ตอนที่แล้วบทที่ 33 มาดาระ: ฉันมองเห็นหมดแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 35 โจมตีฉันด้วยสายฟ้า? ช่างเป็นอัจฉริยะ!

บทที่ 34 สามคาเงะปรากฏ!


บทที่ 34 สามคาเงะปรากฏ!

เมื่อหัวใจของมาดาระพองโต เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เพราะฝ่ามือของเขาไม่รู้สึกถึงเลือด แต่เหมือนแทงลงไปในทราย

ในเวลาเดียวกันเขาเห็นการเยาะเย้ยมุมปากของครอกโคไดล์ตรงหน้า

“ไม่! หมอนี่ไม่โดนภาพลวงตา!”

มาดาระตอบสนองทันทีต้องการล่าถอย แต่มันสายเกินไป!

ทรายจำนวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นมาจากใต้พื้นดิน ห่อหุ้มเขาไว้อย่างสมบูรณ์

“แกคือ…พลังสถิตร่างสมบูรณ์แบบ?”

มาดาระมองดูครอกโคไดล์อย่างไม่เชื่อสายตา

ในความเห็นของเขา มีเพียงพลังสถิตร่างที่สมบูรณ์แบบเท่านั้นสามารถหลีกหนีภาพลวงตาของเขาได้

แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เพราะตั้งแต่ที่หนึ่งหางถูกนำตัวไปจนถึงปัจจุบัน เวลาอันสั้นเช่นนี้ไม่เพียงพอทำให้สัตว์หางเชื่องแล้วเป็นพลังสถิตร่างที่สมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน!

ทันใดนั้นเขาเห็นว่าร่างกายของครอกโคไดล์ที่ถูกแทงด้วยมือของเขานั้นมีรูอยู่

ในเวลานี้ ฝุ่นทรายนับไม่ถ้วนเข้ามาเติมเต็มช่องว่างกลายเป็นร่างของครอกโคไดล์

และรูปลักษณ์นี้ทำให้มาดาระนึกถึงเอเนลทันที

“แกไม่ใช่พลังสถิตร่าง!”

เขาตะหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง

“เจ็ดเทพโจรสลัด…มีความสามารถคล้ายกัน?”

ในมุมมองของมาดาระ ความสามารถในการแยกธาตุของทั้งสองนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นวิชานินจาที่มีความคล้ายคลึงกันมาก

แม้จะมีความรู้มากมาย แต่เขายังไม่เข้าใจแก่นแท้ของวิชานินจาอันน่ากลัวนี้

“คุกทราย!”

ในระยะจวนตัว มาดาระหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยธรรมชาติ

ทันใดนั้นมือขวาของครอกโคไดล์คว้าเขาเอาไว้ จากนั้นแรงดูดอันมหาศาลเริ่มดูดซับความชื้นทั้งหมดจากร่างของมาดาระ!

เมื่อน้ำถูกดูดออกจากร่างกาย ร่างของมาดาระค่อยๆ เหี่ยวเฉา และการหายใจของเขาก็หยุดลงในที่สุด

อุจิวะ มาดาระ ดูเหมือนจะตายแล้ว!

แต่…

“มีแต่คนโง่ที่เชื่อ!”

เย่หลินซึ่งควบคุมหุ่นทั้งสองตัวเยาะเย้ย

“ฟุ่บ!”

มือของครอกโคไดล์ตบลงบนพื้น

จากจุดที่มือสัมผัส ทุกอย่างเริ่มพังทลาย!

พื้นดินแตกระแหง กำแพงหินของถ้ำทรุดตัวลง

ดูเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะสูญเสียความมีชีวิตชีวาไป แม้แต่ก้อนหินยั

ค่อยๆ แหลกสลายกลายเป็นทรายบริสุทธิ์ทั้งหมด

นี่คือการเคลื่อนไหวอันทรงพลังที่สุดของครอกโคไดล์

“อาณาจักรทราย!”

ในเวลาเดียวกัน เอเนลเคาะกลองทั้งสี่ด้านหลังเขาด้วย!

ขณะที่เขาตีกลองไทโกะ สายฟ้าขนาดใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนค่อยๆ ควบแน่นเป็นลูกบอลสายฟ้าขนาดมหึมาตรงหน้า

กระแสลมโดยรอบปั่นป่วนแสดงถึงพลังทำลายล้างอันไม่มีที่สิ้นสุด

นี่คือการเคลื่อนไหวอันทรงพลังที่สุดของเอเนล…

“ไรโครากัน!”

ด้วยการปล่อยท่าโจมตีอันทรงพลังที่สุดทั้งสองร่วมกัน พื้นที่หลายกิโลเมตรรอบๆ ถ้ำก็ถูกกวาดล้างออกไปทันทีด้วยพลังทำลายล้างและแรงกระแทกขนาดมหึมา!

พื้นดินกลายเป็นผง แม้แต่เมฆบนท้องฟ้ายังถูกเป่าออกไปด้วยพลังทำลายล้างอันมหาศาลนี้!

หลังจากการโจมตีครั้งใหญ่และน่าสะพรึงกลัว ครอกโคไดล์กับเอเนลอยู่ตรงกลางของการระเบิดได้เปลี่ยนจากการแยกธาตุเป็นร่างมนุษย์ไปพร้อมๆ กัน

พวกเขาเหลือบมองไปยังรูปปั้นสิบหางไม่ไกล

พวกเขาเห็นว่าภายใต้รูปปั้นในเวลานี้ ‘มาดาระ’ ที่ควรจะตายยังคงยืนอยู่ตรงนั้น

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวจากเมื่อก่อนคือเห็นได้ชัดว่ามาดาระได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกโจมตีอย่างรุนแรงเมื่อครู่นี้ และเนตรวงแหวนข้างหนึ่งของเขาสูญเสียความแวววาวไปโดยสิ้นเชิง

“อย่างที่คิดเอาไว้…”

“เมื่อกี้แกหนีความตายด้วยอิซานางิหรือเปล่า?”

เมื่อมองดูฉากนี้ เย่หลินซึ่งควบคุมหุ่นทั้งสองตัว ก็คิดได้ว่าเป็นไปตามคาด

หลังจากเขาควบคุมครอกโคไดล์เพื่อฆ่ามาดาระสำเร็จ เขาตระหนักถึงปัญหาได้ทันที

นั่นคืออิซานางิ วิชาเนตรที่ถูกเรียกว่า ‘เทคนิคโกงความตายขั้นสูงสุด’

คาถาชั่วร้ายนี้ต้องจ่ายราคาด้วยการตาบอดอย่างถาวรของเนตรวงแหวน บันทึกสถานะของตัวเองในขณะที่เปิดใช้งาน จากนั้นบันทึกความเสียหายทั้งหมดไว้ในช่วงเวลาหนึ่ง

มาดาระใช้วิชานี้เพื่อหนีความตายเมื่อเขายังอยู่ในหุบเขาแห่งจุดจบ

ดังนั้นเย่หลินจะไม่ละเลยวิชาเนตรสุดสำคัญนี้แน่นอน หลังจากที่มาดาระเสียชีวิต เขายังคงควบคุมหุ่นเชิดสองตัวเพื่อโจมตีด้วยการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่!

และตอนนี้ดูเหมือนมันคุ้มค่าอย่างเห็นได้ชัด

“แม้แต่อิซานางิก็รู้ด้วยงั้นเหรอ?”

ในเวลานี้ มาดาระตระหนักถึงสถานการณ์นี้อย่างชัดเจน

เขายังมีตาข้างหนึ่งเหลืออยู่ แต่เมื่ออีกฝ่ายรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของอิซานางิแล้ว มันไม่สมเหตุสมผลเลยในการเปิดใช้งานมันอีกครั้ง

เพราะ…

“เจ็ดเทพโจรสลัด…”

คำพูดของเขายังมีคงแรงกดดันอยู่ แต่ทุกคำที่พูด ร่างกายของเขาค่อยๆ เหี่ยวเฉาลงทีละนิด

เห็นได้ชัดว่าพลังชีวิตที่เขาดึงมาจากรูปปั้นสิบหาง มันมาถึงขีดจำกัดแล้วเมื่อการต่อสู้มาถึงจุดนี้

แต่ในกรณีนี้ วีรบุรุษนินจายังคงมองครอกโคไดล์และเอเนลตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ความอัปยศในวันนี้ ฉันจำมันได้”

ขณะร่างกายของเขาคืนสู่สภาวะชราภาพก่อนหน้านี้อย่างสมบูรณ์ ในที่สุดคำพูดของเขาก็มาถึงประโยคสุดท้าย

“ครั้งต่อไปเมื่อฉันกลับมา…พวกแก…”

คำพูดของเขาจบลงอย่างฉับพลัน ณ จุดนี้

ลมหายใจของเขาหยุดลง ดังนั้นจึงไม่มีคำพูดตามมาอีก

ทันทีหลังจากนั้น รูปปั้นสิบหางขนาดใหญ่ค่อยๆ จางหายไปในความว่างเปล่า มันเป็นสิ่งปลูกสร้างที่นำออกมาโดยคาถาอัญเชิญ เมื่อผู้อัญเชิญตาย มันจะถูกเคลื่อนย้ายกลับไปยังที่เดิมโดยธรรมชาติ

“ครั้งต่อไป?”

เมื่อมองไปยังร่างชราตรงหน้า เย่หลินซึ่งกำลังควบคุมหุ่นเชิดทั้งสองก็ยิ้มเบาๆ เช่นกัน

เขาไม่สนใจคำพูดแสดงความอาฆาตพยาบาทของมาดาระ

หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงเรื่อง ไม่ว่ามาดาระจะสามารถฟื้นคืนชีพได้สำเร็จในอนาคตหรือไม่นั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด

ยิ่งไปกว่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามาดาระสามารถฟื้นคืนชีพได้จริงๆ ในอนาคต?

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเย่หลิน และอัตราการเติบโตอันน่ากลัวของเขา ในเวลานั้นเขาอาจสามารถตะโกนคำว่า “ข้าอยู่ยงคงกระพันในโลกนี้” ได้!

ดังนั้นเย่หลินจึงไม่สนใจเลย แต่ควบคุมครอกโคไดล์โดยตรงเพื่อเก็บร่างของมาดาระด้วยทราย

นี่เป็นจุดประสงค์เดียวและยิ่งใหญ่ที่สุดในการมาที่นี่ของเขา ดังนั้นเขาจะไม่ผิดพลาด

แต่ในตอนนั้นเอง…

“ฟุ่บ!”

“ฟุ่บ!”

“ฟุ่บ!”

“ฟุ่บ!”

เสียงเคลื่อนไหวดังขึ้นในอากาศ ร่างของนินจาจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในระยะไกล!

นินจาผู้นำทั้งสามได้แก่ โฮคาเงะ สึจิคาเงะ และไรคาเงะ

ด้านข้างพวกเขาคือมินาโตะที่ดูกระวนกระวายใจ

นอกจากสี่คนทางด้านหน้าแล้ว ด้านหลังยังมีนินจาอีกหลายสิบคนหรือมากกว่านั้นกระโดดไปมาระหว่างต้นไม้ แต่พวกเขาไม่เร็วเท่าสี่คนนี้

เห็นได้ชัดว่าเอเนลและครอกโคไดล์ส่งเสียงดังมากเกินไปจนดึงดูดคาเงะทั้งสามที่กำลังตามหาโอบิโตะอยู่

แต่หลังเห็นฉากนี้แล้ว เย่หลินไม่ได้เลือกเรียกหุ่นทั้งสองกลับโดยตรง

“ในที่สุดก็มา”

ในทางกลับกัน ดวงตาของเขาสว่างขึ้นใน มีรอยยิ้มแคบๆ ที่มุมปากของเขา

และรอยยิ้มแบบนี้แทบจะเหมือนกับตอนที่เขาใช้หุ่นเซ็นอิทสึหลอกมินาโตะ

“ถ้าอย่างนั้น…ฉากสุดท้ายของเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นได้!”

…………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด