ตอนที่ 665 แผนอื่น
ภายในสนามประลองของรายการทองคำ
“ผมไม่คิดเลยว่า ลูกศิษย์ของท่านหลี่ฟานจะท้าทายผมแบบนี้”
“นอกจากนี้ ความรู้สึกของการได้มีชีวิตอยู่ มันเป็นสิ่งที่ดีมากจริงๆ”
“ผมหวังจริงๆ ว่าผมจะสามารถรักษาร่างกายนี้ และไปหาลูกชายของผมได้”
มินาโตะมองไปที่ซามุยที่กำลังยืนอยู่ตรงข้ามเขาด้วยใบหน้าที่สงบ
จากนั้นเขาก็รู้สึกถึงร่างกายของตัวเองดีๆ อีกครั้ง และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่พบว่า เขาสามารถสัมผัสได้ถึงเก้าหางที่อยู่ในตัวเขา
‘เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ ที่ 9 หางอยู่ในร่างของผม?’
‘ถ้าอย่างนั้น ความแข็งแกร่งของผมในช่วงที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือ ในคืนที่เกิดเหตุการณ์ของเก้าหางใช่ไหม’
‘ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็จะทำให้ผมมีความหวังมากขึ้น ในการเอาชนะลูกศิษย์ของท่านหลี่ฟาน’
‘ตราบใดที่ซามุยคนนี้ ไม่ใช่คนที่บิดเบือนเหมือนกับปากุระ’
มินาโตะเม้มปากของตัวเอง และมองซามุยด้วยสายตาที่ระมัดระวังอย่างช้าๆ
ท้ายที่สุด เธอก็เป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟาน และเขาก็ไม่คิดว่าหลี่ฟานจะสอนซามุยให้ใช้ดาบยาวที่มีสายฟ้าสีแดงเท่านั้น บางทีซามุยอาจจะมีความสามารถอื่นๆ อยู่
‘งั้นเรามาลองดูกันก่อน’ นัยน์ตาของมินาโตะเต็มไปด้วยความมั่นใจ
หลังจากหมดเวลาการนับถอยหลัง เขาก็หยิบคุไนที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ ‘วิชาเทพสายฟ้าเหิน’ ออกมา แล้วโยนมันไปรอบๆ ซามุย
“ถ้าอย่างนั้นผมจะเริ่มแล้วนะครับ คุณซามุย”
มุมปากของมินาโตะถูกยกขึ้น และแสดงรอยยิ้มที่สดใสให้กับซามุย
ถ้านี่มันไม่ใช่ฉากที่ผิด หลายคนคงคิดว่าซามุยและมินาโตะเป็นเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี
“นายไม่ได้เริ่มไปแล้วงั้นเหรอ?” ซามุยมองคุไนที่อยู่รอบๆ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยคำบ่นเกี่ยวกับมินาโตะ
“อ่า ดูเหมือนว่าจะมันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า” มินาโตะลูบหลังศีรษะและพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณซามุย คุณไม่จำเป็นต้องเอาดาบยาวที่เคยใช้ปราบไรคาเงะรุ่นที่สามออกเหรอครับ?”
“ไม่จำเป็น” ซามุยดึงดาบสั้นออกมาจากเอวของเธอ
“ถ้าคู่ต่อสู้เป็นนาย ฉันก็คงต้องใช้แผนอื่น!”
“แผนอื่น?”
ในขณะที่มินาโตะกำลังงุนงง ซามุยก็ยกมือซ้ายขึ้น และมีโดมพลังงานโปร่งแสงกระจายออกไปรอบตัวเธอ โดยที่มีเธอเป็นจุดศูนย์กลาง
เมื่อเห็นฉากนี้ มินาโตะก็ตื่นตัวทันทีและโยนคุไนสองอันไปที่โดมพลังงานที่ใกล้เข้ามา
อย่างไรก็ตาม คุไนได้เจาะผ่านโดมพลังงานที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยตรง โดยไม่ทำให้อะไรผิดปกติกับโดมพลังงานสักนิด
มินาโตะขมวดคิ้ว เขาขว้างคุไนไปข้างหลัง และใช้วิชาเทพสายฟ้าเหินไปปรากฏตัวในตำแหน่งของคุไน
ความคิดของเขาง่ายมาก นั่นคือ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปในห้องผ่าตัด (รูม) ของซามุย
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบผลของโดมพลังงานนี้ แต่ความระมัดระวังของมินาโตะในฐานะโฮคาเงะ ก็ทำให้เขารู้สึกว่าหลังจากเข้าไปในโดมพลังงานแล้ว สิ่งเลวร้ายจะรอเขาอยู่
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าความคิดของมินาโตะจะดี แต่มันก็ไม่ง่ายนักที่จะสามารถใช้งานได้
ดวงตาของซามุยหรี่ลง และโดมพลังงานโปร่งแสงก็ยังคงขยายตัวออกไป
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ขอบเขตของโดมพลังงานก็ขยายเกือบทั่วสนามประลองทั้งหมด
ไม่ว่ามินาโตะจะเร็วแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าไปใน ‘รูม’ ของซามุยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่ขอบสนามประลอง มินาโตะหมอบขาของเขาลง ในขณะที่ชี้คุไนไปด้านหน้าเขา และรู้สึกถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบด้วยความตื่นตัวอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันการโจมตีที่เป็นไปได้
“แปลก ทำไมผมถึงไม่รู้สึกได้ถึงอะไรเลย?” มินาโตะขมวดคิ้ว
…
[ไรคาเงะ รุ่นที่ 3 เอ: นี่คืออะไร? ดูเหมือนจะไม่มีพลังโจมตีใดๆ เลย? ]
[มิซึคาเงะ รุ่นที่ 2 โฮซึกิ เก็นเงสึ: เป็นลางสังหรณ์บางอย่างของภาพลวงตาหรือเปล่า? ]
[ซึจิคาเงะ รุ่นที่ 3 โอโนกิ: ซามุยไม่เคยใช้ความสามารถนี้ของเธอ ในการต่อสู้กับไรคาเงะรุ่นที่สามมาก่อน เธอเตรียมมันไว้สำหรับโฮคาเงะรุ่นที่สี่เป็นพิเศษหรือไม่? ]
[คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 มาจิ: หากเป็นกรณีนี้ เธอก็คงใช้ความสามารถนี้เพื่อป้องกันวิชาเทพสายฟ้าเหินของโฮคาเงะรุ่นที่สี่ เป็นไปได้ไหมที่ซามุยสามารถรับรู้วิถีการเคลื่อนที่ของโฮคาเงะรุ่นที่สี่ในพื้นที่นี้ได้? ]
[โฮคาเงะ รุ่นที่ 2 เซนจู โทบิรามะ: มันสามารถทำนายวิถีการเคลื่อนที่ของ ‘วิชาเทพสายฟ้าเหิน’ ได้หรือไม่? แม้ว่าฉันจะไม่ทราบผลของสิ่งนี้ แต่มันก็ควรที่จะใช้พลังงานทางกายภาพของซามุยเป็นจำนวนมาก ]
[โฮคาเงะ รุ่นที่ 1 เซนจู ฮาชิรามะ: เป็นความสามารถที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน และฉันก็สงสัยเล็กน้อยว่าซามุยจะทำอะไรต่อไป? ]
“นายจะมองแบบนั้นอยู่ต่อไปงั้นเหรอ ประกายแสงสีทอง??” ซามุยก้าวไปทางมินาโตะ น้ำเสียงในปากของเธอค่อนข้างเย็นชา
…