ตอนที่แล้วบทที่ 31 ต้องการทำสิ่งใด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33 เจ้ากับสาวน้อยผู้นั้นเป็นพวกเดียวกัน

บทที่ 32 แผนของไทเฮา


บทที่ 32

แผนของไทเฮา

“นี่มัน...”

หลิงจื่อเชิ่งยังคงนึกลังเลใจ

“อย่างนั้นข้าจะกลับบ้านไปบอกฮูหยินเฒ่าเรื่องที่ท่านปิดบังเอาไว้ นางคงยินดีมากแน่”

ให้อภัยที่บีบให้หลิงอวี่จื้อต้องเดินหนีด้วยเถิด มันน่ากลัวจนหลิงจื่อเชิ่งรีบคว้าตัวน้องสาวเอาไว้ ก่อนพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้ “ก็ได้ ข้าจะช่วยเจ้า”

“ให้ได้แบบนี้สิ สมเป็นพี่ชายที่ดีของข้า”

หลิงอวี่จื้อหัวเราะคิกคัก

“ข้าช่วยเจ้าได้ แต่เจ้าก็ต้องบอกมาว่าตกลงเจ้าต้องการทำอะไรกันแน่?”

หลิงอวี่จื้อกวักมือเรียกพี่ชายให้เข้ามาหา เมื่อเขาขยับใกล้นางก็เอ่ยเพียงสองคำ “ความลับ”

สองคำนี้ทำให้หลิงจื่อเชิ่งแทบกระอักเลือด หากแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

หลิงอวี่จื้อจากไปอย่างเริงร่าและอดจะหัวเราะไม่ได้ อีกไม่นานนางก็จะได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของจูจิ่นแล้ว นางหวังเหลือเกินว่าจูจิ่นจะเป็นผู้หญิง นางจะได้มีเหตุผลไปข่มขู่ และนางไม่เชื่อว่าจูจิ่นจะไม่ล้มเลิกงานแต่งงาน

ภายในตำหนักฉางเล่อ จื่ออีได้ทูลรายงานมู่หรงกวนเย่ว์เรื่องที่เกิดขึ้นในสนามซูจู้ ระหว่างนั้นก็คุกเข่าบีบนวดขาให้           มู่หรงกวนเย่ว์ไปด้วย

เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี่จื้อขึ้นเสียงใส่เฉินโม่ชี ทั้งยังเตะบอลใส่ในสนามซูจู้ มู่หรงกวนเย่ว์แปลกใจไม่น้อย ลูกชายนางนิสัยเป็นอย่างไร มีหรือนางจะไม่เข้าใจ พักนี้ยิ่งอารมณ์ร้อน และมักต่อว่าข้าราชบริพารไปทั่ว

“โม่ชีไม่โกรธหรือ?”

“ไม่เพียงแต่จะไม่โกรธ แต่ยังบอกให้คุณหนูหลิงมาสอนเล่นซูจู้ด้วยเพคะ ตอนนั้นหม่อมฉันยังตกใจกลัวว่าฝ่าบาทจะลงโทษคุณหนูหลิงหรือไม่? จะว่าไปแล้วคุณหนูหลิงก็หน้าตาน่ารักมากนะเพคะ ทั้งใบหน้ากลมและคำพูดน่าสนใจนั้น พอยืนข้างฮ่องเต้แล้วดูไม่ออกเลยเพคะว่าอายุมากกว่า หม่อมฉันเห็นว่าฮ่องเต้เองก็ชอบคุณหนูหลิงมากเพคะ”

จื่ออีออกแรงนวดมากขึ้นพลางกล่าวต่อ

มู่หรงกวนเย่ว์ยิ้มบอก “สาวน้อยผู้นี้น่าเอ็นดู                 เซียวเยี่ยนเคยเล่าให้อัยเจียฟัง คอยดูไปก่อนหากโม่ชีชอบนางจริง ให้นางมาอยู่เคียงข้างเขาก็ยังได้”

“ไทเฮาเพคะ คุณหนูหลิงกับซื่อจื่อจูมีข้อตกลงแต่งงานกันอยู่ ให้นางเข้ามาอยู่ในวังหลวงจะไม่เหมาะสมเอานะเพคะ!”

“หากนางควบคุมโม่ชีได้ อัยเจียต้องให้นางมาอยู่ข้างเขา ส่วนเรื่องการแต่งงานของนางกับจูจิ่นก็สามารถคิดหาทางยกเลิกได้ นางอายุมากกว่าโม่ชีสามปี  ให้อยู่ติดตามโม่ชีในภายหลังยังได้”

มู่หรงกวนเย่ว์ชอบหลิงอวี่จื้อมากเช่นกัน หาก หลิงอวี่จื้อสามารถทำเช่นนั้นได้จริง นางก็ยินดีจะยอมรับ  หลิงอวี่จื้อเป็นลูกสะใภ้ เฉินโม่ชียังแต่งงานไม่ได้จนกว่าจะอายุ 18 ปี หากแต่เขายังสามารถแต่งตั้งสนมก่อนได้

จื่ออีไม่ได้ทักท้วงและทำเพียงยิ้ม “ผู้แทนพระองค์เองก็คิดว่านางเหมาะสม เขายังนึกเป็นห่วงไทเฮานะเพคะ”

พูดถึงเซียวเยี่ยนแล้ว มู่หรงกวนเย่ว์ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในวันวาน และยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว รอยยิ้มนั้นอ่อนโยนต่างจากท่าทีสง่างามเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นลิบลับ

เมื่อเห็นมู่หรงกวนเย่ว์คิดถึงความหลังครั้งเก่า จื่ออีไม่กล้าขัดจังหวะนางและทำเพียงถอนหายใจ ชาตินี้พวกเขาทั้งสองไม่มีทางได้ครองคู่กัน ทั้งมู่หรงกวนเย่ว์ยังมีลูกชายต้องดูแล

เย็นวันนั้นจูจิ่นมาที่วังผู้แทนพระองค์ ทั้งสองเล่นหมากล้อมในห้องอักษร โดยจูจิ่นเล่นหมากขาวและเซียวเยี่ยนเล่นหมากดำ หลังจากขยับหมากตัวหนึ่งเซียวเยี่ยนก็ส่ายหน้า “อาจิ่น เจ้าแพ้อีกแล้ว”

จูจิ่นไม่มีกะจิตกะใจเล่นหมากล้อม เขาจึงวางหมากในมือลง “อาเยี่ยน เจ้าช่วยข้าคิดที เด็กสาวผู้นั้นแตะส่วนนั้นของข้าในวันนั้น นางต้องเริ่มสงสัยข้าแล้วแน่ ข้าคิดไม่ตกว่าหากต้องการไปเจอนางแต่ไม่อยากพลาดท่าเสียทีให้ ข้าควรทำเช่นไร?”