ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 532 - ได้เวลาจับจ่ายใช้สอย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 534 - สนามรบโบราณ!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 533 - พบกับนายน้อยอลันอีกครั้ง


ในที่สุดเดวิดก็ออกมาจากอาคารหอสมุดได้ ในแหวนนั้นเต็มไปด้วยสิ่งละอันพันละน้อย โกดังขนาดใหญ่แทบจะไม่เหลือช่องว่างอยู่เลยด้วยซ้ำ แม้ว่าอุปกรณ์ไฮเทคส่วนใหญ่ทั่วไปจะไม่สามารถช่วยเหลือเขาในการต่อสู้ได้มากนัก แต่มันก็ยังช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ! เดวิดต้องการใช้คะแนนจีโนออกไปให้ได้มากที่สุด การเก็บพวกมันเอาไว้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เขาไม่รู้ว่าในอนาคตตัวเองจะได้กลับมาที่สถาบันแห่งนี้อีกหรือไม่ด้วยซ้ำ

แต่แม้ว่าเดวิดจะพยายามอย่างเต็มที่ คะแนนจีโนที่เหลืออยู่ในบัญชีก็ยังมากกว่า 100 ล้านคะแนน เขาจะคิดในภายหลังว่าจะจัดการกับมันอย่างไรดี

สีหน้าของเดวิดในตอนนี้เต็มไปด้วยความพอใจ แต่ขณะที่กำลังจะขยับเดินมุ่งหน้ากลับไปที่ห้องพักของตัวเอง สัญญาณเตือนว่ามีข้อความเข้าก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เมื่อเขาเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมขึ้นตรวจสอบ สีหน้าก็เปลี่ยนกลายเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อยทันที

.....

เรือเหาะขนาดเล็กที่ดูหรูหราล้ำสมัยค่อย ๆ ลดระดับลงมาจอดลงที่ลานขนาดใหญ่หน้าภัตตาคารแห่งหนึ่ง ขนาดของเรือเหาะไม่ได้ต่างจากรถสปอร์ตในโลกเดิมเลยแม้แต่น้อย รูปลักษณ์ของมันนั้นโฉบเฉี่ยวกระชากใจสาวน้อยสาวใหญ่ให้เต้นตุบตับได้อย่างไม่ยากเลย

“นั่นมัน ‘แฟนท่อม เอจด์ 10’ ไม่ใช่เหรอ รุ่นนี้เพิ่งจะเปิดตัวออกมาเมื่อ 2-3 วันก่อนเองนี่! ใครที่รวยถึงขนาดไปถอยมันออกมาใช้ได้เร็วแบบนี้กัน?” เสียงพึมพำจากหมู่นักเรียนที่เดินผ่านไปมาดังขึ้นเบา ๆ น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา

เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งกล่าวเสริมออกมาด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกัน “ให้ตายสิ! ข้อมูลบอกเอาไว้ว่ามีผลิตทั้งหมดแค่ 20 ลำเท่านั้น! ศาสตราจารย์คนไหนกล้าทุ่มทุนกับเรือเหาะราคาแพงแบบนี้กัน!”

หลังจากสิ้นเสียงไม่นาน ดวงตาของเหล่านักเรียนชายที่ชะงักเท้ารอดูเจ้าของเรือเหาะลำหรูก็เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่เห็น ร่างที่ปรากฏขึ้นมาจากที่นั่งคนขับ! เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่มีอายุไม่ต่างจากพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

เดวิด! เขากำลังก้าวออกมาจาก ‘รถสปอร์ต’ หรูหราที่ซื้อมาเพื่อตอบสนองกิเลสของตัวเอง หลังจากที่เอื้อมมือไปกดปุ่มให้ประตูปิดลงเรียบร้อย ดวงตาก็กวาดมองไปยังอาคารหรูหราที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะนึกดีใจที่ตัวเองเดินทางมาที่นี้ด้วยเรือเหาะลำนี้ ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เข้ากับสถานที่อย่างแน่นอน!

สถานที่นัดพบที่นายน้อยอลันระบุมาเป็นภัตตาคารที่ตกแต่งเอาไว้อย่างอลังการ แค่การออกแบบตัวอาคารก็เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่แพ้ใครแล้ว เดวิดไม่เคยรู้มาก่อนเสียด้วยซ้ำว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ในสถาบัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา ถ้านับจำนวนวันกันอย่างจริงจัง เขาอยู่ในสถาบันแทบจะไม่ถึง 6 เดือนเสียด้วยซ้ำ

ทันทีที่ก้าวไปยืนอยู่ด้านหน้าทางเข้า ประตูขนาดใหญ่ก็เปิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ ลูกศรโฮโลแกรมสีสันสวยงามปรากฏตัวขึ้นชี้ทางให้เดินตามเหมือนรู้ล่วงหน้าว่าคนที่เดินผ่านเข้ามาคือใคร เดวิดเดินตามไปอย่างไม่มีอาการลังเลแม้แต่น้อย และเมื่อก้าวเท้าออกมาจากลิฟต์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา เขาก็พบว่าตัวเองอยู่บนห้องอาหารส่วนตัวขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง มันเป็นห้องที่กว้างขวางกินพื้นที่ของภัตตาคารแห่งนี้ทั้งชั้นเลยทีเดียว บนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางห้อง มีเด็กหนุ่มกำลังนั่งเพลิดเพลินอยู่กับอาหารเลิศรสอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

“โอ้! นายมาถึงแล้วอย่างนั้นหรือ? เชิญเลย เชิญเลย!” นายน้อยอลันเงยหน้ายกผ้าเช็ดปากเช็ดคราบน้ำมันของขาสัตว์บางชนิดที่เพิ่งกัดลงไปเต็มคำออกจากริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นอีกครั้ง

“มา! นั่งก่อน! อาหารกำลังร้อน ๆ เลย กินก่อนแล้วค่อยคุยกัน”

เดวิดกวาดตามองไปรอบห้องคร่าว ๆ ครั้งหนึ่ง ทั้งห้องนี้มีอยู่เพียงแค่โต๊ะเดียวเท่านั้น แต่กลับมีสาวใช้รูปร่างหน้าตางดงามยืนรอรับคำสั่งอยู่ 10 กว่าคนเลยทีเดียว นี่มันช่างเป็นการกินข้าวเย็นที่หรูหรามากเกินไปมั้ย?

เมื่ออีกฝ่ายเชิญแล้ว เขาก็ไม่ได้รีรออีก สาวเท้าเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ด้านตรงข้ามกับนายน้อยอลันทันที และหลังจากนั่งลงได้ไม่ถึง 10 วินาที จานอาหารที่หอมกรุ่นจำนวนหนึ่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟขึ้นโต๊ะอย่างพร้อมสรรพ เดวิดแทบจะเลือกไม่ถูกเลยทีเดียวว่าจะเริ่มจากเมนูไหนก่อนดี

หลังจากที่ส่งอาหารอันเลิศรสเข้าปากไปจำนวนหนึ่ง เดวิดที่หลับตาเคี้ยวอยู่เพื่อซึบซับรสชาติให้ได้มากที่สุดก็พึมพำออกมา “อ้า! ยอดเยี่ยม มันนานมากแล้วจริง ๆ ที่ไม่ได้กินอาหารดี ๆ แบบนี้”

“โอ้! ดีใจนะที่นายชอบ ไม่เสียแรงที่ฉันยอมจ่ายไปเกือบ 1 ล้านเหรียญดาวเพื่อให้ภัตตาคารเตรียมวัตถุดิบพวกนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ” นายน้อยอลันยิ้มออกมา

เดวิดพยักหน้าให้เขาโดยไม่เอ่ยอะไรตอบโต้ไปในตอนนี้ ใช้เวลาต่อจากนั้นลิ้มรสอาหารที่วางอยู่เบื้องหน้าจานละเล็กละน้อย แม้ว่าราคาอาจจะดูแพงไปบ้าง แต่เมื่อพิจารณาจากคุณภาพและพลังงานที่แฝงอยู่ในอาหารแต่ละจานแล้ว แต่ละเหรียญดาวที่จ่ายออกไปดูเหมือนจะคุ้มค่า

“นายตั้งใจหลอกใช้ฉัน!” หลังจากที่กินอย่างเงียบ ๆ ไปได้สักพัก เดวิดก็เริ่มกล่าวออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

เสียงทอดถอนหายใจดังออกมาจากอีกด้านของโต๊ะ นายน้อยอลันวางมีดของตัวเองลงก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงอ่อน “ช่วยไม่ได้! ความแข็งแกร่งของศาสตราจารย์ใหญ่คาดเดาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย พวกเราต้องใช้วิธีนี้ในการตรวจสอบว่าเขาอยู่ในระดับใดกันแน่”

คิ้วของเดวิดเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “แล้วทำไมไม่ส่งตาแก่ที่มุมห้องนั่นไปทดสอบล่ะ? แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ?” หัวของเขาพยักเพยิดไปยังมุมห้องที่ว่างเปล่าเบา ๆ

นั่นทำให้นายน้อยอลันอึ้ง ดวงตาเริ่มมีแววแห่งความตื่นตระหนกออกมา

เดวิดเคี้ยวอาหารที่เพิ่งส่งเข้าปากไปจนหมด ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ไม่เอาน่า! นายคงไม่คิดว่าฉันที่กล้าเผชิญหน้ากับศาสตราจารย์ใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว จะตาถั่วจนไม่เห็นว่ามีตาแก่คนหนึ่งยืนหลบอยู่ที่ตรงมุมห้องโจ้ง ๆ อย่างนั้นหรอกนะ!”

รอยยิ้มขมขื่นปรากฏขึ้นมาที่มุมปากของนายน้อยอลันแล้ว “ก็จริงอย่างที่นายพูด ไม่ใช่เรื่องแปลกจริง ๆ

บอกกับนายตามตรง สถานการณ์ของทวีปนี้เริ่มยุ่งเหยิงวุ่นวายมากขึ้นทุกวัน มีการจับมือรวมกลุ่มเป็นพันธมิตรของขุมกำลังต่าง ๆ มากมาย เป้าหมายของพวกเขาส่วนมากแล้วคือการต่อต้านตระกูลใหญ่ทั้ง 9 ตระกูลที่กุมอำนาจส่วนใหญ่ในสหพันธ์เอาไว้ พวกเราไม่มีทางเลือกมากนักหรอก การรู้กำลังและตื้นลึกหนาบางของคนที่อาจจะเป็นศัตรูในภายภาคหน้าเอาไว้ก่อนถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น”

คราวนี้คิ้วของเดวิดขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแล้ว “หือ? นายคิดว่าศาสตราจารย์ใหญ่จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับ 9 ตระกูลใหญ่ หรือตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลเคียร์รินของนายอย่างนั้นหรือ?”

“ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน และบางทีมันอาจไม่ใช่เป็นศัตรูกับ 9 ตระกูลใหญ่ แต่เป็นการจับมือกับตระกูลใหญ่บางตระกูลต่างหาก” นายน้อยอลันยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเข้าไปเกือบครึ่งแก้ว ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามออกมาตามตรง

“อืม! แล้วนายวางแผนเอาไว้แบบไหนล่ะ? ต้องการให้ฉันจัดการกับเขา!? มันคือสาเหตุที่นายส่งข้อมูลเรื่องที่อาจารย์ไวท์ถูกส่งออกไปทำภารกิจฆ่าตัวตายมาให้ฉัน? ต้องการให้ฉันโกรธจนขาดสติอย่างนั้นใช่มั้ย?”

เสียงหัวเราะดังออกมาจากปากของนายน้อยอลันหลังจากได้ฟังคำคาดเดาของเดวิด “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก! การจัดการกับศาสตราจารย์ใหญ่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้มีนายเพิ่มขึ้นมาอีก 2-3 คนก็ตาม เขาบรรลุระดับอาตมันเรียบร้อยแล้ว ถ้าจะให้พูดกันแบบง่าย ๆ ชายคนนั้นเป็นอมตะ! ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งแค่ไหน การจัดการกับเขาก็เป็นแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น แน่นอน! นายอาจจะป้องกันการโจมตีง่าย ๆ จากเขาได้สักครั้งสองครั้ง แล้วจะอย่างไรล่ะ! การโจมตีของนายก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เช่นกัน และเมื่อเขาเอาจริงขึ้นมา นายจะตายได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว”

คิ้วของเดวิดขมวดแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้โต้เถียงอะไรออกมา

“ทำไม? นายไม่เชื่อที่ฉันพูดหรือยังไง?”

นายน้อยอลันเงยหน้าขึ้นมองจ้องเดวิดอย่างพิจารณา เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขากำลังฟังอยู่ และมีสีหน้าว่าเข้าใจคำพูดของตัวเองแต่ดูจะไม่เชื่อถือนัก ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา

“เฮ้อ! อันที่จริงก็ไม่น่าแปลกใจที่นายจะไม่เชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับระดับการฝึกฝนที่เหนือกว่าระดับจ้าวแห่งสัตว์ร้ายและร่างสมบูรณ์ถือว่าเป็นข้อมูลปกปิดที่ล้ำค่า ทางสถาบันแห่งนี้ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึงในชั้นเรียนมากนัก อย่างไรเสีย โอกาสที่นักเรียนคนหนึ่งจะบรรลุถึงระดับร่างสมบูรณ์ได้ก็แทบจะไม่มี อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย แม้แต่ศาสตราจารย์อาวุโสส่วนใหญ่ของที่นี่ยังคงเป็นแค่จ้าวแห่งสัตว์ร้ายระดับสูงเสียด้วยซ้ำ!”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด