ตอนที่แล้วตอนที่ 1484 เป็นไอ้เด็ก หลินฟาน นั่นอีกแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1486 เราเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ.. โปรดมากับเรา

ตอนที่ 1485 ฮัลโหล ช่วยฉันอย่างหนึ่งสิ…


เว่ย เจี้ยนเซิง คิดว่าการเข้าซื้อกิจการของ จินอวี้ กรุ๊ป นั้นมันได้ถูกกำหนดไว้อย่างแน่นอนอยู่ก่อนแล้ว เพราะเขาได้พูดคุยจัดการเรื่องนี้กับ ประธานหลี่, หลี่ เจี้ยนสุ่ย ไปแล้ว

หลี่ เจี้ยนสุ่ย คนนี้ที่ในสมองมีแต่เงิน และแน่นอน.. ผลประโยชน์ที่ เว่ย เจี้ยนเซิง มอบให้กับ หลี่ เจี้ยนสุ่ย มันเป็นสิ่งที่ หยงจิ่ว กรุ๊ป ไม่สามารถมอบให้ได้ หลี่ เจี้ยนสุ่ย เรียกได้ว่ามีความตั้งใจแน่วแน่มากที่จะขาย จินอวี้ ให้กับ วั่นกู่ กรุ๊ป

แต่.. เว่ย เจี้ยนเซิง ไม่เคยคาดคิดเลยว่าในเวลานี้อุบัติเหตุมันจะเกิดขึ้นจริงๆ เหตุผลที่เรียกว่า ‘อุบัติเหตุ’ นั้นเพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน

หลี่ จื่อเสีย กลับมาแล้ว? !

ลูกสาวของ หลี่ หวยซาน หลี่ จื่อเสีย ..เดิมทีเธอเป็นทายาทของ จินอวี้ กรุ๊ป แต่แล้วก็ได้หายตัวไป และไม่เคยมีใครพบ คนส่วนใหญ่ได้คิดว่า หลี่ จื่อเสีย อาจเสียชีวิตลงไปแล้วเช่นกัน เพียงแต่ไม่พบศพของเธอ..

หลังจากนั้น หลี่ เจี้ยนสุ่ย ก็เข้ามาเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของ หลี่ จื่อเสีย  แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นทายาทของทรัพย์สินที่ว่านี้แล้ว ถ้าหาก หลี่ จื่อเสีย ไม่เคยปรากฏตัว งั้นทรัพย์สินที่ว่านี้หากจะบอกว่าเป็นของ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ก็ไม่เห็นว่า แตกต่างอะไร…

ดังนั้น เว่ย เจี้ยนเซิง จึงเชื่อว่าตราบใดที่ หลี่ เจี้ยนสุ่ย เข้าจัดการ เขาเองก็สามารถรับ จินอวี้ กรุ๊ป มาอยู่ในมือได้

แต่.. ใครจะคิดว่า หลี่ จื่อเสีย ที่ได้หายตัวไปนานจะปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ในเวลานี้?

หลินฟาน!

มันเกี่ยวข้องกับ หลินฟาน อีกแล้ว!

เว่ย เจี้ยนเซิง ดูเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าทำไม หลินฟาน ถึงหายตัวไปในช่วงเวลาหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะไปตามหา หลี่ จื่อเสีย และเขาก็ได้พบเธอตามที่คาดหวังเอาไว้จริงๆ

เมื่อไรก็ตามที่ เว่ย เจี้ยนเซิง รู้สึกว่าตัวเองทำได้ดี เขาก็จะพบว่า หลินฟาน ทำได้ดีกว่า และคิดได้รอบคอบกว่าเขา และหลินฟาน มักจะเดินนำหน้าเขาอยู่เสมอ

เว่ย เจี้ยนเซิง รู้สึกเกลียดมัน!

ตอนนี้ หลี่ จื่อเสีย กลับมาแล้ว และทันทีที่เธอกลับมา เธอก็เข้ายึดครองหุ้นในมือของเธอคืนจาก หลี่ เจี้ยนสุ่ย และขึ้นนั่งในตําแหน่งประธาน

หลี่ จื่อเสีย ถูกค้นพบโดย หลินฟาน หลังจากเธอเข้าควบคุมบริษัทแล้ว เธอจะต้องขายบริษัทให้กับ หยงจิ่ว กรุ๊ป อย่างแน่นอน

ห่านเอ้ย.. เขาพ่ายแพ้อีกแล้ว!

วันนี้ เว่ย เทียนเฉิง ได้สั่งให้ เว่ย เจี้ยนเซิง จัดการให้ดีเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ จินอวี้ กรุ๊ป, แต่ตอนนี้จู่ๆ หลี่ จื่อเสีย ก็โผล่ออกมา ทำให้ เว่ย เจี้ยนเซิง ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้, ผลพวงของความพ่ายแพ้ เว่ย เจี้ยนเซิง จะต้องโดน เว่ย เทียนเฉิง ดุด่าอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ เว่ย เจี้ยนเซิง ไม่อยากจะเห็น และในเรื่องนี้มันจะไม่ทำให้เขา เว่ย เจี้ยนเซิง รู้สึกโกรธขนาดนี้ไปได้ยังไง?!

ด้วยความโกรธ เว่ย เจี้ยนเซิง จึงได้พูดความในใจที่ชั่วร้ายของเขาออกไป

เขาหวังว่า หลี่ จื่อเสีย จะตาย!

แน่นอน ถ้า หลี่ จื่อเสีย ตาย หลี่ เจี้ยนสุ่ย ก็สามารถขึ้นมาเป็นทายาทได้ งั้นเขาก็สามารถเอาชนะ หลินฟาน ได้

หลังจากพูดประโยคนี้ไป เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้วางสายไปด้วยความโกรธในทันที

หลี่ เจี้ยนสุ่ย ถือมือถือของเขาในมือ ในใจของเขาก็รู้สึกไม่ดี.. บอกตามตรงในเวลานี้เขารู้สึกแย่มาก

คําพูดของ เว่ย เจี้ยนเซิง เมื่อกี้นี้ ..หมายความว่าอย่างไร?

หวังว่า หลี่ จื่อเสีย จะตาย เหรอ?

ปัญหาคือ ตอนนี้ หลี่ จื่อเสีย ไม่ใช่คนตายนะสิ เธอยังเป็นคนเป็นๆ ที่ยังมีชีวิต แต่ในความหมายนี้ หมายถึง.. ให้เขาฆ่า หลี่ จื่อเสีย หรือไม่กัน?

แม้ว่า หลี่ เจี้ยนสุ่ย จะหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ หลี่ จื่อเสีย ตาย แต่ในความเป็นจริงที่ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ได้ยื่นคําร้องต่อศาลมากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อตัดสินว่า หลี่ จื่อเสีย เสียชีวิต จุดประสงค์ของเรื่องนี้มันไม่มีอะไรมากไปกว่าการสืบทอดทรัพย์สินของ หลี่ หวยซาน อย่างเป็นทางการ แต่ถ้าจะให้เขาฆ่าคน เขาก็ใช่ว่าจะมีความกล้าหาญนี้ได้จริงๆ เพราะเขาแค่รักเงิน และไม่ใช่ต้องการเป็น ..อาชญากร

กริ๊งๆ กริ้งๆ กริ๊ง...

ไม่นานหลังจากนั้น เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ได้โทรเข้ามาอีกครั้ง

“ขอโทษที เมื่อกี้นี้ฉันตื่นเต้นไปหน่อย คุณหลี่ ฉันต้องขออภัยจริงๆ” เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าว

หลี่ เจี้ยนสุ่ย ยิ้มแล้วกล่าวว่า : “ไม่เป็นไร มันไม่สำคัญ คุณเว่ย และผมเข้าใจอารมณ์ของ คุณเว่ย เป็นอย่างดี”

เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “คุณรู้ไหม เราต้องการเข้าซื้อกิจการของ จินอวี้ กรุ๊ป จริงๆ และด้วยการขาย จินอวี้ กรุ๊ป ให้กับเรา คุณก็สามารถบรรลุผลประโยชน์สูงสุดได้.. อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นสิ่งที่ดีสําหรับฉัน และคุณ ตอนนี้ หลี่ จื่อเสีย กลับมาแล้ว มันจึงไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อเรา โดยรวมแล้ว คุณยังเป็นผู้ที่ขาดทุนมากที่สุด ท้ายที่สุดแล้วที่เราต้องการซื้อ จินอวี้ กรุ๊ป นั้นมันเป็นเพียงโครงการลงทุน แต่เมื่อการลงทุนนี้ไม่สามารถทําได้ แน่นอนมันก็ย่อมทำให้เราไม่พอใจบ้าง แต่ปัญหาก็ไม่ใช่ว่าใหญ่นัก เรายังสามารถหาทางเลือกอื่นได้อยู่ แต่แล้ว คุณหลี่ กลับเป็นคุณที่ขาดทุนนับไม่ถ้วน และแทบที่จะประเมินค่าความเสียหายไม่ได้..”

คําพูดนี้ เหยียบหัวแม่เท้าสร้างความเจ็บปวดให้กับ หลี่ เจี้ยนสุ่ย มากจริงๆ

เว่ย เจี้ยนเซิง พูดต่อว่า : “คุณหลี่ ลองคิดดูสิ ในอดีตคุณเป็นคนดูแล จินอวี้ กรุ๊ป และจินอวี้ กรุ๊ป ตกต่ำลงจากบริษัทเทคโนโลยีที่ค่อนข้างดีจนมาถึงจุดที่จะต้องขายออกไป แม้ว่า คุณหลี่ จะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว.. แต่คุณคิดหรือว่า หลี่ จื่อเสีย จะไม่ตําหนิคุณ? พอเธอกลับมาเธอก็เข้ายึดอํานาจ นี่ก็คือเธอไม่พอใจคุณอย่างรุนแรง และแน่นอนว่าขั้นต่อไป เธอจะชําระบัญชีกับคุณ ถึงตอนนั้นคุณก็จะต้องสูญเสียเงินทองออกไปมากมาย หรือหากมากกว่านั้น ..คุณอาจจะสูญเสียทุกอย่างไป!”

หลี่ เจี้ยนสุ่ย ได้มีเหงื่อเย็นๆ ไหลตกลงมาจากหน้าผาก

อันที่จริงแล้ว.. ในการประชุมวันนี้ เขาถือได้ว่าฉีกหน้ากับ หลี่ จื่อเสีย ..แล้ว

และหลังจาก หลี่ จื่อเสีย เข้าดูแลบริษัท เธอจะปล่อยเขาไปได้ไหม.. หรือต้องการคิดบัญชีกับเขาในทันที ไม่ หลี่ จื่อเสีย ได้ขอให้เขาเสนอรายงานการดูแลในเช้าวันพรุ่งนี้!

หลี่ เจี้ยนสุ่ย รู้สึกผิดขึ้นมา นั่นเพราะเขาทำสิ่งที่โง่เขลาลงไปมากมายในตอนที่เขาเข้าดูแลบริษัท

อาจกล่าวได้ว่า ความเสื่อมถอยของ จินอวี้ กรุ๊ป ด้านหนึ่งมันเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตลงไปอย่างกะทันหันของ หลี่ หวยซาน และมันจริงอยู่ที่หลังจากการเสียชีวิตของ หลี่ หวยซาน มีลูกค้าจำนวนมากได้สูญเสียความมั่นใจ ต่างขอยุติความร่วมมือ ทำให้ธุรกิจของ จินอวี้ กรุ๊ป ตกต่ำลง

แต่ก็มีเหตุผล เพราะสาเหตุส่วนใหญ่ เป็นเพราะแผนการดําเนินการต่างๆ ของ หลี่ เจี้ยนสุ่ย…

หลายคนเคยมีความคิดแบบนี้ที่ว่า เมื่อคุณไม่มีเงิน คุณก็จะจินตนาการว่า ถ้าคุณมีเงินก้อนใหญ่ คุณจะใช้จ่ายมันออกไปอย่างไร และจะลงทุนอย่างไรกับมัน ดอกเบี้ยเงินต้นบวกดอกเบี้ย ทําให้ทรัพย์สินของคุณเติบโตมากขึ้น.. และนำดอกเบี้ยไปลงทุนซ้ำๆ

หลี่ เจี้ยนสุ่ย ก็เคยคิดแบบนี้มาก่อน แต่ด้วยความสามารถของเขานั้นไม่สามารถตอบสนองจินตนาการของเขาได้เลย

เพราะพออยู่ดีๆ เขาก็มีโอกาส ได้เข้าดูแลบริษัท และดูแลเงินทุนจำนวนมาก และแน่นอนนี้ทำให้เขาเริ่มต้นลงทุน ปีที่ผ่านมาเขาลงทุนไปเยอะมาก

แต่การลงทุนทั้งหมดนี้ ล้มเหลวทั้งหมด ซึ่งเร่งความเสื่อมถอยของ จินอวี้ กรุ๊ป โดยตรง

เพื่อเติมเต็มช่องว่างที่เขาลงทุนไป หลี่ เจี้ยนสุ่ย ก็จำเป็นต้องรื้อกําแพงด้านตะวันออกเพื่อเสริมกําแพงด้านตะวันตก เขายังขายคฤหาสน์มูลค่าหลายร้อยล้านของ หลี่ หวยซาน ออกไปในราคาที่ถูกอีกด้วย

และลองนึกภาพดูว่าถ้าเข้ารายงานการดำเนินการแบบนี้ไป และมันถูกนำเสนอต่อหน้า หลี่ จื่อเสีย ไปตามความจริง หลี่ จื่อเสีย จะคิดอย่างไร และจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรต่อไป

ไม่จําเป็นต้องรู้ทั้งหมด หลี่ จื่อเสีย จะไม่มีวันยินยอมปล่อยเขาไปแน่!

นี่คือในอีกแง่มุมหนึ่ง

ในทางกลับกัน ดังที่ เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าว ความสูญเสียในครั้งนี้ของเขาอาจจะมหาศาลจนประเมินค่าไม่ได้

จริงๆ แล้ว หลังจากที่ หลี่ จื่อเสีย กลับมา เขาที่ได้คืนหุ้นในมือให้กับเธอ และบริษัทก็มีแนวโน้มที่จะต้องถูกขายออกไปให้กับ หยงจิ่ว

เงินที่ วั่นกู่ ได้สัญญาไว้ในก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่สามารถได้รับ ความปรารถนาของเขาที่จะหาเงินก้อนสุดท้ายนั้นมัน.. ล้มเหลวโดยตรง!

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น มันเป็นเพราะการปรากฏตัวของ หลี่ จื่อเสีย

ใครบอกว่ามีเพียง เว่ย เจี้ยนเซิง เท่านั้นที่หวังว่า หลี่ จื่อเสีย จะตาย ตอนนี้ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่า ถ้า หลี่ จื่อเสีย ตายไปจริงๆ ทุกอย่างที่เขาคิดไว้ก็จะประสบความสำเร็จ!

“คุณหลี่ อย่าได้เข้าใจผิดนะ เหตุผลที่ฉันโทรหาคุณอีกครั้งนั้น ฉันไม่ได้ขอให้คุณทําอะไร และฉันแค่โทรมาเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์กับคุณ ฉันเองรู้สึกเสียใจที่เราไม่สามารถร่วมมือกันได้ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า ฉันต้องการให้คุณทําพฤติกรรมที่รุนแรง และฉันหวังว่า คุณหลี่ จะไม่ทําอะไรที่ดูจะรุนแรงเกินไป และอีกอย่างถ้าไม่มีอุบัติเหตุใดๆ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ คุณหลี่ และฉันจะได้โทรหากัน น่าเสียดายจริงๆ คุณหลี่ การกลับมาของ หลี่ จื่อเสีย ฉันกลัวว่าฉันจะทําได้เพียงแค่ถอนตัวออกจากการแข่งขัน…”

เมื่อ เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวจบ เขาก็ได้วางสายไป

มือของ หลี่ เจี้ยนสุ่ย ที่จับโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นเริ่มที่จะสั่นมากขึ้น แม้ว่า เว่ย เจี้ยนเซิง จะอ้างว่าหวังว่าเขาจะไม่ทําสิ่งที่รุนแรงเกินไป แต่คําพูดของ เว่ย เจี้ยนเซิง กลับทําให้เขาอยากที่จะทําสิ่งที่รุนแรง ..อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

หลี่ เจี้ยนสุ่ย เริ่มรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น หลังจากคิดอยู่นาน หลี่ เจี้ยนสุ่ย ก็ได้เช็ดเหงื่อเย็นๆ บนใบหน้าออก หยิบยกโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรออกไป..

“ฮัลโหล ช่วยฉันอย่างหนึ่งสิ…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด