ตอนที่แล้วตอนที่ 28 ข้าจะเข้ายึดครอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 หลงเฟย

ตอนที่ 29 แลกเปลี่ยนเลือด!


ตอนที่ 29 แลกเปลี่ยนเลือด!

เขาตายแล้ว…

เก๋ายู่เชิงตายแล้วจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังตายตาไม่หลับ..

ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมแผนที่เขาเตรียมไว้ถึงล้มเหลวก่อนที่จะตาย

ส่วนเก๋าซานฮูนั้นได้แต่ตกตะลึงเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

เขาถึงกับอ้าปากค้างและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ส่วนลูกน้องของเก๋ายู่เชิงตายนั้นเริ่มตั้งสติได้

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะคิดยังไง พวกเขาก็ไม่รู้เลยว่าจะมีคนอื่นนอกจากพวกเขาเข้ามาที่นี่ด้วย

แน่นอนว่าลู่ชางเฉิงนั้นตามนักศิลปะการต่อสู้ทั้งห้าคนไปจนถึงห้องลับใต้ดิน

แต่นักศิลปะการต่อสู้ทั้งห้านั้นกลับไม่รู้อะไรเลย

นอกจากนี้ ลู่ชางเฉิงเองก็ได้เห็นโศกนาฏกรรมของน้องชายที่ฆ่าพี่ชายและลูกชายที่กำลังจะฆ่าพ่อด้วยเช่นกัน

ลู่ชางเฉิงก้มลงและหยิบไข่มุกแลกโลหิตจากมือของเก๋ายู่เชิงออกมา

ไข่มุกแลกโลหิตนั้นดูเหมือนจะสามารถช่วยให้นักศิลปะการต่อสู้บรรลุถึงขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ ซึ่งสมบัติดังกล่าวนั้นหาได้ยาก ซึ่งทำให้ลู่ชางเฉิงนั้นถูกครอบงำด้วยความโล�

ลู่ชางเฉิงได้ซ่อนไข่มุกแลกโลหิตเอาไว้แล้วคว้ากริชของเขาก่อนที่จะจ้องมองไปที่นักศิลปะการต่อสู้ทั้งห้าที่กำลังเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น

นักศิลปะการต่อสู้ทั้งห้าคนถึงกับตัวสั่นและเริ่มรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น

“ในเมื่อเจ้าได้ไข่มุกแลกโลหิตไปแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถอะ พวกเราคือ...”

นักศิลปะการต่อสู้ทั้งห้าคนกำลังจะเริ่มเปิดเผยตัวตนของพวกเขา

"วิ้งง"

ร่างของลู่ชางเฉิงหายไปพร้อมกับลำแสงสีขาว

นักศิลปะการต่อสู้ทั้งห้ากระตุกก่อนที่เลือดของพวกเขาจะไหลออกมาจนเริ่มหายใจไม่ออก

ในที่สุดพวกเขาก็ตายไปแล้ว

ก่อนที่พวกเขาจะทันได้เปิดเผยตัวตนของพวกเขา ลู่ชางเฉิงก็ได้ฆ่าพวกเขาไปแล้ว

ลู่ชางเฉิงนั้นไม่สนใจที่จะรู้ถึงตัวตนของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

หลังจากนั้น ลู่ชางเฉิงได้เข้าไปค้นหาสิ่งของจากร่างของศพอย่างระมัดระวัง

ซึ่งนี่เป็นนิสัยที่เขานั้นเริ่มทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว

แต่น่าเสียดายที่ทั้งห้าคนนั้นไม่มีอะไรดีๆติดตัวอยู่เลย

ลู่ชางเฉิงค่อยๆลุกขึ้นยืนก่อนจะหันหน้าไปมองเก๋าซานฮูที่เหลืออยู่กับเขาเพียงคนเดียว

"ไข่มุกแลกโลหิตนี่ใช้อย่างไรรึ?"

ลู่ชางเฉิงถามขึ้น

"เสียงของเจ้า..."

เก๋าซานฮูที่ได้ยินเสียงของลู่ชางเฉิงถึงกับเบิกตากว้างและดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง เสียงของเขาสั่นขณะที่เขาพูดว่า "เจ้าคือ..."

เห็นได้ชัดว่าเก๋าซานฮูนั้นคาดเดาตัวตนของลู่ชางเฉิงได้

“ฮึๆๆ ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป็นข้าเองที่ปล่อยพวกหมาป่าเข้ามาในบ้านของข้าเองแบบนี้”

"เจ้ามาที่นี่เพื่อไข่มุกแลกโลหิตงั้นสินะ?"

“นอกจากนี้ เจ้ายังฆ่าทั้งห้าคนนั้นด้วย การที่เจ้าจะใช้ไข่มุกแลกโลหิตและไม่เข้ามาควบคุมตระกูลเก๋านั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องร้ายเพื่อเรื่องที่ดีในอนาคตก็แล้วกัน”

“ข้าจะบอกเจ้าถึงวิธีใช้ไข่มุกแลกโลหิตก็ได้ เจ้าเพียงแค่ต้องสร้างบาดแผลบนร่างกายของเจ้าและสอดไข่มุกเข้าไปในแผล ไข่มุกแลกโลหิตนั้นจะค่อยๆละลายและผสานเข้ากับเลือดของเจ้า”

“แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังมีลูกชายและลูกสาวที่อายุน้อยกว่าอยู่ ข้าหวังว่าเจ้าจะไว้ชีวิตพวกเขา เพราะพวกเขานั้นไม่รู้อะไรเลย”

ดวงตาของเก๋าซานฮูนั้นเต็มไปด้วยการอ้อนวอน

"ข้าต้องการแค่ไข่มุกแลกโลหิตเท่านั้น!"

หลังจากนั้นไม่นานลู่ชางเฉิงก็ตอบกลับ

"ชั้วะ"

วินาทีต่อมา กริชของลู่ชางเฉิงก็เฉือนเข้าที่คอของเก๋าซานฮูเบาๆ

ลู่ชางเฉิงนั้นไม่สามารถปล่อยเก๋าซานฮูไปได้เพราะเขารู้ตัวตนของเขาแล้ว

แต่ลูกชายและลูกสาวคนเล็กของเก๋าซานฮูซึ่งเขาไม่เคยได้พบมาก่อนนั้นเขาจะไม่ทำอะไร

เก๋าซานฮูเอามือปิดคอของเขาและค่อยๆตายอย่างสงบ

ลู่ชางเฉิงเริ่มค้นร่างของเก๋าซานฮู แต่ก็ไม่พบอะไรเลยเช่นกัน

จากนั้นเขาจึงเริ่มเปิดห้องลับออกทีละห้อง

ในห้องลับนั้นมีเสบียงจํานวนมาก ซึ่งรวมถึงอาหาร เครื่องเหล็ก ชุดเกราะ อาวุธ และอื่นๆ

ลู่ชางเฉิงไม่ได้สนใจสิ่งของเหล่านี้ เขาต้องการค้นหาวิชาและทักษะศิลปะการต่อสู้

น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีวิชาหรือทักษะศิลปะการต่อสู้อยู่ในห้องลับเลย

สิ่งที่ ลู่ชางเฉิงต้องการมากที่สุดคือวิชาศิลปะการต่อสู้ระดับขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์

แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถบรรลุถึงขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่การทําความเข้าใจมันตั้งแต่เนิ่นๆจะเป็นประโยชน์ต่อเขาอย่างมาก

น่าเสียดายที่ไม่มีศิลปะการต่อสู้ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ในห้องลับ หรือบางทีมันอาจถูกซ่อนไว้ในที่ลับมากกว่าที่ลู่ชางเฉิงจะหาได้

หลังจากที่ค้นหาอยู่นาน ลู่ชางเฉิงจึงเลิกหา

เขาออกจากห้องลับใต้ดินไปและปิดประตู

ห้องลับถูกซ่อนเอาไว้อย่างดีและเป็นที่รู้จักเฉพาะผู้นำรุ่นก่อนของตระกูลเก๋าเท่านั้น

แม้ว่าตระกูลเก๋าจะรู้ว่า เก๋าซานฮู , เก๋ายู่เชิง และ เก๋ายู่จื่อ นั้นหายตัวไปและเริ่มทำการค้นหา แต่พวกเขาก็จะไม่ได้พบกับทั้งสามคนนั้นง่ายๆ

หลังจากนั้น ลู่ชางเฉิงจึงกลับไปที่ห้องของเขา

ในตอนนี้เขากำลังได้ยินเสียงหายใจอย่างต่อเนื่องของหลายๆคนและวู่จิงอาจารย์ของเขาที่อยู่ห้องใกล้ๆกัน

การหายใจของพวกเขานั้นคงที่ซึ่งเป็นสัญญาณว่าพวกเขาเข้ากำลังหลับสนิท

เมื่อเป็นแบบนี้ ลู่ชางเฉิงจึงรู้สึกสบายใจ

ซึ่งนั่นเขาไม่รีบร้อนที่จะนอน แต่หยิบไข่มุกแลกโลหิตออกจากกระเป๋าของเขาแทน

ไข่มุกแลกโลหิตนั้นดูเหมือนจะทําจากวัสดุที่เขาไม่รู้จัก

เขาถือไข่มุกแลกโลหิตเอาไว้และดูมัน

ไข่มุกแลกโลหิตนี้เป็นสมบัติหายากอย่างแท้จริง และลู่ชางเฉิงเองก็อดใจไม่ไหวที่จะใช้มันได้อีกต่อไป

ลู่ชางเฉิงหยิบกริชของเขาออกมาและกรีดแขนของเขา

"ชั้วะ"

หลังจากนั้นลู่ชางเฉิงได้วางไข่มุกแลกโลหิตเอาไว้บนบาดแผลทันที

เมื่อไข่มุกแลกโลหิตได้สัมผัสกับเลือดสดๆ ไข่มุกแลกโลหิตเริ่ม "ละลาย" อย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าไข่มุกแลกโลหิตกำลังจะรวมเข้ากับเลือดและกระจายไปทั่วร่างกายของเขาตามเส้นเลือดอย่างรวดเร็ว

ลู่ชางเฉิงหลับตาลงและตรวจดูผลของไข่มุกแลกโลหิตอย่างระมัดระวัง

เขาสัมผัสได้ถึงออร่าเย็นยะเยือกที่เกาะติดกับบริเวณรอบๆหัวใจของเขาทุกครั้งที่หัวใจเต้น

"ตึ้กๆ ตึ้กๆ ตึ้กๆ"

ทุกจังหวะการเต้นของหัวใจของเขา ออร่าที่เยือกเย็นจะแผ่กระจายออกไปและไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

ภายใต้การแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องของออร่านี้ ลู่ชางเฉิงรู้สึกว่าสิ่งสกปรกในร่างกายของเขาค่อยๆถูกขับออกมา

นอกจากนี้เขายังหมุนเวียนพลังฉีและเลือดของเขาอย่างช้าๆ

"วู้มมม"

ด้วยความประหลาดใจของเขา พลังฉีและเลือดของเขาจึงเพิ่มขึ้นอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ

พลังฉีและเลือดของเขาในตอนนี้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งในทางทฤษฎี พวกมันไม่ควรจะเพิ่มขึ้นได้อีกถ้าหากยังไม่ก้าวไปสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์

แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขานั้นจะเป็นของจริง

ลู่ชางเฉิงใช้ไข่มุกแลกโลหิตซึ่งทำให้ขีดจํากัดพลังของเขาเพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ลู่ชางเฉิงดูเหมือนจะมีความเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“การเข้าสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเปิดประตูแห่งความเป็นและความตาย ผ่านการแลกเปลี่ยนไขกระดูก และสร้างมันขึ้นมาใหม่”

“แต่การใช้พลังของไข่มุกแลกโลหิต มันสามารถ 'แลกเปลี่ยนเลือด' ได้โดยตรง”

“ซึ่งด้วยพลังของไข่มุกแลกโลหิตนั้น ทำให้มันง่ายมากที่จะก้าวสู่ขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้”

ไข่มุกแลกโลหิตภายในร่างของลู่ชางเฉิงนั้นเป็นสมบัติหายากอย่างแท้จริง และไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนจํานวนมากต่างต้องการมัน

ซึ่งในกระบวนการและประสิทธิภาพของการแลกเปลี่ยนเลือดนั้น ลู่ชางเฉิงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนเพื่อให้กระบวนการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์

ในช่วงหนึ่งเดือนนี้ คุณสมบัติทางกายภาพของเขาจะได้รับการพัฒนาขึ้นทุกด้านซึ่งเป็นผลมาจากการแลกเปลี่ยนเลือด

นี่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการเกิดใหม่

นอกจากนี้ ลู่ชางเฉิงเองก็ยังพยายามฝึกฝน "เทคนิคกระดูกเยือกแข็ง" ด้วย

เขาพบว่าประสิทธิภาพของการฝึกเทคนิคกระดูกเยือกแข็งเองก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

แม้จะไม่มีน้ำแข็งหรือใช้อาหารสมุนไพร แต่ประสิทธิภาพก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“จุดเด่นที่สําคัญที่สุดของไข่มุกแลกโลหิตคือดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อการแลกเปลี่ยนไขกระดูกในอนาคตของข้าเมื่อข้าเปิดประตูแห่งความเป็นและความตายได้”

“หรือก็คือ ถ้าข้าเปิดประตูแห่งความเป็นและความตายได้สําเร็จและผ่านการแลกเปลี่ยนไขกระดูกในอนาคต มันก็จะเทียบเท่ากับเป็นการแลกเปลี่ยนเลือดครั้งที่สอง”

“ซึ่งการแลกเปลี่ยนเลือดแต่ละครั้ง คุณภาพร่างกายของข้าจะดีขึ้นอย่างมาก เมื่อข้าไปถึงระดับขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ได้จากการแลกเปลี่ยนเลือดสองครั้ง ความแข็งแกร่งของข้าจะเหนือกว่าคนอื่นๆระดับเดียวกันมาก!”

ลู่ชางเฉิงรู้สึกพอใจมาก

การเดินทางมาที่ตระกูลเก๋าในครั้งนี้ช่างคุ้มค่ามากจริงๆ!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด