ตอนที่แล้วCD บทที่ 437 นักฆ่าวัวที่ติดหนี้ เขามาพร้อมกับความฉลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 439 ชั้นเรียนพิเศษ

CD บทที่ 438 ไม่อาจเปลี่ยนได้


เมื่อจ้าวหยู่ใส่กุญแจมือของหลี่เอ๋อร์กั๋ว เขาก็แข็งค้างไปชั่วขณะด้วยความกลัว เขาคิดว่าแผนการของเขาไม่มีทางที่จะผิดพลาด เขาตั้งใจจะใช้มันเพื่อรีดไถเงินจากตระกูลจ้าวเพื่อชดเชยการสูญเสียวัวที่ป่วยได้

“ไม่! เจ้าอ่อน เธอ… เธอทำแบบนี้ไม่ได้!” หลี่เอ๋อร์กั๋วรู้สึกหมดหนทางและเกือบจะคุกเข่าลงต่อหน้าจ้าวหยู่ เขาอ้อนวอนว่า “เจ้าอ่อน เราเป็นเพื่อนบ้านกัน เธอจะจับฉันได้อย่างไร? ได้โปรดฟังฉันหน่อยก่อน...”

*เพี๊ยะ!*

ภายใต้สายตาที่จับตามองของทุกคน จ้าวหยู่ตบหน้าหลี่เอ๋อร์กั๋วจนจมูกของเขาเลือดกำเดาไหลออกมา

ชาวบ้านทุกคนที่รวมตัวกันเพื่อดูความโกลาหลต่างก็ตกใจเมื่อเห็นว่าจ้าวหยู่โหดร้ายมาก ชาวบ้านเหล่านี้เฝ้าดูจ้าวหยู่มาตั้งแต่เด็ก พวกเขาจึงรู้จักนิสัยของเขาเป็นอย่างดี พวกเขาไม่คาดคิดว่าจ้าวหยู่ที่เป็นคนเก็บตัวจะกลายเป็นคนที่ดูดุร้ายและโหดเหี้ยมขนาดนี้

ในความเป็นจริง สิ่งที่ทำให้จ้าวหยู่ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป นั่นก็คือชื่อเล่น ‘เจ้าอ่อน’ ซึ่งถูกพูดหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ สองคำนี้เป็นคำดูถูกที่เขาแทบจะทนไม่ได้

เหมี่ยวอิงก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นจ้าวหยู่ตบใครบางคน จนกระทั่งนาทีก่อนที่จ้าวหยู่จะตบหลี่เอ๋อร์กั๋ว เหมี่ยวอิงก็รู้สึกทึ่งกับวิธีที่จ้าวหยู่ผู้หยิ่งยโสและหุนหันพลันแล่น สามารถจัดการสถานการณ์ได้อย่างสุขุมรอบคอบ เธอคิดว่าถ้าเธอต้องจัดการกับคดีด้วยตัวเองเธอเอง เธอคงไม่สามารถจัดการมันได้ดีแบบที่จ้าวหยู่ทำ

สิ่งที่น่ายินดีสำหรับเธอคือการได้เห็นจ้าวหยู่เรียนรู้ที่จะระงับอารมณ์ของเขา เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดยั่วยุของหลี่เอ๋อร์กั๋ว จ้าวหยู่เลือกที่จะไม่ต่อสู้แบบเผชิญหน้า แต่ชนะด้วยเหตุผลของเขาแทน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเหมี่ยวอิงกำลังประทับใจกับการเติบโตของจ้าวหยู่ จู่ ๆ เขาก็ตบหลี่เอ๋อร์กั๋วฉาดใหญ่ นั่นทำให้ความประทับใจของเธอได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว

เหมี่ยวอิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และคิดกับตัวเองว่า

‘ดูเหมือนว่า… เขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการลงไม้ลงมือได้สินะ’

เหมี่ยวอิงรู้จักจ้าวหยู่เป็นอย่างดี เธอก็เดาได้ว่าเขาตั้งใจจะทำอะไรต่อไป หลังจากที่จ้าวหยู่ตบหลี่เอ๋อร์กั๋ว เขาก็จับแขนของหลี่เอ๋อร์กั๋วไว้ข้างหลัง จากนั้นจึงแนบหน้าไปใกล้กับหูของหลี่เอ๋อร์กั๋วแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า

"ลุงเอ๋อร์กั๋ว คุณพูดถูก เราทุกคนเป็นเพื่อนบ้านกัน ถ้าเราจับคุณและส่งคุณไปที่สถานีตำรวจ มันคงจะโหดร้ายมาก!”

"พุ่บ…" หลี่เอ๋อร์กั๋วพ่นเลือดออกจากปากของเขาแล้วพยักหน้า เขาพูดว่า “ใช่ ใช่ เจ้าอ่อน… เราเลิกแล้วต่อกันดีกว่า ในเมื่อเธอตบฉันแล้ว ก็ถือว่าเราหายกันแล้ว จริงมั้ย?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ผิดแล้ว!” จ้าวหยู่หัวเราะ “ลุงเอ๋อร์กั๋ว การตบจะทำให้เราทำให้เราหายกันได้อย่างไร? ไม่มีทางซะหรอก! คุณทุบตีพี่ชายของฉัน ผลักพ่อของฉันล้ม สร้างโรงนกพิราบติดกับรั้วบ้านฉัน และวัวที่ตายแล้วของคุณก็ล้มทับผักที่พ่อของฉันอุตส่าห์ปลูกขึ้นมา คุณจะชดใช้เรื่องทั้งหมดนี้ยังไง!?”

“นี่… คือ…” หลี่เอ๋อร์กั๋วพูดตะกุกตะกัก เขากัดฟันแล้วพูดว่า “ก็ได้! ก็ได้! ฉันจะชดเชยเรื่องผักกับเรื่องทำร้ายครอบครัวเธอ และฉันจะรื้อโรงเก็บนกพิราบในภายหลังด้วย!”

“ไม่… ไม่… อย่าทำอย่างนั้นสิ… นั่นมันไม่สนุกเลย! ฮิฮิฮิ…” เสียงหัวเราะของจ้าวหยู่ฟังดูน่าขนลุก เขามองไปที่ญาติของหลี่เอ๋อร์กั๋วแล้วพูดว่า "ลุงเอ๋อร์กั๋ว! ฉันเป็นคนยุติธรรมเสมอมา วันนี้ญาติของคุณอยู่ที่นี่หลายคน ทำไมเราไม่มีเรื่องกันล่ะ? หากพวกคุณทุกคนสามารถต่อสู้กับฉันและโค่นฉันลงได้ จนกว่าฉันจะลุกขึ้นยืนไม่ได้อีกต่อไป เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเราหายกัน และฉันจะไม่พูดถึงคดีฆ่าวัวอีกต่อไป คุณคิดอย่างไร?"

“หา!?”

ข้อเสนอของจ้าวหยู่เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป และทุกคนต่างตกตะลึง ญาติของหลี่เอ๋อร์กั๋วแทบไม่เชื่อสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

"พอเลย!" เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าวหยู่โพล่งขึ้นมา เหมี่ยวอิงก็กัดฟันและดุด้วยความโกรธ “ไม่มีเรื่องสักครั้ง มันจะตายรึไง!?”

“เดี๋ยวก่อน…” จู่ ๆ ลูกพี่ลูกน้องของหลี่เอ๋อร์กั๋วก็พูดขึ้นว่า “เจ้าอ่อน ฉันได้ยินผิดหรือเปล่า? แกหมายความว่าแกต้องการให้พวกเราล้มแก? แกเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ญาติของหลี่เอ๋อร์กั๋วก็ต่างพากันหัวเราะ

“เดี๋ยว ๆ” พ่อของจ้าวหยู่ตกใจและดึงลูกชายจากด้านหลัง “ลูกพ่อ ลูกไม่สบายหรือเปล่า? นี่มันไร้สาระอะไรกัน?”

"ก็ได้! ฉันรับคำท้า!” หลี่เอ๋อร์กั๋วยินดีกับข้อเสนอและตกลงอย่างรวดเร็ว

"เดี๋ยวก่อน!" จ้าวหยู่พูดอย่างเย็นชา “เรามาตกลงเรื่องนี้กันก่อน ไม่ว่าใครจะถูกทุบตีอย่างโหดเหี้ยม เขาก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ญาติของหลี่เอ๋อร์กั๋วก็จ้องมองกันอย่างไม่เชื่อ

เป็นเวลาเที่ยงแล้ว พวกชาวบ้านจะต้องเตรียมอาหารกลางวัน แต่พงกเขาเฝ้าดูอยู่ใกล้ ๆ โดยไม่มีกะจิตกะใจกลับบ้านไปทำอาหาร พวกเขาทั้งหมดต่างรับชมด้วยความตื่นเต้น

“โอ้ ใช่แล้ว อีกอย่างหนึ่ง!” จ้าวหยู่เน้นย้ำว่า “พวกคุณทุกคนต้องต่อสู้กับฉันพร้อม ๆ กัน ฉันจะไม่สู้กับใครแบบตัวต่อตัว!”

"ได้เลย!" ลูกพี่ลูกน้องของหลี่เอ๋อร์กั๋วซึ่งมีรูปร่างสูงหัวเราะอย่างดูถูก “เจ้าอ่อนอย่างแก แค่ฉันคนเดียวก็พอแล้ว! ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงคนอื่นหรอก…”

“ไม่! เราจะทำตามที่เขาร้องขอ พวกเราจะรุมอัดเขาเลย!” เมื่อได้ยินข้อเสนอของจ้าวหยู่ ดูเหมือนว่าหลี่เอ๋อร์กั๋วจะฟื้นตัวจากการถูกตบแล้วพูดว่า "ถ้าฉันแพ้ ฉันจะยินดีจ่ายเงินหนึ่งพันหยวนให้กับครอบครัวของเธอ เธอเห็นด้วยมั้ย?"

“พอเลย! พวกคุณรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่!?” จากนั้น พ่อของจ้าวหยู่รีบไปหาจ้าวหยู่อย่างกังวลและตะโกนว่า “ลูกพ่อ ลูกไปกินดีหมีอะไรมา ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้? พ่อว่าลูกพอเถอะ ไม่อย่างนั้นมันจะจบไม่สวย!”

"ใช่ ๆ เชื่อพ่อนะลูกแม่!" แม่ของจ้าวหยู่ก็กังวลมากเช่นกัน “จำนวนของพวกเขามีมากกว่า ขืนไปสู้กับพวกเขามันก็ไม่ต่างจากฆ่าตัวตายนะลูก”

แต่จ้าวหยู่ไม่ฟังพวกเขา เขาปลดล็อคกุญแจมือของหลี่เอ๋อร์กั๋ว ผลักเขาออกไปด้านข้างแล้วพูดว่า

"ในเมื่อพวกเรายอมรับเงื่อนไขแล้ว มาเริ่มกันเลย!"

ขณะที่จ้าวหยู่พูด เขาก็ถอดชุดตำรวจออกแล้วโยนให้เหมี่ยวอิง

“นี่เป็นเครื่องแบบใหม่ ฉันไม่อยากให้มันเปื้อนเลือด!”

ญาติของหลี่เอ๋อร์กั๋วค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปหาจ้าวหยู่ เมื่อเห็นว่าการต่อสู้กำลังจะปะทุขึ้น ชาวบ้านก็มองดูอย่างตื่นเต้น บางคนถึงกับผิวปากและปรบมือ

จากนั้น จ้าวหยู่เริ่มต่อสู้กับญาติของหลี่เอ๋อร์กั๋ว ชาวบ้านโดยรอบคิดว่าการต่อสู้จะจบอย่างรวดเร็ว โดยที่จ้าวหยู่เป็นผู้แพ้ เนื่องจากภาพจำของจ้าวหยู่ในสายตาของพวกเขาคือชายหนุ่มผู้อ่อนแอ ขี้ขลาดตาขาว

อย่างไรก็ตาม หลังจากการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น มุมมองของทุกคนที่มีต่อจ้าวหยู่ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด