ตอนที่แล้วบทที่ 49 อาการป่วยของกงจู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 51-52

บทที่ 50 คิดอะไรอยู่


บทที่ 50

คิดอะไรอยู่

หลิงอวี่จื้อลุกขึ้น เฉินหนิงซวงให้นางนั่งลงตามสบาย แม้ยกยิ้มแต่สายตากลับไม่ยิ้มไปด้วย เฉินหนิงซวงเป็นคนหน้าตาย ต่อให้นางหัวเราะก็ไม่ทำให้คนมีอารมณ์ร่วม นางสั่งหันชุนที่อยู่ด้านหลังด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร “ไปนำกำไลไม้จันทน์แดงอบกำยานมา”

หันชุนพยักหน้ารับ “เพคะ ฝ่าบาท”

นางรับคำแล้วออกไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมกล่องผ้าปักในมือ เฉินหนิงซวงรับมาและหยิบกำไลไม้จันทน์แดงอบกำยานออกมา นางลุกขึ้นและก้าวไปหาหลิงอวี่จื้อ ก่อนช่วยสวมลงบนข้อมือด้วยตนเอง

“เมื่อครู่ข้าต้องขอโทษด้วย เปิ่นกงคิดว่าคุณหนูใหญ่จงใจปิดบัง นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นห่วงเปิ่นกงขนาดนี้ น่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก กำไลไม้จันทน์แดงอบกำยานนี้มอบให้คุณหนูใหญ่”

หลิงอวี่จื้องุนงงเล็กน้อย นางไม่เข้าใจเฉินหนิงซวงและทำตัวไม่ถูกกับกำไลข้อมือนี้ นางไม่อยากจะเชื่อว่าขนมจะร่วงหล่นจากฟ้า อีกฝ่ายต้องมีเหตุผลที่ทำเช่นนี้แน่ คิดจะทำอะไรลับหลังนางกัน? กำไลนี้ดูเหมือนทำมาจากไม้จันทน์ชั้นยอดเสียด้วย

ในยุคสมัยใหม่ไม้จันทน์แดงถือเป็นของล้ำค่า ไม่รู้ว่ามันจะมีค่าเท่าในยุคโบราณหรือไม่ ในเมื่อเฉินหนิงซวงมอบให้มา นางย่อมไม่อาจปฏิเสธได้ ไม่เช่นนั้นคงทำให้อีกฝ่ายโมโหขึ้นมาอีก นางจึงรีบกล่าวขอบคุณ “ขอบพระทัยจ่างกงจู่เพคะ”

“สวมเอาไว้ให้ดี มีเพียงผู้มีวาสนาจะได้สวมสิ่งนี้”

“เพคะ หม่อมฉันจะเชื่อฟังองค์หญิงเพคะ”

แม้นางจะแคลงใจเต็มที หากแต่ไม่ได้แสดงท่าทีไม่เหมาะสมต่อหน้าเฉินหนิงซวง นางเผยสีหน้าซาบซึ้งใจเหลือล้น ทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจกับการกระทำของนาง ก่อนหยุดสายตาอยู่ที่ไม้จันทน์บนข้อมือนางและรีบละสายตาไป

นางในเข้ามากราบทูลในตอนนั้นเอง “ทูลจ่างกงจู่ อู๋อ๋องเสด็จมาเพคะ”

“เชิญเข้ามาเร็วเข้า”

หลิงอวี่จื้อซึ่งอยู่ด้านข้างได้ยินเช่นกัน ก่อนรีบหาข้อมูลของอู๋อ๋องในหัว อู๋อ๋องมีชื่อจริงว่าเฉินเซี่ยวหรู มารดาบังเกิดเกล้าคือหวังเม่ยเหรินผู้ล่วงลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน นางเป็นอดีตนางในและไร้พื้นเพในวังหลวง

ว่ากันโดยทั่วไปแล้วเขาควรได้สืบทอดบัลลังก์ เนื่องจากอายุที่เหมาะสม ทั้งยังสุภาพอ่อนโยนและเป็นที่ชื่นชมในหมู่ที่ปรึกษาราชสำนัก น่าเสียดายที่เขาไร้พื้นเพจึงพ่ายแพ้ให้กับ       เฉินโม่ชีที่อายุเพียง 13 ปีเท่านั้น

หลิงอวี่จื้อเห็นใจอู๋อ๋องอยู่ลึก ๆ ในใจ เซียวเยี่ยนมีอำนาจมาก ทั้งกองทหารและกองม้าล้วนอยู่ในมือเขา เมื่อครั้งฮ่องเต้สรรรคต ไม่ว่าเซียวเยี่ยนจะเลือกใครก็สามารถขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้ทั้งนั้น ลือกันว่าเซียวเยี่ยนสนับสนุนเฉินโม่ชีเพราะความสัมพันธ์ที่มีกับไทเฮา หากแต่นางก็สงสัยนักว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองเป็นไปตามข่าวลือหรือไม่

ในขณะที่นางกำลังครุ่นคิด เฉินเซี่ยวหรูก็ก้าวเข้ามาแล้ว เฉินหนิงซวงลุกขึ้นทักทายเขาเมื่อเห็นอีกฝ่าย ส่วนหลิงอวี่จื้อคุกเข่าลงคำนับ

“ใครกัน...”

เฉินเซี่ยวหรูนึกไม่ถึงว่าเฉินหนิงซวงจะมีแขก และนึกสงสัยเมื่อเห็นหลิงอวี่จื้อคุกเข่าอยู่ที่พื้น

น้ำเสียงเขาไพเราะ อ่อนโยน และเรียบเรื่อย หลิงอวี่จื้อเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินคำเขา นางกลับตกใจจนพูดไม่ออกหลังเห็นใบหน้าของเฉินเซี่ยวหรู

เฉินเซี่ยวหรูหน้าตาเหมือนซ่งเฉิงไม่มีผิด ว่าแล้วก็ขอแนะนำซ่งเฉิงให้รู้จักเสียหน่อย เขาเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดในวงการบันเทิงแห่งศตวรรษที่ 21 ถือเป็นดาราชื่อดังที่เพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์และความสามารถ

เขายังเป็นเทพบุตรที่หลิงอวี่จื้อตกหลุมรักมานาน ทั้งสองแสดงละครด้วยกันมาสองเรื่อง หากแต่ตอนนั้นนางยังได้รับบทสมทบอยู่ มีผู้คนมากมายชอบซ่งเฉิง เขามักตกเป็นข่าวฉาวทว่าไม่เคยยอมรับสักครั้ง ดูเหมือนเขาจะมีหญิงสาวรายล้อมอยู่ตลอด นางจึงไม่กล้าสารภาพรักกับเขา เพราะกลัวว่าตนเองจะถูกปฏิเสธ