ตอนที่แล้วChapter 47 : ฉันอยากให้หมอนั่นขอโทษฉัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 49 : เข้าๆออกๆ – ทำให้นายหัวร้อนจนตาย

Chapter 48 : มาดูกันว่าหมอนั่นจะอยู่ในถ้ำได้นานเท่าไหร่


ภายในถ้ำ หลินเซวียนกำลังเผชิญหน้ากับอสูรลิงยักษ์ขนาดมหึมาด้วยสีหน้างุนงง

“เมื่อกี้มีใครเรียกรึเปล่านะ?”

“ช่างมันเถอะ สู้กับราชันย์แดนลับมากประสบการณ์สำคัญกว่า”

หลินเซวียนใช้สกิลตรวจสอบและพบว่าแม้ว่าราชันย์อสูรลิงยักษ์จะมีพลังป้องกันกายภาพสูงลิบแต่ค่าต้านทานไฟกลับต่ำเตี้ยเลี่ยดิน

เขาหยิบเอาตำราเพลิงผลาญออกมาและเริ่มมหกรรมบอลเพลิงทันที

บอลเพลิงของนักสู้ทั่วไปนั้นจะล้วนเป็นเกรดสีขาวกันทั้งนั้น มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะให้ความสนใจอัพเกรดสกิลอย่างบอลเพลิง

ยังไงก็ตามบอลเพลิงของหลินเซวียนเป็นถึงเกรดสีทอง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเลเวลเดียวกับเขาด้วย ตอนนี้มันเลเวลสูงถึงเลเวล9ขอบเขตที่5

บวกกับอุปกรณ์และรูนมากมายที่เพิ่มความเสียหายเวทย์มนตร์ธาตุไฟและลดอัตราการใช้มานา บอลเพลิงจำนวนมากปะทะลงบนร่างของราชันย์อสูรลิงยักษ์และเผาไหม้มันจนมันต้องกรีดร้องออกมา จิตวิญญาณในการต่อสู้ของมันลดลงอย่างมหาศาล

จนในที่สุดราชันย์อสูรลิงยักษ์ก็เข้าถึงตัวเขาและต่อยเข้าใส่หลินเซวียนแต่กลับถูกโล่ยักษ์ของเขารับเอาไว้ได้

ราชันย์อสูรลิงยักษ์แสดงสีหน้าตกตะลึง

มันเป็นถึงราชันย์แดนลับมากประสบการณ์เชียวนะ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือตัวมันสู้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วและเคยจัดการกับนักสู้ไปก็มาก

มันรู้จุดอ่อนของพวกตัวแทงค์ นักดาบ จอมเวทย์ นักธนูและหมอดี

ไม่ใช่ว่าพวกจอมเวทย์แม้จะมีพลังโจมตีมหาศาลแต่กลับด้อยสามารถในด้านในการเอาตัวรอดรึไง?

แล้วทำไมหลังจากที่มันพยายามแทบเป็นแทบตายกว่าจะเข้าถึงตัวอีกฝ่ายแต่การโจมตีของมันถึงถูกหยุดเอาไว้ได้โดยโล่อันโคร่งนั่นเสียล่ะ?

หลินเซวียนกระแอมออกมาเบาๆ “ฉันเป็นจอมเวทย์ดังนั้นการเอาโล่อันใหญ่ๆออกมาป้องกันตัวเองก็ไม่มีอะไรผิดนี่จริงไหม?”

ราชันย์อสูรลิงยักษ์คำรามออกมาด้วยความโมโหและทุบหน้าอกของตัวเองดังสนั่นราวกับเสียงกลองรบอย่างบ้าคลั่ง

มันรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกมนุษย์ผู้นี้ดูถูกอยู่อย่างไรอย่างนั้น

...

ด้านนอกถ้ำ

ลั่วหลี่สวีถอนหายใจยาวเหยียด พลังชีวิต พลังเวทย์และพลังงานของเขาฟื้นฟูกลับมาเต็มพิกัดแล้ว

สมาชิกทีมราชันย์ปิศาจอีกสามคนเองก็เช่นเดียวกัน

ได้เวลาที่พวกเขาต้องต่อสู้อีกรอบซักที

“แม้ว่าโล่วิญญาณจะแย่งไปตัวนึงก็ไม่เป็นไร ยังมีราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตัวอื่นรออยู่อีก ตามฉันมา...”

ก่อนที่เขาจะกล่าวจบเสียงแจ้งเตือนจากสถานีไร้ภัยก็ดังขึ้นอีกครั้ง

[ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ - ราชันย์อสูรลิงยักษ์ถูกสังหารลงแล้ว!]

จากนั้นลั่วหลี่สวีก็เห็นเงาร่างในชุดเกราะสีดำเดินออกมาจากถ้ำและเดินเข้าไปในถ้ำของราชันย์ถ้ำที่4โดยที่ไร้รอยขีดข่วนเหมือนเดิม!

“หยุดเดียวนี้!” ลั่วหลี่สวีทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงตะโกนออกมาดังสนั่น

หลินเซวียนถามด้วยความสงสัย “มีอะไร?”

ลั่วหลี่สวีกล่าว “ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตัวสุดท้ายนั้นเป็นของพวกเรา! อย่าได้เข้าไปเชียว!”

หลินเซวียนตอบ “จะเข้า”

กล่าวจบเขาก็หมนุตัวและเดินเข้าไปในถ้ำของราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ตัวที่4

เนื่องจากลั่วหลี่สวีนั่งอยู่ห่างจากตัวถ้ำจึงทำได้เพียงแค่มองอีกฝ่ายเดินเข้าไป

ลั่วหลี่สวี “ไอ้เวร!”

ตอนนี้เขาหัวร้อนมากจริงๆ

เขาอุส่าห์เป็นฝ่ายออกปากบอกว่าแล้วว่าราชันย์แดนลับมากประสบการณ์พวกนั้นเป็นของทีมราชันย์ปิศาจของพวกเขาแต่โล่วิญญาณกลับไม่ไว้หน้า

ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังปฏิเสธเขาต่อหน้านักสู้ขอบเขตที่5คนอื่นๆที่กำลังดูอยู่อีกด้วย!

ลั่วหลี่สวีปฏิญาณเลยว่าจะมอบบทเรียนให้กับเจ้านั่น!

เมื่อเห็นว่าโล่วิญญาณนั้นทรงพลังเพียงใด เหวินเซี่ยงจึงเกิดรู้สึกชื่นชมและกังวลในเวลาเดียวกัน

“คนจากทีมราชันย์ปิศาจพวกนั้นทรงพลังมาก แม้ว่าโล่วิญญาณะจทรงพลังแต่เขาน่าจะสู้กับคนสี่คนไม่ไหว”

“เราควรจะช่วยดีไหม?”

เหวินเซี่ยงขบคิดด้วยความหนักใจ

ลั่วหลี่สวี “ปิดล้อมถ้ำเอาไว้! ทันทีที่หมอนั่นโผล่หัวออกมาก็โจมตีได้เลย!”

“หมอนั่นท้าทายราชันย์แดนลับมากประสบการณ์มา3ตัวแล้วยังไงก็ไม่มีทางอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พวกเรามีสี่คนแถมยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม จัดการกับหมอนั่นไม่ใช่เรื่องยากหรอก!”

ลั่วหลี่สวีกัดฟัน “ก็แค่พวกขี้ขลาดที่มุดหัวหลบอยู่แต่ในเปลือก วันนี้ฉันจะฉีกหน้ากากตัวตนที่แท้จริงของแกออกมาเอง”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ราชันย์อสูรงูเหลือมยาวกว่าสิบเมตรล้มลงสิ้นชีพและระเบิดกลายเป็นละอองแสงเกลื่อนฟ้า

[ท่านได้รับ100,000เหรียญทั่วไปและแต้มค่าประสบการณ์500,000แต้ม]

[ท่านได้รับหนังสือสกิลเกรดล้ำค่าสีม่วง [ร่างอสูร] ]

[ท่านได้รับพิมพ์เขียวเกรดหายากสีฟ้า [แหวนศิลาเพลิง] ]

[ท่านได้รับวัตถุดิบเลื่อนขั้นเกรดไร้ที่ติสีทอง [เขี้ยวสงครามของราชันย์อสูรงูเหลือม] ]

...

[ร่างอสูร]

[ระดับ : เลเวล9ขอบเขตที่5]

[คุณภาพ : ล้ำค่าสีม่วง]

[ข้อจำกัดในการเรียนรู้ : ความอดทน 130 , พลังจิต 69]

[ความสามารถ : ต้านทานไฟ+30% , ต้านทานเลือดออก+25%]

[ความสามารถที่2 : เมื่อได้รับบาดเจ็บจะเข้าสู่สภาวะ ‘แปลงอสูร’ ทำให้ความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น15%]

...

ดวงตาของหลินเซวียนเปล่งประกายวิบวับ เขาได้หนังสือสกิลเกรดสีม่วงมาซะด้วย

ตอนนี้หากเขาได้รับบาดเจ็บเขาก็จะสร้างความเสียหายได้แรงขึ้นอีก แน่นอนว่าความเสียหายจากการสะท้อนเองก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน

เช่นนี้แล้วความสามารถในการโจมตีของเขาก็ทรงพลังขึ้นอีกระดับ

“สกิลนี้เป็นเกรดสีม่วง ในมิติส่วนตัวมีหนังสือสกิลชื่อเดียวกันที่เป็นเกรดสีขาวอยู่เพียบ น่าจะยกระดบัไปเป็นเกรดสีทองได้ทันทีเลย”

หลินเซวียนค้นดูภายในมิติส่วนตัวและพบกับหนังสือสกิลชื่อนี้เกรดสีขาว9เล่มดังคาด

หนังสือสกิลเกรดสีขาว8เล่มสามารถรวมกันเป็นหนังสือสกิลเกรดสีม่วงได้หนึ่งเล่ม

เช่นนี้แล้วหลังจากใช้เหรียญทั่วไปจำนวนมากสกิลนี้จึงยกระดับเป็นเกรดสีทองได้สำเร็จ

“สมบูรณ์แบบ! แถมตอนนี้ยังมีวัตถุดิบเลื่อนขั้นระดับสูงพอแล้วด้วย แถมยังได้สกิลเกรดสีทองมาอีกสองสกิลทั้ง ‘หนังแข็งของอสูรยักษ์’ และ ‘ร่างอสูร’ ถ้างั้นก็ได้เวลาจบเรื่องนี้ซักที!”

หลินเซวียนเดินออกจากถ้ำด้วยสีหน้ามีความสุข

จากนั้นเขาก็พบกับชายหนุ่มร่างใหญ่สี่คนนั่งยองๆอยู่ข้างๆ

เมื่อคนทั้งสี่เห็นโล่วิญญาณพวกเขาก็รีบเข้ามาล้อมเขาเอาไว้ทันที

“โล่วิญญาณ! นายแหกกฏ! ฉันจะให้โอกาสกับนาย ส่งวัตถุดิบเลื่อนขั้นที่นายได้มามาซะ ไม่อย่างนั้นวันนี้นายอาจจะไม่ได้ออกจากภูเขาอสูรชั้นต่ำก็ได้!” ลั่วหลี่สวีหัวหน้าทีมราชันย์ปิศาจกล่าวด้วยใบหน้ามืดมน

ริมฝีปากของจางเผิงที่อยู่ไม่ไกลออกไปนักแสยะยิ้มราวกับเขาเตรียมจะดูโชว์

นักสู้คนอื่นๆเองก็มีสีหน้าแตกต่างกันไป

เหวินเซี่ยงกำหมัดแน่นและเตรียมจะพุ่งออกไปช่วยทุกเวลา

หลินเซวียนยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและจากนั้น...ก็เดินกลับเข้าไปด้านในถ้ำ

ลั่วหลี่สวี “...แก!”

เขาไม่คิดเลยว่าโล่วิญญาณจะไร้ยางอายแบบนี้ เขากลับใช้กฏเกณฑ์พิเศษของแดนลับในการรับมือกับสถานการณ์ตอนนี้

เมื่อทีมใดทีมหนึ่งกำลังท้าทายราชันย์แดนลับ ทีมอื่นจะไม่สามารถเข้าไปด้านในได้และทำได้เพียงรออยู่ด้านนอกเท่านั้น

ในอดีตก็เคยมีบางคนใช้วิธีนี้เพื่อหลบเลี่ยงการไล่ล่าอยู่บ้าง หากแต่ราชันย์แดนลับนั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกคนที่ไล่ล่าพวกเขาแน่นอน

การจะอยู่ในถ้ำตลอดไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

นั่นก็เพราะว่าทุกครั้งที่ราชันย์ตายจนถึงเกิดใหม่นั้นกินเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น  หลังจากสังหารราชันย์แดนรับลงนักสู้คงไม่อาจฟื้นฟูกลับสู่สภาวะสมบูรณ์ได้

ยิ่งรั้งอยู่ในถ้ำนานเท่าไหร่ก็ยิ่งอ่อนแอลงมากเท่านั้น

ราชันย์แดนลับจะเกิดใหม่อย่างรวดเร็วและไม่ให้นักสู้มีโอกาสได้พักหายใจ

ท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องเลือกว่าจะหนีออกจากถ้ำหรือตกตายลงภายใต้คมเขี้ยวของราชันย์แดนลับ

ไม่ว่าทางไหนสุดท้ายก็ตายอยู่ดี

ลั่วหลี่สวีเลิกคิ้ว “รอ! ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าหมอนั่นจะอยู่ในถ้ำได้นานแค่ไหน!”

“กัปตันพูดถูกแล้ว ต่อให้หมอนั่นลงค่าสถานะทั้งหมดไปกับการป้องกันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในถ้ำของราชันย์แดนลับไปได้ตลอด!”

“อย่าได้ลืมด้วยล่ะว่าหมอนั่นโซโล่ราชันย์แดนลับมากประสบการณ์มาแล้ว3ตัว สภาพของมันยังไงก็ไม่ได้ดีนักหรอก”

“พวกเราจะรออยู่ด้านนอกนี่แหละ เจ้าหมอนั่นที่อยู่ด้านในไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้พักด้วยซ้ำ! ยังไงก็ต้องออกมาแน่นอน!”

สมาชิกทั้งสามคนที่เหลือของทีมราชันย์ปิศาจพยักหน้าเห็นด้วย

ได้ยินเช่นนี้เหวินเซี่ยงก็เผยสีหน้าประหลาดๆออกมา

เขารู้ว่าคนพวกนี้น่าจะไม่รู้ว่าโล่วิญญาณคือคนที่จัดการกับราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ของทุ่งเพลิงผลาญ9ตัวเพียงลำพัง

ยิ่งไปกว่านั้นข่าวนั้นที่เผยแพร่ออกไปยังไม่ได้มีรายละเอียดสำคัญๆถูกเปิดเผยออกไปแต่อย่างใด

เมื่อครั้งตอนที่โล่วิญญาณสังหารราชันย์แดนลับมากประสบการณ์ทั้ง9ตัวเพียงลำพังเขาไม่แม้แต่จะพักเหนื่อยด้วยซ้ำ! หลังจากสังหารตัวนึงเขาก็จะมุ่งตรงไปสังหารอีกตัวต่อทันที!

ถ้าการสังหารราชันย์แดนลับมากประสบการณ์เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เช่นนี้ไม่ใช่ว่าการรับมือกับราชันย์แดนลับทั่วๆไปจะง่ายดายไม่ต่างอะไรจากเอาไข่ไปกระทบหินรึไง?

คิดได้เช่นนี้เหวินเซี่ยงก็เริ่มผ่อนคลาย สายตาของเขาที่มองไปยังลั่วหลี่สวีและคนอื่นๆอีกสามคนนั้นเจือแววเยาะเย้ยถากถาง

รอหรอ?

เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าพวกนี้จะรอได้นานแค่ไหน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด