ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 389 จักรพรรดิเสี่ยงทาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 391 ฝูงชนต่างตกตะลึง

MDB ตอนที่ 390 ประวัติการณ์


บรรดาผู้ที่ยืนอยู่บนศิลามังกรห้วงนิทราก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เนื่องจากพวกเขาได้รับถูกเลือกมายืนอยู่จุดนี้จากผู้ดูแลวิหารเมื่อพวกเขามาถึง

ในความเป็นจริง บางคนรู้สึกหดหู่ใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยืนบนตำแหน่งนี้ เพราะท้ายที่สุด ศิลามังกรห้วงนิทรานี้ไม่เคยถูกเลือกมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว แม้ว่าจะมีบางคนพูดว่ายังมีกระเบื้องอื่น ๆ อีกมากมายที่ยังไม่เคยถูกเลือกมาก่อนเช่นกัน แต่เป็นเพราะข่าวลือที่พูดต่อกันปากต่อปาก ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าบริเวณศิลามังกรห้วงนิทรานั้นต้องสาป ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว โอกาสในการถูกเลือกก็เท่ากับตรงที่อื่น ๆ

“ดูนั่น! ฝ่าบาทกำลังจับสลากที่สาม!” มีคนอุทานด้วยความตื่นเต้น

ผู้คนนับร้อยที่เหลืออยู่บนกระเบื้องแทบกลั้นหายใจ เห็นได้ชัดว่าทุกคนหวังที่จะได้รับเลือก หากสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้รับการเลื่อนระดับโชคชะตาของพวกเขาจะเป็นจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ในเวลาเดียวกัน มีบางคนตระหนักดีว่ายิ่งระดับของสัตว์เลี้ยงสูงเท่าไร โอกาสที่มันจะได้รับการเลื่อนขั้นก็จะลดลงเท่านั้น แม้ว่าจะหายาก แต่ก็มีหลายครั้งในอดีตที่ผู้ประเมินยกระดับสัตว์เลี้ยงที่พัฒนาได้ยากผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ทางสำนักงานใหญ่มักจะมอบหมายเฉพาะผู้ประเมินระดับสามที่มีประสบการณ์มากที่สุดสำหรับงานนี้

ทุกคนเฝ้าดูขณะที่ฝ่าบาทเหอเฉียนเสี่ยงทายส่วนที่สามอย่างยินดี

ผู้ดูแลวิหารหยิบมันขึ้นมาและอ่านมัน

“ฉลากที่สามที่ฝ่าบาททรงเสี่ยงทายคือฉลาก ‘เจียมเนื้อเจียมตัว’”

ครู่ต่อมา สีหน้าของผู้ดูแลวิหารเปลี่ยนไป ราวกับว่าเขารู้บางอย่างขึ้นมาทันใด เหอเฉียนไม่ได้คิดมากเพราะเขาเพียงเข้าร่วมในพิธีการเท่านั้น

“ผู้ดูแลวิหาร ไปข้างหน้าและประกาศว่ากระเบื้องใดที่ถูกเลือก” เหอเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะสังเกตเห็นสีหน้ากังวลของผู้ดูแลวิหาร

“มีอะไรผิดปกติหรือ?” เหอเฉียนถาม “ข้าเสี่ยงทายได้แย่มากหรืออย่างไร?”

ผู้ดูแลวิหารรีบส่ายหัว เขาหันกลับไปมองหลินจิน และมีสีหน้าแสดงความเห็นอกเห็นใจ ในฐานะผู้ดูแลวิหาร เขาสามารถรู้ได้ในทันทีว่ากระเบื้องที่ได้รับเลือก นั่นจึงเป็นสิ่งที่เขาไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะกระเบื้องที่ได้รับเลือกในปีนี้เป็นกระเบื้อง 'ศิลามังกรห้วงนิทรา' ที่ใหญ่ที่สุด

ผู้ดูแลวิหารรายนี้เคยสัมผัสประสบการณ์เทศกาลมังกรหยกมาสิบครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นแผ่นกระเบื้องนี้ถูกสุ่มหยิบขึ้นมา

โชคดีที่จิตใจของเขายังคงว่องไวและพูดว่า

"ฉลากที่ฝ่าบาททรงจับขึ้นมานั้นล้วนเป็นมงคลอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม โปรดให้เวลากระหม่อมสักครู่เพื่อคำนวณตำแหน่งที่แน่นอนของกระเบื้องจากทั้งสามฉลากนี้ก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้ดูแลวิหารคิดว่าเขาอาจจะจำผิด เพราะเขาไม่เคยประกาศกระเบื้องแผ่นนั้นมาก่อน ดังนั้นกระเบื้องนำโชคนี้อาจไม่ใช่ 'ศิลามังกรห้วงนิทรา' ก็เป็นได้

ต่อมาผู้ดูแลวิหารได้ตรวจสอบสถานที่ร่วมกับเจ้าอาวาสวัดและผู้จัดงาน แน่นอนว่าความทรงจำของเขาไม่ได้หลอกลวงเขา ฉลากทั้งสามที่ฝ่าบาทเสี่ยงทาย มันตรงไปที่ 'ศิลามังกรห้วงนิทรา'

ภายใต้สายตาที่จับตามองของผู้คน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ใครก็ตามจะควบคุมเกมได้ เหนือสิ่งอื่นใด คำอธิบายการจับฉลากก็ถูกสลักไว้บนแผ่นหินก่อนห้องโถงของวิหาร และใคร ๆ ก็สามารถมองเห็นได้ด้วยตาตนเอง

ถึงตอนนี้ คนที่มีไหวพริบอันล้ำเลิศบางคนได้ถอดรหัสทั้งหมดด้วยตัวเองแล้ว ด้วยเหตุนี้ เสียงอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจจึงดังลั่นท่ามกลางฝูงชน

ผู้ดูแอลวิหารรู้ว่าเขาไม่สามารถหาทางออกที่ดีได้ในตอนนี้

“ลืมไปซะ อย่างไรข้าก็ไม่ใช่คนที่ลำบากอยู่แล้ว ทำไมข้าจะต้องกังวลมากขนาดนี้ด้วย?”

ผู้ดูแลวัดพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะประกาศผล

ตอนนี้ แม้แต่จักรพรรดิเหอเฉียนก็รู้แล้วว่าปีนี้พวกเขาเลือกกระเบื้องอะไร

เมื่อมองขึ้นไป เขาเห็นว่าคนไม่กี่คนที่ยืนอยู่บนศิลามังกรห้วงนิทราตื่นเต้นแค่ไหน

'ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้ดูแลวิหารจะมีปฏิกิริยาแปลกประหลาดขนาดนี้ นี่คือเหตุผลสินะ?' เหอเฉียนคิดในใจ

เมื่อมองย้อนกลับไป เป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่เขาจะออกพระราชโองการสำหรับการเลื่อนตำแหน่งพิเศษของหลินจินให้เป็นระดับสาม เขาเพียงทำเพื่อเป็นผูกมิตรกับ 'ภัณฑารักษ์' เท่านั้น

เนื่องจากเขาไม่สามารถให้ผลประโยชน์ใด ๆ แก่ภัณฑารักษ์ได้ แต่เหอเฉียนคิดว่าอย่างน้อยเขาก็สามารถช่วยลูกศิษย์ของภัณฑารักษ์ได้

เขาจำได้ค่อนข้างชัดเจนในเช้าวันหนึ่ง ขณะที่เขาประชุมกับเหล่าขุนนาง หนึ่งในนั้นกล่าวว่าคำขออันเห็นแก่ตัวของฝ่าพระบาทอาจทำให้ผู้ประเมินในอาณาจักรไม่สบายใจ และแนะนำให้เขาละทิ้งแผนการของเขาเสีย

อย่างไรก็ตาม เหอเฉียนเพียงหักล้างคำกล่าวอ้างของพวกเขาและยืนกรานที่จะทำมัน

ภัณฑารักษ์คุ้มค่าที่จะผูกมิตร แม้ว่าหลินจินจะไม่คู่ควร แต่เหอเฉียนก็ยังจะส่งเสริมเขาเพื่อเป็นการแสดงมิตรภาพต่อภัณฑารักษ์

เหอเฉียนรู้อยู่แก่ใจว่าการกระทำของเขาไม่เหมาะสมเช่นกัน ดังนั้นเหอเฉียนจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าหลินจินจะเป็นเจ้าภาพจัดงานอวยพรสำหรับเทศกาลมังกรหยกในปีนี้ มันเป็นโอกาสดีที่เขาจะสามารถพิสูจน์คุณค่าของเขาในฐานะผู้ประเมินระดับสามได้

ท้ายที่สุดแล้ว เจ้าภาพมักจะเป็นผู้ประเมินระดับสามมาโดยตลอด และหากต่ำกว่านั้นก็หมายความว่าเหตุการณ์อาจจะจบลงด้วยความล้มเหลว

ตราบใดที่หลินจินผ่านพ้นงานนี้ไปได้ จะไม่มีใครพบติฉินนินทาว่าคำสั่งก่อนหน้านี้ของเขาไม่เหมาะสม พวกเขาอาจเริ่มคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดแทนด้วยซ้ำ

เหอเฉียนได้ทำการตรวจสอบและพบว่าหลินจินเก่งแค่ไหนในการประเมินสัตว์วิเศษ ถึงการได้รับเลือก 'ศิลามังกรห้วงนิทรา' เป็นครั้งแรกในรอบหลายร้อยปี แม้ว่ามันจะเป็นความท้าทาย แต่ก็เป็นโอกาสดีเช่นกัน

ดังนั้น เหอเฉียนจึงวางแผนที่จะดูว่าหลินจินจะตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างไร หากฝ่ายหลังแสดงท่าทีวิตก เหอเฉียนจะไม่บังคับให้เขาแสดงบทบาทของเขาต่อไป เขาก็แค่ต้องทำการเสี่ยงทายอีกรอบเท่านั้น ถึงคนอื่น ๆ จะไม่พอใจ แต่เขาเป็นถึงจักรพรรดิก็ไม่มีใครกล้าต่อว่าอะไรเขาอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี หลินจินไม่สะทกสะท้านกับประกาศนี้

เขาไม่ได้พบว่ามันน่าหนักใจ และเขาก็ไม่หวาดกลัวหรือวิตกกังวลด้วยซ้ำ ปฏิกิริยาของเขาราวกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น

แต่ทว่า นอกจากเขาแล้ว ตันซุนและคนอื่น ๆ กำลังขับเหงื่อออกมาเป็นถังแล้ว

เรื่องที่ฝ่าบาททรงเสี่ยงทายศิลามังกรห้วงนิทราเริ่มแพร่สะพัดราวกับไฟป่า ตันซุนมองไปเห็นคนอย่างน้อยห้าคนที่ยืนอยู่บนกระเบื้อง เขาพบว่ามีสัตว์วิเศษระดับสองอย่างน้อยสองตัว

แม้ว่าตันซุนจะมีประสบการณ์มากเพียงใด แต่การยกระดับพวกมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล เพราะกฎกำหนดไว้ว่าหลินจินต้องพัฒนาสัตว์วิเศษเหล่านี้ทันที หากหลินจินทำไม่ได้ เขาจะต้องอับอายอย่างถึงที่สุด

ในอดีตก็มีผู้ประเมินที่ล้มเหลวเช่นกัน ความล้มเหลวของพวกเขามักจะทำให้พวกเขาตกอยู่ในความสิ้นหวัง ทำลายผู้มีความสามารถจำนวนมากที่ไม่สามารถแสดงได้ในเวลาที่เหมาะสม

ความล้มเหลวสามารถเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะสุ่มได้กระเบื้องแผ่นเดียวก็ตาม แต่คราวนี้มีสัตว์วิเศษถึงห้าตัว และจากสิ่งที่ตันซุนบอกได้ มีสัตว์วิเศษที่มีความท้าทายสูงอยู่สองสามตัว แม้ว่าตันซุนจะถูกปล่อยให้ดำเนินการวิวัฒนาการภายในสำนักงานใหญ่ แต่เขาอาจต้องใช้เวลาเตรียมการหลายวัน และถึงอย่างนั้น ก็ไม่รับประกันความสำเร็จ

ตอนนี้ การพัฒนาสัตว์วิเศษที่แตกต่างกันห้าตัวที่มีลักษณะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างพิธีกรรมนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

'ไม่ดีแล้ว'

ในขณะที่ ตันซุนมีความคิดเช่นนั้น ก็มีคนที่สะใจกับความโชคร้ายของหลินจินด้วยเช่นกัน

เมื่อหยู่หมานถังทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว เขาก็เริ่มส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจากภายใน

‘ฮ่าฮ่าฮ่า! หลินจินเอ๋ย! ดูเหมือนว่าความรุ่งโรจน์ของเจ้าจะสิ้นสุดลงแล้ว ข้าแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นว่าเจ้าจะรับมือกับเรื่องนี้ได้แย่ขนาดไหน พวกมันล้วนเป็นสัตว์เลี้ยงระดับสูง และการไปถึงสวรรค์นั้นง่ายกว่าการยกระดับพวกมัน! โชคของเจ้าแย่มากที่สุ่มได้กระเบื้องอันนี้!’

แน่นอนยังมีคนให้ความสนใจด้วยเช่นกัน

เหล่าขุนนางและราชวงศ์ก็เริ่มกระซิบกันเช่นกัน พวกเขาต่างตื่นเต้นที่ได้เห็นหลินจินทำพลาดต่อหน้าทุกคน เพราะมันจะเป็นการแสดงที่สนุกสนานมากทีเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด