ตอนที่แล้วบทที่ 5 : เข้ายิมสร้างกล้าม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 : การตัดสินใจ

บทที่ 6 : มิตรภาพที่ดีไม่มีแบ่งปัน!  


บทที่ 6 : มิตรภาพที่ดีไม่มีแบ่งปัน!

ทั้งสองเข้าไปในยิมฟิสเนส

เสียงดนตรีอันน่าตื่นเต้นดังขึ้นปลุกเร้าอารมณ์ของคนที่เดินเข้ามา

เมื่อซังวูและคยองโดเดินไปถึงที่เคาน์เตอร์และยืนอยู่ที่นั่นอย่างประหม่า ชายร่างกำยำที่กำลังกัดอกไก่รมควันในมืออยู่ก็กระโดดขึ้นมา

“จุ๊จุ๊... ได้เวลามื้อเที่ยงแล้ว 555 ยินดีต้อนรับครับ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณมาเยี่ยมชม 'ยิมแกร่ง' ใช่ไหม?”

“ใช่ครับ ผมอยากจะมาเดินดูรอบๆ สักหน่อยนะ”

“ยินดีต้อนรับๆ นี่คือยิมที่ดีที่สุดในระแวกนี้แล้ว ผมจะช่วยแนะนำพวกคุณเอง เชิญตามมาได้เลยครับ”

ฉันไม่แน่ใจว่าเขาเป็นเจ้าของที่นี่รึเปล่า แต่นอกเหนือจากกล้ามเขาแล้ว ที่นี่มันก็ใหญ่กว่าที่คาดเอาไว้มาก และอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ ก็ดึงดูดสายตาของฉันมาก

ผู้ชายบ้ากล้ามกำลังยกดัมเบลขณะเหงื่อออก ส่วนผู้หญิงร่างอ้วนก็วิ่งอยู่บนลู่วิ่งและหอบหายใจอย่างหนัก นอกจากนี้ มันยังมีคุณปู่คุณตาที่กำลังเดินไปทางเครื่องออกกำลังกาย.... ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะออกกำลังกายกันไหวหรอกนะ...

“คยองโด มันอยู่หน้ามหาวิทยาลัยขนาดนี้ ทำไมมันถึงไม่เห็นมีสาวๆ เลยวะ!”

' ฉันก็ไม่รู้ เชี่ยเอ้ย นี่พวกเราถูกหลอกรึเปล่าเนี่ย?'

ซังวูและคยองโดบ่นและคุยกันด้วยหางตา

ความผิดหวังเล็กน้อยแล่นผ่านจิตใจของซังวู ถึงแม้จุดประสงค์เดิมของเขาจะเป็นการฝึกร่างกายก็ตาม

“นี่คือโซนยกน้ำหนักและยังมีลู่วิ่งสำหรับออกกำลังกายแบบแอโรบิค อย่างที่พวกคุณเห็น พวกมันทั้งหมดล้วนทำมาจากหินเวทย์ ดังนั้นมันจึงสามารถรับน้ำหนักที่หนักกว่าเครื่องออกกำลังกายโลหะทั่วไปได้ และตรงนั้นก็เป็นโซนแอโรบิก…”

นอกจากนี้ ผู้ชายคนนี้ก็ยังพูดมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้อีก

อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันมายิม แต่ถึงงั้นฉันก็กลับรู้สึกเหมือนรู้ว่ามันคืออะไรจากการเพียงแค่มองดูมัน

“ที่นี่มีคนไม่ค่อยเยอะเลยนะครับ”

“อ่า~ มันเพิ่งจะเปิดได้ไม่นานน่ะครับ ดังนั้นก็เลย... ฮ่าฮ่าฮ่า ยังไงซะคนออกกำลังกายน้อยๆ มันก็ดีกว่าใช่ไหมล่ะครับ คุณจะได้ไม่ต้องไปแย่งเครื่องกับคนอื่นไง”

“ผมก็ว่างั้นแหละ ถ้างั้นผมจะลงทะเบียนที่นี่ก็แล้วกัน สามเดือนราคาเท่าไหร่หรอครับ?”

“ตอนนี้เรากำลังลดราคาอยู่ครับ ดังนั้นถ้าคุณสมัคร 3 เดือน มันก็จะเป็นเงิน 160,000 วอน คุณคิดว่ายังไงครับ?”

' 160,000 วอนหรอ? แต่บนอินเทอร์เน็ตบอกว่าแค่ 90,000 วอนเองนี่'

ซังวูคิดว่ามันแพงกว่าที่คาดไว้

คยองโดเองก็ส่ายหัวเช่นกัน

“ใช่แล้ว ที่ดูมาในอินเทอร์เน็ตก็บอกว่า 90,000 วอน งั้นผมไปที่อื่นดีกว่า”

“โอ้เดี๋ยวก่อน นั่นเป็นโปรโมชั่นพิเศษตอนเปิดร้านน่ะครับ ฮ่าฮ่า... เนื่องจากพวกคุณเป็นนักเรียน งั้นผมจะลดเพิ่มให้อีก 40,000 วอนรวมเป็นเงิน 120,000 วอน แบบนี้ดีขึ้นไหมครับ?”

“เอาให้มัน 90,000 วอนไปเลยเถอะ ถ้าคุณลดราคาตอนนี้ ผมก็จ่ายตอนนี้เลย”

“...เฮ้อ~  งั้นโปรดเก็บเป็นความลับไม่ให้สมาชิกคนอื่นรู้ด้วยก็แล้วกันนะครับ…”

จากนั้นซังวูและคยองโดก็ตรงไปเปลี่ยนชุดออกกำลังกายที่ยิมจัดให้แล้วออกมา เมื่อเห็นพวกเขาเดินออกมา เทรนเนอร์ก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย

“โอ้~ ผมเดาว่าพวกคุณคงจะออกกำลังกายกันมานิดหน่อยแล้วใช่ไหม?”

ฉันรู้ดีว่ามันเป็นคำชมการตลาด แต่ถึงงั้นฉันก็ยังอดยิ้มมุมปากไม่ได้

“ฮ่าฮ่า พอดีผมออกกำลังกายแบบบอดี้เวทคนเดียวที่บ้านมาน่ะครับ”

“คุณมีพุงนิดหน่อยนะ แต่ไหล่ของคุณก็กว้างและต้นขาก็กระชับ... อืมม คุณมีสรีระที่ดีเลย พูดได้เลยว่ายอดเยี่ยม! ถ้าอย่างนั้น ให้ผมช่วยบอกวิธีการใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายหน่อยดีได้ไหมครับ?”

“ได้ครับ ถ้าแบบนั้นจะช่วยได้มากเลย”

เทรนเนอร์เริ่มจากการอธิบายชื่ออุปกรณ์ วิธีออกกำลังกาย และวิธีการสร้างกล้ามเนื้อทีละขั้นตอน

“นี่คือเครื่องยกน้ำหนักแบบเอียง มันเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นหน้าอกส่วนบน เราจะยกบาร์เบลขึ้นแบบนี้ จากนั้นก็หยุดชั่วคราวที่ด้านบนเพื่อให้รู้สึกถึงแรงที่กดลงมา จากนั้นเราจึงจะค่อยๆ เอามันลงและทำซ้ำไปเรื่อยๆ คุณอยากจะลองดูไหม?”

น้ำหนักบาร์เบลทั้ง 2 ข้างรวมกันคือ 20 กก.

ซังวูลองทำตามที่เทรนเนอร์บอก

ฟิว.. ฟิว..

' หยุดที่ด้านบนสักครู่เพื่อให้รู้สึกถึงแรงที่กดลงมา จากนั้นก็กลับสู่ตำแหน่งเดิม'

“คุณทำได้ดีเลย คุณทำมันครั้งแรกใช่ไหม? เมื่อคุณใช้พลังตรงจุดนั้น ให้ทำมันอย่างรวดเร็วและแข็งแรง ใช่แล้ว แบบนั้นเลย และเมื่อคุณออกแรงผลักคุณก็หายใจออก และเมื่อคุณยกมันลง คุณก็หายใจเข้า ใช่แล้ว ยอดเยี่ยม ฮ่าฮ่า!”

มันง่ายกว่าที่ฉันคิด

ฉันยักไหล่แล้วมองดูคยองโดที่ทำคนเดียวโดยไม่มีเทรนเนอร์

“ชิ!”

เขายกบาร์เบลที่มีน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัมขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ด้วยแขนทั้งสองข้าง

การเคลื่อนไหวของเขาคล่องแคล่วราวกับเป็นนักยกน้ำหนัก

ในที่สุดเขาก็หมดแรงและทิ้งมันลงบนพื้น

ปัง!

เมื่อได้ยินเสียงนั้น ทุกคนก็มองไปที่คยองโด

“ว้าว คุณน่าทึ่งมาก คุณเคยออกกำลังกายมาก่อนหรอ?”

“ฮ่าฮ่า ไม่เลย นี่เป็นครั้งแรกของผม”

“อ่า ดูเหมือนว่าคุณจะมีค่าสถานะความแข็งแกร่งสูงมากเลยสินะ”

“มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก~ ความแข็งแกร่งของผมคือ 2.1 เอง ฮ่าฮ่าฮ่า~”

“เฮ้... ตอนผมเริ่มออกกำลังกายแรงๆ ผมยังมีค่าสถานะไม่มากเท่าคุณเลย… ผมชักจะอิจฉาคุณซะแล้วสิ”

จากนั้นซังวูก็จำได้

' ในตอนนั้น ฉันก็ได้ยินมาว่าเขาได้รับสกิลมาด้วย ดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับค่าความแข็งแกร่งงั้นสินะ'

ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นสกิลประเภทเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่นั่นก็เป็นสกิลของฮันเตอร์ที่ธรรมดามาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นคยองโดเป็นเช่นนั้น เขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าผู้ปลุกพลังคนอื่นๆ จะน่าทึ่งกันขนาดไหน

เมื่อปลุกพลังขึ้นมาแล้ว คนส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ในระดับคนธรรมดา แต่มันก็มีบางกรณีที่พวกเขาได้รับสกิลเหนือมนุษย์มาอย่างคยองโด

ในบรรดาสกิลเหล่านี้ ผู้คนก็เรียกสกิลที่มีไว้สำหรับการล่ามอนสเตอร์ว่า ‘สกิลฮันเตอร์’

และผู้ปลุกพลังซึ่งได้รับสกิลฮันเตอร์เหล่านี้ก็มักจะประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะฮันเตอร์

ตอนนี้ฮันเตอร์กำลังตกเป็นที่สนใจมากกว่าอาชีพอื่นๆ มันชนะแซงหน้าผู้พิพากษา อัยการและแพทย์ไปแบบไม่ทิ้งฝุ่น

แน่นอน แม้ว่าคุณจะไม่มีสกิลฮันเตอร์ แต่คุณก็ยังสามารถทำงานเป็นฮันเตอร์ได้โดยใช้อาวุธปืน

' นั่นเป็นเพราะว่ามันยังอันตรายไม่แพ้กัน'

ด้วยเหตุนี้เอง เช่นเดียวกับคยองโด สกิลฮันเตอร์จึงค่อนข้างมีความสำคัญมาก

และเมื่อเห็นคยองโดแสดงความแข็งแกร่งอันทรงพลังออกมาในทันทีที่เขาปลุกพลังขึ้น ซังวูจึงรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

แน่นอน ฉันคิดว่าสกิลร่างโคลนของฉันซึ่งมีความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุดนั้นยังดีที่สุด

' เมื่อถึงเวลา ฉันก็จะสามารถกลายเป็นคนที่สุดยอดได้อย่างแน่นอน'

ในช่วงเวลานี้ ซังวูก็กำลังปลอบใจตัวเองโดยคิดว่าเขาไม่ได้อิจฉาเลย

เทรนเนอร์ที่กำลังคุยกับคยองโดอยู่ตอนนี้ก็กลับมาหาซังวูแล้ว

“คุณทำหนึ่งชุดและพักผ่อนนะ ตอนนี้เราจะพักและค่อยมาทำต่อให้ครบ 12 ชุด”

“ไม่เป็นไร พอแค่นี้ก่อน”

ซังวูยืนขึ้นและปฏิเสธ

“ทำไมล่ะ? เราควรจะออกกำลังกายให้สม่ำเสมอนะ”

“วันนี้ผมออกมาเพื่อเรียนรู้วิธีการออกกำลังกาย ผมวางแผนที่จะใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งหมดที่นี่และเรียนรู้วิธีใช้มัน”

“ท่าทางนั่นจะยากกว่าที่คุณคิดนะ ผมว่าคุณควรจะเรียนรู้มันทีละขั้นจะได้ผลมากกว่านะ…”

“แค่บอกผมมาก็พอ”

เทรนเนอร์มองเขาด้วยความสับสนอยู่ครู่หนึ่ง แต่มันก็ไม่สำคัญ

เขาเพียงแค่อยากจะรู้วิธีการใช้งาน มันไม่ได้มีอันตรายอะไร

* * *

คยองโดลงเอยด้วยการไม่ได้ลงทะเบียนเข้ายิม เหตุผลที่เห็นได้ชัดเลยก็คือเขาคิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร

' อืม แต่ฉันคิดว่ามันอาจเป็นเพราะที่นี่ไม่มีเทรนเนอร์สาวสวยมากกว่านะ'

คิม คยองโดเกิดมาเพื่อผู้หญิง เพราะงั้นเขาจึงไม่สามารถอยู่ได้หากขาดพวกเธอ...

ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม มันก็ต้องขอบคุณความจริงที่ว่าไม่มีผู้คนอยู่รอบๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลกับการถูกจับได้ และมันก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะส่งร่างโคลนเข้ามาออกกำลังกายแทน

“เอาล่ะ วันนี้เรามากินไก่และเบียร์กันเถอะ!”

“ไม่เอาอ่ะ ฉันมีธุระ”

ฉันแยกทางกับคยองโดที่หน้ายิมและเดินทางกลับบ้านในทันที

เมื่อฉันเลี้ยวตรงหัวมุม มันก็มีสาวงามสวยโดดเด่นสะดุดตายืนอยู่ตรงหน้าฉัน

ผมของเธอถูกรวบเป็นหางม้า ใบหน้าขาวราวกับหิมะและมีริมฝีปากสีแดง เธอสวมเสื้อกันลมสีขาวในท่อนบน แต่สะโพกที่โดดเด่นของเธอก็ดูเหมือนจะถูกรัดเอาไว้ด้วยกางเกงโยคะรัดรูปที่น่าประทับใจและน่าดึงดูด

' ว้าว สวยสุดยอด!'

ซังวูจ้องมองเธอพร้อมกับอ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว

เธอยิ้มให้ซังวูราวกับว่าเธอคุ้นเคยกับการจ้องมองแบบนี้แล้ว จากนั้นเธอก็เดินผ่านเขาและเข้าไปในอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของยิมแกร่ง

เขามีลางสังหรณ์ว่าเธอจะเป็นเทรนเนอร์สาวสวยที่คยองโดพูดถึง

' นั่นคือเธอหรอ? ถ้าเธอคนนั้นเป็นเทรนเนอร์ งั้นฉันก็ควรไปออกกำลังกายเองดีไหมนะ?'

และแล้วก็มาถึงจุดที่เขาต้องคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแผนการฝึกร่างโคลนของเขา

ไม่ได้ ฉันจะมาออกกำลังกายเองไม่ได้ นั่นมันยุ่งยากเกินไป

' ใช่แล้ว ฉันไม่ควรบอกเรื่องนี้กับคยองโดด้วย'

มิตรภาพที่ดีไม่มีแบ่งปัน!

ซังวูมองไปทางอื่นครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตรงไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อทำภารกิจของวันนี้ให้เสร็จ เขาวางแผนจะซื้อเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้เพื่อเสริมสารอาหารให้แก่ตัวเอง

ตอนนี้ฉันมีเงินเหลือเพียงพอแล้ว

' ไหนดูหน่อยสิ... เอาอกไก่แล้วก็...'

ฉันกำลังช็อปปิ้งทีละขั้นตอนตามรายการสิ่งของที่ฉันทำไว้

วี้ดด-

หน้าจอโทรเข้าปรากฏขึ้นโดยระบุว่ามีสายเข้าจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก

เนื่องจากคนที่รู้เบอร์ฉันนั้นมีเพียงแม่กับคยองโด ดังนั้นฉันจึงรับสายเพราะคิดว่ามันเป็นสแปม

“สวัสดีครับ?”

-สวัสดีครับ นี่ใช่เบอร์โทรศัพท์ของจองซังวูรึเปล่า?

“ถูกต้องแล้วครับ  ขอโทษนะครับ ว่าแต่คุณเป็นใครหรอครับ?”

-ฮ่าฮ่าฮ่า ซังวู ฉันเอง ลุงจางด็อกชิล

“โอ้! สวัสดีครับ”

-สวัสดีๆ ฉันเล่าให้ลูกสาวและภรรยาฟังเรื่องการเรียนพิเศษแล้ว และพวกเขาก็โอเคกันหมดแล้ว ตอนนี้เธอพอจะมีเวลาไหม? ถ้ามันสะดวก ฉันก็อยากจะให้เธอมาคุยกันที่บ้านฉันแบบเห็นหน้ากันหน่อยน่ะ

“ตอนนี้หรอครับ?”

ขณะนี้เวลาประมาณห้าโมงเย็นแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะโทรหาฉันเพราะเขาคิดว่ายังมีเวลาเหลือก่อนงานพาร์ทไทม์จะเริ่ม

“ได้เลยครับ แล้วผมต้องไปที่ไหนหรอครับ?”

- มาตามที่อยู่นี้เลย กังโกคู, โซล... ฉันจะส่งข้อความบอกเธออีกที

“  ได้ครับ ถ้าคุณส่งมาแล้วผมจะรีบไปทันทีเลยครับ”

หลังจากวางสายเสร็จ จางด็อกชิลก็ส่งที่อยู่ของเขามาให้ฉันทางข้อความ

มันใช้เวลานั่งรถบัส 20 นาทีจากมหาวิทยาลัยคยองกุกไปหาอีกฝ่าย

‘ อืม ดูเหมือนฉันจะเอาข้าวของไปเก็บที่ห้องทันอยู่สินะ’

* * *

ซังวูรีบจ่ายเงินและมุ่งหน้ากลับไปที่ห้องก่อน

เมื่อเขาไปถึงบ้าน หมายเลข 1 ก็กำลังทำสควอทอยู่ในห้อง

เหงื่อหยดลงมาอาบแก้มหมายเลข 1

เสื้อผ้าของเขาเองก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

เดือนสิงหาคม ปลายฤดูร้อนและอากาศก็ร้อนอยู่แล้ว ดังนั้นการออกกำลังกายในห้องจึงถือเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์

บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ห้องเต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ

“พุทโธ่ๆ ฉันไม่ได้บอกให้นายออกไปออกกำลังกายข้างนอกหรอ?”

ฉันไม่ได้ให้คำสั่งโดยละเอียด ดังนั้นหมายเลข 1 จึงออกกำลังกายที่บ้าน

แต่ถึงกระนั้น ฉันก็แค่บอกให้เขาออกกำลังกาย แต่ฉันไม่ได้บอกให้เขาทำสควอตเพิ่มด้วย ดังนั้นการเห็นเขาทำสควอชจึงเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์มากสำหรับเขา

“เฮ้ ดื่มนี่ซะหน่อยสิ”

“ครับนาย”

ฉันยื่นเครื่องดื่มเกลือแร่เย็นๆ ที่ฉันเพิ่งซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตให้กับเขา และแล้วหมายเลข 1 ก็รับมันไปดื่มจนหมด

' ...ขวดนั้นคือ 1 ลิตรเลยนะ แต่ฉันเดาว่านายคงจะหิวน้ำมากเลยสินะ พอมาคิดดู การออกกำลังกายของเขามันก็ซ้ำซากจำเจขนาดนั้นเลยหรอ? ในตอนที่ฉันฟังเทรนเนอร์ที่ยิมพูดก่อนหน้านี้ ฉันก็ได้ยินมาว่าฉันต้องเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของฉันด้วยหากอยากออกกำลังกายให้ได้ผล'

ฉันรู้สึกเหมือนค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นของฉันกำลังค่อยๆ เพิ่มขึ้นช้าลง

ถึงกระนั้น มันก็ยังเติบโตได้เร็วอยู่ แต่หากการเติบโตช้าลงแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มันก็จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุค่าสถานะชั้นยอดอย่างที่ซังวูใฝ่ฝัน

' ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้ไอ้เจ้าคยองโดมันแซงหน้าฉันอย่างแน่นอน!'

ซังวูไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ จิตใจของเขาเล็กแคบและไม่มีที่ว่างให้สำหรับมัน

' ด้วยการออกกำลังกายในปัจจุบัน ฉันก็จะสามารถพัฒนาได้เฉพาะความแข็งแกร่ง ความว่องไว แรงกายและความอดทนเท่านั้น โชคดีที่ความว่องไวของฉันยังสามารถเพิ่มขึ้นมาได้ แต่ฉันก็ยังไม่สามารถสัมผัสพลังเวทย์ได้เลย ฉันได้ยินมาว่าเพื่อเพิ่มพลังเวทย์ เราก็จะต้องได้รับสกิลเฉพาะหรือไม่ก็ฆ่ามอนสเตอร์เอา อ้า... ฉันอยากจะมีร่างโคลนเพิ่มขึ้นมาอีกสักตัวจังเลย ’

ซังวูรู้สึกกังวลหลังจากไปยิม แต่แล้วดวงตาของเขาก็สบเข้ากับนาฬิกา

[ 17:33 ]

ขณะที่เขากำลังจมอยู่กับความคิดอื่นอยู่ครู่หนึ่ง เวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หากช้าไปกว่านี้ เขาก็จะไปสายได้ในที่สุด

“เอ่อ ฉันไม่รู้ด้วยแล้ว! ก่อนอื่นฉันต้องไปสอนพิเศษก่อน หมายเลข 1 อย่าลืมไปทำงานพาร์ทไทม์ด้วยล่ะ โชคดี!”

จากนั้นซังวูก็รีบออกไป...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด