ตอนที่แล้วChapter 12 : เดิมทีไม่ได้อยากจะลงมือแต่โชคไม่ดีที่มีคนชอบเล่นลูกไม้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 14 : ฝึกฝนหนึ่งเดือน - นักสู้เลเวล9ขอบเขตที่1

Chapter 13 : จ้าวหย่ง จ้าวหย่งแกอยู่ไหน...?


ซุนจื่อเกาหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายทันที่เมื่อเห็นจ้าวหย่งและคนอื่นๆกองกันอยู่บนพื้น

“จ้าวหย่งไม่คิดเลยว่าวันนี้ของแกจะมาถึง! พี่น้องตามฉันมา! กระทืบมัน!”

ภายใต้การ ‘จัดแจง’ ของหลินเซวียน กิ้งก่ากลืนทองก็ได้ออกไปจากที่นี่อย่างเงียบๆ

นักกู้ซากเขตCวิ่งเข้าไปทั้งต่อยและเตะเพื่อระบายความโกรธในใจ

“เอาของทั้งหมดที่แกขโมยไปออกมา!” ซุนจื่อเกาเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด

จ้าวหย่งกล่าวอย่างหน้าด้าน “เหล่าซุนไม่สิพี่ซุน! ท่านปู่ซุน! พวกเราแบ่งกันคนละครึ่งไม่ได้หรอ? ถ้าพวกเราทำภารกิจไม่สำเร็จคงถูกลงโทษแน่”

ซุนจื่อเกาแค่นเสียง “มาถึงตอนนี้แกถึงจะรู้รึไงว่าทำแบบนี้จะทำให้ถูกลงโทษ แกควรจะคิดได้ตั้งแต่ที่แกชิงของไปจากพวกเราแล้ว!”

จ้าวหย่งอึกอักพูดไม่ออก

“ส่งมาซะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะกระทืบแกไปเรื่อยๆจนกว่าแกจะกลายเป็นมนุษย์เลือดแล้วค่อยโยนแกออกไปเป็นอาหารให้พวกอสูร!” ซุนจื่อเกาเอ่ยอย่างหมดความอดทน

เขาไม่ได้โง่พอจะสังหารจ้าวหย่งกับคนอื่นๆด้วยมือตัวเองเพราะมันจะถูกปลอกคอของนักกู้ซากบันทึกเอาไว้

แม้โดยฉากหน้าแล้วการสู้กันจะเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับนักกู้ซากแต่ในความมืดนั้นมีการลอบโจมตีและขัดแข้งขัดขากันอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีนักกู้ซากที่ถูกนักกู้ซากคนอื่นทำร้ายและทิ้งรอยเลือดของเจ้าตัวเอาไว้เพื่อให้พวกอสูรปิศาจภายในแดนลับมาปิดฉากอีกด้วย

จ้าวหย่งและคนอื่นๆกัดฟันและทำได้เพียงส่งมอบไอเทมทั้งหมดที่เก็บเอาไว้ในพื้นที่เก็บของออกไป

ดวงตาของซุนจื่อเกาเปล่งประกายระยิบระยับ “พวกเรารวยแล้ว! ทุกๆเอาของยัดเข้าไปในพื้นที่เก็บของเก็บของให้หมด!”

ทุกๆคนฉีกยิ้มกว้างและโกยไอเทมทั้งหมดใส่เอาไว้ในพื้นที่เก็บของของตัวเอง

หลังจากจัดแจงจนแล้วเสร็จพวกเขายังนำผลกระเพาะหินบางส่วนใส่กระเป๋ากางเกงติดไปด้วย

หลินเซวียนลองคำนวนดูแล้ว หนนี้พวกเขาได้ไอเทมสำหรับเพิ่มค่าสถานะมามากกว่า700ชิ้น!

ซุนจื่อเกายิ้มและเอ่ยออกมา “ฉันมีคำถามอีกข้อ พวกนายอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง?”

จ้าวหย่งที่รู้สึกขมขื่นทำอะไรไม่ได้ได้แต่ต้องเอ่ยออกมา

หากแต่พร้อมกับคำกล่าวนั้นเขาก็ยังอดแค่นเสียงไม่ได้ “พวกนายมาช้าไปนิดเดียว ถ้าพวกนายมาเร็วกว่านี้อีกนิดก็คงถูกเจ้ากิ้งก่ากลืนทองนั่นกระทืบไปแล้ว!”

“กิ้งก่ากลืนทอง?” ซุนจื่อเกาและคนอื่นๆมองหน้ากันด้วยความสงสัย

หลินเซวียนแค่นเสียง “ตอแหล! กิ้งก่ากลืนทองอย่างมากก็มีเลเวลแค่เลเวล6ขอบเขต0เท่านั้น พวกนายต้องถูกนักสู้คนอื่นหรือคนจากองค์กรอื่นโจมตีมาแน่ๆ พวกนายแค่อับอายเลยไม่กล้าพูดออกมาดังนั้นเลยโยนความผิดให้กับกิ้งก่ากลืนทองสินะ หน้าไม่อาย!”

จ้าวหย่งแทบจะกระอักเลือดออกมา “แก แก แก...!”

หลินเซวียนเตะไปที่ร่างของเขาทีหนึ่งก่อนจะหมุนกายจากไป “ฮึ่ม..พวกขี้โกหกไม่คู่ควรจะชี้หน้าฉัน!”

ซุนจื่อเกามีความสุขจนยิ้มไม่หุบ “หลินเซวียนทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณนายที่บังเอิญได้ยินมาว่าจ้าวหย่งกับคนอื่นๆมาที่นี่ พวกเรามาทันเก็บเกี่ยวผลประโยชน์พอดี”

คนอื่นๆพยักหน้ารัวๆ หนนี้หลินเซวียนควรได้ความดีความชอบทั้งหมดไปจริงๆ

หลินเซวียนยิ้มแยะกระพริบตาปริบๆ “ทั้งหมดต้องขอบคุณกิ้งก่ากลืนทองนั่นพวกเราเลยจัดการกับเจ้าพวกจ้าวหย่งได้ แถมยังไม่ต้องลงมือเลยด้วย”

ซุนจื่อเกาหัวเราะออกมาอย่างหนักหน่วงจนน้ำหูน้ำตาไหล “ฉันขำจะตายแล้วเนี่ย จ้าวหย่งกับคนอื่นๆบอกว่ากิ้งก่ากลืนทองตัวนั้นทรงพลังจนน่าขัน กระทั่งกล่าวด้วยว่าเจ้านั่นมีเลเวล9ขอบเขต0และมีค่าความอดทนถึง30แต้มกับค่าพละกำลังอีก25แต้ม ใครไม่รู้คงคิดว่าเป็นราชันย์แดนลับแน่ๆ พวกนั้นนี่โกหกไม่คิดจริงๆ”

“ช่างมันเถอะ รีบกลับไปส่งภารกิจดีกว่า! ฉันรอไม่ไหวแล้วเนี่ย!”

นักกู้ซากคนอื่นๆเองก็ส่งเสียงเชียร์ด้วยแววตาร้อนแรง

ภายในหอประชุมองค์กรเจอร์มินอล

ผู้ดูแลทั้ง4เขตได้มายือรออยู่ที่ด้านหน้าประตูแสงแล้ว

เหนือขึ้นไปคือชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง เขาเห็นได้ชัดว่ายืนอยู่ที่ขอบของหอประชุมแต่กลับดูเหมือนยืนอยู่ใจกลาง ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของเขาเลยแม้แต่คนเดียว

บนหน้าอกของเขามีเหรียญทองที่มีตัวเลขขนาดใหญ่สลักเลข ‘สอง’ เอาไว้อีกด้วย

เขาคือผู้จัดการหมายเลข2ขององค์กรเจอร์มินอล

“เกือบถึงเวลาแล้ว” ผู้จัดการหมายเลข2จู่ๆก็เอ่ยออกมา

ผู้ดูแลเขตBหยางเหว่ยแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ

เขาวางแผนให้นักกู้ซากของตัวเองเอาไว้ว่า ช่วงสองวันแรกอย่าไปมีปัญหากับใคร นี่จะทำให้ความระมัดระวังของนักกู้ซากจากอีกสามเขตลดลง ในวันที่สามค่อยเริ่มเล็งเป้าไปที่คนอื่นๆ ด้วยวิธีการนี้มันจะเร็วกว่าพวกเขาออกไปเสาะหาดอกบำรุงวิญญาณและผลกระเพาะหินด้วยตนเองมากนัก

หลายชั่วโมงก่อนจ้าวหย่งถึงขั้นส่งข้อความมาผ่านปลอกคอนักกู้ซาก เขากล่าวว่าแผนการเป็นไปอย่างราบลื่น พวกเขาได้ไอเทมมาอย่างน้อย600ชิ้น ในทางกลับกันเขตAกับDนั้นมีแค่500เท่านั้นส่วนเขตCนั้นกระทั่งน้อยยิ่งกว่า พวกเขาขโมยของจากอีกฝ่ายมามากมายและน่าจะมีไอเทมเหลืออยู่ไม่ถึง100ด้วยซ้ำ

เมื่อคิดว่าลู่หลัวคนนั้นจะถูกลงโทษและนักกู้ซากทั้งหมดของเขตCรวมไปถึงหลินเซวียนผู้น่าตายนั่นจะถูกลดระดับ หยางเว่ยก็พลันรู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“สาวน้อยคราวที่แล้วเล่นฉันเอาไว้ซะแสบ คอยดูหลังจากนี้เถอะ!” หยางเหว่ยแค่นเสียงในใจและกวาดสายตามองไปที่ลู่หลัว

ลู่หลัวจ้องกลับด้วยความสงสัยและชี้มาที่เขาจากที่ไกลๆ “หัวเราะอะไรไม่ทราบ? อยากโดนเตะหรือไง?”

หยางเว่ยยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “แค่นึกถึงเรื่องดีๆขึ้นมาได้ ตอนภรรยาคลอดลูกน่ะ”

ในเวลานี้เองนักกู้ซากคนแรกก็ได้เดินออกมาจากประตูแสง จากนั้นนักกู้ซากจำนวนมากและมากขึ้นเรื่อยๆก็ทยอยกันกลับมายังองค์กร

หยางเว่ยรอคอยอย่างคาดหวังแต่จ้าวหย่งกลับยังไม่ปรากฏตัว

“จ้าวหย่ง จ้าวหย่งแกอยู่ไหน?” เขาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

ไม่นานนักจ้าวหย่งก็ปรากฏกาย

ฝีเท้าของเขาหนักหน่วงและไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตาหยางเว่ย

ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว นักกู้ซากทุกคนจากเขตBต่างไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า พวกเขาทั้งหมดต่างพากันก้มหน้างุด

หัวใจของหยางเว่ยเต้นไม่เป็นจังหวะ อย่าบอกนะว่า..

เขากล่าวออกมาเสียงเบา “จ้าวหย่งเกิดอะไรขึ้น?”

จ้าวหย่งเงยหน้าขึ้น เมื่อคิดว่าตนต้องแบกรับความโกรธของหยางเว่ยเขาก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดออกมา

ยังไงก็ตามนักกู้ซากจากเขตBนั้นมีมากกว่า50คนและมีเพียง7คนเท่านั้นที่ถูกปล้น

จ้าวหย่งรู้สึกว่าคนอื่นๆก็น่าจะหาไอเทมมาได้มากพอ

หลังจากขบคิดอย่างดีแล้วเขาก็ตัดสินใจไม่กล่าวอะไรออกไป

“ไม่ต้องห่วงพี่หยาง ทุกอย่างเรียบร้อยดี” จ้าวหย่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

หยางเว่ยรู้สึกระหลาดใจแต่ก็ผงกหัวรับคำ เขายังคงเชื่อใจจ้าวหย่งอยู่

ไม่นานนักนักกู้ซากคนอื่นๆของเขตBก็กลับมาเช่นกัน สีหน้าของพวกเขาแต่ละคนต่างก็ดูแปลกประหลาดเล็กน้อย

จ้าวหย่งและคนอื่นๆมองกันและก่อนจะพยักหน้ารัวๆ ทุกคำกล่าวเข้าใจโดยไม่ต้องกล่าว เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้พวกเขาก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมา

ไม่นานนักนักกู้ซากทั้งหมดของทั้ง4เขตรวมไปถึงหลินเซวียนก็ได้กลับมายังองค์กร

“ทุกๆมาครบแล้ว ได้เวลาตรวจสอบไอเทมซักที” ภายใต้คำสั่งของผู้จัดการหมายเลข2 นักกู้ซากทั้งหมดนำไอเทมออกมาจากพื้นที่เก็บของในทันที

ภาพจำนวนมากปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอขนาดใหญ่และข้อมูลของทั้งสี่เขตต่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตัวเลขของเขตAและDเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเพียงพริบตาก็ผ่านเส้นตาย300ไปได้ นี่หมายความว่าพวกเขาทำภารกิจเบื้องต้นเสร็จสิ้นแล้วและจะไม่ถูกลงโทษ

นักกู้ซากจากทั้งสองเขตถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ความเร็วในการเพิ่มขึ้นของตัวเลขของเขตBและCค่อนข้างช้า โดยเฉพาะเมื่อหยางเหว่ยเห็นจ้าวหย่งและนักกู้ซากอีก6คนข้างกายเขาหยิบดอกบำรุงวิญญาณเพียงไม่กี่ดอกออกมาเขาก็รู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก

“เกิดห่าอะไรขึ้นกับพวกแก?” หยางเว่ยกัดฟันแน่นและทุกๆคนกล่าวที่เขาเอ่ยล้วนเอ่ยรอดไรฟันออกมาทั้งสิ้น “ไม่ใช่ว่าแกบอกว่าขโมยมาได้มากกว่า600รึไง?”

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด