ตอนที่แล้วบทที่ 46 นี่ กลิ่นหอมมากเลย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 48 กู้ภัย

บทที่ 47 ข้อตกลงตามนี้


บทที่ 47

ข้อตกลงตามนี้

“ขึ้นรถมา มาทำข้อตกลงกัน ผมต้องคุยกับคุณให้เป็นกิจจะลักษณะ”

เป็นครั้งแรกที่เฉินเทียนเซิงให้เจิ้งเหว่ยขึ้นรถ!

อีกฝ่ายรีบเปิดประตูขึ้นรถมา มือวางอาหารสำเร็จรูปในมือ ก่อนเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

“ผมเอาบางอย่างมาให้น่ะ เลยเที่ยงมาแล้ว คิดว่าคุณยังไม่ได้ทานข้าว ใครจะคิดว่าจะมีอาหารกินดีขนาดนี้ ถ้ามีอย่างอื่นก็ขอผมกินสักคำบ้างสิ”

เมื่อลัวหลงได้ยินเช่นนั้นก็รีบเขมือบอาหาร แทบจะกลืนกระดูกลงไปด้วย

“เลิกพูดจาไร้สาระ มาเข้าเรื่องกันเถอะ”

เฉินเทียนเซิงดึงเข้าประเด็นพลางเช็ดมือ

“คุณต้องการต่อมไพเนียลใช่ไหม”

เจิ้งเหว่ยอึ้งไปก่อนได้สติโดยเร็ว ตอนนี้ต่อมไพเนียลเป็นเรื่องเร่งด่วน อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบในการทดลองวิทยาศาสตร์ที่   ลัวเฟิงขาดแคลนที่สุด จึงไม่อาจเมินเฉยได้

“ผมจะแลกเปลี่ยนต่อมไพเนียลกับคุณ แต่มีเงื่อนไข”

“คุณว่ามาเลย”

เฉินเทียนเซิงกล่าวแจกแจงข้อตกลง

“ข้อแรก เมื่อถึงฐานผู้รอดชีวิต เราแต่ละคนจะได้ห้องพักเดี่ยวเป็นของตัวเอง”

เดิมทีเจิ้งเหว่ยอยากจะปฏิเสธเมื่อได้ยินคำจากปากเขา ทว่าเมื่อทบทวนดูการแยกทั้งสามออกจากกันคงดีกว่า จะได้แอบปฏิบัติการ มันทำให้ง่ายต่อการเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายมากขึ้น

“โอเค ผมจะจัดการให้ตอนไปถึงฐานผู้รอดชีวิต”

“ข้อสอง เราต้องไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของใคร มีอิสระที่จะเข้าออกและเคลื่อนไหว โดยที่คุณไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งหรือแทรกแซง”

“คุณทำเหมือนฐานผู้รอดชีวิตเป็นบ้านได้เลย” ตอนนี้   เจิ้งเหว่ยไม่มีทางเลือก

“เคยได้ยินเรื่องเทพสามตาหรือเปล่า”

เฉินเทียนเซิงพลันพูดแทรกก่อนอีกฝ่ายจะตอบ

“ขานรับสุรเสียงเมินเฉยคำสั่ง* ผมช่วยคุณสะสางเรื่องวุ่นวายได้ แต่เรายังต้องมีอิสระ ถ้าคุณไม่ทำตามข้อตกลงนอกเสียจากผมจะยอมเอง ก็ไม่ต้องมาคุยกันเรื่องนี้อีก”

* ขานรับสุรเสียงเมินเฉยคำสั่ง เป็นระบบการออกคำสั่งของจักรพรรดิและเสนาบดีสมัยโบราณ ที่เสนาบดีจะรับฟังคำสั่งของจักรพรรดิแต่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะเลือกนำไปปฏิบัติหรือไม่

เหอะ คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนกัน!

คำนี้เอ่ยขึ้นในใจเท่านั้น แต่ไม่กล้าเอ่ยออกมา

อย่างไรเสียเงื่อนไขเฉินเทียนเซิงก็น่าสนใจ เผยเจตนาชัดเจน เจ้าตัวยอมช่วยเหลือโดยไม่คิดเข้าร่วมกลุ่ม นักสู้ผู้เก่งกาจทั้งสามยืนหยัดเป็นผู้ช่วยอิสระ ข้อตกลงแบบนี้ไม่เพียงได้กำไรแต่ยังไม่ขาดทุน

“โอเค แล้วอะไรอีก?”

เฉินเทียนเซิงบอกข้อสุดท้ายเสียงเรียบ “เราอยากอยู่ในฐานผู้รอดชีวิตไปอีกนาน นอกเหนือจากเงื่อนไขสองข้อก่อน ผมเองก็อยากทำธุรกิจในฐานด้วย คุณห้ามมาขัดขวางผม”

นั่นไง ว่าแล้วเชียว!

เพิ่งคิดอยู่เมื่อครู่ว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนนิสัยได้ ทว่านึกไม่ถึงว่าสิ่งสุดท้ายจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ช่างทะเยอทะยาน ค้ากำไรเกินควรเสียเหลือเกิน!

“เงื่อนไขสุดท้ายผมยังให้คำตอบชัดเจนไม่ได้เร็วๆ นี้หรอก แต่รับประกันได้ว่าจะรีบจัดการให้ตอนกลับไปที่ฐาน ถึงยังไงผมก็ไม่ใช่ผู้บัญชาการสูงสุด ตัดสินใจเด็ดขาดเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้”

เจิ้งเหว่ยกำลังเตือนชายหนุ่มว่าต่อให้เขาอนุญาตให้ทำธุรกิจก็ไม่อาจทำอะไรได้ตามอำเภอใจ

“คุณติดต่อกับหัวหน้าคุณตอนนี้จะดีกว่า ถ้าไม่ตกลงผมจะพาพรรคพวกจากไป ไม่ยอมตกลงคงร่วมมือกันไม่ได้ เราต่างก็งานยุ่งกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลากันทุกฝ่าย”

เฉินเทียนเซิงโยนไพ่ตายออกไป ทำเอาเจิ้งเหว่ยพูดไม่ออก

“ผมจะรีบติดต่อเดี๋ยวนี้ ไว้เรากลับมาคุยกันอีกที”

เขาเปิดประตูลงรถไป ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยังไม่อยากให้อีกฝ่ายได้สมดั่งใจ

ดังนั้นจึงมีแผนเดียวในใจเขา ผัดวันประกันพรุ่งต่อไปเรื่อย ๆ นั่นเอง ยิ่งนานก็ยิ่งดี ถึงอย่างไรก็ยังได้แรงงานให้ใช้งานฟรี

ภายในรถ

ลัวหลงถามอย่างงุนงง

“อาจารย์ ทำไมถึงไม่เข้าร่วมกลุ่มไปเลยล่ะครับ?”

“อธิบายยากน่ะ เดี๋ยวนายก็เข้าใจเอง คืนนี้พักผ่อนเถอะ บางทีพรุ่งนี้พวกเขาอาจให้เราออกปฏิบัติภารกิจด้วยกัน”

ลัวหลงและลัวเฟิงไม่เข้าใจเขา แต่พวกเขาสมองลัดวงจรไปแล้ว จะเข้าใจแผนอันแยบยลของเฉินเทียนเซิงได้อย่างไร!

อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในวันสิ้นโลก ทรัพยากร โดยเฉพาะทรัพยากรระดับสูงหายาก ขอเพียงมีพวกมันอยู่ในเงื้อมมือ ข้าราชการและทหารทุกคนในฐานต่างก็ต้องยอมสิโรราบให้เขาไม่ช้าก็เร็ว!

ทีมค้นหาและกู้ภัยกลับมาถึงค่ายอย่างปลอดภัยในช่วงเย็น ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้เพียงไม่มาก 10 ขบวนช่วยเหลือได้เพียงมากกว่า 200 คน ต่างจากวันแรกมากพอสมควร

หัวหน้าทีมค้นหาและกู้ภัยมารวมตัวกันเพื่อรายงานสถานการณ์ในวันนี้กับเจิ้งเหว่ย

“ภารกิจของทีมค้นหาและกู้ภัยยากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ถึงจะพบผู้รอดชีวิตจำนวนมากแต่ก็กำลังจะกลายเป็นซอมบี้ ทำให้ยากในการรับมือกว่าเดิม ไม่ว่าจะสู้แค่ไหนก็ฆ่าไม่ได้ครับ”

“ใช่ครับ เพื่อความปลอดภัย เราเลยถอยออกมาก่อน”

ทุกทีมตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ หลังซากศพก่อนหน้านี้เปลี่ยนไป พวกเขาระมัดระวังในการค้นหาและกู้ภัยมากขึ้น แม้จะไม่พบผู้บาดเจ็บแต่ก็ไม่ได้อะไรเช่นกัน

เจิ้งเหว่ยตบบ่าเหล่าหัวหน้าทีม

“ไม่ต้องกังวลไป พรุ่งนี้ฉันจะส่งคนไปช่วย วันนี้ฉันพยายามเพื่อช่วยนายอย่างเต็มที่เลย”

หัวหน้ากองกำลังกล่าวลาก่อนจากไป ทั้งที่ยังไม่เข้าใจว่าส่งคนไปช่วยหมายถึงอะไร

หนึ่งคืนล่วงเลยผ่าน

วันต่อมา

ทีมกู้ภัยพร้อมออกทำภารกิจแต่เช้าตรู่ พวกเขามารวมตัวกัน ก่อนรถถังและยานพาหนะหุ้นเกราะจะดาหน้าเคลื่อนออกจากเขตปลอดภัย

หัวหน้าทีมเรียกอาสาสมัครทุกคนมาทานอาหารเช้าด้วยกันให้อิ่มหนำ ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความแน่นแฟ้น ยังคลายความประหม่าของเหล่าอาสาสมัคร

สวี่หว่านชิงรีบทานข้าวจนเสร็จ เธอลอบเข้าไปในพื้นที่ปลีกวิเวกและมุ่งตรงไปยังรถบรรทุกคันใหญ่ระหว่างหัวหน้าเผลอ

เฉินเทียนเซิงกับพรรคพวกตื่นแต่เช้าตรู่ เป็นไปตามคาด เมื่อคืนจิ้งจอกเฒ่าเจิ้งเหว่ยมาเคาะประตูบอกให้พวกเขาออกไปกลางเมืองกับทีมในวันนี้ และเพื่อแสดงความจริงใจจึงส่ง        หยางเซวี่ยไปเป็นครั้งแรก

สวี่หว่านชิงมาถึงในจังหวะเขากำลังเตรียมตัวออกไป

“คุณหน้ากาก”

เธอเดินมาหาขณะก้มหน้าแดงเรื่อ

“คุณสวมหน้ากากกันพิษอีกแล้ว หล่อมากเลยค่ะ”

สองพี่น้องตระกูลลัวกับหยางเซวี่ยต่างหันมองฉากน่านินทาตรงหน้าด้วยความงุนงง

“มีอะไร”

เฉินเทียนเซิงถามเสียงเย็นชา

สวี่หว่านชิงบึนปากพร้อมส่งบางอย่างให้เขา

“ของขวัญให้คุณค่ะ ฉันเจอมันตอนออกค้นหาและกู้ภัยเมื่อวาน”

ว่าจบเธอก็หันหลังวิ่งหนีไปด้วยท่าทีเขินอาย

ทั้งสามจ้องมาด้วยความสงสัย คล้ายต้องการรู้ว่าหัวหน้าได้รับของขวัญอะไรมา

“ช็อกโกแลตน่ะ แบบที่เด็กผู้หญิงให้ผู้ชาย หัวหน้า คุณโชคดีมากเลย”

หยางเซวี่ยว่าหยอกล้อ

“ไม่ต้องตามมาก่อเรื่องเลย ขึ้นรถแล้วออกเดินทางได้แล้ว”

เขาดูไม่ออกว่าสวี่หว่านชิงทำเช่นนี้จากใจจริงหรือไม่ หรือเพียงถูกใครบางคนสั่งมาเพราะมีแผนบางอย่าง

รถบรรทุกขับเคลื่อนตัวออกไปจากบริเวณนี้ท่ามกลางสายตาจับจ้องของทุกคน

เจิ้งเว่ยกล่าวทักทายขณะรถบรรทุกคันใหญ่ออกไป ฝ่ายรักษาความปลอดภัยแสร้งทำเมินมองไม่เห็น

หลังทีมกู้ภัยรวมพลกัน เจิ้งเหว่ยอยากเอ่ยบางอย่างตามปกติ แต่เมื่อตั้งท่าจะบอกก็เห็นรถบรรทุกแล่นออกไปแล้ว เขาทำได้เพียงพยักผเยิดคางพลางบอก

“วันนี้มือเทพทั้งสามบนรถบรรทุกจะร่วมไปช่วยเหลือผู้รอดชีวิตกับพวกนาย ให้ความร่วมมือด้วย”

บรรดาหัวหน้าระเบิดโทสะทันที

“ร่วมมือกับไอ้สวะเฉินเนี่ยนะ เจิ้งเหว่ย ล้อกันเล่นหรือเปล่า”

“เขาจะก่อเรื่องระหว่างค้นหาและกู้ภัยอีกหรือเปล่า จะไม่ทำให้เราเดือดร้อนหรอกเหรอ?”

เจิ้งเหว่ยชะงักไปก่อนเอ่ยเสียงเข้ม

“จะขัดคำสั่งหรือยังไง?”

หัวหน้ากองกำลังเงียบลง ด้านเจิ้งเหว่ยก้มหน้าพลางกล่าว

“ไอ้สวะเฉินก็ส่วนไอ้สวะ แต่สมุนทั้งสามของเขาแข็งแกร่งกันทั้งนั้น ให้ยอดมนุษย์ทั้งสามปกป้องนายแล้วทำภารกิจให้สำเร็จ เลิกพูดจาเหลวไหลและรีบออกเดินทางได้แล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด