ตอนที่แล้วบทที่25 สมรรถภาพของหลงเทียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน

บทที่26 โลกจำลองวิญญาณ


“อาจจะเป็นไปได้!? ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายนายรับไหวไหม” โม่หยุนหยุนพูดด้วยท่าทีไตร่ตรอง

ถึงแม้พลังกายของหลงเทียนจะอยู่ระดับจ้าววิญญาณ ปกติแล้วคงเป็นไปไม่ได้ที่จะดูดซับจิตอสูรระดับ5 แต่พลังจิตของเขามาถึงจิตก่อฟ้าแล้ว เขาสามารถดูดซับจิตอสูรระดับ5ได้ แต่ไม่รู้ว่าร่างกายของเขาจะสามารถทนไหวไหม

“ฉันสามารถทนไหวได้แน่นอน” หลงเทียนพูดออกมาอย่างมั่นใจและแน่วแน่

“งั้นนายก็สามารถลองดูได้ ถ้านายไม่ไหวฉันจะให้นายออกมาโลกจำลองวิญญาณ”

“ อีกอย่างหนึ่งพวกเธอห้ามเผยแพร่เกี่ยวกับผลการทดสอบของพวกเธอออกไปเด็ดขาด!

"ผู้จัดการโจวช่วยลบประวัติการทดสอบของพวกเขาให้หมด”

โม่หยุนหยุนมองไปที่พวกหลงเทียนด้วยด้วยท่าทีจริงจัง และสั่งผู้จัดการโจวให้ลบประวัติข้อมูลการทดสอบของพวกเขาทันที

ถึงแม้เธอจะมีสถานะที่สูงในหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แต่เธอก็มีศัตรูมากมายภายในเช่นกัน คงไม่ดีถ้าคนเหล่านั้นเห็นพรสวรรค์ของพวกหลงเทียนซึ่งมีความใกล้ชิดกับเธอและอาจก่อให้เกิดอันตรายกับพวกเขาได้

หอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ถึงแม้ภายนอกจะดูเหมือนสงบสุขแต่ภายในไม่ได้เป็นอย่างนั้น ในทางกลับกันมีการเข่นฆ่ากันอยู่ตลอดเวลา หอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ถูกปกครองโดยตระกูลหลากหลายที่ทรงพลัง ตระกูลบางตระกูลอาจเป็นมิตรสหายกันหรือบางตระกูลอาจจะเป็นศัตรูกัน

เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะทุกตระกูลต่างต้องการขึ้นเป็นจ้าวหอที่ปกครองหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ภายใต้ตระกูลของพวกเขาเองทำให้เกิดการแบ่งแยกออกเป็นหลายฝ่าย

หอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกและมีทรัพยากรการฝึกฝน สมบัตวิญญาณมากมายจำนวนนับไม่ถ้วน ตราบใดที่ตระกูลใดสามารถครอบครองมันได้

ตระกูลนั้นย่อมกลายเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในโลกอย่างแน่นอนและมีทรัพยากรการฝึกฝนมากมายในการฝึกฝนคนในตระกูลของพวกเขา ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ดูดดึงความโลภและความกระหายอำนาจของตระกูลของเหล่านั้น

เมื่อแต่ละฝ่ายต่างเป็นศัตรูกันการลอบสังหารเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ภายในตระกูลแต่ละตระกูลต่างมีคนที่แข็งแกร่งมากมายและไม่สามารถทำอย่างเปิดเผยได้

ดังนั้นพวกเขาจึงเล็งไปที่เหล่าอัจฉริยะของตระกูลแต่ละตระกูลเพื่อตัดไฟตั้งแต่ต้นลม โม่หยุนหยุนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ตระกูลโม่ของเธอเป็นตระกูลที่ทรงพลังในหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทำให้เธอเคยโดนลอบสังหารอยู่หลายครั้งแต่เธอมีคนที่แข็งแกร่งคอยปกป้องอยู่ตลอดทำให้รอดมาได้

ในหลายหมื่นปีที่ผ่านมีอัจฉริยะมากมายที่ถูกสังหารด้วยตระกูลภายในหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กันเอง ดังนั้นภายในหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จึงอันตรายอย่างมากและมีการจ้องจะเข่นฆ่ากันอยู่ตลอดเวลาซึ่งทำให้โม่หยุนหยุนต้องคอยระมัดระวังอยู่เสมอ

อันที่จริงแล้วเธอมาจากทวีปศักดิ์สิทธิ์แต่สาเหตุที่เธอมาทวีปดาราแห่งนี้เพื่อหลบซ่อนชั่วคราว ณ ปัจจุบันความขัดแย้งของแต่ละตระกูลในหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่จะเกิดการสงครามฆ่าล้างตระกูลขึ้นเหมือนภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุอยู่ตลอดเวลา แน่นอนในฐานะอัจฉริยะของตระกูล โม่หยุนหยุนย่อมถูกจับจ้องและเป็นเป้าหมายอย่างช่วยไม่ได้ซึ่งทำให้ตระกูลของเธอส่งเธอไปที่ห่างไกลหลายสิบล้านกิโลเพื่อหลบหลีกอันตรายชั่วคราว

ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดสงครามขึ้นเมื่อไหรและไม่มีใครรู้ว่าตระกูลของพวกเขาจะล้มสลายหรือไม่ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็อยากให้สายเลือดและจิตวิญญาณตระกูลของพวกเขาไม่สูญสลายและคงอยู่ตลอดไป

ตราบใดที่เธออยู่ในทวีปดารา เธอจะปลอดภัยอย่างแน่นอน ต่อให้อีกฝ่ายรู้ตำแหน่งที่อยู่ของเธอแต่พวกเขาก็ไม่สามารถออกจากทวีปศักดิ์สิทธิ์ได้ในสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน พวกเขาสามารถทำได้แค่จ้างมือสังหารมาจัดการเธอเท่านั้น แต่โม่หยุนหยุนเองก็มีคนที่แข็งแกร่งมากคอยปกป้องเธอเช่นกัน

“รับทราบครับ!” ผู้จัดการโจวตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจังและลบประวัติการทดสอบของพวกหลงเทียนทิ้งทันที

“ถ้างั้นพวกเราไปโลกจำลองวิญญาณกันเถอะ!”

โม่หยุนหยุนเดินนำพาพวกหลงเทียนขึ้นลิฟต์จนเกือบถึงชั้นบนสุดของหอคอย

"พวกเธอตามฉันมา!"

โม่หยุนหยุนพูดบางอย่างกับพวกหลงเทียนและพาพวกเขาเข้าไปในห้องทรงกลมที่ล้อมรอบด้วยโลหะ มีหน้าจอแสงสีฟ้าขนาดใหญ่มากมายติดอยู่บนผนัง ในหน้าจอเหล่านั้นแสดงถึงฉากที่เต็มไปด้วยพืชเขียวชอุ่มและมีสัตว์วิญญาณมากมายเคลื่อนไหวอยู่ในนั้น

ในขณะเดียวกันก็มีคนจำนวนมากกำลังจ้องมองหน้าจอเหล่านั้นอยู่ แต่เมื่อเห็นโม่หยุนหยุนเดินเข้ามาพวกเขาก็เตรียมตัวจะแสดงความเคารพทันที

แต่โม่หยุนหยุนยกมือห้ามไว้ก่อนและหันไปบอกพวกหลงเทียนถึงข้อควรระวังในการเข้าสู่โลกจำลองด้วยสีหน้าจริงจัง!

“โลกจำลองวิญญาณที่พวกเธอเข้าไปนั้นจะเป็นโลกจำลองวิญญาณระดับกลางซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์วิญญาณระดับ3และ4 หรือแม้กระทั้งระดับ5”

“ โลกจำลองวิญญาณนั้นเป็นมิติอีกมิติหนึ่งของโลก ข้างในล้วนแต่เป็นสัตว์วิญญาณที่มีอยู่จริง แต่มันเป็นเพียงแค่วิญญาณเท่านั้น ไม่มีร่างกายของมันจริงๆ แต่ความแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณแต่ละตัวไม่ต่างกับตอนที่มันมีร่างกายมากนัก”

“หลังจากพวกเธอสังหารมัน วิญญาณของพวกมันจะกลายเป็นจิตอสูรซึ่งพวกเธอสามารถดูดซับมันได้ หลังจากพวกเธอดูดซับจิตอสูรเสร็จให้พวกเธอทำลายตราสัญลักษณ์ที่ฉันให้พวกเธอไปและพวกเธอจะสามารถกลับมาที่นี่ได้” โม่หยุนหยุนอธิบายพร้อมให้ตราสัญลักษณ์สีเขียวอ่อนแก่พวกหลงเทียน

“จำไว้ให้ดี! ถ้าพวกเธอตายในโลกจำลองวิญญาณ พวกเธอจะตายจริงๆ หากเจอสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งและไม่สามารถรับมือได้ให้พวกเธอรีบทำลายตราสัญลักษณ์นี่ทันทีและกลับมาที่นี่”

“อย่าให้ความโลภหรือความมั่นใจทำลายชีวิตของพวกเธอ ทุกปีล้วนมีคนเสียชีวิตจำนวนมากเพราะเหตุนี้” โม่หยุนหยุนเตือนออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

สิ่งที่เธอพูดไม่ใช่เรื่องโกหกมีคนมากมายต้องการดูดซับจิตอสูรของสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่พวกเขามั่นใจเกินพลังของตัวเองมากเกินไปและไม่รู้จักความแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณแต่ละตัวทำให้ถูกสังหารโดยสัตว์วิญญาณเหล่านั้น

“พี่สาวทำไมสัตว์วิญญาณด้านในโลกจำลองวิญญาณถึงมีแค่วิญญาณแต่ไม่มีร่างกาย!?” ลู่หยินเหมยถามด้วยความสงสัยเล็กน้อยเพราะเธอพึ่งเข้าโลกจำลองวิญญาณเป็นครั้งแรก

หลงเทียนเองก็สงสัยเช่นกัน ถึงแม้เขาจะเคยดูดซับจิตอสูรมาแล้วแต่มันเป็นจิตอสูรที่ที่ได้รับมาจากหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โดยตรง ไม่ได้รับมาจากการล่าสัตว์วิญญาณในโลกจำลองวิญญาณ ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันที่เขาสู่โลกจำลองวิญญาณ

“อันที่จริงนี่เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ โลกจำลองวิญญาณเปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มันถูกสันนิษฐานว่าเป็นโลกที่กักเก็บวิญญาณของสัตว์วิญญาณที่ล้มตายจำนวนมากในอดีตเอาไว้”

“ในอดีตหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้พบกับโลกแห่งนี้โดยบังเอิญและสามารถควบคุมแก่นกลางของโลกได้บางส่วน”

" โลกจำลองวิญญาณของที่นี่นั้นอันที่จริงแล้วเป็นพื้นที่ผืนเดียวกับโลกจำลองวิญญาณของหอคอยสาขาอื่นๆ แต่ถูกแบ่งเป็นโซนๆในแต่ละสาขาของหอคอยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ”

“บริเวณพื้นที่ๆเราจะไปในโลกจำลองวิญญาณถูกเรียกว่าเขตชิงเทียนซึ่งเป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของโลกจำลองวิญญาณ ส่วนใจกลางพื้นที่ของโลกจำลองวิญญาณนั้นตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ ….”

โม่หยุนหยุนอธิบายเกี่ยวกับโลกจำลองวิญญาณให้พวกหลงเทียนฟังและถามว่า

“พวกเธอพร้อมที่จะไปโลกจำลองวิญญาณแล้วหรือยัง!?”

“พวกเราพร้อมแล้ว!” ทั้งสามพยักหน้าตอบกลับมา

โม่หยุนหยุนชี้ไปที่โลหะสีเงินขนาดใหญ่ที่รูปร่างทรงกระบอกสามารถให้คนเข้าไปนอนลงได้

“นี่คือ เครื่องย้ายมิติ มันถูกทำโดยอุปกรณ์วิญญาณมากมายที่เกี่ยวข้องกับพลังมิติและเทคโนโลยีอวกาศจำนวนมาก มันสามารถส่งพวกเธอไปโลกจำลองวิญญาณได้”

“พวกเธอต้องนอนลงในเครื่องนั้น” โม่หยุนหยุนชี้ไปที่เครื่องย้ายมิติและอธิบายให้พวกหลงเทียนฟัง

พวกหลงเทียนที่ได้ยินดังนั้นก็ได้นอนลงในเครื่องย้ายมิติของแต่ละคนทันที

"เตรียมพร้อมให้ดี! มันกำลังจะทำงานแล้ว อย่าลืมทำลายตราสัญลักษณ์ทันทีเมื่อพวกเธอเผชิญหน้ากับอันตรายที่ไม่สามารถรับมือได้"

โม่หยุนหยุนพูดออกมาเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้พนักงานคนหนึ่งดำเนินการ พนักงานคนนั้นพยักหน้าก่อนจะกดปุ่มสีแดงทันที

ทันใดนั้นรอบตัวของหลงเทียนก็มีเสียงคล้ายเครื่องจักรดังขึ้น มีฝาครอบกระจกจากด้านนอกปกคลุมร่างกายของพวกเขาและโลหะบางส่วนแนบชิดเข้ากับผิวหนังของเขาอย่างแน่นหนา

วินาทีต่อมาพวกหลงเทียนก็รู้สึกถึงคลื่นพลังวิญญาณและความผันผวนของมิติจากรอบๆตัว ร่างกายของพวกเขาชาไปทั่วตัวและรู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพวกเขามากเกินไป

ในขณะนั้นเองก็ได้มีพลังงานสีม่วงปกคลุมร่างกายของพวกเขา ก่อนที่ร่างกายของพวกเขาจะหายไปทันทีเหลือแต่ความว่างเปล่า

พวกหลงเทียนรู้สึกชาและสมองว่างเปล่าเล็กน้อย แต่ไม่นานนักอาการเหล่านั้นก็เริ่มบรรเทาลงและทำให้พวกเขาสามารถลืมตาขึ้นมาได้

 เมื่อพวกเขาลืมตาพวกเขาก็ได้เห็นทิวทัศน์รอบตัวที่เปลี่ยนไป อากาศบริสุทธิ์พัดเข้าจมูกของพวกเขา รอบๆเต็มไปด้วยพืชและต้นไม้โบราณสูงตระหง่านเขียวชอุ่มบดบังแสงจากดวงอาทิตย์ ที่นี่เต็มไปด้วยพุ่มไม้และหญ้านานาชนิด นกและแมลงส่งเสียงร้องตลอดเวลา เถาวัลย์บนพื้นมีลักษณะไขว้กันเหมือนมังกร

“นี่คือโลกจำลองวิญญาณ!?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด