ตอนที่แล้วตอนที่ 88 : กลับเข้าร่องเข้ารอย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 90 : หนวดและกางเกงยีนส์ จำชื่อชางอี้ของฉันเอาไว้!

ตอนที่ 89 : วันของเว่ยหลาน


ตอนที่ 89 : วันของเว่ยหลาน

เว่ยหลานต้องยอมรับว่าเธอไม่เข้าใจการสนทนาระหว่างลู่หมิงและจางเฉิงเฉิงเลย

แต่เธอก็มีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือเธอไม่ใช่คนพูดมาก

หากเป็นเพียงความสับสนเล็กน้อย เธอก็จะไม่ถามเกี่ยวกับมัน

จางเฉิงเฉิงพาเธอไปที่ครัว และเริ่มการทำอาหารโดยมีเว่ยหลานเป็นลูกมือในการหยิบจับสิ่งต่างๆ

ในขณะที่สองสาวช่วยกันทำอาหารนั้น จางเฉิงเฉิงก็พูดออกมา

“ก่อนที่เธอจะมา ด็อกเตอร์ฮั่วได้เล่าเกี่ยวกับนิสัยของพี่ลู่ให้ฟังบ้างไหม?”

เว่ยหลานดูจริงจังและกล่าวว่า “ไม่เลย ด็อกเตอร์ฮั่วแค่บอกว่าพี่ลู่เป็นคนดีมากเท่านั้นเอง”

จางเฉิงเฉิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ มุมปากของเธอยิ้มออกมา และเธอก็กล่าวว่า “ใช่แล้ว! ฉันไม่เคยเห็นใครที่จิตใจดี เป็นคนดี และแข็งแกร่งเท่ากับพี่ลู่อีกแล้ว!”

มันต้องไม่ขาดคำชมทุกวัน!

มันกลายเป็นความเชื่อของเฉิงเฉิงไปแล้ว

หลังจากถอนหายใจออกมา จางเฉิงเฉิงก็พูดต่อ “แต่เธอก็ต้องเข้าใจว่าแม้แต่คนดีก็นิสัยพิเศษเฉพาะตัวได้”

เว่ยหลานรีบพยักหน้า

เธอเข้าใจดีถึงหลักการที่ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ

จางเฉิงเฉิงพูดต่อ “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงต้องบอกบางอย่างให้เธอรู้เอาไว้”

“พี่เฉิงเฉิงว่ามาได้เลย”

“เรื่องแรกคือบ้านของพี่ลู่ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด! เธอห้ามเข้าไปในบ้านของพี่ลู่เด็ดขาด! อย่าแม้แต่จะคิด! นั่นคือพื้นที่ส่วนตัวของพี่ลู่ การก้าวเข้าไปในบ้านของพี่ลู่โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับพี่ลู่ และฉันก็เชื่อว่าเธอเองก็คงจะรู้ถึงผลที่ตามมา”

เว่ยหลานรีบพยักหน้าและบอกว่าเธอจะไม่รนหาที่ตายเด็ดขาด

“เรื่องที่สองคือระยะห่างจากพี่ลู่ มันเป็นเรื่องยากมากที่พี่ลู่จะไว้ใจใคร วันนี้เป็นวันแรกของเธอ ดังนั้นเธอต้องระวังเรื่องการรักษาระยะห่างจากพี่ลู่ไว้ให้ดี ถ้าเธอเข้าใกล้พี่ลู่เกินไป เขาก็จะไม่ชอบแน่ๆ และถ้าพี่ลู่ไม่พอใจ คนอื่นๆ ในฐานที่มั่นก็จะไม่พอใจไปด้วย”

ด้วยเหตุนั้นเอง จางเฉิงเฉิงจึงจ้องมาที่เว่ยหลาน ดวงตาของเธอกวาดไปทั่วร่างของอีกฝ่ายในขณะที่เธอพูดออกมาอย่างจริงจังว่า “เข้าใจไหม?”

เว่ยหลานพยักหน้าซ้ำๆ “เข้าใจแล้วค่ะ”

จางเฉิงเฉิงยิ้มอย่างพึงพอใจและพูดต่อ “ข้อสุดท้าย พี่ลู่ไม่ชอบออกไปข้างนอก และเขาก็ไม่ชอบการถูกรบกวนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นพวกเราที่เป็นผู้ช่วยของพี่ลู่ก็ต้องจัดการทุกอย่างที่พวกเราสามารถทำได้ ถ้าพวกเราไม่สามารถจัดการได้ พวกเราก็จะไปหาหวังซ่ง และถ้าหวังซ่งจัดการไม่ได้ พวกเราก็จะไปหาลั่วเซิงแทน กล่าวโดยสรุปแล้ว พวกเราห้ามรบกวนพี่ลู่เด็ดขาดถ้าทำได้”

เว่ยหลานพยักหน้าอีกครั้ง “ง่ายมากเลย ฉันไม่ใช่คนที่ชอบสร้างปัญหาอยู่แล้ว”

อาหารกำลังร้อนอยู่ในหม้อ

จางเฉิงเฉิงเงียบไปหลังจากอธิบายจนเสร็จแล้ว

เว่ยหลานสับสน “พี่เฉิงเฉิง มีแค่นี้เหรอ?”

จางเฉิงเฉิงพยักหน้า “ใช่ แค่สามข้อนี้แหละ”

ดังนั้นเธอก็แค่ไม่ต้องเข้าไปในบ้านของพี่ลู่ รักษาระยะห่างจากเขา และไม่รบกวนเขาโดยไม่จำเป็น

เว่ยหลานคิดดูและอดพูดออกมาไม่ได้ “มันดูง่ายจัง…”

จางเฉิงเฉิงพยักหน้าเบาๆ “เพราะพี่ลู่เป็นคนง่ายๆ เป็นผู้แสวงหาเส้นทางยังไงล่ะ!”

“ผู้แสวงหาเส้นทาง?”

“ใช่ ผู้แสวงหาเส้นทางแห่งความแข็งแกร่ง!”

จางเฉิงเฉิงและเว่ยหลานใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการปรุงอาหารสำหรับคนสามคนจนเสร็จ ใช่แล้ว ตามกฎของลู่หมิง นับจากวันนี้เป็นต้นไป ลู่หมิงก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเสบียงอาหารของเว่ยหลาน

นี่คือสิ่งที่ลู่หมิงควรจะทำอยู่แล้ว

เมื่อวางอาหารจนเต็มโต๊ะแล้ว ลู่หมิงก็เดินเข้ามา

ในขณะที่ลู่หมิงนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ เขาก็พูดออกมาเบาๆ ว่า “มาเริ่มกินกันเถอะ” จากนั้นอาหารก็ถูกผู้ตื่นทั้งสามคนสวาปามเข้าไปราวกับพายุ

มื้ออาหารกินเวลาประมาณ 40 นาที!

หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว ลู่หมิงก็กล่าวว่า “ฉันขอไปงีบก่อนนะ” และเขาก็ออกไปจากห้อง เหลือเพียงแค่จางเฉิงเฉิงและเว่ยหลานเท่านั้นที่คอยเก็บกวาดจานอาหาร

มันใช้เวลาไม่นานในการเก็บกวาด

หลังจากทำหน้าที่เสร็จแล้ว จางเฉิงเฉิงก็พาเว่ยหลานไปที่ห้อง

“นี่คือห้องนอนของเธอนะ โอเคไหม?”

เมื่อมองไปที่อพาร์ทเมนต์หนึ่งห้องนอนที่เรียบง่าย เว่ยหลานก็พยักหน้าซ้ำๆ “พอใจค่ะ”

สภาพความเป็นอยู่ของที่นี่ดีกว่า ณ ที่พักพิงอย่างแน่นอน เพราะมันมีผู้รอดชีวิตอยู่ที่นี่ไม่มากเท่าไร

จางเฉิงเฉิงยิ้มออกมา “ดีเลย”

หลังจากพูดจบ เธอก็เตรียมที่จะเดินออกไปจากห้อง แต่เว่ยหลานก็หยุดเธอไว้ก่อน “ว่าแต่พี่เฉิงเฉิง ตอนบ่ายล่ะ? ฉันต้องทำอะไรในตอนบ่าย?”

จางเฉิงเฉิงตอบ “ตอนบ่ายพวกเราก็ไม่มีโปรแกรมอะไรเป็นพิเศษ มันเป็นการฝึกของพี่ลู่ และเขาก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือของพวกเราในตอนบ่าย อย่างไรก็ตาม พวกเราก็คอยเตรียมตัวไว้จะดีกว่า เผื่อพี่ลู่เรียก พวกเราจะได้ลงมือได้ทันที”

เว่ยหลานพยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ”

“แล้วก็ไปที่ครัวตอนสี่โมงเย็นเพื่อเตรียมมื้อเย็นด้วยล่ะ อย่าลืมนะ”

เว่ยเหลียนยิ้มและพยักหน้า “ค่ะพี่เฉิงเฉิง”

หลังจากจางเฉิงเฉิงจากไปแล้ว เว่ยหลานก็เดินไปรอบๆ ห้องของเธอ

ห้องค่อนข้างสะอาดและเป็นระเบียบ ซึ่งเหมาะกับรสนิยมของเว่ยหลานพอดี

เว่ยหลานที่รู้สึกเหนื่อยได้นอนลงไปบนเตียงและหลับไปอย่างรวดเร็ว

เว่ยหลานนอนหลับไปจนถึงตอนสี่โมงเย็น

หลังจากถูกปลุกโดยนาฬิกาปลุกแล้ว เว่ยหลานก็รีบลุกขึ้นมาและไปที่ครัวทันที เธอเห็นว่าจางเฉิงเฉิงได้เริ่มเตรียมวัตถุดิบแล้ว

หลังจากล้างมือ เว่ยหลานก็เดินเข้าไปช่วยพร้อมกับขอโทษขอโพย “ขอโทษทีนะพี่เฉิงเฉิง ฉันเผลอหลับยาวไปหน่อย”

จางเฉิงเฉิงยิ้มและกล่าวว่า “ไม่ต้องขอโทษหรอก ตอนเช้ามันเหนื่อยมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่สามารถใช้คริสตัลศพระดับสามได้ตามอำเภอใจอีกแล้ว แต่งานในตอนบ่ายก็เบากว่าเยอะเลย”

สองสาวคุยกันไปเรื่อยในขณะที่พวกเธอทำอาหาร

หลังจากพวกเธอเตรียมมื้อเย็นเสร็จแล้ว พวกเธอก็ตัดสินใจไปเดินเล่นรอบๆ เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟแล้ว และลู่หมิงก็เข้ามาในห้องรับประทานอาหารแล้ว

ในคืนนั้น หลังจากเดินเล่นไปรอบๆ หมู่บ้านกู๊ดโฮปพร้อมกับจางเฉิงเฉิงอยู่เกือบสองชั่วโมงแล้ว เว่ยหลานก็กลับมาที่ห้องของเธอ

วันสิ้นโลกไม่ค่อยมีสถานบันเทิงยามค่ำคืนมากนัก และเว่ยหลานก็ไม่ใช่คนที่ชอบเที่ยวกลางคืนอยู่แล้ว

เมื่อเห็นว่ามันเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว และรู้ว่าเธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมมื้อเช้าให้กับลู่หมิงในวันพรุ่งนี้ เว่ยหลานจึงรีบเข้านอน อย่างไรก็ตาม เธอก็นอนไม่หลับ

เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เว่ยหลานก็พบว่านับจากวันนี้เป็นต้นไป ชะตากรรมของเธอก็คงต้องผูกพันกับลู่หมิงไม่มากก็น้อย

เธอต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่ง ซึ่งก็คือลู่หมิงเป็นคนน่าเบื่อและไม่น่าสนใจเอาซะเลย

ดังนั้นการเป็นผู้ช่วยของลู่หมิงจึงเป็นงานที่น่าเบื่อมาก

งานนี้ไม่ได้ท้าทายอะไรเลย และก็ไม่ได้มีความน่าสนใจอะไรด้วย

แค่ต้องช่วยในการฝึกของเขา และเตรียมอาหารกับเก็บกวาด

นอกจากนี้ ด้วยนิสัยและความแข็งแกร่งของลู่หมิง เว่ยหลานก็รู้ว่างานของเธอคงจะเป็นแบบนี้ไปอีกนาน

แต่เว่ยหลานก็ไม่คิดจะบ่นอะไร

ในวันสิ้นโลกเช่นนี้ มันถือเป็นพรข้อใหญ่แล้วที่ทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตอย่างมั่นคงเช่นนี้ได้

เมื่อนึกถึงการประเมินลู่หมิงของจางเฉิงเฉิงในตอนเช้าแล้ว…

“ใช่แล้ว ผู้แสวงหาเส้นทางแห่งความแข็งแกร่ง!”

มันถือว่าเหมาะสมมากเลย

เขาเป็นคนเรียบง่าย แต่ก็มุ่งมั่นและแน่วแน่

เขาเป็นคนระมัดระวังและรอบคอบ เขาไม่เคยคิดเสี่ยงอันตรายอะไร แต่เขาก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

เขาอดทนต่อความเบื่อหน่ายและความน่าเบื่อหน่ายเพียงเพื่อไล่ตามความแข็งแกร่งเท่านั้น

เขาเป็นเหมือนลูกไฟ แม้ว่ามันจะดูเหมือนกับการเผาไหม้ตัวเอง แต่เขาก็สามารถให้ความอบอุ่นและแสงสว่างแก่คนที่อยู่รอบๆ ได้โดยไม่รู้ตัวด้วย

“เขาอาจจะไม่ใช่ฮีโร่ แต่เขาก็ทำในสิ่งที่แม้แต่เหล่าฮีโร่ก็ยังไม่อาจทำได้”

“เขาแสวงหาความแข็งแกร่งอย่างแน่วแน่อยู่เสมอ แต่เขาก็มีอิทธิพลต่อคนอื่นๆ ไปด้วยโดยไม่รู้ตัว”

ดังนั้นหากแม้แต่ผู้กอบกู้ผู้นี้ยังสามารถอดทนต่อกิจวัตรประจำวันนี้ได้ งั้นมันจะมีเหตุผลอะไรให้เว่ยหลานไม่พอใจ?

จากนั้นเว่ยหลานก็ผล็อยหลับไปพร้อมกับอารมณ์เหล่านี้ที่อยู่ภายในใจ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด