ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 573 - คุณหนูแห่งตระกูลไฮดราสัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 575 - ไม่ใช่เพื่อน! แค่เคยเห็นหน้ามา 2-3 ครั้งเท่านั้น!!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 574 - ประตูที่ถูกเปิดออก!


“ตกลง! ฉันจะเข้าไปสำรวจด้านในกับนายด้วย! แต่! นายต้องบอกชื่อออกมาก่อน!”

“อ้อ! ผมชื่อเดวิด!”

“เอาชื่อพร้อมกับนามสกุล! ท่าจะให้ดี บอกชื่อแผนที่พันธุกรรมของตัวเองออกมาด้วย” คุณหนูไม่พอใจง่าย ๆ แค่ชื่อเพียงอย่างเดียว

เดวิดขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามอ่านความคิดว่าอีกฝ่ายต้องการรู้เรื่องนี้ไปทำไมกันแน่ แต่เขาก็ยังตัดสินใจบอกออกไป ‘ตามตรง’ “เดวิด ซินเทค! มนุษย์หมาป่า”

“หืม? เผ่าพันธุ์ที่แยกออกมาจากไลแคนอย่างนั้นหรือ?” คิ้วของคุณหนูคนงามแห่งตระกูลไฮดราสันเลิกสูงขึ้น ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เชื่อว่าตัวเองถูกมนุษย์หมาป่าจัดการ ซี่งก็ไม่เป็นเรื่องที่แปลกนัก เพราะตามปกติแล้วความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายของมนุษย์หมาป่าไม่ได้สูงไปกว่าไฮดราเลย ไม่สิ! มันควรจะต่ำกว่าขั้นสองขั้นเสียด้วยซ้ำ

“ผมบอกออกไปแล้ว พวกเราเข้าไปข้างในกันได้หรือยัง?”

สีหน้าของสาวน้อยยังเต็มไปด้วยแววแห่งการครุ่นคิด แต่ก็พยักหน้าออกมาเบา ๆ พร้อมกับออกคำสั่งผู้ติดตามของตนทันที

“พวกนายรอกันอยู่ที่นี่ ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นำข่าวกลับไปรายงานให้ตระกูลรู้เรื่องทันที” เมื่อกล่าวจบ เธอก็ก้าวเท้ายาว ๆ ตามเดวิดเข้าไปในโถงทางเดินที่มุ่งไปสู่ห้องทำงานของพัศดีอย่างไม่ลังเลอีก

เพียงเวลาไม่นาน ทั้งคู่ก็เปิดประตูขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่สุดโถงทางเดินเข้ามาในห้องทำงานได้แล้ว เป็นเพราะเดวิดเร่งความเร็วของตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรู้ดีว่ามันไม่มีอันตรายใด ๆ แอบซ่อนอยู่ระหว่างทาง และตอนนี้ เขากำลังมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องอย่างพิจารณา ส่วนคุณหนูไฮดรากำลังยืนจ้องซากที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานแบบไม่วางใจเท่าไรนักเลย

“นายเจอคนที่ตัวเองตามหามั้ย?” หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าร่างที่อยู่เบื้องหน้าไม่มีจิตใต้สำนึกหลงเหลืออยู่ สาวสวยก็หันมาเอ่ยถามเดวิดด้วยน้ำเสียงประชดเล็กน้อย

“ไม่เจอ! แต่ไม่ต้องห่วง ผมจะรีบกลับออกไปเลย” เดวิดส่ายหน้าและเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ พัศดีตายแบบไม่มีจิตใต้สำนึกหลงเหลืออยู่ มันเป็นสิ่งที่เขาคาดคิดเอาไว้แล้ว สมบัติของพัศดีอาจจะถูกหยิบไปวางเอาไว้เป็นของรางวัลในการเคลียร์ห้องขังโดยบารอนไรเซอร์คนนั้นเสียด้วยซ้ำ แต่! เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาสมบัติเป็นเป้าหมายหลักอยู่แล้ว เมื่อไม่พบอาจารย์ของตัวเองอยู่ในนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ต่อไปอีก

“เดี๋ยว! นายรู้มั้ยว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น? ชายคนนี้เป็นครึ่งเทพ แต่ดูเหมือนว่าจะตายลงไปแบบไม่ทันได้ต่อสู้เลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่เหลือพลังหมุนเวียนอยู่ในซากศพเลยแม้แต่นิดเดียว นายรู้มั้ยว่าเขาตายได้ยังไง?” คุณหนูคนสวยที่เดินเข้าไปบีบไหล่ของซากศพหักหลุดออกมาคามือเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สับสนเป็นอย่างยิ่ง

“แน่นอน! ผมไม่รู้ว่าเขาตายได้ยังไง? คุณหนู! ผมกับคุณก็เข้ามาพร้อม ๆ กันไม่ใช่หรือ?” เดวิดโกหกออกไปแบบหน้าด้าน ๆ

หางตาของอีกฝ่ายเหลือบมองมาที่เขา “เชอะ! ไม่ต้องมาโกหกกันเลย นายต้องรู้แน่ ๆ ฉันไม่เชื่อคำพูดของนายแม้แต่นิดเดียว”

เดวิดยักไหล่เบา ๆ “ก็ตามใจครับ! แต่อย่างที่ผมบอกไป ถึงผมอยากจะอยู่ทำความรู้จักกับคุณหนูให้มากกว่านี้สักแค่ไหน แต่ตอนนี้ผมรีบมากจริง ๆ คงต้องขอตัวก่อนแล้ว”

“น่าเสียดายจริง ๆ แต่เอาเถอะ! ขอให้นายโชคดีหาคนที่ตามหาอยู่ได้พบก็แล้วกัน” คุณหนูแห่งตระกูลไฮดราสันกล่าวตามหลังออกมา แววตาที่มองตามร่างของเดวิดที่พุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ประทับใจ ทึ่ง สับสน และประหลาดใจ

เดวิดใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นในการกลับมายังห้องโถง เขาชะงักเท้าของตัวเองเพื่อเจอกับสายตาที่จ้องเข้ามาอย่างดุร้ายของผู้ติดตามทั้ง 8 คนที่รออยู่ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตอนเข้าไปนั้นมีกัน 2 คน แต่เดวิดกลับมาคนเดียวเท่านั้น คุณหนูของพวกเขาอยู่ที่ไหน?

“เฮ้อ! เธอยังสำรวจอยู่ข้างใน ปลอดภัยดี ถ้าไม่เชื่อก็ส่งคนเข้าไปดู เอาคนที่วิ่งเร็ว ๆ หน่อยล่ะ ฉันรีบ!!”

เขาเสียเวลาในการรออยู่มากพอสมควร และพอม้าเร็ววิ่งกลับมาส่งข่าว เดวิดก็พุ่งตัวกลับมาตามโถงทางเดินด้วยความเร็วสูงสุดทันที และแน่นอน หลังจากออกมาจากประตูบานที่ 5 ได้ เขาก็พาตัวเองผ่านประตูบานที่ 4 เข้าไปแบบไม่สนใจสายตาจำนวนมากที่จับจ้องอยู่แม้แต่นิดเดียว

...

25 นาที! เดวิดใช้เวลาพียง 25 นาทีเท่านั้นในการเคลียร์ห้องขังและบุกเข้าไปยังห้องทำงานของพัศดีที่เป็นผู้ควบคุมแดนคุมขังหลังประตูบานที่ 4 เหล่านักสำรวจที่เข้าไปก่อนหน้าเสียชีวิตไปหมดแล้ว คนสุดท้ายน่าจะตายไปตอนที่เผชิญหน้ากับซากศพระดับครึ่งเทพ แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะคิดกังวล ยังไม่มีร่องรอยของศาสตราจารย์อาวุโสไวท์ คิ้วของเดวิดขมวดแน่นติดกันแบบไม่คลายออกในตอนที่พุ่งผ่านประตูบานที่ 3 เข้าไปอย่างรวดเร็ว

สถานการณ์ในห้องโถงใหญ่แห่งนี้ก็เป็นไปอย่าง ‘สงบ’ เดวิดใช้เวลาอีกราว ๆ 30 นาทีในการเคลียร์ประตูที่ 3 เขาพุ่งเข้าประตูบานที่ 2 ไปอย่างไม่ยอมเสียเวลา หลังจากนั้นไม่นาน ประตูบานที่ 3 ก็มีกลุ่มนักสำรวจปรากฏตัวตามหลังออกมา จำนวนคนลดน้อยกว่าตอนที่เข้าไปครึ่งหนึ่ง แต่สีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความยินดี สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือการพุ่งตรงออกไปที่ประตูสีทองบานใหญ่ ในเมื่อได้สมบัติมาแล้ว การหลบออกไปจากคุกขังเทพแห่งนี้ดูจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด

นั่นทำให้สถานการณ์ในห้องโถงเปลี่ยนเป็นวุ่นวายขึ้นมาเล็กน้อยทันที ตอนที่เดวิดกลับออกมาจากประตูบานที่ 2 และพุ่งตัวเข้าไปในประตูบานที่ 1 มันเริ่มมีการต่อสู้แย่งชิงแหวนเก็บของเกิดขึ้นแล้ว และเหตุการณ์ก็ตึงเครียดมากขึ้นเมื่อมีคณะสำรวจปรากฏตัวออกมาจากประตูบานที่ 2 เพิ่มเติมด้วยสภาพที่อ่อนล้า การต่อสู้แย่งชิงทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนในที่สุด! ประตูสีทองที่เคยปิดสนิทแน่นไม่ยอมให้คนผ่านเข้าออกก็เปิดขึ้นอย่างไร้สาเหตุ เหล่านักสำรวจที่แย่งชิงหรือมีสมบัติติดตัวอยู่พากันพุ่งตัวออกจากคุกขังเทพไปแบบไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อย

ไม่ถึง 10 นาทีต่อมา เดวิดที่กลับออกมาจากประตูบานที่ 1 ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อพบว่าในห้องโถงนั้นเรียกได้ว่าว่างเปล่า เขาส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปตรวจสอบคร่าว ๆ ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปในประตูบานที่ 7 ซึ่งเป็นบานสุดท้ายทันที ประตูใหญ่ของคุกขังเทพถูกเปิดออกแล้ว? มีคนเคลียร์แดนคุมขังหลังประตูบานที่ 7 ได้แล้วอย่างนั้นหรือ? เดวิดเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

หลังจากที่ร่างของเขาลับหายไปในประตูบานที่ 7 ได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น มีกลุ่มคนปรากฏตัวออกมาจากประตูบานที่ 4 และคนที่เดินนำหน้าออกมาคือนายน้อยอลัน! ด้านหลังของเขายังมีสมาชิกอยู่อย่าง ‘ครบถ้วน’ อฮาลี การ์ดอฟ รวมถึงสาวน้อยธีล่าด้วย!

“นายน้อย! พวกเราตามหากันมา 2 ประตูแล้ว แต่ยังไม่มีร่องรอยของเจ้าหมอนั่นเลย ประตูใหญ่ของคุกขังเทพก็ถูกเปิดออกแล้ว ผมว่าเจ้าสาระเลวนั่นต้องหนีออกไปแล้วแน่ ๆ พวกเราออกไปตามหากันที่ด้านนอกดีกว่ามั้ย? ผมว่ามันต้องหนีออกไปแล้วแน่ ๆ” หลังจากที่ตรวจสอบสถานการณ์ในห้องโถงจนแน่ชัดแล้ว การ์ดอฟก็เอ่ยเสนอแนะขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ลังเลเล็กน้อย

สีหน้าของนายน้อยอลันในตอนนี้ทั้งดำคล้ำและบิดเบี้ยว คิ้วขมวดแน่นติดกันแบบใช้ความคิดอย่างหนัก

“หือ? เป้าหมายของเดวิดคือการตามหาอาจารย์ของตัวเองใช่มั้ย ไม่แน่นะ! บางที่เขาอาจจะยังไม่ออกไปก็ได้ น่าจะยังวนเวียนอยู่ในประตูบานใดบานหนึ่งนี่แหละ!” ธีล่าเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เห็นด้วยเท่าไรนัก

ดวงตาของนายน้อยอลันทอประกายขึ้นมาในที่สุด ดูเหมือนว่าเขาจะตัดสินใจได้แล้ว “เธอพูดถูกธีล่า! แต่เจ้าสาระเลวนั่นไม่ใช่คนโง่ ถ้ามันสังเกตเห็นว่าประตูใหญ่เปิดออกแล้ว นั่นหมายความว่าห้องขังทั้งหมดถูกเคลียร์เรียบร้อย ถ้าอาจารย์ของมันยังคงมีชีวิตอยู่ ก็คงจะหลบหนีออกไปจากคุกขังเทพแห่งนี้กับคนอื่น ๆ แล้วอย่างแน่นอน มันต้องออกไปตามหาอาจารย์ของตัวเองข้างนอกแน่ แล้วอีกอย่าง! มันต้องรู้ตัวว่าฉันกำลังตามล่ามัน ไม่มีทางที่จะวนเวียนเสียเวลาอยู่ในนี้แน่!”

“นายน้อยพูดถูก! พวกเรารีบออกไปตามหามันด้านนอกกันเถอะ ไม่รู้ว่าเจ้านั่นออกไปนานเท่าไรแล้ว ถ้ายิ่งช้าไปมันจะหนีออกไปไกลจนตามไม่ทัน” อฮาลีกล่าวเสริมออกมาอย่างร้อนใจ

“นั่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ! สนามรบโบราณแห่งนี้ใหญ่โตมโหราฬ การจะตามหาคนที่ตั้งใจจะซ่อนตัวไม่ใช่เรื่องง่ายแน่!” ธีล่าขมวดคิ้วแน่น ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับการตะลอนตามล่าคน ๆ เดียวในพื้นที่อันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตแบบนี้

“ออกไปสำรวจในรัศมีรอบ ๆ คุกขังเทพแบบนี้ดูก่อน ถ้าไม่มีร่องรอยของเจ้านั่นจริง ๆ พวกเราค่อยกลับเข้ามาที่นี่อีกครั้ง!” แต่นายน้อยอลันเหมือนจะตัดสินใจไปแล้ว เขาออกคำสั่งพร้อมกับพุ่งตัวผ่านประตูสีทองออกไปโดยไม่รอฟังคำโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้ติดตามทั้ง 3 คนที่เหลือได้แต่พุ่งตัวตามออกมาอย่างไม่มีทางเลือก...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด