ตอนที่แล้วตอนที่ 12 หึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 เหมือนกวางน้อย

ตอนที่ 13 ปอกแอปเปิ้ล


เย่อาวมองกงยู่หลานแบกเฟิงหยูเตี๋ยเข้าห้อง จากนั้นก็มองป้ายตัวตนและของต่างๆที่เย่อันผิงนำมา และนวดจมูกคลายเครียด

จากนั้นเขาก็มองเพ่ยเหลียนเสวี่ย“เสี่ยวเพ่ย ตามไปช่วยแม่นางคนนั้น”

“อา…เจ้าค่ะ”เพ่ยเหลียนเสวี่ยพยักหน้ากลัวๆ ลอบมองพี่ชายนาง จากนั้นก็ประสานมือและเดินเข้าห้องไป

หลังนางไป เย่อาวก็ดึงเย่อันผิงไปโต๊ะชาข้างศาลาสวรรค์และรินชาให้เขา เย่อาวรู้สึกว่าหัวเขาสับสน ไม่ต้องพูดถึงว่าทำไมปรมาจารย์สำนักพิษมารถึงมายังภพลับของตระกูลผู้บ่มเพาะเซียน

สิ่งที่เขาไม่เข้าใจสุดคือเย่อันผิงกับเพ่ยเหลียนเสวี่ย ไม่เพียงจะไม่ควรฆ่าผู้บ่มเพาะมารแก่นวิญญาณได้ แต่ก็ยังไม่ควรจะมีความสามารถทำให้คนเช่นนั้นบาดเจ็บด้วยซ้ำไป

“อันผิง บอกพ่อมาตามจริง เจ้ากับเสี่ยวเพ่ยสู้กับผู้บ่มเพาะมารจริงหรือ และไม่มีใครช่วยเนี่ยนะ?”

“พ่อ..”

เย่อาวยกมือขัด“อันผิง พ่อรู้ความสามารถของเจ้า คำคุยของเจ้าอาจทำให้แม่เจ้ามีความสุข แต่ข้าไม่ บอกข้ามาตามตรง เกิดอะไรขึ้น?”

“เราก็แค่ไปปิดงานเท่านั้นเอง”

“เจ้าหมายความว่า เขาบาดเจ็บอยู่แล้วตอนเจ้าฆ่าเขา?”

“อืม มังกรทองปรากฏในเมืองอู่ซี มันดูเหมือนผู้บ่มเพาะมารจะสู้กับมังกรทองและหนีมาเจอเรา ตอนเขาเห็นเรา เขาอยากรักษาแผลเขาโดยใช้วิญญาณเรา แต่เหลียนเสวี่ยกับข้าฆ่าเขาแทน”

ดวงตาของเย่อาวหรี่ลง“มังกรทอง?”

“ใช่ มังกรทอง”เย่อันผิงยักไหล่“ท่านพ่อ ถ้าท่านไม่เชื่อ ท่านไปเมืองอู๋ซีและถามก็ได้ ควรมีคนที่เห็นมังกรทอง”

“งั้น เด็กสาวที่เจ้าพากลับมาละเป็นใคร?”

“หลังมังกรทองหาย เหลียนเสวี่ยกับข้าก็ไปดู และก็พบนางที่นั่น”

พอได้ยิน เย่อาวก็เบิกตากว้างเหมือนได้ยินเรื่องน่ากลัวเข้า จากนั้นก็หันไปมองที่ห้อง

เหนือสิ่งอื่นใด เขาคือผู้บ่มเพาะอาวุโส เขาต้องรู้ถึงมรดกสายเลือดของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์

และตอนนี้ เด็กสาวที่มีสายเลือดนั้นก็ถูกนำกลับมาบ้านโดยลูกชายเขา

เย่อาวไม่คิดเลยว่าลูกชายของเขาจะทำเรื่องยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เหนือสิ่งอื่นใด เขาแค่คนที่มีรากปราณคู่ บางทีเขาคงไปได้ไกลกว่าเขาผู้เป็นพ่อบนวิถีเซียน แต่ต้องไม่ไกลเกินไป

แต่ตอนนี้ เขาเห็นโอกาสพัฒนาสำนักร้อยดอกบัวและตระกูลเย่แล้ว

ทายาทของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ขอแค่ไม่เกิดอุบัติเหตุ จะต้องกลายเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนต่อไปของราชวงศ์

ถ้าเย่อันผิงสามารถอยู่กับนางได้ มันจะเป็นเรื่องดีต่อสำนักร้อยดอกบัว ตระกูลเย่และตัวอันผิงเอง

ตอนเขาแนะนำตัวเด็กสาวคนนั้น เขารู้เยอะไปหมด มันต้องเป็นนางี่บอกเขาหมดเปลือก และในเมื่อนางเต็มใจบอกเย่อันผิงเกี่ยวกับอาจารย์ของนาง มันก็หมายความว่านางอาจมีใจให้เขา(คิดไปเองแล้วว)

“อันผิง นางชื่ออะไร เฟิงอะไรนะ?’

“เฟิงหยูเตี๋ย”

“ดี”เย่อาวพยักหน้าและจิบชา“ในเมื่อเจ้าช่วยนาง งั้นเจ้าก็ควรเป็นคนดูแลนาง?”

“แน่นอน—”เย่อันผิงพยักหน้า“ว่าไม่”

“อืม..เอ๊ะ?”รอยยิ้มบนหน้าเย่อาวหายไป’อะไรนะ?”

“ให้เสี่ยวเตี๋ยจัดการ”เย่อันผิงยักไหล่และยิ้ม“ถ้าเกิดข้าดูแลนาง แล้วนางหลงข้าขึ้นมาละ?ยังไงซะข้าก็โดดเด่นและหน้าตาดี”

“แค่ก แค่ก”เย่อาวสำลักน้ำชาและไอหลายครั้ง

“แถม เด็กสาวคนนั้นดูสวยเกินไปสำหรับข้า”

“มันไม่ดีเลย”

“ยังไง?”

เฟิงหยูเตี๋ยคือตัวละครหลักส่วนเขาแค่ตัวประกอบ!

แต่แน่นอน เขาพูดไม่ได้

“คือ”เย่อันผิงถอนหายใจ.“พ่อ เราจะหวังสูงเกินไปไม่ได้นะ?”

“เจ้าหมายความว่ายังไง?”

“ท่านก็รู้ว่าข้าแค่ผู้บ่มเพาะรากปราณคู่ ถ้าอยากหาคู่ครองข้า คนคนนั้นควรเป็นผู้บ่มเพาะธรรมดาสองรากปราณหรือสาม ถ้าความแตกต่างในพลังบ่มเพาะระหว่างสามีและภรรยาสูงเกินไป คู่รักจะขาดความั่นคง ข้าไม่อยากเป็นไก่หงอเหมือนท่านหลังแต่งงาน”

“ไก่หงอ?เจ้าหมายความว่ายังไงกันหะ?”

“ข้าหมายความว่า เมียเป็นใหญ่ไง”

“เมียเป็นใหญ่?”

“ก็อย่างว่า ข้าไม่กลัวอะไรในโลก กลัวแค่เมีย”

“..”

เย่อาวตัวแข็ง เส้นเลือดปูดบนหน้า

แต่ก่อนเขาจะได้ตบหัวเย่อันผิง อีกฝ่ายก็ยิ้มและรีบรินชาให้เขา“พ่อ ดูสิ ลูกชายท่านรินชาให้แนะ”

เย่อาวได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

“ช่างมัน ข้าไม่มีอารมณ์จะมาสนใจเจ้า เจ้าหนู แต่ ถ้าเจ้าเจอผู้อาวุโสของสำนักดาวดำ ถ้าเขาถามถึง เจ้าบอกไปว่าเจ้ากับน้องสาวเจอผู้บ่มเพาะมารที่บาดเจ็บสาหัสเข้าและโจมตีเขาทีเผลอนะ อย่าลงรายละเอียดเยอะ เข้าใจไหม?”

“ผู้อาวุโสสำนักดาวดำ?”

“ผู้อาวุโสสองแห่งหมู่ตึกดาวมังกรในสำนักดาวดำ”

“ท่านพ่อ ท่านไม่คิดว่าเหลียนเสวี่ยกับข้าจะฆ่าผู้บ่มเพาะมารได้งั้นเหรอ?ทำไมถึงเรียกผู้อาวุโสสำนักดาวดำมา?”

เย่อาวกลอกตา“ข้าไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับผู้บ่มเพาะมาร ข้าขอให้เขามาเพื่อเล่นหมากและมอบคำชี้แนะให้เจ้า ข้าต้องจ่ายไปตั้งสามพันหินปราณเชียวนะ”

พ่อเขาทำหน้าเชิด

“ก็ได้”เย่อันผิงดื่มชาและลุก“ข้ากลับห้องละ ข้าเหนื่อย”

“อืม”

..

ในห้อง กงยู่หลานรักษาเฟิงหยูเตี๋ยด้วยพลังปราณแท้จริงที่เก็บมาเป็นปี จากนั้นก็ย้ายนางไปห้องแขกในศาลาสวรรค์

เพ่ยเหลียนเสวี่ยเฝ้าเฟิงหยูเตี๋ยจนถึงตอนนี้

สำหรับว่าทำไมนางถึงเฝ้า เพ่ยเหลียนเสวี่ยแค่กังวลว่าพี่ชายนางจะเข้ามาเยี่ยม ถ้าเขามาเยี่ยมเฟิงหยูเตี๋ย นางต้องอยู่จับตา

แต่ พอมองนางที่นอนบนเตียง นางก็เจ็บปวดหัวใจ พี่ชายสามารถทิ้งนางไว้ในเมืองได้ เขาจะพากลับมาทำไม?

และนอกจากนี้ นางยังมีรากปราณสวรรค์…

แถมยังสวยมากอีกด้วย…

และยังอายุเท่ากับพี่ชายนาง…

เพ่ยเหลียนเสวี่ยยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ สุดท้าย นางก็โกรธจนควักมีดออกจากถุงมิติและเริ่มปอกแอปเปิ้ล

ครืดดด

หลังได้ยินเสียงปอกแอปเปิ้ลที่น่าขนลุก เฟิงหยูเตี๋ยก็ค่อยๆลืมตา

นางมองรอบๆ ระหว่างทางมาสำนักร้อยดอกบัว นางตื่นขึ้นหลายครั้งตอนเพ่ยเหลียนเสวี่ยแบก ดังนั้นนางจึงมีความประทับใจว่าเหลียนเสวี่ยคือคนช่วยนางเอาไว้

พอเห็นเพ่ยเหลียนเสวี่ย นางก็เรียกเสียงเบา“แม่นางเพ่ย..”

เพ่ยเหลียนเสวี่ยหยุดมือ“เจ้าตื่นแล้ว?”

“ใช่ ข้าตื่นแล้ว”

“อืม สาวใช้ที่ชื่อเสี่ยวเตี๋ยจะมาดูแลเจ้าภายหลัง บอกนางว่าเจ้าต้องการอะไร อย่ามารบกวนพี่ชายข้า เข้าใจไหม?”

“อา…”พอเห็นเพ่ยเหลียนเสวี่ยกำลังจะไป เฟิงหยูเตี๋ยก็รีบยื่นมือไปคว้าไว้“รอก่อน แม่นางเพ่ย”

“มีอะไร?”

“คือ…”เฟิงหยูเตี๋ยเม้มปากอายๆ“ขอบคุณที่ช่วยข้า”

“ฮึ่ม”เพ่ยเหลียนเสวี่ยพ่นลมและโยนแอปเปิ้ลที่นางปอกจนถึงแก่นไป“นี่ ข้าปอกแอปเปิ้ลให้”

จากนั้นนางก็ออกไปโดยไม่มองเหลียวหลัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด