ตอนที่ 18 พลังงานหยางมากเกินไป
บ้ายวันต่อมา เย่อันผิงยังนอนหลับสบายใจตอนเสี่ยวเตี๋ยวิ่งมาปลุกเขา เขาถูกจับโป๊ะแป้ง หวีผมและแต่งตัว และโดยไม่ได้ทำอะไร เขาก็กลายเป็นนายน้อยสูงส่ง
ในวันปกติ ในสำนักร้อยดอกบัว เขาจะสวมชุดแขนยาวผ้าลินิน ส่วนผมก็จะมัดเป็นหางม้า เขาไม่ชอบสวมเครื่องประดับ ถ้ามันไม่ใช่เพราะศิษย์ทั้งหมดจำหน้าเขาได้ พวกเขาคงมองเขาเป็นชายหนุ่มจนๆ
แต่ตอนนี้ ด้วยชุดที่เสี่ยวเตี๋ยจับเขาแต่ง สุดท้ายเขาจถึงเหมือนนายน้อยตระกูลเซียน ลวดลายเมฆดำบนแขนเสื้อและท่วงท่าสูงส่ง และบริสุทธิ์ การออกไปข้างนอกต้องทำให้เขาตกเป็นเป้าพ่อค้ามนุษย์แน่
อีกด้าน เสี่ยวเตี๋ยปิดปากและยิ้ม“นายน้อย ท่านดูดีมาก แม้กระทั่งข้าก็ยังอยากกระโจนใส่ท่านเลย”
เย่อันผิงมองตัวเองในกระจกและถอนหายใจ“ผู้อาวุโสสำนักดาวดำมาถึงหรือยัง?”
“เจ้าค่ะ ผู้อาวุโสหวังกำลังเล่นหมากกับท่านประมุข ท่านประมุขขอให้ข้ามาจับท่านแต่งตัวและเข้าร่วมการดื่มชายามบ่าย”
“อืม ข้ารู้”
เย่อันผิงเข้าใจเจตนาพ่อเขา เขาน่าจะอยากให้เขาแสดงความสามารถต่อหน้าผู้อาวุโสสำนักดาวดำและถ้ามีโอกาสจะได้พาเขากลับไป
แม้ความคิดของพ่อเขาจะดี มันก็น่าอับอายที่สำนักร้อยดอกบัวไม่มีเคล็ดบ่มเพาะที่สืบทอดต่อกันมา แถมยังไม่เคยให้กำเนิดผู้บ่มเพาะที่มีชื่อเสียง
ตำแหน่งนายน้อยของสำนักร้อยดอกบัวแทบไม่มีค่าอะไร
หลังแต่งตัว เสี่ยวเตี๋ยก็ห้อยพู่ทองและหยกบนเข็มขัดเขา พาเขาไปศาลาสวรรค์ เย่อันผิงไม่อยากทำให้พ่อขายหน้า หลังเข้าไป เขาเลยทำตามคำแนะนำของเสี่ยวเตี๋ย คารวะเย่อาวกับชายชราผมขาว จากนั้นก็ริเริ่มรินชาให้
หลังรินน้ำชาอยู่ชั่วโมง หาวเป็นสิบครั้ง ทั้งสองถึงจะเล่นหมากเสร็จ
“ผู้อาวุโสหวัง ฝีมือท่านดีจริงๆ ข้าต้องยอมรับ”
“ฮี่ๆ..”ผู้อาวุโสหวังยิ้มและลูบเครา“ประมุขของข้าชอบเรียกข้าไปเล่นกับนางบ่อย ข้ายังชนะหลายครา ถ้าข้าแพ้ประมุขเย่ งั้นประมุขของข้าคงเสียหน้าแล้ว”
“ฮ่าๆ”
เย่อันผิงเหนื่อยจะฟังคนชมกัน เขาเหลือบมองกระดาน รู้สึกอายแทนสองตาแก่
ตอนเขาเรียนในชาติที่แล้ว เขาเข้าร่วมการแข่งขันหมากรุ่นเยาว์และได้ที่หนึ่ง
ในความคิดเขา ฝีมือหมากของทั้งสองคล้ายเด็กอนุบาลสู้กัน
และตาแก่นี่ยังบอกว่าเขาชนะประมุขดาวดำ?หญิงชราที่อยู่มาเป็นพันปีเล่นหมากได้กระจอกขนาดนั้นเลยเหรอ?
หลังทั้งสองคุยธุระกัน ผู้อาวุโสหวังก็มองเย่อันผิงและถาม“ประมุขเย่ ท่านส่งสมุนไพรอายุห้าร้อยปีให้ข้า เดาว่าคงไม่ได้แค่อยากเรียกข้ามาเล่นหมากใช่ไหม?”
“ฮ่าๆ..”เย่อาวหัวเราะ คว้าไหล่ของเย่อันผิง“ผู้อาวุโสหวัง นี่คือลูกชายของข้าที่จะอายุ15ปีนี้ ข้าขอให้ท่านช่วยชี้แนะเขาหน่อยได้หรือไม่?”
“มันง่ายที่จะชี้แนะ แต่..”ผู้อาวุโสลูบเครา“ถ้าคิดจะให้เขาเข้าวงในของดาวดำ งั้นก็ต้องขอโทษด้วย ข้าทำอะไรไม่ได้ ประมุขเย่ ท่านควรรู้ข้อกำหนดของสำนักดาวดำ ศิษย์ชั้นในไม่ใช่สิ่งที่รองผู้อาวุโสอย่างข้าจะส่งผลได้”
“ข้าเข้าใจ.”เย่อาวประสานมือ“แล้วศิษย์ชั้นนอกเล่า?”
“ไม่ใช่ปัญหาที่จะเข้าชั้นนอก แต่ควรรู้ว่าหัวไก่ดีกว่าหางหงส์”ผู้อาวุโสหวังเหลือบมองเย่อันผิง“แทนที่จะให้นายน้อยเย่ไปสำนักดาวดำในฐานะศิษย์สายนอก มันดีกว่าที่จะให้เขาอยู่ในสำนักร้อยดอกบัวในฐานะนายน้อย”
“เช่นนั้น ข้าก็อยากขอให้ท่านช่วยชี้แนะลูกชายข้าหน่อย”
“ได้”ผู้อาวุโสหวังสะบัดแขนเสื้อ กวักมือเรียกเย่อันผิง จากนั้นก็แตะข้อมือสองข้างด้วยนิ้ว
“อืม”
“เขาเป็นยังไง?”
“รากปราณน้ำและไม้ หลอมลมปราณขั้นสามแต่วัย15 สุดยอดจริงๆ แต่..”
ผู้อาวุโสหวังขมวดคิ้ว จิ้มไหล่และต้นขาของเย่อันผิง ตรวจสอบเขาลึกกว่าเดิม เขาอดเหลือบมองเย่อาวและถอนหายใจไม่ได้ ดูเหมือนเย่อาวจะโหดกับลูกชายเขามาก
เขาสามารถสัมผัสได้ว่ากระดูกของเย่อันผิงเพิ่งหัก อวัยวะภายในมีพิษและพลังงานเย็น ไม่น่าแปลกที่แม้จะมีรากปราณคู่ แต่ก็มาถึงระดับนี้ได้ดว้ยวัยเท่านี้
การบ่มเพาะของเด็กนี่ต้องหนักหนา เขากินแมลงพิษไปนับไม่ถ้วนตั้งแต่เด็กเพื่อให้ต้านทานพิษทั้งหมดได้ กระดูกก็ยังกลายเป็นแกร่งผ่านการหล่อหลอม
เขาประเมินว่าต่อให้อวัยวะกับเส้นชีพจรขาด เขาก็ยังใช้ชีวิตได้อีกสามสี่วันโดยไม่ต้องรับการรักษา
วิธีนี้ดีต่อการบ่มเพาะจริงๆ แต่ในความเป็นจริง มีคนไม่มากที่ทนไว้ ส่วนใหญ่จะตายกัน
แน่นอน เย่อาวไม่รู้ว่าเย่อันผิงฝึกตัวเองยังไง
เขามักปล่อยลูกชายให้ทำตามใจชอบ
เย่อาวถาม“ผู้อาวุโสหวัง เป็นเช่นไร?”
“น่าประทับใจ ท่ามกลางผู้บ่มเพาะรากปราณคู่ที่ข้าเคยเห็น ไม่มีใครสู้เขาได้’
“งั้น..”เย่อาวแปลกใจ“ท่านมีข้อเสนอแนะอะไรไหม?”
เย่อาวคือคนโหดที่ทำให้ลูกชายเดินบนเส้นทางนี้..ผู้อาวุโสหวังได้แต่ลอบด่า จากนั้นก็ยิ้ม“ประมุขเย่ แค่สอนเขาตามวิธีของท่าน ข้าไม่มีอะไรจะพูดถึงวิธีการสั่งสอนของท่าน”
เย่อาวตัวแข็ง ในความประทับใจของเขา สิ่งที่เย่อันผิงทำทุกวันคือรังแกคนอื่น โดยเฉพาะเพ่ยเหลียนเสวี่ย การทรมานเด็กสาวนับเป็นการบ่มเพาะ?แต่ในเมื่อผู้อาวุโสหวังพูดเช่นนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยิ้มรับและพยักหน้า
“ฮ่าๆ...
ผู้อาวุโสหวังถาม”ท่านสอนวิชาอะไรให้เขา.
“เอ่อ..”เย่อาวลังเล เหลือบมองเย่อันผิง
เย่อันผิงถอนหายใจ“พ่อข้าขอให้ข้าเรียนรู้เคล็ดสงบจิตของสำนักแม่น้ำหยางร่วมกับวิชาลับเก้าองค์ประกอบแห่งหัวใจ วิชากระบี่คือกระบี่ซักถามของสำนักกระบี่เงาจันทรา”
“จริงรึ?”ผู้อาวุโสหวังแปลกใจ“ประมุขเย่ ท่านต้องใช้เงินไปมากกับการคิดวิชาเหล่านี้ คนจากสำนักเงาจันทราจะไม่ขายความลับตัวเองถูกๆ”
“อะ..ฮ่าๆ..”เย่อาวเลิกคิ้ว ส่งสายตาให้เย่อันผิง สำนักแม่น้ำหยางอะไร?เก้าองค์ประกอบแห่งหัวใจ?วิชากระบี่ซักถาม?เจ้าไปเรียนรู้จากไหน?”
เย่อันผิงมองเขาตาเปล่า บอกว่าเรียนรู้เอง
ผู้อาวุโสหวังครุ่นคิด นึกย้อนวิชาทั้งหมดที่เย่อันผิงพูดและถอนหายใจ.“งั้น ประมุขเย่ ท่านควรรู้ข้อเสียของการฝึกหลายวิชาพร้อมกันใชไหม?”
“อา..”เย่อาวลังเลและถาม”นี่..โปรดชี้แจง?’
“ไม่ต้องพูดถึงวิชากระบี่ซักถาม มาพูดถึงวิชาของสำนักแม่น้ำหยางและเก้าองค์ประกอบหัวใจ ทั้งสองคือวิชาหยางสุดขั้ว”ผู้อาวุโสหวังพูด“ถ้าฝึกสองวิชานี้พร้อมกัน จะมีพลังงานหยางเกิน ถ้าพลังงานหยางนั้นสะสมในอวัยวะภายในและไม่ระบายออก จะเกิดปัญหาในอนาคตได้”
เย่อาวไม่เข้าใจและถาม“ทำไม?”
“วัย15คือวัยที่เริ่มมองหาคู่”ผู้อาวุโสหวังตบไหล่เย่อันผิง“เขาต้องการการออกกำลังกายที่เหมาะสมและขับไล่พลังงานหยางส่วนเกินออกจากตัว”
“???”
เครื่องหมายคำถามผุดบนหัวสองพ่อลูก
เย่อาวไม่รู้ แม้กระทั่งเย่อันผิงก็ไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาเช่นนี้ เหนือสิ่งอื่นใด เขาฝึกฝนตามเกม
ในเกมมีแต่การรวมทักษะแล้วจึงเกิดผลต่างๆ
ผู้อาวุโสหวังถอนหายใจ.“แต่ถ้าหาคู่ แล้วพิจารณาตามเคล็ดบ่มเพาะของเจ้าแล้ว คู่อาจจะทนทุกข์”
“หมายความว่าอย่างไร?”
“กิจกรรมทางเพศที่มากเกินไปอาจส่งผลต่อไตของทั้งสองฝ่าย วิธีฝึกของเด็กนี่บวกกับสองวิชานี้รวมกัน เว้นแต่เขาจะหาคู่ที่อยู่เหนือกว่าเขาหนึ่งหรือสองระดับ คู่จะต้องหนีไปซ่อนตัวทุกวัน”
ขากรรไกรของเย่อาวตก
สูงกว่าหนึ่งหรือสอง?หมายความว่าลูกชายเขาควรหาผู้หญิงในอาณาจักรแก่นแท้มาเป็นคู่?
นี่..จะไปหาได้ไง?
ตัวเขาเองก็แค่ผู้บ่มเพาะอาณาจักรแก่นแท้เหมือนกัน
และถ้าเย่อันผิงถึงอาณาจักรก่อตั้งรากฐาน เขาก็ควรหาผู้บ่มเพาะวิญญาณแรกก่อตั้งเป็นคู่?
ผู้หญิงอาณาจักรแก่นแท้หรือวิญญาณแรกก่อตั้งจะเต็มใจเป็นคู๋ของผู้บ่มเพาะหลอมลมปราณหรือก่อตั้งรากฐานไหม?
“งั้น เราควรทำยังไง?”
ผู้อาวุโสเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ หลังลูบเครา เขาก็พูด”งั้นก็ได้แต่หาสนมมาช่วยแบ่งเบา
“เช่นนั้น”เย่อาวมองเย่อันผิง พยักหน้า“เจ้าเข้าใจหรือยัง?รีบขอบคุณผู้อาวุโสหวังเร็ว”
“โอ้..”เย่อาวประสานมือ รับก้าวไปเติมถ้วยชา“ขอบ..ขอบคุณผู้อาวุโสหวังสำหรับคำชี้แนะ”
เย่อาวมีความรู้สึกผสมปนเป เขากังวลเรื่องการแต่งงานของเย่อันผิงอยู่แล้ว เสี่ยวเพ่ยโดนเขารังแกทุกวัน และนางน่าจะไม่อยากแต่งกับเขา ทว่า ตอนนี้เขาต้องรับสนมหลายคน นางจะยิ่งไม่เต็มใจหรือเปล่า?
เขาจะไม่จับหญิงธรรมดามาให้ลูกชายเขาเล่น
อืม..ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้
เย่อาวถอนหายใจ“ผู้อาวุโสหวัง จริงๆแล้วมีอีกคนที่ลูกชายข้าอยากจะแนะนำให้ท่าน”
“แนะนำ?”
“อืม มันเป็นเด็กสาวที่ลูกชายข้าช่วยจากผู้บ่มเพาะมารไมกี่วันก่อน นางมีจดหมายแนะนำจากปรมาจารย์ไท่สวี่ ดูเหมือนนางกำลังจะไปสำนักดาวดำ”
“ปรมาจารย์ไท่สวี่?”ดวงตาของผู้อาวุโสหวังเบิกกว้าง“นางอยู่ไหน?”
“นางกำลังพักฟื้น โปรดมากับข้า”เย่อาวลุก มองเย่อันผิง“อันผิง ตามเรามา”
“อืม”