ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 582 - เกทับบลัฟแหลก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 584 - ยังไม่จบง่าย ๆ!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 583 - เบาะแสที่ตามหา!


“อนธการ!!! จันทราโหยหวน!!!!”

ตอนนี้ไม่ใช่เวลากลางคืน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา! เดวิดสร้างความมืดมิดขึ้นมาเองด้วยทักษะอนธการ ก่อนที่เสียงกู่ร้องกึกก้องจะดังออกไป ดวงจันทร์สีเงินขนาดเล็กปรากกฎตัวเด่นขึ้นบนท้องฟ้า ส่องแสงลงมาอาบทอร่างกายอย่างฉับพลัน คลื่นพลังของเขาเพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิมมากกว่า 3 เท่าในพริบตา แม้ว่าจะยังอยู่ในร่างของมนุษย์ธรรมดา แต่กลิ่นอายแข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนอยู่ในร่างผสมเสียอีก

“คิดจะจับฉัน!? แค่เธอคนเดียวไม่พอหรอก ต่อให้บาดเจ็บ แต่ฉันก็ยังเหลือพลังอยู่มากพอที่จะจัดการกับเธอได้ หรือต่อให้เจ้าไนฮุนนั่นหลุดออกมาร่วมมือด้วย มันก็ไม่ใช่ปัญหาเลย” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของเดวิดเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย รอยยิ้มบนใบหน้าเหี้ยมเกรียมขึ้นมาเล็กน้อย

แอลลิสัน!? เธอเม้มปากทำหน้ามุ่ย ร่างที่ลอยอยู่กลางอากาศร่อนลดระดับลงไปที่พื้น ม่านพลังสลายตัวพร้อมกับอัตราการหมุนเวียนเลือดที่ลดลงกลับไปสู่สภาวะปกติ สาวน้อยคนนี้ถึงกับเดินถอยกลับลงไปนั่งกระแทกตัวที่เก้าอี้อย่างแรงด้วย

“ให้ตายสิ! นายนี่เป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆ และนายทำให้ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว คงต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น?”

เดวิดยกเลิกทักษะจันทราโหยหวนของตัวเองเช่นกัน ร่างลอยลงกลับมายืนอยู่ที่พื้นพร้อมกับคิ้วที่เลิกสูงขึ้น “วิธีอะไร? ยังมีอะไรให้ใช้อีกอย่างนั้นหรือ?”

“หึหึ! ถ้านายได้ยินสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดออกไป ทางเลือกเดียวที่นายมีคือตามฉันกลับไปที่ตระกูลเท่านั้น! อย่างเต็มใจเสียด้วย” สาวน้อยถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นนะ! ยกเว้นเสียแต่ว่า...” เสียงของเดวิดขาดช่วงไปเล็กน้อย ดวงตานั้นแข็งกร้าวขึ้นเป็นอย่างมาก “อาจารย์ของฉันอยู่ที่ไหน!!?”

“ฉลาดอย่างที่คิดจริง ๆ นายเดาเรื่องที่ฉันจะพูดได้ไม่ผิดเลย ไม่ต้องเป็นกังวลไป อาจารย์ของนายยังคงปลอดภัยดี แน่นอน! มันจะเป็นอย่างนั้นต่อไปถ้านายปรากฎตัวขึ้นที่ตระกูลฮันเตอร์ เอาล่ะ! บอกการตัดสินใจของนายมา!”

เดวิดส่งเสียงคำรามในคออย่างหงุดหงิด แต่ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่สัมผัสได้ ความสามารถของแวมไพร์บอกว่าคุณหนูของตระกูลฮันเตอร์พูดสิ่งที่เป็นความจริงออกมาทั้งหมด เขาเรียกเหยือกใส่เหล้าให้ลอยออกมาจากแหวนเก็บของอีกครั้ง ก่อนจะยกมันกรอกลงไปในปากทั้งหมดในคราวเดียวเพื่อข่มความเจ็บแปลบที่ยังเกิดขึ้นเป็นระยะ หลังจากเช็ดคราบเหล้าที่ไหลซึมออกมาตามมุมปากแล้ว ก็เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

“มีหลักฐานยืนยันมั้ยว่าอาจารย์ของฉันยังคงปลอดภัยดี!?”

แอลลิสันยักไหล่ “ไม่มี! อย่างน้อย ๆ ก็ไม่มีในตอนนี้ สิ่งที่บอกได้ก็คือ ไวท์ผู้บ้าคลั่งถูกคุมขังอยู่ในคุกแห่งชีวิตและความตาย เคยได้ยินชื่อของมันมาบ้างมั้ย?”

สีหน้าและแววตาของเดวิดแข็งกร้าวขึ้นกว่าเดิม มือที่กำเหยือกเหล้าเอาไว้ถูกบีบแน่นจนมันแตกลงคามือ “ถูกขังอยู่ในคุก! ด้วยข้อหาอะไร? ต่อให้ตาแก่นั่นจะชอบสร้างปัญหาแค่ไหน เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ไปยุ่งกับ 9 ตระกูลใหญ่อย่างแน่นอน! พวกเธอต้องการอะไรจากตาแก่นั่นกันแน่?”

“ไม่รู้! ฉันจะไปรู้เรื่องของเหล่าผู้อาวุโสได้ยังไง? คุกแห่งชีวิตและความตาย! ฉันไม่เคยเข้าไปข้างในเสียด้วยซ้ำ ได้ยินมาว่าสภาพของมันไม่น่าพิสมัยนักเลย ฉันบอกนายได้แค่นี้! และเรื่องที่จะซ่อนตัวนายกับอาจารย์จากการตามล่าของจ้าวมังกร ไม่ต้องเป็นกังวลไป ตระกูลฮันเตอร์ของพวกเราสามารถทำได้ไม่ยากนัก นายต้องเก็บตัวอยู่กับฉันในตระกูลอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น ไม่ดีเหรอ!? บางทีพวกเราอาจจะเข้ากันได้ดี และได้ทำอะไรสนุก ๆ น่าตื่นเต้นร่วมกันด้วย มันนานมาแล้วที่ฉันไม่ได้เจอคนที่แข็งแกร่งและน่าสนใจขนาดนาย” ตอนสุดท้าย แอลลิสันหัวเราะคิกคักออกมาด้วยรอยยิ้มและดวงตาที่เป็นประกาย พร้อมกับบิดตัวเล็กน้อยอย่างยั่วยวน

“เอาล่ะ! นายต้องรีบตัดสินใจแล้ว!” เธอเร่งเร้าออกมาในท้ายที่สุด

ตระกูลฮันเตอร์!? ดูเหมือนว่ามันจะเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว เดวิดพยักหน้าตอบรับ “ก็ได้! ฉันจะไป แต่! ยังไม่ใช่ตอนนี้ เธอกลับไปคนเดียวก่อน ฉันยังมีเรื่องมีธุระที่ต้องจัดการอีกสักพัก บอกสถานที่มา แล้วฉันจะตามไปทีหลัง”

คิ้วของแอลลิสันขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “หือ? ยังมีเรื่องอะไรที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของนายอีกอย่างนั้นหรือ? ลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองกำลังถูกตระกูลรีดราโก ถูกจ้าวมังกรตามล่าอยู่? ตระกูลฮันเตอร์ปกป้องนายไม่ได้หรอกนะถ้าไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของตระกูล หรือว่า? นายตัดใจไม่คิดที่จะช่วยอาจารย์ของตัวเองแล้ว?”

“ยังไม่ตัดใจแน่! แต่นี่เป็นธุระที่สำคัญมาก แล้วเธอก็บอกเองไม่ใช่หรือว่าอาจารย์ของฉันปลอดภัยอยู่ในคุก? รับรองได้ว่าฉันไม่ปล่อยให้เขาอยู่ในนั้นนานเกินไปนักหรอก” เดวิดกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมจริงจัง

แอลลิสันขมวดคิ้วแน่นขึ้น ก่อนจะยักไหล่ออกมาอย่างไม่มีทางเลือกในตอนสุดท้าย “ก็ได้! ตามใจนาย ยังไงเสียฉันก็ไม่มีความสามารถพอที่จะจับตัวนายกลับไปพร้อมกันได้อยู่แล้ว” พูดจบ สายน้อยแห่งตระกูลฮันเตอร์ก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บของ พร้อมกับร่อนมันฝ่าอากาศมาตกอยู่ในมือของเดวิดอย่างแม่นยำ

“ฉีกยันต์เคลื่อนย้ายแผ่นนี้เมื่อนายพร้อม มันจะเทเลพอร์ตนายไปปรากฏตัวในอาณาเขตของตระกูลฮันเตอร์ ไม่ต้องกังวลไป มันยังอยู่ในทวีปแห่งนี้นี่แหละ ไม่ได้ไกลนักหรอก! และไม่ต้องกังวลเรื่องการติดต่อกับฉัน เมื่อเข้าไปอยู่ในอาณาเขตของตระกูลฮันเตอร์แล้ว นายจะรู้เองว่าฉันเป็นสาวน้อยที่มีชื่อเสียงมากขนาดไหน การจะตามหาฉันไม่เกินความสามารถของนายแน่” หลังจากกล่าวจบ เธอก็หยิบกระดาษอีกแผ่นออกมาฉีกอย่างไม่ลังเล บรรยากาศของสนามรบโบราณสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และช่องว่างมิติที่ใหญ่พอให้คนสามารถเดินผ่านเข้าไปปรากฏขึ้นข้าง ๆ ตัวของแอลลิสันอย่างฉับพลัน

ระหว่างที่ลุกขึ้นเก็บเก้าอี้นั่งเข้าแหวนเก็บของ สาวน้อยแห่งตระกูลฮันเตอร์เหลียวหน้ามองไปทางด้านขวามือของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะตวาดเสียงเจื้อยแจ้วออกมา “ฉันไปก่อนนะ เจ้าลูกหมาน้อย!”

นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของเธอ ก่อนที่จะก้าวหายลับไปพร้อมกับช่องว่างมิติที่ปิดตัวลง

ไนฮุน! เขากำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าท่าทางที่เกรี้ยวกราด และทันทีที่ร่อนตัวลงใกล้ ๆ กับจุดที่เดวิดยืนอยู่ได้ เสียงตวาดอย่างหัวเสียก็ดังกึกก้องขึ้น “ให้ตายเถอะ! หลุดจากกรงขังของนายแล้ว ยายตัวแสบนั่นใช้ยันต์บ้าอะไรไม่รู้ขังฉันเอาไว้ซ้ำอีก! น่าเจ็บใจจริง ๆ”

และหลังจากนั้น หลังจากที่กวาดสายตามองเดวิดตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น “สิ่งที่เธอยื่นข้อเสนอให้กับนาย ตระกูลไลแคนสามารถจ่ายได้เป็น 2 เท่า!” ไนฮุนเกทับแบบไม่ดูหน้าไพ่เสียด้วยซ้ำ

“ตระกูลนายช่วยอาจารย์ฉันออกมาจากมือของพวกเขาได้มั้ย?” เดวิดเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับยิงคำถามออกไปแบบตรง ๆ

“ไม่ได้!” ไนฮุนก็ตอบกลับมาอย่างตรง ๆ เช่นกัน แววตาของเขามีความประหลาดใจอยู่เล็กน้อย “ดูท่านายจะเป็นห่วงอาจารย์ของตัวเองมากเลย ไปสนิทกันตอนไหน? แล้วนี่ก็ไม่ใช่นิสัยของนายเลยนี่?”

“เฮ้อ! แค่คนที่เคยเห็นหน้ากัน 2-3 ครั้ง นายจะมารู้นิสัย? รู้ว่าฉันสนิทไม่สนิทกับใครได้ยังไง? นายกลับไปตระกูลตั้งแต่เมื่อไร? กลับไปเพื่อกระตุ้นโครงข่ายดีเอ็นเออย่างนั้นหรือ?” เดวิดยักไหล่ออกมาอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าเล็กน้อย

“ใช่! ฉันไปที่สถาบันเพื่อปลูกถ่ายชิ้นส่วนจีโนมเข้าสู่ร่างกายและหาประสบการณ์เล็กน้อยเท่านั้น ตอนที่กลับออกมา นายตระเวนร่อนเร่ทำภารกิจอยู่ละมั้ง?” ไนฮุนแสยะยิ้มแปลก ๆ ออกมาเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อ “ดูเหมือนว่าการทำภารกิจ และการฝึกฝนของนายจะได้ผลเกินความคาดหมายเลยนะ ก่อนหน้านี้นายแข็งแกร่งกว่าฉัน จนถึงตอนนี้! ฉันก็ยังตามนายไม่ทันอยู่ดี ดูเหมือนช่องว่างจะห่างขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ”

เดวิดหัวเราะออกมาเบา ๆ “หึหึ! แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ฉันดิ้นรนแทบตายเพื่อรักษาสติเอาไว้ไม่ให้กลายพันธุ์ไปอย่างสมบูรณ์ และได้ความแข็งแกร่งแบบนี้ติดตัวมา แต่ก็คงจะมีชีวิตได้อีกไม่กี่อาทิตย์กี่วันแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่ไม่มีใครหนุนหลัง มันก็ไม่ต่างจากเหยื่อชั้นดีในสายตาของตระกูลใหญ่เลย”

สีหน้าของไนฮุนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาตบไหล่เดวิด “น่าเสียดาย! ตระกูลไลแคนไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องนายจากจ้าวมังกร ครึ่งเทพของตระกูลเรายังห่างชั้นจากตระกูลรีดราโกอยู่ไม่น้อย ทั้งเรื่องจำนวนและความแข็งแกร่งของแต่ละคน รวมถึงกงเล็บมังกรที่เป็นพิษต่อร่างกายของไลแคนเป็นอย่างมากด้วย การที่นายยังยืนอยู่ได้ในตอนนี้ น่าจะต้องขอบคุณที่นายไม่ได้มีแค่แผนที่ยีนของมนุษย์หมาป่าอยู่ในร่างกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น” นายน้อยแห่งตระกูลไลแคนยืนนิ่งขบคิดอยู่เงียบ ๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยื่นมือออกมาตบไหล่เดวิดอีกครั้ง

“ฉันหวังว่านายจะรอดชีวิตจากเรื่องวุ่นวายในคราวนี้ได้” นั่นเป็นคำพูดประโยคสุดท้ายของไนฮุน แม้ว่าเขายังมีเรื่องที่อยากพูดและยากทำอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยสถานะของตนเอง ชายหนุ่มได้แต่เปิดช่องว่างมิติและออกจากสนามรบโบราณแห่งนี้ไปอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น

เดวิดยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างไม่ขยับเขยื้อน จนเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครหลงเหลืออยู่บริเวณใกล้ ๆ อีก ร่างของเขาก็ทรุดตัวลงนั่งกระแทกพื้นอย่างหมดสภาพ เหงื่อเม็ดโป้งหลั่งรินออกมาจากแทบจะทุกรูขุมขนในฉับพลัน เลือดกองโตกระอักออกมาจากปาก

“ให้ตายเถอะ!” เสียงสบถดังตามออกมาหลังจากนั้นไม่นาน เดวิดรู้ตัวว่าคราวนี้เขาตกที่นั่งลำบากแล้วจริง ๆ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด