ตอนที่แล้วบทที่ 20 ใช้ทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 22 ตั้งชื่อเจ้าลูกหมาว่าหรงหรงดีกว่า

บทที่ 21 อึดอัดใจ


บทที่ 21

อึดอัดใจ

“เจ้าว่าซื่อจื่อผู้นี้เสียสติไปแล้วหรือไม่ คิดว่าข้าควรมีความสุขหรือไม่หากแต่งงานผิดคนขึ้นมา”

หลิงอวี่จื้อลุกขึ้น เดิมทีนางคิดว่าซื่อจื่อผู้นี้แค่ดูพอไปวัดไปวาได้ หากแต่นึกไม่ถึงว่าจะรูปงามถึงเพียงนี้ รูปร่างหน้าตาดูคลับคล้ายจะมาเป็นพี่น้องของนาง ทว่าจะให้มาเป็นสามีคงหนักใจเต็มที

“ไปกันเถิด!”

สิ่งใดจะเกิดก็ต้องเกิด ดีแล้วที่ได้พบเจอกับจูจิ่น ไม่เป็นเช่นนั้นจะมีความคืบหน้าได้อย่างไร

หลิงอวี่จื้อมาถึงห้องรับแขกในขณะที่จูจิ่นกับหลิงจื่อเชิ่งกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส เสียงหัวเราะของหลิงจื่อเชิ่งดังลอยเข้าหูมาแต่ไกล

หลิงอวี่จื้อฝืนหุบยิ้มบนใบหน้าโดยทำทีสำรวมเรียบร้อยและก้าวเข้าไป พวกเขาทั้งคู่หันมองโดยพร้อมเพรียงเมื่อเห็นนาง ก่อนหลิงจื่อเชิ่งจะกล่าวทักทาย “อวี่จื้อ เหตุใดมาช้าป่านนี้       ซื่อจื่อรอเจ้ามาครู่หนึ่งแล้ว”

“ท่านพี่ ร่างกายข้าได้รับบาดเจ็บถึงได้มาช้า” ว่าจบนางก็ก้าวไปหาจูจิ่นก่อนกล่าว “อวี่จื้อ คารวะซื่อจื่อ”

หลิงจื่อเชิ่งแปลกใจไม่น้อย ทำไมวันนี้หลิงอวี่จื้อถึงทำตัวพิกลนัก คำพูดคำจาขัดธรรมชาติต่างจากเมื่อหลายวันก่อนลิบลับ หรือจะเป็นเพราะนางเขินอายเมื่ออยู่ต่อหน้าจูจิ่น

“ที่แท้เจ้าก็คืออวี่จื้อนี่เอง เมื่อวานที่ร้านอาหารข้าไม่ได้พินิจละเอียดนัก แต่ยามนี้มาดูใกล้ ๆ แล้วถึงพบว่าตนเองตาแหลมมากทีเดียว” จูจิ่นมองหน้าหลิงอวี่จื้อพร้อมส่งรอยยิ้มกว้าง เห็นได้ชัดว่าพึงพอใจในตัวหลิงอวี่จื้อ

แม้เอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยี่ยงมารดา หากแต่หลิงอวี่จื้อ กลับรู้สึกท้อแท้ใจ

“ในภายภาคหน้าข้าหวังว่าซื่อจื่อจะดูแลอวี่จื้อเป็นอย่างดี นางเพิ่งรักษาตัวหายดี ย่อมมีสิ่งที่นางยังไม่เข้าใจ นางเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของข้า ขอซื่อจื่อดูแลนางให้มากด้วย”

หลิงจื่อเชิ่งหันมองหลิงอวี่จื้อ และตั้งใจจะฝากฝัง  หลิงอวี่จื้อเอาไว้กับจูจิ่น

“แน่นอนอยู่แล้ว อวี่จื้อน่าเอ็นดูถึงเพียงนี้ ได้ครองรักกับนางตอนนี้ถือว่าสายเกินไปไม่ใช่หรือ?”

หลิงอวี่จื้อกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ซื่อจื่อดีกับข้าเหลือเกิน”

“จื่อเชิ่ง ข้าขอคุยกับอวี่จื้อเพียงลำพังได้หรือไม่?”

หลิงจื่อเชิ่งย่อมรู้ทุกอย่างดี เขาจึงลุกขึ้นทันที “ข้ามีธุระต้องไปทำ อวี่จื้อ ต้อนรับซื่อจื่อให้ดี ดอกเบญจมาศในสวนด้านหลังกำลังบาน เจ้าไปเดินเล่นที่นั่นก็ได้”

สิ้นคำเขาก็เดินจากไป เหลือเพียงคนสองคนภายในโถง จูจิ่นลุกขึ้นและเอ่ย “อวี่จื้อ ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อยเถิด!”

หลิงอวี่จื้อพยักหน้ารับและตามจูจิ่นออกจากห้องรับแขกไป นางจงใจสงบปากสงบคำต่อหน้าเขาเพื่อทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายตนเอง จูจิ่นไม่ชอบสิ่งใดนางก็จะทำตัวแบบนั้น นางเป็นนักแสดง ดังนั้นเรื่องแค่นี้ไม่ได้ยากเย็นแม้แต่น้อย

“อวี่จื้อ ทำไมเจ้าถึงไม่พูดเลยเล่า?”

“ข้าไม่รู้จะพูดอะไร ท่านซื่อจื่อว่ามาเถิด ข้าฟังอยู่”

“จื่อเชิ่งบอกว่าพักนี้เจ้าสดใสร่าเริงแล้ว ทำไมพออยู่ต่อหน้าข้าถึงได้ไม่เป็นเช่นนั้น?” จูจิ่นหยุดฝีเท้าและถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นหลิงอวี่จื้อไม่พูดไม่จา

“ซื่อจื่อชอบสตรีที่สดใสร่าเริงหรือ เช่นนั้นข้าคงทำให้    ซื่อจื่อผิดหวังแล้ว”

หลิงอวี่จื้อลอบลิงโลดในใจ ดูเหมือนว่านางจะมาถูกทางแล้ว

ใครเล่าจะรู้ว่าจูจิ่นจะยิ้มบอก “ข้าชอบสตรีสำรวมวาจาแบบที่เจ้าเป็นต่างหาก”

หลิงอวี่จื้อแทบสำลักจนสะเทือนอวัยวะภายใน พี่ชาย ท่านมีตาบ้างหรือไม่? นางเผยท่าทีฝืนทนอย่างโจ่งแจ้ง

“ท่านซื่อจื่อมีวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยมนัก จวนอัครเสนาบดีมีสตรีเรียบร้อยสำรวมอยู่คนหนึ่ง น้องหญิงสามของข้าอ่อนหวาน ใสซื่อบริสุทธิ์ วาจาสงบเสงี่ยม ตรงกับความต้องการของ          ท่านซื่อจื่อทุกประการ”

“ข้าไม่คิดมีอนุภรรยา”

หลิงอวี่หรงกับฉูเซี่ยซึ่งเป็นสาวใช้ของนางผ่านมาในจังหวะที่จูจิ่นเอ่ยออกไป หลิงอวี่จื้อเหมือนเห็นผู้ช่วยชีวิตเมื่อเห็นนาง ในที่สุดนางก็มาได้เสียที ไม่เช่นนั้นยิ่งพูดคุยด้วยคงยิ่งประหม่า โดยเฉพาะเมื่อจูจิ่นเริ่มเผยท่าทีมีใจให้ ชวนให้ยิ่งอึดอัดใจกว่าเดิม