ตอนที่แล้วตอนที่ 14 เหมือนกวางน้อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 น้องสาวของขึ้น

ตอนที่ 15 ความคิดของแต่ละคน


เย่อันผิงนั่งใต้ต้นไม้ หอบหายใจหนัก ใบหน้าแดงก่ำ ชุดเปื้อนเหงื่อ ถ้าเขาบิดมัน มันคงเติมได้หลายชาม

เทียบกับเขาที่เหนื่อยจนหมดสภาพ เพ่ยเหลียนเสวี่ยที่เป็นคู่ซ้อมมีเหงื่อไม่กี่เม็ดเท่านั้นบนหน้าผาก เห็นได้ชัดว่านางยังไม่เอาจริง

จริงๆแล้ว เย่อันผิงรู้นานแล้วว่าเขาจะไม่สามารถเป็นคู่ฝึกซ้อมนางได้อีก แต่ก็ยังไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้

เดินบนถนนเดียวกัน ช่องว่างระหว่างอัจฉริยะกับตัวประกอบกว้างจริงๆ

แต่ เขาไม่รู้สึกท้อ แต่กลับรู้สึกเหมือนทำอะไรสำเร็จ ราวกับน้องสาวเขาได้ดตขึ้น ดูสิ นี่คือสิ่งที่ข้าสั่งสอนนาง ดูสิว่านางเก่งแค่ไหน!

น่าเสียดายที่ความรู้สึกนี้มาถึงทางตัน

ไม่ว่าจะเป็นสำนักร้อยดอกบัวหรือเย่อันผิง เขาไม่มีทรัพยากรจะไปเลี้ยงนาง

นางมีรากปราณน้ำเดี่ยวแสนหายากที่มีข้อกำหนดจำกัดมากเรื่องเคล็ดบ่มเพาะและสภาพแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้น นางบรรลุระดับหลอมลมปราณขั้นสมบูรณ์แล้วและกำลังจะเข้าอาณาจักรก่อตั้งรากฐานในไม่ช้า

เมื่อนางเข้าขั้นนั้น มันต้องใช้หินปราณหรือต้องการพลังงานเย็นสุดขั้ว ทุกสิ่งจะเพิ่มขึ้นเท่าทวี เวลานั้น เว้นแต่เย่อันผิงจะให้พ่อของเขายกทรัพยากรบ่มเพาะทั้งหมดของสำนักให้นาง นางจะก้าวหน้าช้า

พอคิดแบบนี้ เขาก็นึกถึงเกมมือถือเหล่านั้นที่เขาเล่นในอดีต ยิ่งตัวละครหายาก วัสดุสำหรับฝึกก็ยิ่งแพง ถ้าตัวเอกอย่างเฟิงหยูเตี๋ยคือตัวละครssr งั้นเพ่ยเหลียนเสวี่ยก็คือur

“อา ข้าจ่ายไม่ไหวหรอก…”

“ไม่ไหวอะไร?”เพ่ยเหลียนเสวี่ยเก็บกระบี่ คุกเข่าด้านหลังเขาและนวดไหล่เขา“พี่ พี่อยากเลี้ยงสัตว์เหรอ?ทำไมเราไม่ไปตลาดกันละ ครั้งก่อนข้าเห็นคนขายนกสวยๆด้วย”

“ไม่ไม่ ข้าไม่ได้สนใจ”เย่อันผิงส่ายหัว”ข้าหมายความว่า ในไม่ช้า ข้าคงสนับสนุนเจ้าไม่ได้อีกแล้ว’

เพ่ยเหลียนเสวี่ยพองแก้ม คิดว่าเขาต้องเทียบนางกับสัตว์เลี้ยง แต่ในความคิดที่นางการเป็นสัตว์เลี้ยงของพี่ชายก็ดีมาก นางเลยพูดติดตลก“ทำไมจะเลี้ยงไม่ได้?ข้าเลี้ยงง่ายจะตาย แค่ต้องมีที่นอน อาหารสามมื้อ คอยเลี้ยงและกอดข้าบ้าง ข้าเลี้ยงง่ายกว่าสัตว์ตัวน้อยและพืชอีก”

พอได้ยินคำพูดนาง เย่อันผิงก็ถอนหายใจและพูดตรงๆ”ข้าต้องใช้หินปราณจำนวนมากไปกับเจ้าตลอดหลายปีมานี้’

“มากแค่ไหน?ข้าจะคืนให้หมดเลย ข้าเก็บไว้เยอะมาก”

“กระปุกหมูน้อยของเจ้าจะไปมีสักแค่ไหนกัน?”เย่อันผิงยักไหล่ คิดสักพัก“ถ้าให้ข้าคำนวณ ข้าใช้กับเจ้าไปอย่างน้อยห้าหมื่นก้อน”

“หะ?ห้า..ห้าหมื่น?”

“หนึ่งในยาที่เจ้ามักดื่มคือ’ดอกบัวน้ำแข็งดำ’ ที่ตลาด ต้นหนึ่งมีราคาห้าหรือหกร้อยหินปราณ เจ้ากินยานี้ตั้งแต่เจ็ดขวบและต้องใช้ 12 ต้นต่อปี บวกกับอย่างอื่น ห้าหมื่นยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

เพ่ยเหลียนเสวี่ยตกใจ นางรู้ว่าพี่ชายนางมอบยาให้นางทุกวัน แต่นางคิดว่ามากสุดแค่ไม่กี่พันหินปราณเท่านั้น ไม่คิดว่าเขาจะให้นางมากขนาดนี้

พอเห็นสีหน้านาง เย่อันผิงก็พูดติดตลก“ข้าใช้หินปราณไปกับเจ้าเยอะขนาดนี้ เจ้าต้องพูดว่าไง?”

“อา..”เพ่ยเหลียนเสวี่ยเม้มปากอย่างไม่สบายใจ คิดสักพักก่อนตาจะเป็นประกาย“พี่ พี่คิดว่าข้ามีค่าเท่าไร?ข้าจะเขียนสัญญาขายตัวข้าเพื่อใช้หนี้เป็นไง?”

เย่อันผิงโบกมือ“ใครอยากได้กัน?”

“ท่านไม่อยากได้?”เพ่ยเหลียนเสวี่ยผิดหวัง

“..”เย่อันผิงผงะ และขมวดคิ้ว“อะไร?เจ้ามีความสุขที่ได้ขายตัวเองให้ข้าเนี่ยนะ?”

จะดีสุดถ้านางได้แต่งงานกับเขา แต่ขายตัวเองก็ถือว่าดีไม่แพ้กัน..เพ่ยเหลียนเสวี่ยยกนิ้วชี้“ไม่…มันแค่เพื่อคืนหนี้ ข้าจ่ายหินปราณมากขนาดนั้นไม่ไหวหรอก ข้าเลยไม่มีทางเลือกนอกจากขายตัวเองให้ไง?”

“งั้น ตอนนี้เจ้าหนักแค่ไหน?”

“เอ๊ะ?ประมาณ 42 กิโล?”

“ราคาตลาดสำหรับหมู่คือสี่หินปราณต่อกิโล เจ้ามีค่าร้อย…”

“พี่!!!”เพ่ยเหลียนเสวี่ยกรีดร้อง จากนั้นก็คว้าหน้าของเย่อันผิง ดึงๆยืดๆเหมือนแพนเค้ก“พี่สิหมู!”

เย่อันผิงหัวเราะ“ก็ได้ ก็ได้ ไม่พูดเล่นแล้ว”

“ฮึ่ม”

“ข้าหมายความว่า ในอนาคต ถ้าเจ้ายังอยู่ในสำนักร้อยดอกบัว เจ้าจะไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ เมื่อวาน ข้าเลยคิดจะส่งเจ้าไปสำนักดาวดำ”

“สำนักดาวดำ?”

“ใช่ มันคือหนึ่งในห้าสำนักใหญ่ และมีทรัพยากรมากกว่าสำนักร้อยดอกบัว”

“ก็ได้ งั้นไปกัน”เพ่ยเหลียนเสวี่ยพยักหน้า“ท่านบอกว่าพวกเขาจะมีงานชุมนุมในสองเดือนนี่?ท่านจะต้องติดอันดับบนแน่”

“คือ…”เย่อันผิงเคาะหัวนาง“ข้าเข้าร่วมด้วยไม่ได้”

“ทำไม?”

“สำนักดาวดำเข้มงวดมากเรื่องพรสวรรค์ การมีรากปราณคู่ ข้าไม่มีสิทธิ์จะเข้าร่วมหรอก”

“แล้ว..ถ้าท่านเข้าไม่ได้ ข้าก็คงไม่ได้เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าจะค่อยๆฝึกฝนเอา เราจะได้อยู่ด้วยกันในสำนักร้อยดอกบัว ดีจะตายไป”

เย่อันผิงไม่อธิบายต่อเพ่ยเหลียนเสวี่ยเรื่องรากปราณนาง ดังนั้นนางจึงคิดว่านางคือสามรากปราณ

ยังไงซะ การปล่อยให้นางอยู่ในสำนักร้อยดอกบัวก็คือความคิดที่ดี ตอนนี้ที่อู่โหยวตาย เมื่อเฟิงหยูเตี๋ยเข้าสำนักดาวดำ พล็อตหลักจะเร่งเร็วขึ้น ไม่เพียงเพ่ยเหลียนเสวี่ย แต่เขาเองก็ต้องการทรัพยากรที่มากขึ้นด้วย

การได้รับผลประโยชน์จากการไปสำนักใหญ่เช่นนั้นดีมาก

แต่ปัญหาคือ เขาหรือเพ่ยเหลียนเสวี่ยไม่สามารถเข้าสำนักดาวดำได้

รากปราณน้ำพิเศษของเพ่ยเหลียนเสวี่ยพิเศษจนผู้อาวุโสสำนักดาวดำส่วนใหญ่มองไม่เห็นคุณค่าจริงๆ ส่วนเขาแค่รากปราณคู่ ซึ่งไม่ตรงกับข้อกำหนด

แต่ขำได้ว่าศิษย์ใหม่สามารถพาสหายไปด้วยได้

ดังนั้น มันจึงมีทางให้เขากับเพ่ยเหลียนเสวี่ยเข้าไปในฐานะสหายของเฟิงหยูเตี๋ย

แต่ เขาไมอยากใกล้ชิดกับเฟิงหยูเตี๋ยขนาดนั้น

ตัวประกอบเข้าใกล้ตัวละครหลัก นี่คือสูตรสำเร็จสำหรับหายนะ?และถ้าเขาส่งเพ่ยเหลียนเสวี่ยไปกับนาง เขากลัวว่าเฟิงหยูเตี๋ยจะชักนำน้องสาวเขา ที่เขาเลี้ยงมาด้วยความยากลำบาก

เพ่ยเหลียนเสวี่ยคือน้องสาวที่เขาบ่มเพาะมากว่าสิบปีด้วยความยากลำบาก!เขาจะยกนางให้เฟิงหยูเตี๋ยได้ไง?

ในช่วงกลางและหลังของเกม เฟิงหยูเตี๋ยได้ชิงตัวลูกสาวของประมุขสำนักดาวดำและยังจีบองค์หญิงและสาวงามคนอื่นอีกมากมาย

พอเย่อันผิงคิดถึงเฟิงหยูเตี๋ย เสียงนางก็ดัง

“แม่นางเพ่ย..และนายน้อยเย่”

“..”

เย่อันผิงหันไปมอง ขณะที่เพ่ยเหลียนเสวี่ยกุมกระบี่โดยไม่รู้ตัว

โดยมีเสี่ยวเตี๋ยประคอง เฟิงหยูเตี๋ยเดินมาหาทั้งสองจากขอบลานฝึก

พอเดินมา นางก็พยักหน้าและก้มหัวให้เย่อันผิง“ขอบคุณนายน้อยเย่สำหรับข้าวต้มที่เตรียมให้ข้า หลังข้ากินมัน ข้าก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ”

หลังได้ยิน เพ่ยเหลียนเสวี่ยก็เบิกตากว้าง และกุมกระบี่แน่นกว่าเดิม

เย่อันผิงงงเล็กน้อย เขาไม่ได้ให้ข้าวต้มอะไรนาง และทำไมนางถึงสวมชุดเก่าของแม่เขา?

พอมองตาของเสี่ยวเตี๋ย เขาก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นฝีมือแม่เขา มันดูเหมือนกงยู่หลานจะเข้าใจผิดจริงๆ

“อืม ยินดีๆ ว่าแต่ แม่นางเฟิง ทำไมไม่พักในห้อง ออกมาที่ลานฝึกทำไม?”

“ข้าได้ยินว่าท่านกับแม่นางเพ่ยกำลังฝึกกระบี่กันที่นี่”เฟิงหยูเตี๋ยเหลือบมองเพ่ยเหลียนเสวี่ยและยิ้มสดใส“ข้าขอดูได้ไหม?”

“เราเพิ่งฝึกกันเสร็จ แต่ ข้ากำลังจะไปเจอเจ้าพอดี มีบางเรื่องที่ข้าอยากคุยกับเจ้า”

“คุยกับข้า?”เฟิงหยูเตี๋ยก้มหัวอย่างอึดอัด สงสัยว่าคนคนนี้จะสารภาพกับนาง

“ใช่ มีบางสิ่งที่ข้าต้องถามเจ้า”เย่อันผิงหยุด มองเสี่ยวเตี๋ยข้างเขา“เสี่ยวเตี๋ย ไปชงชาให้หน่อย”

เสี่ยวเตี๋ยพยักหน้า แต่ก็ขยิบตาและรีบพูดเสริม“นายน้อย แม่นางเฟิงเดินคนเดียวไม่ได้ นางต้องมีคนพยุง ท่านช่วยนางได้ไหม?”

“ไม่ต้อง ไม่ต้อง”เฟิงหยูเตี๋ยปฏิเสธอย่างสุภาพ แต่จากนั้นก็มองเพ่ยเหลียนเสวี่ยอายๆ”คือ ผู้ชายกับผู้หญิงต่างกัน…ข้าไม่ขอรบกวนนายน้อยเย่ บางที..แม่นางเพ่ยอาจช่วยข้าได้’

พอเห็นสายตาที่นางมองเพ่ยเหลียนเสวี่ย เย่อันผิงก็เข้าใจว่านางคิดอะไร นางอาจหลงน้องสาวเขาแล้ว

เขาเมินคำปฏิเสธของนางทันที ก้าวไปข้างหน้า คว้าแขนนาง ลากนางไป

“แม่นางเฟิง ข้าช่วยเอง”

“อา?!”เฟิงหยูเตี๋ยอยากดึงแขนออก แต่เย่อันผิงกระชากแรงกว่าเดิม“นายน้อยเย่ นี่..”

เย่อันผิงโน้มตัวไปใกล้หูนางและยิ้มเย็น’แม่นางเฟิง โปรดวางใจ ข้าไม่สนใจเจ้าหรอก แต่ข้าสามารถบอกได้ว่า…”

สายตาของเฟิงหยูเตี๋ยค่อยๆหันมามองหน้าเขา พบเห็นแค่ใบหน้าชั่วร้ายและรอยยิ้มน่าขนลุกของเขา

นางกลืนน้ำลายและถาม“บอกอะไรได้?”

“สำหรับคนอื่น มีความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง แต่สำหรับเจ้า มันควรเป็นความแตกต่างระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง”เย่อันผิงมองนางอย่าเย็นชาและกัดฟัน“ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรน้องสาวข้า เจ้าจะต้องเสียใจ”

เฟิงหยูเตี๋ยไม่คิดว่าจะโดนเปิดเผย นางหัวเราะอายๆ“อา แหะ แหะ..”

แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะนาง สายตาของเย่อันผิงก็ยิ่งดุร้าย ในเกม เมื่อใดก็ตามที่เฟิงหยูเตี๋ยรู้สึกผิด นางจะหัวเราะแบบนี้

“แม่นางเฟิง อย่าคิดว่าเสียงหัวเราะโง่ๆนี่จะหลอกข้าได้  ข้าพูดจริง”

เฟิงหยูเตี่ยหยุดและเถียง“นายน้อยเย่ นี่..ข้าแค่ชื่นชมแม่นางเพ่ยมาก ท่านเข้าใจผิดแล้วจริงๆ”

‘ถ้าข้าเข้าใจผิดเองก็ดี“เย่อันผิงยิ้ม”ข้าช่วยชีวิตเจ้า อย่าคิดกัดมือที่ป้อนอาหารให้เจ้าละ”

เฟิงหยูเตี๋ยกลืนน้ำลายและยิ้มกลัวๆ“ไม่…ข้าไม่ทำ ข้าไม่ทำหรอก”

ตอนนี้ นางรู้สึกว่าคนคนนี้น่ากลัวมาก

เขาคือผู้บ่มเพาะหลอมลมปราณและเป็นแค่คนธรรมดาสองรากปราณ ไม่ว่าจะมองยังไง เขาก็ควรเสแสร้ง แต่เขาก็ยังแผ่กลิ่นอายที่คล้ายกับอาจารย์นาง

เสี่ยวเทียนที่ลอยเหนือหัวนางเองก็กลัวเหมือนกัน

จากความประทับใจของมัน เฟิงหยูเตี๋ยไม่เคยแสดงสีหน้าหวาดกลัวเช่นนี้ต่อใครยกเว้นอาจารย์นาง ไท่สวี่

เขารู้ได้ไงว่าเฟิงหยูเตี่ยชอบผู้หญิง?นายน้อยของสำนักร้อยดอกบัวเก่งจริงๆ เขารับมือกับนางได้!

ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเพ่ยเหลียนเสวี่ยยืนตรงนั้น จ้องมองแผ่นหลังของเฟิงหยูเตี๋ยด้วยตาแดงก่ำ

กระบี่ในมือถูกบีบแน่นจนส่งเสียงเหมือนจะหัก

“จิ๊ นางจิ้งจอกนี่..”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด