ตอนที่แล้วบทที่ 1 แต่งตัวราวกับคนโง่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 3 เล่นละคร

บทที่ 2 การแสดงที่ยอดเยี่ยม


บทที่ 2

การแสดงที่ยอดเยี่ยม

เมื่อทราบว่าตนเองจะต้องเผชิญหน้ากับมารดาปากร้าย นางจึงยอมรับชะตากรรมนี้อย่างไม่อาจเลี่ยง แม้มันจะเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย แต่ก็ต้องอดทนเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป

“ท่านแม่”

เดิมทีเธอเป็นนักแสดง และการจะเรียกใครสักคนว่าแม่จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าขวยเขินนัก

เมื่อถูกบุตรสาวตอบโต้อย่างกะทันหัน นางฉูถึงกับตื่นตระหนก และล้มลงอย่างแรง

นางฉูเจ็บปวดเพราะถูกหลิงอวี่จื้อสวนกลับ หลิงอวี่จื้ออดทนกับความเจ็บของร่างกาย ก่อนกดร่างของนางฉูเอาไว้        “ท่านคิดผิดแล้ว เป็นน้องสามบอกว่ามีน่องไก่ แล้วจะให้ข้ากิน แต่สุดท้ายน้องสามก็ล็อกประตูหลังจากที่ข้าเข้าไปในห้องนั้น ข้าเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ข้างใน ข้าต้องการจะหนีทันที แต่มันกระทำการหยาบคายต่อข้า และข้าไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะต่อสู้ แม้ข้าอยากจะวิ่งเพียงใด ก็ไม่มีที่ให้ข้าวิ่ง ชายผู้นั้นบอกกับข้าว่า ข้าไม่ควรละโมบอยากกินน่องไก่ ทั้งหมดคือความผิดข้าทั้งสิ้น แต่ความจริงแล้วเป็นน้องหญิงสามที่โกหก หากว่าท่านแม่คิดจะเฆี่ยนตีข้า ก็ต้องเฆี่ยนตีนางด้วย!”

หลังจากนั้นนางฉูฟื้นคืนสติกลับมา นางผลักหลิงอวี่จื้อ ออกไปก่อนจะเผยใบหน้าเย็นชา “เจ้าจะบอกว่าอวี่หรงหลอกเจ้าเข้าไปในห้องนั้นงั้นหรือ?”

“เป็นเช่นนั้น ลูกสาวท่านกระทำความผิดใดหรือ”

หลิงอวี่จื้อนั่งอยู่บนพื้น เบะปาก น้ำตาไหลออกมา ใบหน้าทั้งหมดดูโศกเศร้ายิ่งเมื่อได้มอง ในฐานะนักแสดง การร้องไห้แค่นี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย และนางก็เริ่มแสดงทันทีหลังกล่าวจบ

นางฉูมองหลิงอวี่จื้อ แม้ว่านางจะดูโง่เขลา แต่คำพูดของนางนั้นดูมีสติมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ตอนนี้นางสามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนแล้ว เป็นเพราะนางตื่นขึ้นจากการถูกทุบตีอย่างหนักหรือไม่?

ใบหน้าที่เย็นชาของนางฉูพูดกับแม่นมซ่งที่อยู่ด้านข้าง “ไปเรียกคุณหนูสามมา”

ยังคิดจะเรียกหาผู้อื่นอีกงั้นหรือ? นางกำลังเจ็บเจียนตาย แต่ยังไม่รีบเรียกหมอมาที่นี่ พวกเขาไม่เกรงกลัวว่านางจะตายจริง ๆ เลยหรือไร คนเป็นแม่กลับรู้สึกอับอายและโกรธเคืองเกินกว่าจะห่วงใยบุตรสาว

ระหว่างรอ เธอพยายามเข้าใจความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมให้มากที่สุด

จากความทรงจำในหัว หลิงอวี่จื้อถูกกระทำเช่นนี้เสมอมา น้องหญิงสามเกิดจากมารดาที่เป็นเพียงนางสนม นางดูแล หลิงอวี่จื้อเพียงผิวเผิน และหลิงอวี่จื้อต้องอยู่ร่วมกับน้องสามผู้นี้เสมอมา

วันนั้นก็เช่นกัน หลิงอวี่จื้อไปรับประทานเค้กที่บ้านของนาง แล้วกลับมานอนที่ห้องของตัวเอง แต่ในขณะนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามา และจากนั้นทุกคนก็เห็นภาพตรงหน้า

หลิงอวี่หรงโหดเหี้ยม ทันทีที่นางกระทำเรื่องเช่นนี้ มันจะสามารถฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้ หากเกิดเรื่องเช่นนี้ อย่าได้กล่าวถึงเรื่องการแต่งงาน แม้แต่ในครอบครัว นางก็จะถูกเกลียดชังไปทุกหนแห่ง ซึ่งหากเกิดเรื่องดังกล่าวแล้ว มันคือการทำลายชีวิตของคนผู้หนึ่งไปทั้งชีวิต และคนผู้นั้นจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นสู้ฟ้าได้อีก

ในไม่ช้า ร่างบางในชุดสีฟ้าอ่อนเข้ามา หลิงอวี่หรงผอมเพรียว ใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากสีสวยราวกับเชอร์รี่ ดวงตากลมโตและมีผิวขาว ทุกสิ่งทำให้รู้สึกดูอ่อนโยนและน่ารื่นรมย์ นางก็เป็นหญิงคนหนึ่งที่งดงามซึ่งพบเจอได้ทั่วไป

เมื่อได้มองครั้งแรก มันง่ายที่จะสร้างความประทับใจแก่ผู้คน

แต่น่าเสียดายที่นางเป็นเพียงแค่ดอกบัวสีขาวทั่วไป

นอกจากนางแล้ว ยังมีหญิงชราวัยหกสิบปีเข้ามาด้วย เส้นผมของหญิงชราเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาแล้ว ทว่ากลับดูทรงพลัง และยังมีใบหน้าที่สง่างาม นางคือฮูหยินเฒ่าของตระกูลหลิง และเป็นย่าของหลิงอวี่จื้อ

เมื่อเห็นฮูหยินเฒ่าเดินมา นางฉูก็รีบช่วยส่งฮูหยินเฒ่านั่งลงด้วยความเคารพ “ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงมาที่นี่?”

“ข้าอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เจ้าจะจัดการกับมันอย่างไร ข้าอยากรู้ว่าเหตุใดจึงต้องเรียกอวี่หรงมาที่นี่?”

“ข้าเพียงต้องการถามบางเรื่อง”

หลิงอวี่จื้อลอบหัวเราะในใจ หลังจากนั้นนางคิดจะเล่นละครให้ฮูหยินเฒ่ารับชม และวันนี้นางต้องจัดการหลิงอวี่หรงให้อยู่หมัด

หลิงอวี่หรงไตร่ตรองสักครู่ก่อนจะกล่าวกับนางฉู       “ท่านแม่ ท่านเรียกข้ามาที่นี่มีสิ่งใดหรือ?”

หลิงอวี่จื้อที่เวลานี้หมดเรี่ยวแรง กลับพยายามลุกขึ้นจากพื้นด้วยร่างกายที่สั่นเทา

ทันใดนั้น นางพุ่งตัวเข้ากอดหลิงอวี่หรง เลือดตามกายของนางจึงเปรอะเปื้อนตามร่างของหลิงอวี่หรงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

หลิงอวี่จื้อเริ่มร้องไห้อย่างหนัก ทั้งน้ำตา และน้ำมูกไหลเยิ้มออกมา ก่อนจะกล่าวเสียงสั่นเครือ “น้องสาม เจ้าโกหกข้า เจ้าบอกว่ามีน่องไก่อยู่ในห้องนั้น แต่ในนั้นกลับมีผู้ชายรอข้าอยู่ มันจะเป็นน่องไก่ได้อย่างไร? เจ้ารังแกข้า มันไม่มีน่องไก่ในห้องนั้น!”