ตอนที่แล้วบทที่ 474: ศึกตัดสินกับเมืองหานเยว่! (จบ)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 476: ที่นี่มันโลกจริงนี่หว่า!

บทที่ 475: เกมเมอร์จ้าวต้าเป๋า!


ขณะที่ท้องฟ้าอันน่าสะพรึงกลัวที่ปกคลุมแดนร้างถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ พระจันทร์เย็นเยียบบนท้องฟ้ายังคงละลาย ความมีชีวิตของผืนแผ่นดินในแดนร้างค่อย ๆ เริ่มฟื้นตัวคืนมาอย่างช้า ๆ

ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานโลกอันเต็มไปด้วยความมีชีวิตจะปรากฏต่อสายตาของทุก ๆ คน

ย่านการค้ายังคงคับคั่งไปด้วยผู้คน แต่จำนวนนักรบต่างเผ่ากลับลดลงไปมาก

หลังจากสงครามบุกตีเมืองอันแสนสาหัสจบลง นักรบจากเผ่าต่าง ๆ ล้วนเสียหายกันอย่างหนักหน่วง มีคนจำนวนมากถูกกวาดล้าง

เมื่อผู้รอดชีวิตนึกถึงภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นก็เป็นต้องหวาดกลัว ยิ่งเมื่อต้องเจอกับระเบิดที่ทำเอาผืนแผ่นดินสะเทือนด้วยแล้วไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีพลังยุทธ์ระดับไหนก็ตามก็ไม่อาจหลีกหนีความตายพ้น

ไม่ว่าจะมอนสเตอร์หรือนักรบล้วนเท่าเทียมไม่มีอะไรแตกต่าง!

เมื่อเมืองหานเยว่ถูกทำลายลงแล้วย่อมต้องมีคนที่ได้ครอบครองศิลาเสาเอกของมันอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ซึ่งใครเป็นผู้ได้ผลประโยชน์สูงสุดไปนั้นคงไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาเยอะหรอก คนส่วนใหญ่ต่างก็ตัดสินไปแล้วว่ามีคนเดียวเท่านั้นแหละ

ซึ่งแม้จะเป็นคำตอบที่ทำให้ผู้รอดชีวิตต้องโมโหสุด ๆ ก็ตาม ทว่าโกรธแล้วมันยังไง จะทำไงได้อีกล่ะ

นี่เป็นการต่อสู้เพื่อแสวงหาผลกำไร ในเมื่ออีกฝ่ายมีความสามารถพอที่จะคว้ามันมาไว้ในมือ อีกทั้งยังแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องของในมือด้วย แล้วจะให้ทำยังไงอีก

หากอยากจะต่อความยาวสาวความยืดมันก็ต้องวางแผนในระยะยาว!

แต่ไม่ว่าผู้รอดชีวิตจะคิดยังไงก็ตาม ที่สุดแล้วข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ ท่ามกลางภัยพิบัตินี้เมืองเชิ่งหลงที่ผ่านพ้นมาได้และมีคุณสมบัติที่จะต่อกรกับโหลวเฉิงระดับไฮเอนด์แห่งอื่น ๆ แล้วนั่นเอง

ฉันเกรงว่าในอนาคตอันใกล้นี้แดนร้างทั้งแดนจะต้องมีเมืองเชิ่งหลงเป็นเจ้าเหนือหัวแล้วล่ะ!

ความวุ่นวายผ่านไปความเจริญผ่านมา ตอนนี้ภัยพิบัติได้จบสิ้นลงแล้วเมืองเชิ่งหลงก็เริ่มปฏิบัติการเก็บของทุกอย่างอย่างเข้มข้นทันที บนเย่โหลวยอดเขาในตอนนี้มีคนพลุกพล่านอย่างมาก

เมื่อขุดเอาทรัพยากรออกมาแล้วพวกมันก็จะถูกส่งกลับเมือง

ในเวลาเดียวกัน คลื่นอันน่าสะพรึงกลัวที่จะแผ่ขยายไปทั่วทั้งผืนแผ่นดินใหญ่ลูกแรกก็ได้ซัดเข้ามาอย่างเงียบ ๆ...

********************************

โลกเดิม ที่ไหนสักแห่งในสมาพันธ์เอเชีย

บนถนนอันเงียบสงบเส้นหนึ่ง ณ ช่วงเวลาผีตากผ้าอ้อม ชายหนุ่มคนหนึ่งขี่จักรยานอย่างระมัดระวังคอยหลบเลี่ยงแอ่งน้ำบนถนนและเลี้ยวเข้าซอยที่อยู่ไม่ไกล

หลังจากที่ขี่ไปได้อีกประมาณสองสามนาที ชายหนุ่มก็หันข้างแล้วเบรกรถให้หยุดอยู่หน้าบ้านเก่า ๆ หลังหนึ่ง

ผลักประตู้รั้วที่มีรอยกระดำกระด่าง จอดรถไว้ในลานบ้าน แล้วหันมาปิดประตูล็อกรั้ว

เปิดประตูบ้านเข้าไป เปิดไฟซึ่งภายในบ้านก็ค่อนข้างรกมีฝุ่นเกาะตามจุดต่าง ๆ ให้เห็นชัดเจน

เอาเป้ที่สะพายหลังอยู่ไปวางตามความเคยชิน จากนั้นก็เอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ซองมาต้มกิน มือหนึ่งคีบบะหมี่ส่วนอีกมือไถมือถือ

ชีวิตของหมาน้อยเดียวดายนั้นก็แสนเรียบง่ายและน่ะเบื่อเหลือเกิน

กินบะหมี่เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปยังตู้ใกล้ ๆ และหยิบเอาหมวกกันน็อกสไตล์ไซไฟออกมา

เอาผ้าเช็ดตัวออกมาเช็ดฝุ่นที่เกาะอยู่นิดหน่อยด้วยความทะนุถนอม เห็นได้ชัดเลยว่าชายคนนี้ดูแลหมวกนี่ดียิ่งกว่าบ้านตัวเองซะอีก

เสร็จแล้วก็สวมหมวกกันน็อกใบนั้นและไปนอนที่เตียงด้วยความอดทนให้เกมเริ่มไม่ไหว

ชายหนุ่มคนนี้ชื่อจ้าวต้าเป๋า เป็นคนงานธรรมดา ๆ ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในสมาพันธ์เอเชียและเป็นคนงานธรรมดา

แม้ว่าตัวคนจะธรรมดา แต่ในโลกของเกมจ้าวต้าเป๋าคือไม่ธรรมดา

ใน ‘โลกโหลวเฉิง’ เกมเวอร์ชวลเรียลลิตี้ (เกมเสมือนจริง/เกมวีอาร์) เกมแรกของโลก จ้าวต้าเป๋านั้นเล่นจนตัวละครเป็นเลเวล 3 และผ่านการรับรองเข้าเป็นพลเมืองของโหลวเฉิงได้สำเร็จแล้ว

ตามสถิติจากเว็บไซต์ออฟฟิเชียลบอกว่าปัจจุบันมีผู้เล่นเพียงประมาณ 10,000 คนบวก ๆ เท่านั้นที่ตัวละครถึงเลเวล 3!

มองแว้บแรกอาจดูเยอะก็เถอะ แต่จำนวนผู้เล่นในช่วงเริ่มต้นนี้มีหลัก 10 ล้านและอีกไม่นานก็จะขึ้นเป็นหลัก 100 ล้านแล้ว!

เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเป็นหนึ่งใน 10,000 ของคนที่อยู่บนยอดพีระมิด

เนื่องจากความได้เปรียบด้านเลเวลนี้เองทำให้จ้าวต้าเป๋ามีชื่อเสียงในเกมสูงมากและยังมีเพื่อนอีกมากมายนับไม้ถ้วน

จ้าวต้าเป๋าค่อนข้างภูมิใจในความสำเร็จของตนพอดู

ส่วนสาเหตุของผลสำเร็จที่เป็นอยู่ทุกวันนี้นั้นล้วนเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนักส่วนหนึ่งและที่ขาดไม่ได้เลยคือพรสวรรค์ อาจเป็นเพราะเกมนี้มันสมจริงเกินไปจึงทำให้จ้าวต้าเป๋าทุ่มเทให้กับมันได้อย่างเต็มที่โดยถือว่ามันคือชีวิตที่ 2 ของตน!

เมื่อมองดูอินเทอร์เฟซการล็อกอินที่คุ้นเคยตรงหน้าแล้วจ้าวต้าเป๋าก็เลือกปุ่ม [เข้าสู่ระบบ] ตามความเคยชินและเตรียมใจพร้อมที่จะเข้าสู่การผจญภัยในโลกของเกม

แต่ครั้งนี้ผิดปกติอยู่ตรงหนึ่งก็คือเขารู้สึกหน้ามืดนิดหน่อยและเสียวซ่าเล็กน้อยอยู่ในหัวสมอง

จ้าวต้าเป๋ากำลังจะออกเกมพร้อมกับความตกใจ แต่กลับสัมผัสได้ชัดเจนเลยว่าร่างกายเหมือนจะเสียการควบคุมและตัวเองนั้นเหมือนกำลังบินออกจากร่างขึ้นไปข้างบน

ความรู้สึกไร้พลังเหลือเกินได้เกิดขึ้นมา สติเริ่มเบลอจากเล็กน้อยกลายเป็นมากขึ้น ๆ และแล้วก็ตกลงสู่ความมืดมิด

********************************

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานขนาดไหน แต่ทันใดนั้นเองจู่ ๆ จ้าวต้าเป๋าก็รู้สึกตัวขึ้นมา หลังจากที่ได้สติแล้วก็พยายามลืมตาให้มากที่สุด

ซึ่งสิ่งที่ปรากฏสู่สายตาก็คือท้องฟ้าสีฟ้าที่เหมือนกำลังเปล่งประกายระยิบระยับ

ซึ่งจ้าวต้าเป๋าคุ้นเคยกับท้องฟ้าสดใสเหมือนอัญมณีนี้มาก ๆ มันคือทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่พบได้เฉพาะในเกม ‘โลกโหลวเฉิง’ เท่านั้น

เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะดูเหมือนว่าตัวเองจะสบายดีและสามารถเข้าสู่เกมได้ตามปกติ

ส่วนอาการหน้ามืดเมื่อกี๊อายเป็นเพราะช่วงนี้เหนื่อยเกินไป ดูท่าต่อจากนี้จะไปจะต้องให้ความสำคัญกับอาหารและการพักผ่อนให้เพียงพอซะแล้วสิ

คิดเสร็จแล้วจ้าวต้าเป๋าก็พยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ทันใดนั้นเองก็พบกับสิ่งผิดปกติ

นั่นคือเขาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในสระน้ำที่เต็มไปด้วยของเหลวสีเขียวมรกตในสภาพร่างกายที่เปลือยเปล่า!

‘เชี่ย น่าอายชิบ...’

จ้าวต้าเป๋าเจอแบบนี้ก็งงเต้กไปสิ เพราะจำได้แม่นเลยว่าตอนออกเกมเมื่อวานตัวเองสวมเกราะหนังอยู่ชัด ๆ

เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ดูเหมือนเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ มีเงาร่างที่อยู่ไกล ๆ

จ้าวต้าเป๋ารู้สึกหดหู่ใจมาก เพราะไม่เพียงแต่อาวุธและเกราะหนังจะหายไปเท่านั้น แต่ตำแหน่งที่เกิดก็ยังเปลี่ยนไปด้วย ทำให้คิดไปว่าหรือเกมจะเกิดเออเรอร์อะไรขึ้นมา

‘นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว เพราะที่ผ่านมานี้ตั้งแต่เกมเปิดก็ไม่เคยมีรายงานเรื่องบั๊กของเกมใด ๆ เลย หรือกูจะโชคดีที่เจอล่ะเนี่ย’ จ้าวต้าเป๋าคิด

‘เฮ่อ~ ก่อนอื่นหาชุดใส่ก่อนดีกั่ว!’ แล้วเขาก็ปีนขึ้นจากน้ำมายืนชื่นชมร่างกายตัวเอง

“จุ๊ ๆ ๆ ถึงจะไม่เหลือของใส่แต่สกินนี่ก็อย่างเจ๋ง เจ๋งกว่าพวกนักเพาะกายเยอะเลย!”

จ้าวต้าเป๋าโพสท่าดูหลาย ๆ แบบอย่างถูกอกถูกใจจนพอใจแล้วก็เริ่มที่จะมองหาอะไรมาปกปิดร่างกาย

หลังจากที่มองหาอยู่นานในที่สุดก็ไปเจอเข้ากับเสื้อผ้าขาด ๆ ชุดหนึ่งวางอยู่บนแท่นหินไม่ไกลกันนัก

จ้าวต้าเป๋าก็เอาเสื้อผ้านั่นมาสวมและเดินเข้าไปหาเงาร่างที่เห็นแต่ไกล

ตอนนี้เขาได้สังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวแล้วและสรุปไปว่าตนเองนั้นยังอยู่ในเมืองเชิ่งหลง และอาจเป็นเพราะมีการอัปเกรดเกมจึงทำให้ทิวทัศน์โดยรอบเปลี่ยนไปอย่างมาก

‘ช่างมันก่อน ไปดูข้างหน้าดีกว่า’

จัตุรัสแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก และจ้าวต้าเป๋าต้องเดินอยู่นานกว่าจะถึงขอบ

โชคดีที่การขนส่งในเกมนั้นมีพื้นฐานที่การเดิน และการสื่อสารมีพื้นฐานที่การตะโกนซึ่งจ้าวต้าเป๋าก็คุ้นเคยกับเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว

ทหารเชิ่งหลงที่กำลังยืนเฝ้าอยู่เมื่อเห็นจ้าวต้าเป๋าก็อึ้ง ๆ ไปก่อนจะเดินเข้ามาหา

“นายเป็นใครแล้วมาทำอะไรที่นี่”

จ้าวต้าเป๋ามองทหารตรงหน้าและกระตุกมุมปากเบา ๆ อย่างช่วยไม่ได้ เพราะคิดว่าดูท่าเกมจะอัปเกรดแพ็ตช์ใหม่จริง ๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผลเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้

อย่างแรกคือเขาสูญเสียเกราะหนังไป สองคือมาเกิดตรงสถานที่แปลก ๆ แบบไม่มีสาเหตุ และสามคือชุดเกราะที่ทหารของเมืองเชิ่งหลงใส่อยู่นี้มันไม่เหมือนเดิม

ยิ่งมองดูปืนไรเฟิลในมือของทหารแล้วจ้าวต้าเป๋าก็รู้สึกขัดแย้งสุด ๆ เพราะใคร ๆ เขาก็รู้ว่าเกมนี้เป็นเกมแนวผจญภัยในต่างโลก

เป็นเกมที่มีสกิลสายนักรบและสายเวทมนตร์ ส่วนไอ้ปืนที่เป็นของสไตล์โลกจริงเนี่ยคือยอมรับไม่ได้เลยโว้ย!

‘ไอ้บริษัทเกมนี่แม่งไปหมดแล้วแล้วสมงสมอง เดิม ๆ ก็ดีอยู่แล้วแท้ ๆ แต่จู่ ๆ ก็รั่วซะงั้น!’

แม้ในใจจะคอมเพลนแบบไม่รู้จักจบสิ้นก็ตาม ทว่าจ้าวต้าเป๋านั้นเข้าใจในภาษาแปลก ๆ ของทหารและสามารถตอบคำถามกลับไปได้เลย

“ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกันอะ ตื่นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ตรงนั้นและ!”

จ้าวต้าเป๋าหันกลับไปชี้ที่จัตุรัสด้านหลังด้วยสีหน้าไร้เดียงสา

เมื่อทหารได้ยินคำตอบก็มีสีหน้าแปลก ๆ ขึ้นมาทันที หลังจากที่มองจ้าวต้าเป๋าตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่สองสามรอบสุดท้ายก็หยิบวิทยุสื่อสารที่เหน็บเอวอยู่ขึ้นมา

เมื่อจ้าวต้าเป๋าเห็นแบบนี้ก็ยิ่งแต่จะเจ็บปวดกว่าเดิม ‘สัดเอ๊ย ถึงขั้นมีวิทยุสื่อสารเลยเหรอวะ...’

ทหารไม่สนใจท่าทีของจ้าวต้าเป๋าแต่ยังคงจ้องดูอยู่ด้วยสายตาระแวดระวังและพูดใส่วิทยุสื่อสารเสียงดัง “หัวหน้าครับ! ผมพบชายหนุ่มไม่ทราบที่มา เจ้าตัวบอกว่าพอตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในจัตุรัส...”

เมื่อได้จ้าวต้าเป๋าได้ยินดังนั้นก็รีบปกป้องตัวเอง “กูเป็นพลเมืองของเมืองนี้นาโว่ย ไม่ใช่คนไม่มีที่มาที่ไปซักหน่อย!”

ทหารก็จ้องมองจ้าวต้าเป๋าอย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่เหน็บวิทยุสื่อสารไปที่เอวเหมือนเดิมและประทับปืนเล็งมาที่เขา

จ้าวต้าเป๋าเห็นสีหน้าพร้อมสังหารของอีกฝ่ายก็รีบหุบปากเงียบและคิดกับตัวเองในใจ ‘เชี่ยนิ ทำไมอัปเดตแพ็ตช์แล้วกูเล่นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ววะ’

ตอนที่จ้าวต้าเป๋ากำลังพึมพำอยู่ในใจนั้นเองก็ได้มีรถจี๊ปเปิดประทุนวิ่งเข้ามาหยุดต่อหน้าทั้งสองคนอย่างเร็ว

ได้เห็นสไตล์รถจี๊ปที่คุ้นเคยแล้วมุมปากของจ้าวต้าเป๋าก็กระตุกอีกรอบและคิดไปว่า ‘ไอ้บริษัทเกมนี่แม่งบ้าไปแล้วจริง ๆ นี่พวกมันถึงขนาดมียานยนต์เลยทีเดียว

ดูแล้วต้องเป็นไอเทมเสียตังถึงจะได้มาล่ะม้าง

แล้วไอ้คำมั่นสัญญาที่ว่าไว้ว่าพร็อบทั้งหมดไม่ต้องเสียเงินซื้อนี่ตอแหละล่ะสิ’

หลังจากบ่นในใจไปสองสามคำดวงตาของจ้าวต้าเป๋าก็สว่างขึ้นเพราะจำชายที่กระโดดลงจากรถจี๊ปได้

จ้าวต้าเป๋ารีบกระโดดเข้าไปหาและตะโกนใส่หน้าชายผมทองที่เข้ามาใกล้ “หัวหน้าไทสันงานที่คุณมอบหมายให้ผมไปทำเสร็จเรียบร้อยแล้วคับ ไม่ทราบจะมอบสูทแห่งความกล้าให้ผมตอนไหนเหรอ”

ไทสัน “...???”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด