ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 790 ความลับที่ไม่อาจเอ่ยถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 792 ความอัปยศและความมุ่งมั่น (อ่านฟรี)

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 791 ราชามนุษย์เพลิง (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 791 ราชามนุษย์เพลิง (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

หรูซิงตระหนักว่าตนเองสูญเสียความสงบ นางส่ายศีรษะเบาๆ “เช่นนั้นก็ลืมสิ่งที่ข้ากล่าวไปซะ ข้าคงช่วยเจ้าเรื่องนี้ไม่ได้”

หลี่ฉิงซานจมลงสู่ห้วงแห่งความคิด ขณะที่พวกเขาเดินทางไปทางใต้ หรูซิงค่อยๆพูดน้อยลงก่อนจะเงียบไปโดยสิ้นเชิง นางมองไปทางทิศใต้ตลอดเวลา

เมื่อดวงอาทิตย์ตกและดวงดาวกระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า หลี่ฉิงซานก็เปิดปากกล่าว “เรามาถึงภูเขาอำมหิตแล้ว!”

หรูซิงคิดกับตัวเองว่า ‘ข้ากลับมาภาคใต้แล้ว!’

…..

เทือกเขาสีแดงทอดตัวยาวออกไปหลายร้อยกิโลเมตร นี่คือที่ตั้งของภูเขาเพลิงลาวา และมันก็เป็นภูเขาที่กว้างใหญ่ หินบนภูเขาเป็นสีแดงทั้งหมด ไม่มีหญ้าแม้แต่ต้นเดียวแต่มีพืชที่ดูคล้ายกระบองเพชรสีแดงรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเหมือนถ่านกินที่คุกรุ่น

หลี่ฉิงซานกับเสี่ยวอันมองลงมาจากก้อนเมฆเพียงเพื่อที่จะเห็นภูเขาที่ลุกเป็นไฟ

ใจกลางทะเลเพลิงมีภูเขาไฟขนาดใหญ่สูงหลายพันเมตร ธารลาวากลายเป็นหินสีแดงเหมือนไฟไหล

‘ภูเขาทั้งลูกก่อตัวขึ้นจากหินจิตวิญญาณธาตุไฟ หากข้าบ่มเพาะที่นี่ การฝึกฝนคัมภีร์วิหคเพลิงอมตะของข้าจะต้องก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่แปลกใจเลยที่วิหคเพลิงอมตะเคยอาศัยอยู่ที่นี่ในอดีต!’

หลี่ฉิงซานเคยอาศัยอยู่ในบ่อลาวาของภูเขาไฟทางตอนเหนือของมณฑลกู้โจวมาก่อน เขารู้สึกว่ามันค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามมันไม่ใกล้เคียงกับที่นี่เลย

ควันดำลอยจากปากปล่องภูเขาไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า นั่นหมายความว่าภูเขาไฟลูกนี้ยังไม่สงบ ในความเป็นจริงมันปะทุขึ้นตลอดทั้งปี ควันไม่เคยจางหายไปและดูเหมือนอสรพิษขดอยู่บนท้องฟ้า

ธารลาวาไหลออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ มันไหลไปตามเส้นทางที่ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ พวกมันเต็มไปด้วยลวดลายอาคมที่ซับซ้อนซึ่งคอยรวบรวมพลังงานเอาไว้

“นี่เป็นค่ายกลขนาดใหญ่มาก” เสี่ยวอันเกรงว่าหลี่ฉิงซานจะไม่เข้าใจความหมายของนาง ดังนั้นนางจึงกล่าวเสริมว่า “กระทั่งราชาอาณาจักรเยว่จะต้องการยึดครองสถานที่แห่งนี้ด้วยกำลัง เขาก็ต้องจ่ายในราคาที่เท่ากัน”

นางบอกเป็นนัยว่าแม้หลี่ฉิงซานจะเปิดเผยตัวตนในฐานะเป่ยเยว่ มันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะยึดครองภูเขาเพลิงลาวา แม้ความแข็งแกร่งของเขาจะเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนที่ผ่านภัยพิบัติสวรรค์สามครั้งก็ตาม ท้ายที่สุดจุดประสงค์ของค่ายกลรอบๆภูเขาไฟเพลิงลาวาก็เป็นการหยุดคู่ต่อสู้ในระดับนี้

หลี่ฉิงซานพยักหน้า ทั่วทั้งมณฑลกู้โจวมีเพียงเผ่ามนุษย์เพลิงเท่านั้นที่ไม่เกรงกลัวราชาอาณาจักรเยว่และไม่แยแสราชาต้นไทรบรรพกาล แน่นอนว่ามีเหตุผลสำคัญอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

เผ่ามนุษย์เพลิงมีชื่อเสียงด้านอารมณ์รุนแรง พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์นักรบ และพวกเขาก็ครอบครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นการอาศัยอยู่ที่นั่นมาเป็นเวลาหลายพันปี ความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงไม่อาจหยั่งถึง

นอกเหนือจากค่ายกลและราชามนุษย์เพลิง ไม่มีผู้ใดสามารถรับประกันได้ว่าไม่มีราชาองค์อื่นอยู่บนภูเขาเพลิงลาวา

อายุขัยของมนุษย์กลายพันธุ์ไม่สามารถเปรียบเทียบกับปีศาจ แต่มันก็ยาวนานกว่ามนุษย์มาก พวกเขาเกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ หากเปรียบเทียบสายเลือดของเผ่าพันธุ์ต่างๆ มีไม่มากที่สามารถแข่งขันกับพวกเขา

โดยพื้นฐานแล้วพวกเขามีข้อได้เปรียบของทั้งมนุษย์และปีศาจ นี่สามารถเรียกได้ว่าพรจากสวรรค์

เย่หลิวซูและพี่น้องของนางแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นนี้ ท่ามกลางอัจฉริยะที่หลี่ฉิงซานรู้จักในมณฑลชิงโจว ทุกคนยังติดอยู่ในขอบเขตผู้ฝึกตนก่อกำเนิด ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์ครั้งที่สอง อันเอิ้นฉุน พ่อตาของเขาใช้เวลาหลายปีก่อนจะประสบภัยพิบัติสวรรค์ครั้งที่สอง

แม้พี่น้องเผ่ารัตติกาลจะได้รับการสนับสนุนจากหลี่ฉิงซานและคำแนะนำจากราชาต้นไทรบรรพกาล แต่ความเร็วในการบ่มเพาะของพวกนางก็ยังน่าตกใจมาก นอกเหนือจากสามสาวพี่น้องยังมีชนเผ่ารัตติกาลภายใต้การบังคับบัญชาของเขาอีกหลายคนที่ใกล้จะประสบภัยพิบัติสวรรค์ครั้งที่สองแล้วเช่นกัน

แม้แต่ชนเผ่ารัตติกาลทั่วไปก็ยังมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม แน่นอนว่าพวกเขายังไม่สามารถแข่งขันกับตัวตนเช่นฉูเทียนที่มีกายาห้าธาตุและอวี๋จื่อเจียนที่มีกายาหยางพิสุทธิ์

ยิ่งไปกว่านั้นชนเผ่ารัตติกาลเหล่านั้นก็ถูกกดดันอย่างหนักจากราชินีแมงมุมมาหลายปีทำให้พวกเขาไม่สามารถสยายปีก แต่ตอนนี้พรสวรรค์ที่พวกเขาซ่อนไว้เริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้ว

หากหลี่ฉิงซานไม่ตระหนี่เม็ดยา เขาจะได้รับกองกำลังที่ทรงพลังในเวลาไม่กี่ปี นี่คือเหตุผลที่จักรวรรดิต้าเซี่ยทำทุกวิถีทางเพื่อกดขี่เผ่ามนุษย์กลายพันธุ์

ตำนานเล่าว่าในอดีตเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เคยปกครองโลกใบนี้และเป็นที่รู้จักในนามเทพเจ้า พวกเขาก่อตั้งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของตนและกดขี่มนุษย์กับปีศาจ เพียงเมื่อมนุษย์กับปีศาจถูกกดดันจนถึงจุดที่ต้องร่วมมือกัน พวกเขาจึงสามารถโค่นล้มเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์

“ดูเหมือนมนุษย์เพลิงจะเป็นกระดูกที่เคี้ยวยากจริงๆ” หลี่ฉิงซานโบกมือ “แสงสะท้อนส่องสว่างทุกสิ่ง!”

ชิ้นส่วนหกเหลี่ยมของกระดองเต่าจิตวิญญาณรวมตัวกันเป็นทรงกลมรอบตัวเขา ผลึกแก้วทุกชิ้นแสดงรายละเอียดที่หลากหลายของภูเขาเพลิงลาวา เขาเห็นมนุษย์เพลิงต่อสู้และเล่นกันอยู่ในธารลาวา รวมถึงสิ่งปลูกสร้างหยาบๆที่สร้างจากหินสีแดง

หลี่ฉิงซานโบกมืออีกครั้ง ชิ้นส่วนของกระดองเต่าจิตวิญญาณซ้อนทับกันเหมือนกล้องส่องทางไกล มันมุ่งเป้าไปที่ยอดเขา

ในปล่องภูเขาไฟมีเมืองที่งดงามตั้งอยู่บนหน้าผาหิน เส้นทางที่คดเคี้ยวทอดยาวลงไปด้านล่าง มนุษย์เพลิงที่อาศัยอยู่ที่นั่นล้วนเป็นผู้ฝึกตนที่ผ่านภัยพิบัติสวรรค์มาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง จำนวนของพวกเขาเพียงพอที่จะทำให้นิกายใหญ่ทั้งหมดหน้าซีด

วังที่ดูเหมือนแกะสลักจากคริสตัลสีแดงตั้งอยู่ที่นั่นโดยมีเปลวไฟและลาวาพลุ่งพล่านอยู่ด้านล่าง

นั่นคือที่อยู่ของชนชั้นสูงเผ่ามนุษย์เพลิง

“พบแล้ว!”

ดวงตาของหลี่ฉิงซานส่องประกายขึ้น ที่ใจกลางของภูเขาไฟ ต้นอู๋ตงศักดิ์สิทธิ์หยั่งรากลึกลงไปในคริสตัลสีแดงเพลิง เปลือกไม้สีขาวและใบสีแดงทำให้มันดูศักดิ์สิทธิ์

นั่นคือต้นอู๋ตงศักดิ์สิทธิ์ที่วิหคเพลิงอมตะเคยอาศัยอยู่

เพียงมองจากระยะไกล หลี่ฉิงซานก็สัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดแล้ว มันเหมือนนักเดินทางที่กลับบ้านหลังจากหลายปี

เขารู้สึกเหมือนต้นอู๋ตงศักดิ์สิทธิ์กำลังเรียกหาเขา ไม่ ไม่ใช่เขา แต่เป็นวิหคเพลิงอมตะ

“ผู้ใดกล้าสอดแนมภูเขาเพลิงลาวาของข้า!”

เสียงกรุ่นโกรธดังขึ้นในหูของหลี่ฉิงซานราวกับภูเขาไฟระเบิด

ลำแสงสีแดงพุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟราวกับดาวหางตรงมาที่หลี่ฉิงซาน

“ผู้บัญชาการอินทรีย์เงินหลี่ฉิงซาน!” หลี่ฉิงซานยืนกอดอกและระบุชื่อกับตัวตนของเขา เขาถาม “สหาย ท่านคือราชามนุษย์เพลิงจูเยี่ยนใช่หรือไม่?”

ลำแสงหยุดอยู่กลางอากาศอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มเปลือยอกปรากฏขึ้นท่ามกลางเปลวไฟ ใบหน้าของเขาหล่อเหลาและหยาบคายราวกับมันถูกแกะสลักจากหินสีแดง ศีรษะของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวไฟขณะที่เขาถือหอกเพลิงไว้ในมือ เขามองหลี่ฉิงซานด้วยดวงตาสีแดงเพลิงที่ส่องประกายระยิบระยับ

“ราชาอำมหิต?”