ตอนที่แล้วตอนที่ 7 อัพเกรดสกิลแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 ภารกิจเสริม

ตอนที่ 8 เด็กหนุ่ม 100 คน


สั่งเจ้าพ่อไปเป็นไอดอล

ตอนที่ 8 เด็กหนุ่ม 100 คน

ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่เหล่าหนุ่มๆ ทั้ง 100 คนได้ถ่ายทำตอนแรกของ "ไรส์ซิ่งสตาร์" รถตู้สีดำพร้อมหน้าต่างติดฟิล์มมืดขับผ่านถนนรถแล่นของสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ เพื่อขนส่งเด็กฝึกอันล้ำค่าของพวกเขา บริษัทขนาดเล็กก็จะมีรถยนต์ขนาดเล็ก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีผู้จัดการและผู้ฝึกสอนของบริษัท

ส่วนจูนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขึ้นรถบัสเนื่องจากเขาทั้งยากจนและไม่มีเงินจ่ายค่าแท็กซี่ เขาอยู่ในชุดที่พร้อมแสดงบนเวทีอยู่แล้ว เป็นเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบๆ สวมทับด้วยแจ็กเก็ตหนัง กางเกงยีนส์ขาดๆ และรองเท้ายาง ชุดสีดำของเขากลายเป็นผืนผ้าใบว่างเปล่าเมื่อมารวมกับหน้ากากแมวสีชมพูของเขา

ผู้คนกระซิบกระซาบกันขณะที่พวกเขามองมาที่จูน

เขาเป็นพวกนักคอสเพลย์เหรอ? หรือจะเป็นพวกวณิพก? หรือไม่บางทีเขาอาจเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงสำหรับเด็กใช่ไหม?

เด็กๆ ทุกคนต่างมองดูเขาด้วยความประหลาดใจ แถมยังมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งเดินเข้ามาดึงแขนเสื้อของเขาอีกด้วย

“หนูต้องการไรหือ?” เขาถาม

ดวงตาของเด็กหญิงน้อย เป็นประกายเมื่อคุณแมวสีชมพูพูดกับเธอ เธอเลยมากอดต้นขาของเขาโดยไม่คิดจะปล่อยมือแล้ว เขาเห็นกล้องมือถือถูกเหวี่ยงออกถ่ายกันแชะๆ แล้วยิ่งพาคนมาส่องกันมากขึ้น เขาได้แต่ถอนหายใจและปล่อยให้เด็กหญิงกอดอยู่อย่างนั้น จูนแน่ใจว่าเธอจะต้องเหนื่อยแน่ถ้าเวลาผ่านไปสักพัก

ในทางกลับกัน เหล่าเด็กฝึกก็เริ่มเดินเข้าไปในสถานที่เปิดรายการ พวกเขาได้รับห้องรอแยกออกจากกัน เพื่อพิสูจน์ถึงความมั่งคั่งและอำนาจของ Azure แต่ละห้องรอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกระวนกระวายใจ เหล่าเด็กฝึกต่างก็ฝึกซ้อมระหว่างรอคิวเข้ารายการ

ขนาดที่นี่ การเล่นพรรคเล่นพวกก็ไม่สามารถซ่อนไว้ได้ เหล่าบริษัทใหญ่ๆ จะได้รับห้องที่ใหญ่กว่ามาก ในขณะที่บริษัทเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักแทบจะไม่มีพื้นที่ให้ฝึกซ้อมเลย

เหล่าเด็กฝึกอิสระก็ประกอบด้วยคนเพียงสี่คนในห้องแคบๆ คล้ายโถงทางเดิน พวกเขาทั้งสามคนกำลังจะร้องเพลงด้วยกัน ดังนั้นพวกเขาจึงฝึกซ้อมในพื้นที่เล็กๆ ได้ ส่วนจูนที่เพิ่งเข้ามาในห้องทำให้ทั้งสามหยุดชะงัก

พวกเขาต่างมุ่งความสนใจไปที่ผู้ชายที่สวมหน้ากากแมวสีชมพู พวกเขาต่างก็ประหลาดใจและสงสัยว่า Azure กำลังแกล้งอะไรพวกเขาอยู่หรือเปล่า

“เอ่อ สวัสดี?” จียง ผู้ชายตัวเล็กคิ้วหนาถาม เขาก็ดูดีแต่ไม่น่าจะถึงระดับไอดอล

จูนพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบและนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง

เด็กฝึกทั้งสามยังคงรู้สึกอึดอัดเวลาอยู่กับเขาทันที

“นายคือจูนใช่ไหม? เด็กฝึกอิสระอีกคนน่ะ?” ซิน ชายร่างผอมบางที่มีตาเล็กถาม

จูนพยักหน้าแต่ยังคงไม่พูดอะไร

ฮุนเดาะลิ้นของเขาอย่างหงุดหงิด เดิมเขาก็ไม่ชอบทัศนคติของพี่ชายคนนี้อยู่แล้ว “เอาล่ะ เราจะฝึกซ้อมกัน อย่าให้พี่เขามากวนเราเลย” เขากล่าว

“เจ้าตัวประหลาดเอ๊ย” เขาพ่นกับเด็กฝึกอีกสองคน พวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย

ในทางกลับกัน จูนก็หลับตาลงและตัดสินใจพักสักงีบ เขาต้องแหกขี้ตาอยู่ทั้งคืนเพื่อฝึกซ้อมเพราะเขาเพิ่งจะมาตัดสินใจเพลงของเขาได้หลังจากที่มินจุนกลับไปที่ห้องของเขา

กว่าเขาจะลืมตาขึ้นได้ก็ตอนได้ยินเสียงความวุ่นวายภายในห้องเท่านั้น ทีวีในห้องเล็กเปิดอยู่ และเหล่าเด็กฝึกชุดแรกก็เริ่มเข้ามาในกล้องกันแล้ว

ปรากฏการณ์อันน่าทึ่งปรากฏต่อหน้าต่อตาเหล่าเด็กหนุ่ม เวทีสำหรับการแข่งขัน "ไรส์ซิ่งสตาร์" เผยให้เห็นแสงสีเสียงและความทันสมัยอันตระการตา เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและงานฝีมือทางศิลปะอันงดงาม

เวทีอันกว้างใหญ่ทอดยาวไปทั่วทั้งห้องโถง ประดับประดาด้วยจอ LED สูงตระหง่านที่กลายเป็นฉากหลังอันน่าหลงใหลด้วยภาพที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้หน้าจอมีชีวิตชีวาด้วยสีสันที่สดใสและกราฟิกที่เร้าใจ ทำให้เหล่าผู้เข้าแข่งขันต่างก็ดื่มด่ำไปในโลกแห่งความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้

มีการจัดวางหลายชั้นบนเวทีอย่างมีกลยุทธ์ สร้างระดับไดนามิกให้เด็กๆ ได้แสดงความสามารถของตน จุดศูนย์กลางของเวทีมีโคมระย้าคริสตัลขนาดมหึมาห้อยลงมาจากเพดาน ทำให้เกิดแสงอันนุ่มนวลและไร้ตัวตนทั่วทั้งพื้นที่ เก้าอี้หนึ่งร้อยตัวถูกวางไว้บนตำแหน่งที่แตกต่างกัน โดยมีเก้าอี้สิบอันดับแรกอยู่ตรงกลาง เก้าอี้เหล่านี้จะมีแสงไฟสว่างกว่าตัวอื่นอยู่เล็กน้อย จูนมั่นใจว่าเหล่าผู้เข้าแข่งขันจะต้องแย่งชิงกันเพื่อไปอยู่ตรงกลางเพื่อให้ตนมีแอร์ไทม์บนหน้าจอมากขึ้น

เด็กฝึกสามคนเดินเข้ามาโดยสวมชุดนักเรียนแบบเด็กผู้ชาย พวกเขาเฝ้าดูขณะที่ไฟเปิดทีละดวง ปากของพวกเขาอ้าปากค้าง และปฏิกิริยาของพวกเขาก็ออกจะดูเกินจริงเล็กน้อย

"ว้าว!" ชายชื่อ "แซคารี่" อุทานเสียงดัง ดูเหมือนเขาจะผสมปนเปกัน และผมสีบลอนด์ของเขาก็ดูเป็นธรรมชาติ "นี่มันบ้าไปแล้ว!"

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะได้เห็นสิ่งนี้ก่อนใครเพื่อนเลย” ชายหน้าตาขี้อายที่ชื่อบินพูดเบา ๆ

จูนจำเด็กฝึกคนสุดท้ายได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ชมเขาว่า “หล่อ” ในระหว่างการสัมภาษณ์เบื้องต้น

ทั้งสามมาถึงก็พุ่งไปที่เก้าอี้สิบอันดับแรกทันที โดยนั่งอยู่ที่หมายเลขห้า หก และเจ็ด ตามลำดับ จูนคิดถูกแล้ว เขาแน่ใจว่าเก้าอี้จะต้องเต็มก่อนถึงรอบเขา จูนเองยังอยากนั่งบนเก้าอี้เหล่านั้นด้วย ไม่ใช่เพราะเขาต้องการเด่นอะไรหรอก แต่เพราะมันดูน่าจะนั่งสบายกว่า มีการบุนวมอย่างดีไม่เหมือนกับเบาะพลาสติกแข็งๆ ของเหล่าเก้าอี้ที่ 11-100 ที่เหลือ

เด็กฝึกอิสระมักจะถูกเปิดตัวในช่วงใกล้จบก่อนที่บรรดาเด็กของบริษัทใหญ่ๆ และเด็กฝึกที่หล่อที่สุดจะเปิดตัว

เหล่าเด็กฝึกก้าวเข้ามาทีละคน ทีละกลุ่ม ระหว่างนี้ตัวจูนเองก็เริ่มง่วงนอนอีกแล้ว

ประตูบานคู่เปิดออก และผู้เข้าแข่งขันคนต่อไป แดโฮ ก็ก้าวเข้าไปในห้องโถง เขาไม่เหมือนกับเด็กฝึกคนอื่นๆ ผู้ชายคนนี้มีความมั่นใจในตัวเองสูง หน้าตาที่เฉียบคมของเขาปรอกอกับรอยยิ้มที่ไร้ที่ติ เขาเดินมุ่งไปอย่างมีจุดหมายโดยตระหนักถึงความสนใจที่เขาได้รับ เขามั่นว่าตนจะเป็นหนึ่งในคนโปรดของเหล่าแฟนๆ แน่นอน

เขาเดินไปยังเก้าอี้แรกโดยไม่ลังเลและนั่งลงอย่างมั่นใจ

เด็กฝึกในห้องโถงมองดูเขาด้วยความชื่นชมปนอิจฉา พวกเขาเองก็อยากจะนั่งเก้าอี้อันดับหนึ่งเช่นกัน

“เด็กฝึกอิสระ เป็นคนต่อไป” เด็กฝึกงานสาวเดินเข้ามา เธอสังเกตุเห็นเจ้าแมวสีชมพูที่คุ้นเคยจึงชงักไปครู่หนึ่ง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเยน่ากับเยจินจะยอมรับเด็กฝึกแบบนี้จริงๆ

เด็กฝึกอีกสามคนเดินไปด้านหน้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้น พวกเขาต้องการข่มเด็กฝึกอีกคนทันที แต่ในทางกลับกัน จูนกลับยืนอยู่ด้านหลังเพื่อรอเข้าห้องโถง

หน้ากากของเขาเองก็มีข้อดีอย่างหนึ่งเช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องจัดการกับการแสดงออกทางสีหน้าเนื่องจากมีปิดสีหน้าเขาไว้มิด

คำว่า "เด็กฝึกอิสระ" ถูกแสดงบนจอ LED ขนาดยักษ์ และเด็กฝึกคนอื่นๆ ก็อุทานด้วยความตื่นเต้น

“ว้าว เจ๋งมาก เหล่าพี่น้องอิสระของเรา”

“เด็กฝึกอิสระไม่ได้สังกัดกับบริษัท พวกเขาลำบากมากกว่าที่จะมาที่นี่”

“โอ้ หล่อมากใช่มั้ยล่ะ แต่ฉันหล่อกว่านะ”

ห้องนี้เต็มไปด้วยความคิดเห็นมากมาย จูนรู้ดีว่าเหล่าเด็กฝึกอิสระจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้เข้าแข่งขัน แต่ถึงกระนั้น มันก็ยากกว่าที่จะดึงดูดความสนใจของสาธารณชนทั่วไป

หลังจากเด็กชายทั้งสามคนเดินไปแล้ว จูนก็เข้าไปในประตูสองบานพลางสำรวจดูฝูงชน เขารับฟังความคิดเห็นของพวกเขาและพยายามหาเก้าอี้ใกล้ๆ นั่ง

“อะไรน่ะ? ไหงถึงมีเด็กฝึกคนหนึ่งใส่หน้ากากแมวสีชมพูล่ะ?”

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด