ตอนที่แล้วตอนที่ 2 กะเท็นเคียวคตสึ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 นี่คือน้องชายโกโจแน่หรอ?

ตอนที่ 3 นักเรียนใหม่สองคน


  ต่อมา มาซามิจิ ยากะก็พูดอบรมให้แก่โอคตสึ ยูตะฟังอย่างเข้มงวด

  ตอนที่เขาพบกับอิตาโดริ ยูจิ เขาใช้ตุ๊กตาอาคมของเขาในการทดสอบเพื่อให้ยูจิได้ตระหนักถึงความตั้งใจของตัวเองในการเป็นผู้ใช้คุณไสย

  แต่เคล็ดลับนี้ใช้ไม่ได้ผลกับโอคตสึ ยูตะ

  เพราะข้างหลังเขามีคำสาประดับพิเศษที่ไม่สามารถควบคุมได้

  นอกจากนี้โกโจ ซาโตรุก็ไม่อยู่ด้วย

  ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดแล้วคำสาประดับพิเศษหลุดออกมาอาละวาด

  โดยปราศจากซาโตรุ เขาคนเดียวไม่แข็งแกร่งพอที่จะหยุดคำสาปนั้นได้

  หลังจากที่โกโจ คาเอเดะและโอคตสึ ยูตะเดินออกจากห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ เหล่าบุคคลากรของโรงเรียนก็พาพวกเขาไปที่หอพักที่เตรียมไว้

  เมื่อตกกลางคืน โกโจ คาเอเดะใช้ฮาคิสังเกตุเพื่อสำรวจบริเวณโดยรอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆเขา

  จากนั้นเขาก็เรียกดาบฟันวิญญาณ กะเท็นเคียวคตสึออกมาทันที

  "กะเท็นเคียวคตสึ.."

  ในไม่ช้า ดาบฟันวิญญาณสุดเท่สองเล่มก็โผล่ออกมาทันที เล่มนึงยาวและเล่มนึงสั้น ปรากฏขึ้นบนมือของโกโจ คาเอเดะ

  หลังจากที่ดาบฟันวิญญาณปรากฏออกมา โกโจ คาเอเดะก็พบว่ามีพลังทางจิตวิญญาณปรากฏอยู่ในร่างกายของเขา

  และพลังวิญญาณที่เขามีก็แข็งแกร่งมากจริงๆ

  นี่ทำให้โกโจ คาเอเดะแสดงสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน

  “เป็นไปได้ไหมที่คำสาปสวรรค์ได้เปลี่ยนพลังคุณไสยของฉันทั้งหมดให้เป็นพลังทางจิตวิญญาณ?”

  แต่ก่อนตอนที่เขารู้เรื่องคำสาปสวรรค์ของตัวเอง เขาก็รู้สึกหดหู่มากๆ

  เพราะเอาเข้าจริงๆ คำสาปสวรรค์ไม่ได้ทำให้คนที่มีมันกลายเป็นคนธรรมดาไปโดยสิ้นเชิง

  เช่นเดียวกับฟุชิงุโระ โทจิและเซนอิง มากิ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีพลังคุณไสยและก็ถูกเรียกว่าคนธรรมดา

  แต่สมรรถภาพทางกายของพวกเขากลับไม่ธรรมดาเลย

  ในทางกลับกัน โกโจ คาเอเดะนั้นเป็นคนธรรมดาทั้งภายในและภายนอก ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีหน้าตาเหมือนโกโจ ซาโตรุทุกประการ ทุกคนจะสงสัยว่าเขาถูกรับเลี้ยงจากภายนอกหรือไม่

  "ด้วยแรงกดดันทางจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ดูเหมือนว่าอีกไม่นานฉันก็จะสามารถใช้บังไคของกะเท็นเคียวคตสึได้!"

  แม้ว่าคาเอเดะจะรู้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับกะเท็นเคียวคตสึและเขาก็สามารถเรียกรูปแบบที่แท้จริงของดาบนี้ได้โดยตรง แต่บังไคไม่ใช่สิ่งที่สามารถใช้ได้แบบสบายๆเพียงแค่เพราะมีพลังทางจิตวิญญาณมากพอและรู้ชื่อจริงของมันเท่านั้น

  เขายังต้องสื่อสารกับวิญญาณภายในดาบและพิชิตมัน

  “ด้วยดาบนี้ ชั้นน่าจะอยู่ในระดับ1อย่างเป็นทางการแล้วใช่ไหม?”

  หลังจากสัมผัสได้ถึงกระแสพลังวิญญาณอย่างระมัดระวัง โกโจ คาเอเดะก็พึมพำและมองไปที่แผงระบบ

  ตามที่คาดไว้ ระดับได้รับการยกระดับจากเสมือนระดับ1 ไปเป็นระดับ1

  หากใช้บังไคได้ คงได้เป็นระดับพิเศษ

  อย่างไรก็ตาม บังไคของกะเท็นเคียวคตสึนั้นจะดึงคนรอบๆเข้าสู่เกมของเขาโดยไม่คำนึงถึงมิตรหรือศัตรู ทำให้จะมีความเสี่ยงหากเขาใช้มัน

  ดังนั้นคาเอเดะจึงตั้งใจว่าจะไม่ใช้บังไคของดาบเล่มนี้ถ้าหากไม่จวนตัวจริงๆ

  เขาจะไม่ต่อสู้จนตัวตายอยู่แล้ว

  นอกจากนี้เขามีระบบเช็คอินด้วย

  ถ้าสามารถเช็คอินเพื่อแข็งแกร่งได้แล้วจะเหนื่อยฝึกไปทำไม?

  จะดีกว่าไหมถ้าเขานอนเล่นและเช็คอินเรื่อยๆเพื่อรอรับรางวัล?

  หลังจากสัมผัสถึงพลังทางจิตวิญญาณแล้ว โกโจ คาเอเดะก็นำดาบฟันวิญญาณกลับเข้าสู่ระบบ พลังทางจิตวิญญาณก็หายไปพร้อมกับดาบฟันวิญญาณ

  มันทำให้โกโจ คาเอเดะดูเหมือนคนธรรมดาอีกครั้ง

  จากนั้นก็ผ่านพ้นคืนนี้ไปทั้งอย่างนี้ แล้วก็เข้าสู่วันต่อมา

  เซนอิง มากิ อินุมากิ โทเกะและแพนด้า ทำภารกิจร่วมกันสำเร็จ  

  พวกเขากำลังพูดคุยกันขณะเดินไปที่ห้องเรียน

  “ได้ข่าวรึยัง มีนักเรียนใหม่ย้ายมา2คน เห็นเขาบอกว่าหนึ่งในนั้นจับเพื่อนร่วมห้องยัดตู้ล็อคเกอร์เลยนะ!”

  แพนด้าที่ช่างพูดมากที่สุด แทบไม่เคยหยุดพูดตลอดทาง

  “ทูน่ามาโย”

  ตรงกันข้ามกับแพนด้า อินุมากิ โทเกะพูดน้อยมาก

  และเพราะเขาเป็นผู้ใช้วาจาคำสาป ทุกคำที่เขาพูดจึงเป็นชื่อข้าวปั้นที่ปลอดภัยและไร้ซึ่งคำสาป

  “ฆ่าเลยเหรอ?”

  เซนอิง มากิพูดด้วยสีหน้าสงบ ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

  “ดูเหมือนว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส!”

  แพนด้าตอบ

  เซนอิง มากิขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดด้วยความรังเกียจ

  "ถ้ามันมาซ่ากับฉัน ฉันจะจับสั่งสอนซะ!"

  "ปลาตากแห้ง"

  เมนูส่วนใหญ่ที่อินุมากิ โทเกะพูดถึงนั้นมีความหมายแบบสุ่ม

  มีเพียงสามเมนูเท่านั้นที่มีความหมายค่อนข้างชัดเจน

  นั่นคือ "แซลมอน" ซึ่งหมายถึงเห็นด้วยหรือยืนยัน "ปลาตากแห้ง" ซึ่งหมายถึงปฏิเสธและไม่เห็นด้วย

  เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เซนอิง มากิพูดเกี่ยวกับการสอนบทเรียนให้กับเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่

  “แต่นักเรียนใหม่อีกคนกลับตรงกันข้ามเลย ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพลังคุณไสยเลย ดูเหมือนว่าเขาจะมาจากตระกูลใหญ่…”

  แพนด้าพูด แต่น้ำเสียงของเขาเบาลงมาก และมองไปที่เซนอิง มากิ เพื่อดูว่าเธอมีปฏิกริยาอะไรหรือไม่

  เซนอิง มากิไม่มีท่าทีโกรธ แต่แสดงท่าทีครุ่นคิดและพึมพำ

  "มีคนธรรมดาเพียงไม่กี่คนในสามตระกูลใหญ่ที่ไร้ซึ่งพลังคุณไสยเลย คนเดียวที่ฉันรู้ในความทรงจำของฉันคือไอ้จอมล้างผลาญจากตระกูลโกโจ โกโจคาเอเดะผู้โด่งดัง”

  เซนอิง มากิ ได้พบกับโกโจ คาเอเดะ เช่นกันในตอนที่เธอยังเด็ก เพราะตอนนั้นเธอได้ยินมาว่าตระกูลโกโจก็มีคนแบบเดียวกับเธอเหมือนกัน ตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนเธอได้มีเพื่อนหัวอกเดียวกัน และอยากจะได้เจอกันสักครั้ง

  ใครจะคิดว่าโลกทัศน์ของเธอจะพังทลายลงหลังจากที่เธอได้ฟังคำพูดของโกโจ คาเอเดะที่งานเลี้ยงของครอบครัวเซนอิง

  เธอไม่เคยเห็นใครในตระกูลใหญ่ที่ไร้ความสามารถ แต่ก็ยังทำตัวไรยางอายแบบนั้นมาก่อนเลย

  คำพูดของโกโจ คาเอเดะยังดังอยู่ในหูของเซนอิง มากิโดยที่เธอไม่เคยลืมได้เลย

  “แม้ว่าฉันจะไร้ค่า แต่ฉันมีพี่ชายที่แข็งแกร่ง ถ้ามีพี่ที่แข็งแกร่งแล้วไม่เบ่งสักหน่อยก็เสียชาติเกิดหนิจริงไหม?”

  “และแม้ฉันจะใช้พลังไม่ได้ แต่ฉันหล่อและรวยมาก”

  คำพูดที่ดูมั่นใจแบบนั้นจากปากคนไม่เอาไหน มันทำให้ดูเหมือนว่าการไร้พลังไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือเรื่องไม่ดีอะไร แต่มันคือความภาคภูมิใจยังไงยังงั้น

  หลังจากนึกถึงคำพูดและฉากเหล่านั้นในตอนนั้นแล้ว เซนอิง มากิก็ส่ายหัวอย่างเด็ดขาดและพูดว่า

  "ไม่ใช่เขาหรอก เจ้าจอมล้างผลาญของตระกูลโกโจจะไม่มีวันมาที่โรงเรียนเพื่อทรมานตัวเองหรอก มันคงจะเป็นลูกหลานของตระกูลอื่นนั่นแหละ!"

  "ฮ่าฮ่า เราจะได้รู้เร็วๆนี้!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด