ตอนที่แล้วบทที่ 38 ตอน การเผชิญหน้าโดยไม่คาดคิดกับมนุษย์หมาป่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40 ตอน การต่อสู้ของผู้เล่น

บทที่ 39 ตอน นี่เราตกอยู่ท่ามกลางสนามรบ?


มู่โหยวไม่คาดคิดว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน มนุษย์หมาป่าจะยังวนเวียนอยู่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ

จุดประสงค์ของมันคืออะไร?

เป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้เล่นบางคนคาดการณ์ว่าเขาจะมาตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังนั้นพวกเขาจึงซุ่มดูอยู่ที่นี่?

ไม่สมเหตุสมผลเลย หากจะซุ่มดูทำไมต้องไปซ่อนตัวอย่างที่หลังคา?

  ถ้าไม่ใช่เพราะตะเกียงหัวฟักทองของมู่โหยว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาสถานที่นี้เจอ

  นอกจากนี้ ความประหลาดใจบนใบหน้าของมนุษย์หมาป่าเมื่อสักครู่นี้ไม่ใช่ของปลอม กล่าวคืออีกฝ่ายไม่ได้คาดคิดว่าจะมีใครมาปรากฏตัวที่นี่

มาถึงคำถาม มนุษย์หมาป่าตัวนี้มาซ่อนอะไรอยู่ที่นี่?

แล้วเกิดอะไรขึ้นกับบาดแผลบนร่างกายของมันล่ะ?

  …

  เพียงเสี้ยววินาที คำถามชุดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา

แต่มู่โหยวไม่มีเวลาหาคำตอบเลย เพราะตอนนี้เขาถูกมันมัดด้วยโซ่ และถูกดึงลอยไปหามนุษย์หมาป่าด้วยความเร็วสูง

มนุษย์หมาป่าที่อยู่ข้างหน้าไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา โซ่ที่มีตะขอแหลมอยู่ในมือซ้ายตอนนี้มันทิ้งเศษกระดูกที่ติดเนื้อไปแล้วและได้ใช้อาวุธเป็นมีดสับเนื้อขนาดใหญ่ในมือขวาของมัน มันอาบไปด้วยเลือดเหมือนคนขายเนื้อที่เร่ร่อนอยู่ในทะเลซากศพ รู้สึกถึงความโหดร้าย และความตายที่ใกล้เข้ามา

ในเวลานี้ แขนขวาของมู่โหยวถูกควบคุมด้วยโซ่ ไม่สามารถขยับได้ และเขาเกือบจะแตะนาฬิกาพกในกระเป๋าของเขาสำเร็จแล้ว แต่น่าเสียดายที่เขาเอื้อมไม่ถึงมัน และเขาไม่สามารถขัดขืนได้!

ภายใต้สายตาที่สิ้นหวังของมู่โหยว ร่างของเขาถูกดึงเข้าหามนุษย์หมาป่า

และเงียบเสาเนื้อขนาดใหญ่ในเมืองของมันก็กำลังจะฟันลงมา

ขณะที่มู่โหยวคิดว่าเขาจะต้องตายแน่ๆมือที่ถือมีดของมนุษย์หมาป่าก็หยุดค้างกลางอากาศราวกับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง แล้วมันก็รีบกลิ้งตัหลบไปด้านหลัง

และในขณะนั้นมันกลิ้งออกไป ก็มีเสาเพลิงลุกโชนขึ้นมา ปักอยู่ในตำแหน่งที่มันเพิ่งยืนอยู่

นี่คือ...เวทย์มนตร์เหรอ?

  มู่โหยวผงะ เขากำลังสิ้นหวังเพราะความตายใกล้เข้ามาแล้ว แต่สถานการณ์กลับพลิกผัน

ก่อนจะมีเวลาคิด เขาฉวยโอกาสที่มนุษย์หมาป่าล่าถอยไป เขารีบจับตะขอที่ไหล่ขวา ดึงมันออกมาท่ามกลางเลือดที่ไหลพุ่งออกมา จากนั้นจึงรีบใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋า เพื่อกดนาฬิกาพกด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับมา

  เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บาดแผลของเขา เนื้อและเลือดที่กระเซ็น รวมทั้งบริเวณโดยรอบ ทุกสิ่งเริ่มที่จะย้อนกลับอย่างรวดเร็ว

เมื่อลืมตาและมองอีกครั้ง มันก็เป็นเวลาห้าวินาทีที่แล้ว

มู่โหยวกลับมาที่ขอบดาดฟ้าเพื่อตามรอยเท้า ซึ่งอยู่ห่างจากหัวมุมข้างหน้าไม่ถึงห้าเมตร

  เขาหยุดการกระทำทุกอย่างทันที

  แน่นอนว่ามู่โหยวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า แต่พยายามรักษาลมหายใจให้มั่นคง และก้าวถอยหลังอย่างนุ่มนวล

เขาถอยห่างออกไปหลายสิบเมตร ไปถึงเงาที่อยู่อีกด้านหนึ่งของหลังคา แล้วก็หยุด

“ระยะนี้น่าจะปลอดภัย...”

  มู่โหยวถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหลังจากที่เขาผ่อนคลาย เขาก็ตระหนักว่าหลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

ไม่น่าแปลกใจเลย ตอนนี้เขาได้ผ่านจุดที่เหมือนนรกออกมาแล้ว และในขณะเดียวกัน เขาก็แอบโทษตัวเองในความประมาทของเขา

  มู่โหยวต้องยอมรับว่าตั้งแต่เขามาเป็นผู้เล่น ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น เขาเป็นเจ้าของไอเท็มที่ท้าทายสวรรค์อย่างนาฬิกาพกซึ่งทำให้เขาสามารถทำอะไรได้ง่ายๆ มาโดยตลอด

และเหตุการณ์ในวันนี้ทำให้เขาได้รับบทเรียนที่ยากจะลืมเลือน ในอนาคต หากต้องทำอะไรที่เสี่ยงตายแบบนี้เขาจะต้องถือนาฬิกาพกไว้ให้มึงตลอดเวลา

“แล้วตอนนี้ฉันต้องทำอะไรบ้าง?”

มู่โหยวส่ายหน้า พยายามตั้งสติอีกครั้ง และริเริ่มจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบัน

  เห็นได้ชัดว่าเสาเพลิงในตอนสุดท้ายหลังจากกดนาฬิกาพกถูกใครบางคนขว้างเข้ามา และพุ่งตรงไปที่มนุษย์หมาป่า บังคับให้มนุษย์หมาป่าหยุดโจมตีและล่าถอย ซึ่งช่วยชีวิตมู่โหยวไว้ได้!

  หรืออีกนัยหนึ่ง มีผู้เล่นอีกคนซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งบนดาดฟ้า!

เขาคือใคร?

สาวน้อยในเกม?

  มู่โหยวไม่แน่ใจ แต่บาดแผลไฟไหม้บนร่างกายของมนุษย์หมาป่าอาจเกิดจากผู้เล่นคนนี้

จากมุมมองนี้ ทั้งสองอาจต่อสู้บนดาดฟ้ามาก่อน ตอนนี้อาจเป็นช่วงต่างคนต่างถอยไปตั้งหลักและพวกเขาก็กำลังดูเชิงกันอยู๋ เป็นผลให้มู่โหยวที่ขึ้นไปบนดาดฟ้า ได้ตกไปอยู่ท่ามกลางสนามรบของทั้งสองโดยบังเอิญ...

กล่าวคือ เขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นทั้งสองคนโดยไม่ได้ตั้งใจ!

บ้าจริงๆ… แบบนี้จะไปโทษใครได้?

  เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มู่โหยวก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

แต่ก็ไม่เป็นไร!

ตอนนี้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในที่เกิดเหตุและที่อยู่ของมนุษย์หมาป่าแล้ว แต่ทั้งมนุษย์หมาป่าและผู้เล่นคนอื่นๆ ยังไม่รู้ถึงการมีอยู่ของเขา!

ต่อไปเมื่อทั้งสองเริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง เขาอาจแอบช่วยผู้เล่นอีกคนปราบมนุษย์หมาป่าก็ได้ เมื่อยังไม่ถูกพบ ก็สามารถออกจากสนามรบอย่างปลอดภัย...

  สรุปตอนนี้เขามีโอกาสได้เริ่มมันใหม่อีกครั้ง!

เพื่อจะตรวจสอบสถานการณ์โดยรวม มู่โหยวจึงแฝงตัวด้วยความสบายใจ และรอคอยโอกาสอย่างอดทน

  บนหลังคาไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย ความเงียบกำลังคืบคลานเข้ามา มีเพียงเสียงลมยามค่ำคืนที่พัดมาเป็นครั้งคราว เตือนพวกเขาว่าเวลากำลังผ่านไป

หลังจากรอเกือบสิบนาที ในที่สุดการต่อสู้ก็เกิดขึ้น!

คนแรกที่เคลื่อนไหวคือมนุษย์หมาป่า!

  มนุษย์หมาป่าวิ่งออกมาจากด้านหลังมุมตรงไปยังกองเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ถูกทิ้งร้างมันกระโดดขึ้น เหวี่ยงมีดขนาดใหญ่และฟาดฟันลงอย่างแรง

  ท่ามกลางการปะทะกันครั้งใหญ่ กระดานหลายแผ่นก็แตกเป็นชิ้นๆ ทันที และขี้เลื่อยก็ปลิวว่อน

  จู่ๆ ร่างเล็กก็กระโดดออกมาจากด้านหลังตู้ไม้ กลิ้งตัวไปกับพื้นแล้ววิ่งหนีไปโดยไม่คิดชีวิต

มู่โหยวมองเห็นได้ชัดเจนจากอีกด้านหนึ่ง ร่างที่กระโดดออกมานั้นเป็นเด็กหญิงตัวน้อย จริงๆ!

เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ดูเหมือนจะมีอายุประมาณสิบปี สวมหมวกผู้วิเศษปลายแหลมและเสื้อคลุมผู้วิเศษตัวกว้าง แต่งตัวเหมือนนักเวทย์แต่เหมือนหัวขโมยที่สามารถเคลื่อนไหวได้ว่องไว เธอกระโดดขึ้นลงหลบหลีกสิ่งกีดขวางบนพื้นได้อย่างชำนาญ และหลบการโจมตีของมนุษย์หมาป่าได้อย่างรวดเร็ว

“นี่... อาจเป็นสกินพิเศษ…” มู่โหยวมีท่าทีแปลก ๆ

หลังจากที่ผู้เล่นใช้สกินพิเศษ รูปร่างและรูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปตามสกินนั้นๆ

เห็นได้ชัดว่าคนๆ นี้ใช้สกินของ “ผู้วิเศษฝึกหัด” ในเกม ซึ่งกลายเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ตัวจริงของคนคนนี้แท้จริงมีอายุเท่าไหร่ เป็นชายหรือหญิงก็ยังไม่แน่ใจ

  อย่างไรก็ตาม หากเด็กหญิงตัวน้อยยังมีชีวิตอยู่ คนที่เสียชีวิตที่ชั้นล่างสุดเลย?

เป็นไปได้ไหมที่มนุษย์หมาป่าบังเอิญจำคนผิดและฆ่าคนธรรมดาโดยไม่ได้ตั้งใจ?

มู่โหยวขมวดคิ้วและคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะยอมแพ้ไป

  เขาหยุดการตั้งคำถามและโฟกัสไปที่การต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย

  บนดาดฟ้าที่ห่างไกล มนุษย์หมาป่ากำลังไล่ตามและเด็กหญิงตัวน้อยกำลังหลบหนี

มู่โหยวคิดว่าคุณลักษณะความคล่องตัวของเด็กหญิงตัวน้อย น่าจะสูงมาก ด้วยความช่วยเหลือจากอุปสรรคต่างๆ เธอสามารถหลบหนีมนุษย์หมาป่าไปรอบ ๆ และร่างกายของเธอก็ว่องไวอย่างไม่น่าเชื่อ

  แต่นี่ก็แสดงให้เห็นว่าเธอไม่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิด เมื่อเผชิญหน้ากับการไล่ล่าของมนุษย์หมาป่า เธอทำได้เพียงใช้ขนาดตัวและความเร็วของเธอเพื่อหลบหนีเท่านั้น

มู่โหยวสังเกตเห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อย ต้องการจะดึงไม้กายสิทธิ์ออกจากแขนของเธอหลายครั้ง แต่ถูกมนุษย์หมาป่าขัดขวาง

เห็นได้ชัดว่ามนุษย์หมาป่ารู้ดีว่าคาถาของเด็กหญิงตัวน้อยนั้นทรงพลัง ดังนั้นมันจึงขัดขวาง ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ร่ายคาถา

หลังจากไล่ตามและฟาดฟันไปตลอดทาง เด็กหญิงตัวน้อย ก็หมดแรงลงอย่างรวดเร็ว และเธอก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง

“ยังวิ่งอยู่อีกเหรอ ฮ่าๆๆ แกขโมยของบางอย่างจากองค์กรแล้วหนีไป แกคิดว่าจะหนีรอดหรือไงกัน?” มนุษย์หมาป่าหัวเราะและเยาะเย้ยขณะไล่ตามเธอ

“ชิ!”

เด็กหญิงตัวน้อย ทำได้แค่อุทานอย่างเย็นชาและไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงวิ่งหนีอย่างบูดบึ้ง

  มู่โหยวรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินการสนทนาแปลกๆ จากระยะไกล

เมื่อได้ยิน เขาก็ตั้งคำถามในใจ สองคนนี้กำลังพูดถึงอะไรพวกเขารู้จักกันมาก่อนหรอ และพวกเขาอยู่ใน ‘องค์กร’ เดียวกันเหรอ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด