ตอนที่แล้วตอนที่ 3 เพิ่มความเข้าใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 ตะครุบหนึ่งศพ

ตอนที่ 4 การรวบรวมสมุนไพรในภูเขา


ตอนที่ 4 การรวบรวมสมุนไพรในภูเขา

เวลาผ่านไปและผ่านไปนานกว่าสิบวันในพริบตา

ในวันนี้ ก่อนจะถึงช่วงตื่นเช้าลู่ชางเฉิงก็ตื่นขึ้นมาแล้ว

เขารีบไปยังมุมที่เงียบสงบที่เขาใช้ฝึกศิลปะการต่อสู้ในตอนเย็นของทุกวัน

แม้ว่าตอนนี้ท้องฟ้ามืดอยู่ แต่ก็มีแสงสาดส่องมาจางๆ

ลู่ชางเฉิงรีบตื่นมาเพื่อฝึกฝนวิชามหาสายธาร

เป็นเวลากว่าสิบวันแล้วที่เขาฝึกฝนวิชานี้อย่างขยันขันแข็ง และเกือบทุกวัน เขาจะรู้สึกได้ถึงเลือดที่ไหลราวเหมือนแม่น้ำในตัวเขา

เขาเข้าใจแล้วว่าเวลาที่เขาได้สัมผัสถึงพลังแบบนี้ บางทีเขาอาจจะสัมผัสได้ถึงพลังฉีในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ได้

ดังนั้นเขาจึงฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างขยันขันแข็งมากยิ่งขึ้น

ลู่ชางเฉิงยังคงฝึกฝนท่าทางที่แปลกประหลาดของวิชามหาสายธาร อย่างที่เขาเคยทําในช่วงเวลาที่ผ่านๆมา

ทันใดนั้น เลือดของเขาก็พุ่งพล่านอยู่ร่างกายของเขาราวกกับสายน้ำจนร่างกายของลู่ชางเฉิงเปลี่ยนเป็นสีแดง

"บู้มมมม!"

วินาทีต่อมา จิตใจของลู่ชางเฉิงดังขึ้นพร้อมกับเสียงคํารามที่ดังกึกก้องจนทำให้เขาเห็นภาพในใจของเขา

ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถ "เห็น" การไหลเวียนของเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขาได้อย่างชัดเจน

"พลังฉี นี่แหละคือพลังฉี!"

ลู่ชางเฉิงรู้สึกประหลาดใจที่ในที่สุดเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังฉีของเขาซึ่งมันสร้างความก้าวหน้าในวิชามหาสายธารได้

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาสัมผัสถึงพลังฉีของเขาอย่างระมัดระวัง ลู่ชางเฉิงก็ตระหนักว่าเขากำลังเข้าใจบางอย่างที่ผิด

พลังฉีนั้นไม่ใช่เลือด

สิ่งที่เขาได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงเลือดไหล แต่เป็นเสียงของพลังฉี

พลังฉีนั้นเป็นพลังงานพิเศษภายในร่างกายที่ถูกหล่อเลี้ยง ยิ่งพลังฉีแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะยิ่งแข็งแรงมากเท่านั้น

ลู่ชางเฉิงรีบตรวจสอบแผงคุณลักษณะของเขาทันที

โฮสต์ : ลู่ชางเฉิง

ค่าความเข้าใจ : 99 (ค่าเฉลี่ย)

วิชามีดขั้นพื้นฐาน: ระดับเริ่มต้น

วิชาดาบขั้นพื้นฐาน: ระดับเริ่มต้น

วิชาตะบองขั้นพื้นฐาน : ระดับเริ่มต้น

วิชาด้านกำลังขา : ระดับชำนาญ

วิชามหาสายธาร : ขั้นแรก

แน่นอนว่าบนแผงคุณลักษณะ วิชามหาสายธารของเขาได้มาถึงขั้นแรกแล้ว

จากการรับรู้ของลู่ชางเฉิง พลังฉีของเขาเป็นเพียงกลุ่มก้อนเล็กๆเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปและผ่านการฝึกฝนวิชามหาสายธารอย่างต่อเนื่อง เขาจะค่อยๆเสริมสร้างกลุ่มพลังฉีนี้ให้ได้มากขึ้น

วิชามหาสายธารมีทั้งหมดสามขั้น ซึ่งลู่ชางเฉิงเพิ่งมาถึงขั้นแรกเท่านั้น

การไปถึงขั้นแรกได้หมายความว่าเขาได้เข้าไปจุดเริ่มต้นแล้ว เขาไม่จําเป็นต้องฝึกท่าทางแปลกๆทุกวันอีกต่อไป ตอนนี้เขาสามารถควบคุมพลังฉีของเขาได้โดยตรงและ "เคลื่อนย้าย" มันไปทั่วภายในร่างกายของเขา

ลู่ชางเฉิงลองทําดูและเห็นพลังฉีของเขากำลังเคลื่อนไหวอยู่ทั่วภายในร่างกายของเขา

อย่างไรก็ตาม หลังจากฝึกฝนไปได้สองสามรอบ เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นการพัฒนาของพลังฉี แต่เขากลับรู้สึกหิวและอึดอัดมาก

“อาจารย์หลิวเคยกล่าวไว้ว่าพลังฉีต้องการการบํารุงเพื่อเติบโตขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นักศิลปะการต่อสู้ในหน่วยรักษาความปลอดภัยต้องกินอาหารสมุนไพรทุกวันเพื่อบํารุงพลังฉีของพวกเขา”

“แต่เนื่องจากข้าไม่ได้เข้าร่วมหน่วยรักษาความปลอดภัย และข้าไม่สามารถเข้าถึงอาหารสมุนไพรได้ ถ้าเป็นแบบนี้ การเติบโตของพลังฉีของข้าอาจจะช้าพอๆกับหอยทากแน่ๆ”

“ถ้าเป็นแบบนี้ ข้าอาจไปถึงขั้นที่สองของวิชามหาสายธารในเวลาอีกไม่กี่ปีแน่ๆ”

ลู่ชางเฉิงขมวดคิ้ว แม้ว่าในที่สุดเขาจะสัมผัสได้ถึงพลังฉีของเขา แต่เขาก็ไม่มีทางเข้าร่วมหน่วยรักษาความปลอดภัยได้ การใช้เวลานานในการสัมผัสถึงพลังฉีของเขาถูกมองว่าเป็นคนที่มีความสามารถต่ำและไม่คุ้มค่าที่จะฝึกฝนในสายตาของหน่วยรักษาความปลอดภัย

มีอีกวิธีหนึ่ง นั่นคือการซื้ออาหารสมุนไพร

อาหารสมุนไพรของหน่วยรักษาความปลอดภัยนั้นค่อนข้างธรรมดาและสามารถหาซื้อได้ทั่วไปจากร้านอาหารภายนอก ตราบใดที่เขามีเงิน เขาก็สามารถซื้ออาหารสมุนไพรให้ตัวเองได้

แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ ลู่ชางเฉิงนั้นไม่มีเงินเลย

เขาไม่มีแม้แต่เหรียญทองแดงแม้แต่เหรียญเดียวเลยด้วยซ้ำ

"ดูเหมือนว่าข้าจะต้องหาเงินให้ได้ก่อนสินะ?"

แม้ลู่ชางเฉิงจะคิดอยู่สองสามวันแต่เขาก็ยังไม่สามารถหาทางออกที่ดีได้ เขาจึงไม่ได้คิดอะไรเยอะและค่อยทำทุกอย่างไปทีละสเต็ปแทน

"ตื่นได้แล้ว ตื่นได้แล้ว!"

ในวันนี้ ผู้ฝึกตนได้มารวมตัวกันที่ลานกว้าง

หัวหน้าจางในวันนี้มีสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งขรึมและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆว่า “ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวขึ้นและมีผู้ป่วยที่มากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ พวกกลุ่มโจรได้ทำการปิดกั้นเส้นทางการค้าซึ่งทำให้การจัดหาสมุนไพรก็ค่อยหายากขึ้น”

“พวกเจ้าได้เรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรและสามารถระบุได้ในระดับหนึ่งแล้ว วันนี้แพทย์จากสำนักเมียวชูจะพาพวกเจ้าไปที่ภูเขาเพื่อรวบรวมสมุนไพร โดยมีหน่วยรักษาความปลอดภัยติดตามพวกเจ้าไปด้วย”

“ถ้าพวกเจ้ารวบรวมสมุนไพรได้เยอะ จะมีรางวัลตอบแทนเป็นเงินให้พวกเจ้า”

ใบหน้าของผู้ฝึกตนเริ่มตื่นตัวขึ้นเมื่อได้ยินคำว่าเงิน

พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ฝึกตนที่ต่ำต้อยและไม่มีรายได้ กระเป๋าเงินของพวกเขาจึงว่างเปล่า

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้หาเงินด้วย

แม้ว่าการรวบรวมสมุนไพรบนภูเขาจะเป็นงานที่ลําบาก แต่พวกเขาก็จะไม่เกี่ยงเลย

"เอาล่ะ รีบออกเดินทางกันเถอะ"

ภายใต้การนำของแพทย์หลายคนและมีหน่วยรักษาความปลอดภัยติดตามพวกเขาไปด้วยนั้น ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนจึงออกเดินทางสู่ภูเขา

สิบกิโลเมตรด้านนอกเมืองหนานหยาง พวกเขามาถึงภูเขาหวู่นี่ฉาน

ภูเขาหวู่นี่ฉานนั้นกว้างใหญ่และมีป่าทึบกับสิ่งมีชีวิตที่มีพิษซึ่งอาจเป็นอันตรายรวมถึงสัตว์ร้ายที่ดุร้ายอาศัยอยู่

ยิ่งพวกเขาเข้าไปในภูเขาลึกเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

การรวบรวมสมุนไพรบนภูเขานั้นจึงค่อนข้างท้าทายและอันตรายมาก

ตอนแรกผู้ฝึกตนต่างรู้สึกตื่นเต้น แต่ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในภูเขา พวกเขาก็เริ่มมีสีหน้าที่ขมขื่น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกและมาอยู่ในภูเขาแล้ว พวกเขาจึงต้องรวบรวมสมุนไพรเท่านั้น

ผู้ที่รวบรวมสมุนไพรได้มากจะได้รับรางวัล ในขณะที่ผู้ที่รวบรวมได้น้อยจะถูกลงโทษ

เนื่องจากไม่มีใครอยากถูกลงโทษ ดังนั้นพวกเขาจึงกระจายไปในพื้นที่ต่างๆเพื่อรวบรวมสมุนไพร

หน่วยรักษาความปลอดภัยจะกระจายไปเพื่อคุ้มกันจากสัตว์มีพิษและสัตว์ร้ายภายในระยะที่กําหนด แต่พวกเขาไม่สามารถติดตามผู้ฝึกตนแต่ละคนเป็นรายบุคคลได้

ดังนั้นผู้ฝึกตนที่กระจายออกไปและในไม่ช้าพวกเขาก็หายไปในพื้นที่ต่างๆของภูเขา

ลู่ชางเฉิงนั้นโชคร้ายมาก หลังจากที่ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงบนภูเขา เขาสามารถรวบรวมสมุนไพรทั่วไปได้เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น

ด้วยสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดนี้ ทำให้เขาไม่น่าจะได้รับรางวัลใดๆและอาจต้องถูกลงโทษด้วย

“ข้าได้ยินมาว่าสมุนไพรล้ำค่าบางชนิดเติบโตอยู่ลึกในภูเขา”

“ถ้าอยากได้เงิน ข้าก็ต้องเสี่ยงและลึกเข้าไปในภูเขางั้นสินะ?”

ลู่ชางเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ส่วนที่ลึกในภูเขาอาจมีเส้นทางที่คดเคี้ยวแต่ก็ไม่น่าจะอันตรายมากขนาดนั้น

ดังนั้น ลู่ชางเฉิงจึงตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ภูเขาในส่วนที่ลึกขึ้น

ระหว่างทาง เขาถูกขวากหนามข่วนและมีบาดแผลมากมายบนร่างกายของเขา

แต่โชคดีที่มันเป็นแค่บาดแผลถากๆเท่านั้น

ในที่สุด ลู่ชางเฉิงก็มองเห็นหุบเขา

หุบเขาตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยสมุนไพรล้ำค่ามากมาย

"นั่นมันโสมรึเปล่าน่ะ?!"

“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีโสมอยู่ในภูเขาหวู่นี่ฉานด้วย!!”

ลู่ชางเฉิงมีสายตาที่เฉียบคมมากเมื่อเห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นโสมที่กําลังเติบโตอยู่ในหุบเขา

อันที่จริง โสมนั้นปลูกเองก็ได้ แต่โสมในป่านั้นถือว่าค่อนข้างหายาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโสมป่าที่มีอายุมาก ซึ่งมันมีค่าสูงมาก

ลู่ชางเฉิงเดินเข้าไปในหุบเขาทันทีและเริ่มขุดหาโสมป่า

หลังจากที่ขุดโสมป่าขึ้นมาแล้ว ลู่ชางเฉิงก็เงยหน้าขึ้นและเห็นว่าหน้าผารอบๆหุบเขานั้นเต็มไปด้วยสมุนไพรล้ำค่าอื่นๆด้วย

ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นถ้ำที่ซ่อนอยู่กลางหน้าผาแห่งหนึ่ง

ถ้ำแห่งนี้ถูกซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี และถ้าไม่ได้มองใกล้ๆ เขาอาจจะไม่สังเกตเห็นเลยด้วยซ้ำ

หัวใจของลู่ชางเฉิงเต้นแรงขึ้น

หุบเขานี้ดูเหมือนจะมีความพิเศษเฉพาะตัวและดูเหมาะสําหรับการเจริญเติบโตของสมุนไพรมากๆ ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทําไมสมุนไพรล้ำค่าจํานวนมากจึงเติบโตที่นี่ได้

อย่างไรก็ตาม สมุนไพรล้ำค่าจะต้องผ่านกระบวนการทันทีเมื่อสุก มิฉะนั้น มันจะเน่าเสียและไร้ค่า

ด้วยจำนวนสมุนไพรที่มีอยู่มากมาย ลู่ชางเฉิงจึงไม่สามารถเอามันกลับไปทั้งหมดได้

แต่ถ้าเขารายงานเรื่องนี้ไปที่สำนักเมียวชู เขาอาจจะได้รับรางวัลเป็นการตอบแทน

เมื่อเทียบกับสมุนไพรเหล่านี้ทั้งหมด รางวัลที่เขาจะได้นั้นมีค่าเท่าไหร่นะ?

เนื่องจากตอนนี้ ลู่ชางเฉิงนั้นต้องการเงินอย่างมาก ถ้าเขาสามารถเปลี่ยนสมุนไพรเหล่านี้ให้เป็นเงินได้ เขาจะได้รับเงินจํานวนมากอย่างแน่นอน

“ถ้ำแห่งนี้สามารถใช้เก็บสมุนไพรที่เติบโตเต็มที่ได้ชั่วคราว และข้าจะต้องหาวิธีเอามันออกไปและเปลี่ยนเป็นเงินให้ได้”

ด้วยการตัดสินใจในครั้งนี้ ลู่ชางเฉิงจึงปีนเข้าไปในถ้ำทันที

ในถ้ำที่แห้งแล้ง ความประหลาดใจของเขากลับเพิ่มมากขึ้นเมื่อเขาพบกับเครื่องนอนและเครื่องใช้พื้นฐานสําหรับการดำเนินชีวิตอยู่ภายในถ้ำ

"มีคนอาศัยอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?"

ลู่ชางเฉิงรู้สึกประหลาดใจมาก ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ยินเสียงกร่อบแกร่บดังออกมาจากนอกถ้ำ

เขามองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง แล้วซ่อนตัวอยู่ในมุมที่เงียบสงบของถ้ำอย่างรวดเร็ว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด