้นที่เก็บเลเวลเลเวล2อีกต่อไป

ความต่างของระดับนั้นรุนแรงมาก ด้วยเลเวลในปัจจุบันของเขาขนาดว่าสังหารมอนสเตอร์เลเวล2ไปมากกว่า400ตัวก็ยังเลเวลไม่อัพเลยซักเลเวล

“พี่ชายลู่หยวนรอซักครู่เถอะ” ผู้เล่นที่เป็นผู้นำซึ่งมีชื่อว่า ‘เซียงป้าเทียนเซี่ย’ เห็นว่าลู่หยวนไม่สนใจเขาจึงรีบเอ่ยออกมา

“มีอะไร?” ลู่หยวนหันหน้ากลับไปมอง เขารู้ดีว่าคนผู้นี้คือหัวหน้ากิลของกิลเวิร์ลโดมิเนเตอร์ - เซียงป้าเทียนเซี่ย

“เดาว่าพี่ลู่คงยังไม่มีกิลใช่ไหมล่ะ? ทำไมไม่เข้ากิลของพวกเราล่ะ? ต้องการข้อเสนอแบบไหนก็บอกมาได้เลย” เซียงป้าเทียนเซี่ยเอ่ยออกมา

ในเมื่อบอสถูกสังหารไปแล้วและไอเทมเองถูกเอาไปหมดแล้ว เซียงป้าเทียนเซี่ยจึงไม่มีความคิดจะยั่วยุลู่หยวนอีก ยังไงซะเขาผู้นี้ก็คือคนที่ได้รับการประกาศในแจ้งเตือนทั่วโลกถึงสองครั้งติดและยังเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ครอบครองกระทั่งสกิลระดับตำนาน ถ้าเขาสามารถชักชวนให้ลู่หยวนเข้าร่วมกับพวกเขาได้เขาก็ยินดีจะทำ ยังไงก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปยั่วยุอีกฝ่ายอยู่แล้ว

“ขอโทษด้วยแต่ฉันไม่ค่อยสนใจจะเข้าร่วมกิลซักเท่าไหร่ ฉันชินกับการทำอะไรคนเดียวมากกว่า” ลู่หยวนยิ้มอย่างเป็นกันเองให้กับคำเชิญของเซียงป้าเทียนเซี่ย

ตัวเขาค่อนข้างมีความประทับใจในแง่ดีต่อเซียงป้าเทียนเซี่ยผู้นี้

ในโลกความเป็นจริงนั้นอีกฝ่ายเป็นทหารปลดประจำการ

ในชีวิตที่แล้วของเขาเมื่อตอนที่โลกแห่งเกมเริ่มคลืบคลานสู่โลกแห่งความเป็นจริง เซียงป้าเทียนเซี่ยได้นำกิลของเขาออกสู้ในแนวหน้า

โชคไม่ดีนักที่เมื่อถึงช่วงท้ายปีที่สองหลังจากเริ่มต้นเกมเหล่านักบุญได้จุติลงมา นักบุญเหล่านั้นฆ่าล้างไปทั้งโลกและสู้เพื่อผู้ศรัทธาของพวมันจนทำให้ผู้คนบนโลกต้องใช้ชีวิตอยู่ในความสิ้นหวัง

เซียงป้าเทียนเซี่ยนำผู้เล่นระดับทอปในกิลของเขานับร้อยเพื่อต่อต้านเหล่านักบุญหากแต่ท้ายที่สุดแล้วนักบุญอันเป็นร่างแปลงมาจากเทพแห่งการสังหารก็ได้สังหารพวกเขาทั้งหมดจนสิ้น

จากภาพในวีดิโอที่ถ่ายได้จากดาวเทียมนั้น กระทั่งในวาระสุดท้ายเซียงป้าเทียนเซี่ยก็ไม่เคยหยุดกวัดแกว่งดาบ

เหตุผลที่เขาไม่รับคำเชิญของอีกฝ่ายก็เพราะว่าเวิร์ลโดมิเนเตอร์นั้นไม่ใช่กิลเพียงกิลเดียวในที่นี้ ลู่หยวนไม่อยากจะเจอปัญหาซักเท่าไหร่

แม้ว่าลู่หยวนจะไม่เกรงกลัวผู้เล่นเหล่านี้แต่ก็ไม่อยากจะเจอปัญหาเช่นกัน ไม่อย่างนั้นมันจะส่งผลต่อเรื่องของเขา

“ไม่เป็นไรๆ ถ้าในอนาคตพี่ลู่สนใจรบกวนคิดถึงเวิร์ลโดมิเนเตอร์เป็นตัวเลือกแรกก็พอ ประตูของเวิร์ลโดมิเนเตอร์จะเปิดรับนายเสมอ” เซียงป้าเทียนเซี่ยดูผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา

“เซียงป้าเลิกซักทีไอ้ความเห็นอกเห็นใจจอมปลอมนั่นน่ะ ไอ้หนูส่งไอเทมที่บอสดรอปมาซะไม่อย่างนั้นวันนี้นายอาจจะออกไปจากที่นี่แบบมีชีวิตไม่ได้ก็ได้นะ” หัวหน้ากิลของอีกกิลหนึ่งกล่าวออกมาหลังจากค่อนแขวะเซียงป้าเทียนเซี่ย

ลู่หยวนปรายตามองอีกฝ่ายและพบว่าเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาอีกผู้หนึ่ง

หัวหน้ากิลฟอร์สสโนว์ - ปิงชวงหลวนอู่

กิลฟอร์สสโนว์นั้นเป็นกิลใหญ่ในบรรดากิลใหญ่อีกทีจึงเป็นธรรมดาที่ปิงชวงหลวนอู่จะมีท่าทีโอหังเช่นนี้ในเกม

“โฮ่? อยากรู้จังว่าจะขวางไม่ให้ฉันออกไปจากที่นี่ยังไง? หรือจะใช้พวกขยะในกิลที่กระทั่งหมาป่าธรรมดาก็ยังต้องรวมหัวกันรุมดีล่ะ?” ลู่หยวนแค่นเสียงเยาะ

แม้ว่าจะเกรงปัญหาแต่ก็ใช่ว่าตัวเขาจะยอมก้มหัวให้

เหล่าผู้เล่นแม้อยากจะปฏิเสธวาจาถากถางของลู่หยวนแต่กลับหาคำดีๆไม่ได้

ยังไงซะอีกฝ่ายก็คือผู้เล่นที่สามารถโซโล่บอสเลเวล5ได้เพียงลำพัง

“ไอ้เด็กน้อยดูเหมือนจะยังไม่รู้สินะว่าโทษจากการตายมันหนักหนาขนาดไหน แกเชื่อไหมว่าในอนาคตฉันสามารถมุ่งเป้าไปที่แกเป็นพิเศษได้? พวกเราจะฆ่าแกทุกครั้งที่โทษจากการตายหมดลง” ปิงชวงหลวนอู่ข่มขู่ ประโยคนี้มักจะได้ผลทุกครา

เมื่อเผชิญหน้ากับโทษการตายที่หนักหนาสาหัสในอโพคาลิป ประโยคนี้จึงแฝงเอาไว้ด้วยอำนาจกดขี่อย่างรุนแรง

“ไม่รู้สิแต่นายลองดูได้นะ”

ทันที่เขากล่าวจบเงาร่างของลู่หยวนก็วูบไหวราวกับผีสางเหลือไว้เพียงภาพติดตา พริบตาต่อมาเขาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเบื้องหน้าของปิงชวงหลวนอู่

เขาปาดมีดสั้นในมือใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พริบตาต่อมาปิงชวงหลวนอู่ถึงขนาดต้องยกมือขึ้นมากุมคอเอาไว้

ในเวลาเดียวกันตัวเลขสีแดง [-89!] ก็ได้เด้งออกมาจากตัวของปิงชวงหลวนอู่

ในฐานะของหัวหน้ากิลของกิลใหญ่แล้ว เลเวลในปัจจุบันของปิงชวงหลวนอู่กลับอยู่เพียงเลเวล2เท่านั้น ภายใต้ความต่างของระดับลู่หยวนจึงกวาดเลือดของอีกฝ่ายไปกว่าครึ่งในการลงมือเพียงครั้งเดียว

“น่าเบื่อ หนนี้คิดซะว่าเป็นบทเรียนแล้วกัน ถ้านายยังไม่เลิกตอแยฉันฉันก็ไม่ติดที่จะให้นายได้สัมผัสดูหรอกนะว่าโทษจากการตายมันเป็นยังไง” ลู่หยวนกล่าวพร้อมกับเก็บมีดสั้นลง

แม้ว่าปิงชวงหลวนอู่จะเย่อหยิ่งและกดขี่ผู้คนแต่ในชีวิตที่แล้วอีกฝ่ายก็คือหนึ่งในแนวหน้าเช่นกัน แม้จะต้องเผชิญกับสิ่งล่อใจของอารยธรรมจากโลกในเกม ตัวเขากลับยังคงหนักแน่นและพยายามสุดชีวิตเพื่อโลก

กับคนเช่นนี้ลู่หยวนจึงออมมือเอาไว้

อย่างไรก็ตามถ้าปิงชวงหลวนอู่ยังตอแยเขาไม่เลิกเขาก็ไม่คิดมากที่จะสังหารอีกฝ่ายเหมือนกัน

“เอาล่ะหยุดเล่นได้แล้ว” เมื่อเห็นว่าปิงชวงหลวนอู่กำลังจะบันดาลโทสะ เซียงป้าเทียนเซี่ยก็คว้าไหล่ของเขาเอาไว้

ปิงชวงหลวนอู่จ้องแผ่นหลังของลู่หยวนจนกระทั่งลับสายตา จากนั้นจู่ๆเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“เซียงป้าเจ้าหมอนี่น่าสนใจจริงๆ เขาเป็นผู้เล่นโซโล่แท้ๆแต่กลับกล้าโจมตีฉัน ฉันอยากได้หมอนี่”

...

นอกเหมือง

ลู่หยวนตรงไปหาโซลาก้าก่อนจะหยิบเขี้ยวราชันย์หมาป่าออกมาจากกระเป๋า

“เขี้ยวหมาป่าที่ท่าต้องการ” ลู่หยวนเอ่ย

“ขอบคุณมากนักผจญภัย ข้าขอกลับคำที่เคยพูดก่อนหน้านี้ เจ้านั้นทรงพลังยิ่งนัก” โซลาก้ารับเขี้ยวหมาป่าไปและพูดขึ้น

“ขอบคุณสำหรับคำชมของท่าน” ลู่หยวนพยักหน้า

ขณะที่โซลาก้ากำลังปรุงยาด้วยเขี้ยวหมาป่าอยู่นั้น ลู่หยวนก็ใช้เวลาตอนนี้ตรวจสอบของดรอปจากราชันย์หมาป่า

“เชี่ย..กระทั่งไอเทมชิ้นนี้ก็ได้มาด้วยหรอเนี่ย”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด